เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 380 น่าตกใจ! ร่างพลังแยกหรงอี้ = จักรพรรดิอสูร!?
- Home
- เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน
- ตอนที่ 380 น่าตกใจ! ร่างพลังแยกหรงอี้ = จักรพรรดิอสูร!?
ตี้อั้นรู้สึกว่าถึงแม้ตนเองจะไม่ถูกตุ๋น แต่ชีวิตอสูรคงจบลงเพียงเท่านี้แล้ว!
แต่แล้ว…
หลังจากที่ตี้อั้นรู้สึกเจ็บแล้ว มันก็รู้สึกว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่? เพราะมันยังรู้สึกเจ็บอยู่เลย เจ็บไปทั้งตัว ตายเป็นเศษซากเช่นนี้แล้ว ความเจ็บปวดยังคงอยู่ได้นานเช่นนี้เลยหรือ
เอ่อ?
ตี้อั้นลืมตาสีเลือดขึ้นก็พบว่ารอบตัวโกลาหลไปหมด?
ต่อจากนั้น…
จิ๊บๆ!
ลูกไก่สีเหลืองส่งเสียงร้องดีใจ มันบินไปข้างหน้าตี้อั้น เห็นได้ชัดว่า ‘สภาพ’ โกลาหลรอบๆ ราวกับไข่ขาวไหลออกมาจากตัวมัน
นี่คืออะไร ตี้อั้นงุนงง
เยี่ยนอวี๋ก็ไม่ค่อยแน่ใจ ของเหลวโกลาหล?
ใช่แล้ว หรงอี้ยืนยันและคาดเดาว่า มันอาจจะเป็นของเหลวที่อยู่ในไข่ฟองนั้นอยู่แล้ว แต่ถูกลูกไก่กินเข้าไป จากนั้นมันจึงฟักออกมาได้
เท่าที่ข้าทราบ มีเพียงไข่ที่ปีศาจแห่งความโกลาหลฟักออกมาจึงจะมีของเหลวโกลาหล และปีศาจแห่งความโกลาหลก็สูญสิ้นไปทั้งตระกูลในมหาสงครามอสูรเทพแล้ว เยี่ยนอวี๋พูดถึงตรงนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
หรงอี้ยกมือเรียวยาวของตนขึ้นคลายคิ้วที่ขมวดกันของนาง ในร่างของมันยังมีกลิ่นอายของมนุษย์วานรหวาไหว หนี่ว์ป๋า และเหอเฟย มีของเหลวโกลาหลก็คงเรื่องปกติ
ไม่รู้ว่าจะทำอะไรกันแน่ เยี่ยนอวี๋จับมือหรงอี้ รวมพลังทำลายล้างไว้ในร่างเดียวกัน
สร้างสายพันธุ์ใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมเพื่อครองโลก คงไม่มีอะไรมากกว่านั้น หรงอี้พูดถึงความจริงอย่างตรงไปตรงมา หากเจ้าไม่อยู่ มันอาจจะทำสำเร็จ แต่ในเมื่อเจ้ากลับมาแล้ว ข้าก็อยู่ที่นี่ ผลก็คือสิ่งที่ทำไปย่อมเสียเปล่า
เยี่ยนอวี๋มองเขา เจ้านี่มั่นใจจังเลย
อื้ม หรงอี้ตอบเสียงสูง เขาย่อมมั่นใจมาก มิเช่นนั้นปฐมราชินีเยี่ยนจะชอบข้าได้อย่างไร
เยี่ยนอวี๋เม้มปากเล็กน้อย มุมปากกลับยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ผ่านไปครู่หนึ่งจึงพูดขึ้นว่า โลภต่อไปเถอะเจ้า
ไม่ใช่ความจริงหรือ หรงอี้เลิกคิ้วเล็กน้อยพลางโน้มศีรษะแตะหน้าผากของภรรยา จมูกสูงโด่งของเขายังลูบปลายจมูกอันวิจิตรของปฐมราชินีเยี่ยนอย่างเอ็นดู
พอได้แล้ว เยี่ยนอวี๋ยกมือขึ้นขวางหน้าอกชายคนนี้ไว้ เบือนหน้าหนีเล็กน้อย
เด็กน้อยกะพริบตาปริบ ก่อนจะก้มหน้าดูลูกไก่สีเหลือง จิ๊บจิ๊บ! เก่ง!
