เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 37 ข้าเป็นผู้กำหนดแก่นวิญญาณอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์
ในวันเดียวกันปรมาจารย์วิญญาณของสำนักชางอู๋เกิด ‘ความกระสับกระส่าย’ ถึงสามครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่ก่อตั้งสำนักชางอู๋มา นั่นจึงเพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจของทุกฝ่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในราตรีนี้ ยิ่งทำให้ยอดฝีมือหวาดหวั่นไม่รู้จบ! เพราะพวกเขาล้วนสัมผัสได้ถึง ‘ความกระสับกระส่าย’ อันรุนแรงของปรมาจารย์วิญญาณ!
ทว่าเยี่ยนชิงผู้ซึ่งควรให้ความสนใจกับข้อนี้มากที่สุด ในเวลานี้เขากลับไม่มีเวลามาจับตาดูสิ่งเหล่านั้น เขาได้พลิกข้ามหน้าต่างเข้าไปในห้องนอนของบุตรสาว แล้วรวบกายบุตรสาวที่ตื่นตระหนกเข้ามากอดกระชับในอ้อมแขน “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไม่กลัวนะ ไม่กลัว…”
เยี่ยนอวี๋ที่เพิ่งผวาตื่นขึ้นจากความฝัน กลับผลักเยี่ยนชิงออกไปโดยสัญชาตญาณ พลังปราณอันแข็งแกร่งเคลื่อนไหวราวกับกระแสน้ำ ผลักให้เยี่ยนชิงผงะถอยออกไปสองสามจั้ง
เยี่ยนชิงตะลึงงัน…
“งุมๆ งัมๆ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกทำให้ตื่นกลับพูดพึมพำหลายคำ ท่าทางงัวเงียเหมือนเพิ่งตื่นขึ้นจากการนอนหลับสนิท
เยี่ยนอวี๋สูดอากาศเย็นๆ เข้าปอด นางตื่นจากความฝันกลับมาสู่ความจริงแล้ว แยกแยะได้อย่างชัดเจนแล้วว่าสิ่งที่ ‘เห็น’ ทั้งหมดล้วนเป็นความฝัน ที่ ‘เยี่ยนจื่ออวี๋’ เป็นผู้มอบให้กับนาง
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์?” คราวนี้เยี่ยนชิงไม่ได้บุ่มบ่ามเข้าใกล้อีก หากแต่ทดลองเรียกขึ้นก่อน แม้ว่าเขาจะรู้สึกเศร้าใจนักที่ถูกผลักออก แต่ความเจ็บปวดกลับครอบงำอารมณ์ของเขามากกว่า เขารู้ว่าปฏิกิริยาเมื่อครู่นี้ของบุตรสาวเป็นการป้องกันตัวเองตามสัญชาตญาณเท่านั้น
“…ท่านพ่อ” ทว่าเยี่ยนอวี๋ไม่รู้ถึงความคิดของเยี่ยนชิง นางกังวลอยู่ลึกๆ ว่าบิดาผู้เอ็นดูบุตรสาวดุจดั่งเจ้าหญิงจะร้องไห้เพราะสิ่งที่นางเพิ่งทําไป
แต่แน่นอนว่าเยี่ยนชิงไม่ได้ร้องไห้ หลังจากที่เขามั่นใจแล้วว่าบุตรสาวสุดที่รักผ่อนคลายลง จึงค่อยๆ เคลื่อนกายเข้าไปจับมือบุตรสาว “ฝันร้ายหรือ”
“…เจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋พยักหน้า แต่ไม่ได้คิดจะอธิบายแต่อย่างใด ในสมองยังคงนึกถึงภาพที่นางเพิ่งจะ ‘เห็น’ อยู่ซ้ำไปมา
ในความฝันนั้นได้เติมเต็มสิ่งที่นางได้รับรู้มาเมื่อตอนกลางวันจนสมบูรณ์ ทําให้นางเห็นคนที่บงการส่งแม่นางน้อยเยี่ยนจื่ออวี๋ไปค่ายกล….คือเยี่ยนชิงถัง! และคนที่ปลอมตัวมาก็คือเยี่ยนชิงถัง!
