เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 413 คู่รักโหดเหี้ยม อย่าคิดหาเรื่อง! กลับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าล่วงหน้า!
- Home
- เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน
- ตอนที่ 413 คู่รักโหดเหี้ยม อย่าคิดหาเรื่อง! กลับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าล่วงหน้า!
“ฟ้าประสาน!”
เทพเสื่อมทรามรีบแยกตัวออกจากโลกมนุษย์อย่างรวดเร็วโดยอาศัยลมกรดแดนเทพที่เกิดจากการระเบิดอนุสติของตนเอง เขาหนีไปอย่างรวดเร็ว! น่าเสียดายที่ต้าซือมิ่งนั้นเก่งกาจยิ่งกว่าเขา!
พลังทำลายล้างดั้งเดิมสีเลือดแทงทะลุร่างเทพเสื่อมทรามไปแล้ว ท้องฟ้าทั้งผืนถูกย้อมไปด้วยสีเลือด เพราะว่าเทพองค์นี้กำลังเลือดไหลนั่นเอง
เหตุการณ์เช่นนี้…
เฮือก!
ทำเอาทุกคนที่มุงดูไม่ว่าจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจเหตุการณ์ต่างอ้าปากค้างอย่างตะลึงทันที
ทว่าต้าซือมิ่งกลับขมวดคิ้วเรียวยาวของตนเล็กน้อย “ยังไม่ตายอีกรึ”
“หนีไปแล้ว” เยี่ยนอวี๋ก็รับรู้ได้แล้วเช่นกัน ทว่านางก็ไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใดเพราะถึงอย่างไรการดำรงอยู่ของฝ่ายนั้นก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ในเวลาและมิติเร้นลับใด ที่นางสามารถสำรวจวิญญาณของเขาได้ก็เป็นเพียงเพราะได้รับอานิสงส์จากร่างดั้งเดิมเท่านั้น
ชายข้างกายกลับต่างจากนาง เขาสามารถสังหารเทพเสื่อมทรามโดยที่นางไม่สามารถระบุตำแหน่งของเสียงนั้นได้ ความสามารถเช่นนี้ สมแล้วที่ตั้งตนเป็นใหญ่ในเผ่ามารและกำราบแดนมืดได้
ทว่าผลลัพธ์เช่นนี้มิอาจทำให้ต้าซือมิ่งพอใจได้ เขายังคงขมวดคิ้วจ้องมองท้องฟ้าต่อไป เห็นได้ชัดว่ายังคงค้นหากลิ่นอายของเทพเสื่อมทราม แต่เทพท่านนั้นที่ไม่กล้าโผล่หัวมาอีกและซ่อนตัวอย่างลึกลับคงกำลังเสียใจที่เมื่อครู่นี้อวดดีเกินไป
เด็กน้อยก็ไม่ค่อยพอใจนัก “จับ!”
“จับน่ะต้องจับแน่” เยี่ยนอวี๋ย่อมไม่ปล่อยเทพองค์นี้หนีไปได้แน่นอน อีกทั้งนางยังตัดสินใจแล้วว่าจะกลับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเร็วขึ้นกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้! นางจะต้องจับเทพเสื่อมทรามองค์นี้กับมือตนเองให้ได้และลงโทษทัณฑ์ด้วยการประหารชีวิต!
กล้าดีอย่างไรมาสาปแช่งเด็กน้อยของนาง!
ส่วนคำสาปไท่อี้…
“วางใจเถอะ” ต้าซือมิ่งที่รู้ว่าภรรยากำลังกังวลเรื่องอะไร เขาก็โอบนางและเด็กน้อยเข้ามาในอ้อมแขน ให้สัญญาอีกครั้งว่า “ตราบใดที่ข้าอยู่ เสี่ยวเป่าจะไม่เป็นอะไร”
“แล้วถ้าเจ้าไม่อยู่ล่ะ” เยี่ยนอวี๋ถามกลับ
ต้าซือมิ่งนัยน์ตาขรึมลงเล็กน้อย
เยี่ยนเสี่ยวเป่าคัดค้านทันที “อยู่! พ่ออยู่! พ่ออยู่กับเป่า!”
“ใช่แล้ว” ต้าซือมิ่งอุ้มเด็กน้อยขึ้นบนไหล่พลางลูบศีรษะโล้นๆ ของเขา “พ่อจะอยู่กับเสี่ยวเป่าและท่านแม่ของเจ้า”
“คิกๆ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายิ้มจนดวงตาโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว เขากอดคอท่านพ่อไว้อย่างมีความสุข และยัง จุ๊บ พ่อเขาทีหนึ่งด้วย “ดี!”