จิ๊บๆ! ลูกไก่สีเหลืองที่ถูกชมก็กางปีกออกอย่างได้ใจและกระพือปีกอย่างรวดเร็ว จนคนทั่วไปไม่สามารถเห็นการเคลื่อนไหวของปีกคู่นั้นได้ เห็นเป็นเพียงก้อนกลมๆ สีเหลืองก้อนหนึ่ง…
เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็มุดออกมาจากอ้อมอกของท่านพ่อและท่านแม่ของเขา ส่วนตนเองบินไปข้างกายลูกไก่สีเหลืองและยังส่งเสียงร้องยกยอมัน ว้าว… เก่ง! จิ๊บจิ๊บ!
อสูรตี้อั้นเงยหน้ามองตัวน้อยทั้งสองด้วยท่าทีชื่นชม บาดแผลที่ถูกพายุอวกาศทำลายกระทันหันนั้นก็ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว
แต่ว่า…
จักรพรรดิอสูรน้อย ในเมื่อเจ้ามีวิธีต่อต้านปีศาจแห่งความโกลาหล ทำไมไม่ใช้ตั้งแต่แรกเล่า เมื่อครู่นี้เสี่ยงตายมาก หากเพียงก้าวผิดเล็กน้อยจะตายกันหมดเชียวนะ!
ลูกไก่สีเหลืองที่ไม่รู้ว่าตนเองคือจักรพรรดิอสูรน้อยมิได้ตอบ มันยังคงบินอย่างดีอกดีใจ! ด้วยท่าทางเช่นนี้คงพอจะเดาได้ว่ามันเองก็เพิ่งพบว่าตนเองมีความสามารถเช่นนี้
แต่เยี่ยนอวี๋กลับสงสัยเรื่องหนึ่ง เจ้าลูกเจี๊ยบ เหตุใดเจ้าจึงเลือกทางขวา
จิ๊บๆ! ลูกไก่สีเหลืองที่ถูกถามก็บอกว่า ชอบ!
ตี้อั้น …
ก็ได้ ลูกน้องไม่เข้าใจความคิดของลูกพี่หรอก ไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว! ขอเพียงจักรพรรดิอสูรพาทุกคนออกไปได้อย่างปลอดภัยเช่นนี้ก็พอ
ในความเป็นจริงแล้ว ลูกไก่สีเหลืองเจ๋งมากจริงๆ เมื่อมันสลายของเหลวโกลาหลแล้ว เสียงพายุหมุนก็อยู่ข้างหลังพวกเขาแล้ว
ตี้อั้นหันไปมองพื้นที่ที่ ‘ผืนดินถูกโค่น’ ทั้งผืน มันโหมซัดภูเขาใกล้เคียงลูกหนึ่งจนเกิดเสียงฟ้าร้องและพายุหมุนมหึมาในมิติ จนมันได้แต่ทอดถอนใจ ‘เหลือเชื่อ…’
ตี้อั้นเชื่อว่าหากพายุหมุนระลอกนี้คือจอมมาร มันคงช่วยอะไรไม่ได้ โชคดีที่ทิศทางที่พายุหมุนลูกนี้เคลื่อนตัวไปไม่ใช่เมืองหลวงจักรพรรดิอสูร มิเช่นนั้นเมืองหลวงจักรพรรดิอสูรที่เพิ่งสร้างเสร็จคงถูกทำลาย ทว่า…
ในเมื่อไม่เป็นอะไรแล้ว ข้าขอลาไปก่อน! ตี้อั้นคิดว่าไม่ควรอยู่กับคนกลุ่มนี้แล้ว รีบออกห่างจะดีกว่า อย่ามีโอกาสพบกันอีกเลย!
เมื่อพูดจบ ตี้อั้นก็หายตัวไปทันที!
แต่แล้ว…
จิ๊บ!