ในความฝัน เยี่ยนชิงถังกล่าวหาว่าเด็กในครรภ์ของแม่นางน้อยเป็นมารหัวขน กู้หยวนเหิงมิอาจยอมรับได้ ให้นางทําแท้งเสีย มิเช่นนั้นกู้หยวนเหิงจะไม่ยอมร่วมหอกับแม่นางน้อยตลอดชีวิต แม่นางน้อยจะได้ชื่อว่าเป็นฮูหยินกู้ผู้ที่มีชื่อเสียงดีแต่ไม่ดีสมชื่อตลอดไป
“ช่างดีจริงๆ” เยี่ยนอวี๋ลอบปรบมืออยู่ในใจ ปรบมือให้กับแม่นางน้อยผู้มีชื่อเสียงดีแต่ไม่ดี คนที่ต้องการให้แม่นางน้อยทําแท้งนั้นช่างน่าสะอิดสะเอียน จนนางรู้สึกอยากอาเจียน
อย่างไรก็ตาม ในความฝันนั้นมีสิ่งที่ทําให้เยี่ยนอวี๋ใส่ใจมากที่สุด ซึ่งนั้นก็คือทารกที่ตายมีลักษณะคล้ายกับเสี่ยวเป่าของนาง ร่างเล็กๆ ของ ‘เขา’ ที่นอนจมกองเลือดได้แทงทะลุหัวใจของนางอย่างเจ็บปวด!
อนึ่ง…
‘ทารก’ คนนั้นถูกพลังของค่ายกลแยกออกจนสลายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับถูกดูดไปยังสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่ง
“…เสี่ยวเป่า” เยี่ยนอวี๋อุ้มลูกไว้ด้วยความตระหนก รู้สึกว่า ‘เด็ก’ คนนั้นไม่ใช่เสี่ยวเป่าของนาง แต่ดูเหมือนว่าจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกันอยู่ มิเช่นนั้นจะหน้าตาเหมือนกันได้อย่างไร
หรือบางทีจิตใต้สำนึกของนางอาจจะเห็นเด็กคนนั้นเป็นเสี่ยวเป่าไปเอง เพราะถึงอย่างไรนางก็ตั้งท้องเสี่ยวเป่าเอง เพียงแต่ว่านางอาศัยร่างกายของแม่นางน้อยเยี่ยนจื่ออวี๋เท่านั้น ดังนั้น การที่จะชี้ขาดว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ตั้งครรภ์ ย่อมมิอาจสรุปได้
เพียงแต่เยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจอยู่ข้อหนึ่ง หากภาพเหล่านี้เป็นสิ่งที่แม่นางน้อยเยี่ยนจื่ออวี๋จะต้องเผชิญ หากนางไม่กลับมาเกิดใหม่ ถ้าเช่นนั้น…
เมื่อครั้งที่นางยังไม่ฟื้นสติโดยสมบูรณ์ และไม่สามารถส่งผลกระทบต่อแม่นางน้อยได้นั้น เหตุใดแม่นางน้อยถึงไม่ยอมแต่งงานกับกู้หยวนเหิง แต่กลับตัดสินใจไม่เหมือนในความฝัน และไปคลอดบุตรเองที่เมืองเต๋อหยางล่ะ
“…” เยี่ยนจื่ออวี๋ขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่เงียบๆ ในใจเต็มไปด้วยปริศนา ดูเหมือนว่านางต้องฟื้นฟูตัวเองโดยเร็วที่สุด เพื่อให้หลุดพ้นจากไตรภูมิได้บรรลุเป็นผู้รู้แจ้งสรรพสิ่ง ถึงจะสามารถไขปริศนานี้ได้
จุ๊บ จุ๊บ… เจ้าตัวน้อยที่ถูกท่านท่านแม่คนงามกอด ปากเล็กๆ ส่งเสียงจุ๊บอย่างสบายใจเฉิบ จากนั้นก็เข้าสู่นิทราอย่างเป็นสุข
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์?” เยี่ยนชิงคงยังห่วงพะวงบุตรสาวสุดที่รักอยู่ เตรียมไปหิ้วคอท่านประมุขแห่งหอโอสถเข้ามาแล้ว เนื่องจากบุตรสาวสุดที่รักมิได้ ‘สนใจ’ เขาเลยตั้งแต่เข้ามา ราวกับตกใจจากความฝันจนขวัญหนีดีฝ่อ
เมื่อนั้นเยี่ยนอวี๋ที่ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว เพิ่งจะรู้สึกได้ ก็รู้สึกถึงมือหนาของเยี่ยนชิงกำลังตบหลังมือของนางเบาๆ อย่างปลอบโยนอยู่ตลอดเวลา นางพลิกมือขึ้นประทับด้านบน พลางกล่าวว่า “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ท่านพ่อไม่ต้องกังวลไป”
แต่เยี่ยนชิงจะไม่กังวลได้อย่างไร ทำไม่ได้แน่
“เจ้าฝันเช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว” เยี่ยนชิงถาม
“ครั้งแรกเจ้าค่ะ”
เยี่ยนชิงแคลงใจ “หลอกให้พ่อสบายใจกระมัง?”