ลูกไก่สีเหลืองจับมันกลับมาด้วยเท้าของมัน
ตี้อั้น …
มันอยากจะร้องไห้แล้ว จักรพรรดิอสูรน้อย ท่านจะทำอะไรน่ะ
พาพวกข้าคลานไป! ลูกไก่สีเหลืองพูด มันเคยชินกับการนั่งบนหลังของตี้อั้นแล้ว
น้ำตาแห่งความคับแค้นใจไหลลงมาทันที แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกได้หน้ามาก เพราะจักรพรรดิอสูรเลือกให้มัน ‘รับใช้’ จู่ๆ มันก็รู้สึกซับซ้อน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ทว่าเยี่ยนเสี่ยวเป่าและลูกไก่สีเหลืองก็ปีนขึ้นไปบนหลังของตี้อั้นและส่งเสียงเล็กเสียงน้อยขึ้น ไป!
เยี่ยนอวี๋ขบขัน นางหันไปพูดกับชายข้างกายว่า ไปกันเถอะ รู้ตำแหน่งคร่าวๆ หรือยัง
อืม ทางนั้น หรงอี้มองไปทางซ้าย และทิศทางนั้นเอง…
บ้าเอ๊ย!
คงไม่ใช่หรอกนะ!
อสูรตี้อั้นอุทาน ก่อนจะถามย้ำเพื่อความมั่นใจ พวกเจ้าจะไปเมืองหลวงจักรพรรดิอสูรหรือ
ทางนั้นคือเมืองหลวงจักรพรรดิอสูรหรือ เยี่ยนอวี๋แผ่ซ่านพลังจิตใจที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกมา นางสัมผัสถึงไอหมอกมารอันหนาแน่นอยู่ทางนั้นจริงๆ ที่นั่นถูกอสูรไม่น้อยยึดครองไว้
ก็ใช่น่ะสิ! ตี้อั้นกล่าว ก็ดี ข้ายังไม่เคยไปเมืองจักรพรรดิอสูรเลย ถือโอกาสไปเปิดโลกเลยแล้วกัน ต่อไปจะได้โม้ให้อสูรตี้อั้นตัวอื่นฟังได้
โม้คืออะไรหรือ ลูกไก่สีเหลืองถามเสียงเล็กเสียงน้อยอย่างชัดถ้อยชัดคำและไหลลื่น
เจ้าตัวน้อยซบท่านพ่อของเขาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก พ่อ เป่าไม่… เป็น
เจ้าเปรียบเทียบตนเองกับไก่ตัวหนึ่งทำไมเล่า หรงอี้ถามกลับ
เยี่ยนเสี่ยวเป่าหายทันที เขาคุยกับลูกไก่สีเหลืองทีละคำสองคำต่อไป
ลูกไก่สีเหลืองก็ไม่รังเกียจที่เยี่ยนเสี่ยวเป่าพูดไม่คล่อง แต่…
เสี่ยวเป่า ทำไมเจ้าไม่มีผมล่ะ ลูกไก่สีเหลืองบินขึ้นมาลูบศีรษะ ‘โล้น’ ของเยี่ยนเสี่ยวเป่า อันที่จริงมันอยากลูบมานานแล้ว บัดนี้เพิ่งลงมือ แต่น่าเสียดายที่มันลงมือไม่สำเร็จ เพราะเยี่ยนเสี่ยวเป่าตบลูกไก่สีเหลืองออกไปทันที เป่า! มี!
จิ๊บ! ลูกไก่สีเหลืองที่หยุดอยู่กลางอากาศก็พูดว่า ไม่มีเสียหน่อย!
เยี่ยนเสี่ยวเป่าสวนกลับทันที บอด!
พรวด! เยี่ยนอวี๋อดหัวเราะไม่ได้ นางอุ้มเด็กน้อยน่ารักน่าชังเข้ามาในอ้อมแขนและยังจูบเขาหลายฟอด เสี่ยวเป่าของเราน่ารักจริงๆ
จิ๊บๆ! ลูกไก่สีเหลืองก็บินมาบอกว่า น่ารัก เจ้าหัวโล้นตัวน้อย!
เมื่อสิ้นเสียงของมัน…
เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ถีบลูกไก่สีเหลืองเข้าอย่างจัง ทำเอาฝ่ายหลังตัวลอยกระเด็นออกไป
ตี้อั้นไม่สนใจปีศาจน้อยสองตัวนี้ทะเลาะกันแล้ว มันถามขึ้นว่า พวกเจ้ามีตำแหน่งคร่าวๆ หรือไม่ ได้ยินมาว่าเมืองหลวงจักรพรรดิอสูรใหญ่มาก! มีประตูเมืองสิบบาน พวกเราจะเข้าทางประตูไหน
เรื่องนี้เยี่ยนอวี๋ไม่รู้จริงๆ นางหันไปมองหรงอี้ ฝ่ายหลังหลับตาลงแล้ว รอบกายเขายังแผ่ซ่านกลิ่นอายลึกลับ เห็นได้ชัดว่ากำลังสัมผัส ‘ต้าซือมิ่ง’ โหดเหี้ยมคนนั้นอย่างตั้งใจอยู่
เยี่ยนเสี่ยวเป่าพลันหยุดทะเลาะกับลูกไก่สีเหลือง ราวกับเขารู้ว่าต้องเงียบ ห้ามรบกวนท่านพ่อรูปงาม เขานั่งพิงท่านแม่อย่างเชื่อฟังแล้ว
ลูกไก่สีเหลืองก็ไม่กล้าขยับ เพราะกลิ่นอายลึกลับที่ไหลออกมาจากหรงอี้นั้นทำให้มันรู้สึกเกรงกลัว มันจึงหดตัวเข้าไปใต้กระโปรงของเยี่ยนอวี๋แล้ว มีเพียงดวงตาสีแดงเล็กโผล่ออกมามองหรงอี้
…
เส้นสายลึกลับสายแล้วสายเล่าก่อร่างขึ้นข้างหน้าหรงอี้ในระหว่างนี้ราวกับมาจากพลังจิตวิญญาณของเขา
เส้นสายเหล่านี้ประกายสีม่วงทองลึกลับ เปล่งประกายความลึกลับเฉพาะตัว ทำให้เยี่ยนอวี๋ไม่สามารถรู้ได้ว่าพวกมันมาจากพื้นฐานกฎเกณฑ์ใด จากนั้นเส้นสายเหล่านี้…
วิ้ง!
หลังจากที่ก่อตัวเป็น ‘สัญลักษณ์’ โบราณตัวหนึ่งแล้ว พวกมันก็ซ่อนตัวเข้าไปในความว่างเปล่า และหายไปทางเมืองหลวงจักรพรรดิอสูรอย่างรวดเร็ว
ต่อจากนั้น…
!
สัญลักษณ์ก็หายวับไปราวกับถูกกลืนกิน!?
เยี่ยนอวี๋เลิกคิ้วเล็กน้อย นางมองหรงอี้ที่หลับตาอย่างจดจ่อ
ส่วนหรงอี้ก็มองเห็น ‘เขา’ อีกคนหนึ่งอย่างชัดเจนในชั่วขณะหนึ่ง ‘เขา’ อยู่ในนั้น
วิ้ง!
‘ต้าซือมิ่ง’ เหี้ยมโหดพลันลืมตาขึ้น เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะ ‘การแอบมอง’ ของหรงอี้ทำให้เขาตื่นขึ้นมาทันที ส่วนสภาพของ ‘เขา’ กลับเหมือนกับว่ากำลังจำศีล?
แต่ไม่ว่าอย่างไร…
แซ่ด!
ดวงตาสองคู่สบกันกลางอากาศจนราวกับจะเกิดประกายไฟ
ทว่าครั้งนี้หรงอี้ตัดสายสัมพันธ์ออกก่อนและชะล้างร่องรอยทุกอย่างที่แผ่ซ่านออกไป เขาจะไม่ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ตำแหน่งของเขาแล้ว
ส่วนเรื่องที่ว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่ที่ไหน หรงอี้ก็มั่นใจแล้ว เข้าทางประตูบานแรก
‘เขา’ อยู่ที่ไหน จะหนีไปอีกหรือไม่ เยี่ยนอวี๋ถามพร้อมกันสองคำตอบ
ทว่าตี้อั้นมีเพียงคำถามเดียว เข้าทางประตูแรกหรือ
มีปัญหาหรือ เยี่ยนอวี๋หันไปถามตี้อั้น เพราะว่านางฟังน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเหลือเชื่อของตี้อั้นออก
ไม่เพียงเท่านี้…
อสูรตี้อั้นถึงกับรู้สึกเกลียดชัง มันพูดชัดถ้อยชัดคำอย่างจริงจังว่า นั่นเป็นทางเข้าของวังจักรพรรดิอสูร! พวกเจ้าต้องการทำอะไรกันแน่