“จริงๆ เจ้าค่ะ” เยี่ยนจื่ออวี๋ยืนยัน “บางทีอาจเป็นเพราะข้ากลับไปสู่สภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย ได้ใกล้ชิดกับคนเหล่านั้นกระมัง ตอนที่ข้าอยู่เมืองเต๋อหยาง นอนหลับสบายมาก” ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง
“…เอาเถิด” เยี่ยนชิงกลับไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย “ถ้าเช่นนั้นพ่อจะอยู่ข้างๆ เจ้า เจ้านอนต่อเถิด”
เยี่ยนอวี๋ชะงักไปชั่วขณะ แต่เยี่ยนชิงส่งสายตามาราวกับบอกว่า “พ่อไม่ไปเด็ดขาด! อย่ามาหลอกพ่อเสียให้ยาก! พ่อจะอยู่ดูที่นี่เอง”
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางจำต้องยอมผ่อนปรน
อย่างไรก็ตามเดิมทีเยี่ยนอวี๋คิดว่าเมื่อมีคนจ้องมองเช่นนี้ นางอาจนอนไม่หลับ แต่ในความเป็นจริง นางเหนื่อยจนผล็อยหลับไปง่ายๆ ไม่ฝันร้ายแต่อย่างใด ทำให้เยี่ยนชิงที่จ้องมองต้อง ‘เสียเวลาเปล่า’
…
เช้าวันรุ่งขึ้นอินหลิวเฟิงก็มาถึงสำนักชางอู๋ เขารอตั้งแต่เช้าตรู่จนกระทั่งตะวันสายโด่ง เยี่ยนอวี๋ถึงจะตื่นมาพร้อมกับเจ้าตัวน้อยที่กำลังหาวหวอดๆ
หาววว… เยี่ยนเสี่ยวเป่าผู้อยู่ในอ้อมแขนของมารดากำลังพลิกกายอย่างง่วงนอน เขาอยากนอนต่ออีก ฃ
ทว่าเยี่ยนจื่อเสาใจร้อนรีบก้าวเข้ามาหยอกเจ้าตัวน้อย “เสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่า”
“เนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตอบรับอย่างเกียจคร้าน ไม่มีชีวิตชีวา
“เสี่ยวเป่าหลับไม่พอหรือ” เยี่ยนจื่อเสาค่อนข้างเป็นห่วง
“เป็นเด็กนอนเยอะเจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋ลูบใบหน้าลูกชาย กล่อมให้เขานอนต่ออย่างอ่อนโยน นางไม่มีทางทิ้งเขา
เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงนอนหลับต่ออย่างพึงพอใจ เมื่อสักครู่เขารู้สึกว่าท่านแม่กำลังจะ ‘หนี’ ถึงได้ลำบากตื่นขึ้นมา
“อ้อ” เยี่ยนจื่อเสารู้สึกเสียดาย
ครั้นแล้วอินหลิวเฟิงจึงกระแอมไอเบาๆ “อะแฮ่ม แล้วจะเริ่มลงมือวันนี้เลยหรือไม่” เมื่อวานนัดให้มาวันนี้มิใช่หรือ เหตุใดถึงรู้สึกราวกับว่าวันนี้ไม่มีกิจธุระกันล่ะ
“ใช่” เยี่ยนอวี๋นั่งลง แต่กลับไม่ได้ลงมือในทันที ก่อนอื่นนางจับชีพจรให้พี่รองเป็นลำดับแรก จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “ตอนนี้ ลมปราณของมนุษย์วานรหวาไหวได้กระตุ้นระบบโลหิตของท่านจนถึงยุคหลังโบราณกาลแล้ว ข้าแนะนำว่าปล่อยให้มันกระตุ้นไปถึงยุคโบราณกาลเสียก่อน ค่อยลงมืออีกที จะได้กำหนดสิ่งอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ของท่านเป็นจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางได้โดยง่าย”
“…อย่างไรนะ” เยี่ยนจื่อเสาไม่เข้าใจ แม้ว่าเขาจะเข้าใจทุกคําพูดของน้องสาว แต่เมื่อนำมาปะติดปะต่อกันแล้วเขากลับไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย
เยี่ยนอวี๋กลับเข้าใจผิดคิดว่าเยี่ยนจื่อเสาไม่ชอบจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง “แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับความพอใจของพี่รอง ท่านพึงพอใจกับจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางหรือไม่”