เยี่ยนอวี๋มองเด็กน้อยน่าเอ็นดูด้วยสีหน้าที่แม้จะสงบ แต่มีเพียงต้าซือมิ่งรู้ว่านางยังคงเป็นกังวล ทั้งปัญหาของร่างกายที่เทพเสื่อมทรามองค์นั้นพูดถึงและหลังจากที่กู้หยวนหมิง ‘ให้หลักฐาน’ แล้ว นางก็มิอาจวางใจลงได้
ความจริงก็เป็นเช่นนั้น เพราะว่าเยี่ยนอวี๋รู้ดีที่สุดว่าเยี่ยนจื่ออวี๋ในอดีตพบเจอกับสิ่งใดมาบ้าง หากเลือดเนื้อที่สถิตลงมาในครานั้นไม่ใช่ทารกในครรภ์ แต่เป็นพลังความสามารถ! เช่นนั้นลูกของนาง…
จะว่าไปแล้วตั้งแต่ที่นางเกิดใหม่ นอกจากพบว่าหัวใจนางผิดปกติแล้วก็ไม่พบปัญหาอื่นอีกเลย แต่เยี่ยนจื่ออวี๋ผู้มีพรสวรรค์ดีเช่นนั้นกลับถูกผนึกความสามารถไว้ในชาติที่แล้ว แม้นางจะหลุดพ้นจากพันธนาการได้ในภายหลัง แต่ก็มีชีวิตดุจไฟใกล้มอดแล้ว ดังนั้นเมื่อเยี่ยนอวี๋รู้ตัวว่าต้าซือมิ่งกำลังมองตนเอง นางก็มองเขากลับไปตรงๆ และกล่าวความในใจของตนว่า “ข้ายังคงเป็นห่วงมากอยู่ดี”
“เช่นนั้นเรารีบกลับสวรรค์ชั้นเก้า จับเทพองค์นั้นออกมา แก้ไขปัญหาให้สิ้นซาก” หรงอี้กล่าวอย่างสงบ “แล้วค่อยเลาะกระดูก ทำให้มันสูญเสียดวงจิต แยกร่างวิญญาณทั้งสามจิตเจ็ดวิญญาณไปทุกภพชาติจนกว่าเขาจะกลายเป็นเถ้าถ่าน”
เอ่อ…
อิงหลงโบราณที่รู้ดีว่านี่คือการทรมานแบบใดก็กำลังคิดว่ามันเคยทำให้สามีของนายหญิงขุ่นเคืองหรือไม่ เขาโหดเหี้ยมเช่นนี้! ห้ามไปยั่วโมโหเข้าเด็ดขาด
แต่แล้วเยี่ยนอวี๋ก็ตอบว่า “ก่อนจะเลาะกระดูกต้องทำลายแก่นเทพและชีพจรก่อน ก่อนจะเวียนว่ายสามจิตเจ็ดวิญญาณต้องถูกแล่เนื้อเถือหนัง”
อิงหลงโบราณ อืม… สมแล้วที่เป็นนายหญิง! เด็ดขาดจริงๆ!
อิงหลงโบราณที่สองมาตรฐานเช่นนี้ก็ลอยลงมาอยู่เหนือประตูสำนักชางชางอู๋อย่างเงียบๆ ทำเอาคนจำนวนไม่น้อยแหงนมองมัน “นะ นั่นมันอสูรเทพอิงหลงโบราณในตำนานนี่!”
“ใช่แล้ว มังกรศักดิ์สิทธิ์พันปี อิงหลงหมื่นปี ช่างเป็นตำนานเสียจริงๆ! แต่กลับยอมก้มหัวรับใช้คุณหนูใหญ่? ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่…”
“ไม่ฝาดแน่นอน!”
หัวใจของเหล่าศิษย์สำนักชางอู๋น้อยใหญ่รู้สึกตื้นตันอย่างมิอาจห้ามไว้ได้ มันคือความชื่นมื่นที่แสนมีเกียรติ! หลังจากที่ฟันฝ่าเรื่องราวมากมายเช่นนี้ พวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเขาไม่ใช่คนที่นางเคยเป็นอีกต่อไป
คุณหนูใหญ่ที่เคยถูกขวางไว้หน้าประตูสำนักและถูกศิษย์หญิงนอกสำนักทำให้อับอายกลายเป็นผู้ดำรงอยู่บนจุดสูงสุดของสำนักนานแล้ว ถึงแม้นางจะไม่มีชื่อตำแหน่งใดๆ แต่กลับกลายเป็นเสาหลักของสำนักไปแล้ว
เจ้าสำนักบอกว่าคุณหนูใหญ่เป็นผู้อัญเชิญหงส์เพลิงในสำนักมา!
เหล่าผู้อาวุโสบอกว่าพลังหงส์ฟ้าที่ถูกปลุกให้ตื่นของคุณหนูใหญ่คือราชาแห่งหงส์! ราชาแห่งสัตว์ปีก
บัดนี้พวกเขาก็ได้ประจักษ์กับตาตนเองแล้วว่าอิงหลงยอมรับใช้คุณหนูใหญ่ของพวกเขา!
“สำนักชางอู๋…”
กู้ปิ่งคุนเชลยศึกที่เห็นเหตุการณ์นี้เช่นกันก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกของตนอย่างไรดีแล้ว หรืออาจะพูดได้ว่า ตั้งแต่ที่เขาเห็นฮ่องเต้หยวนคังถูกอิงหลงจัดการจนไม่เหลือซากกับตาตนเอง เขาก็ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกของตนเองอย่างไรแล้ว
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเชื่อมั่นเสมอมาว่าฮ่องเต้หยวนคังที่ยิ่งใหญ่ ดุร้ายและโหดเหี้ยม และยังมีสวรรค์คอยพิทักษ์ย่อมต้องปกครองต้าซย่าต่อไปอีกหลายชั่วอายุคน ทว่าสุดท้ายแล้ว… เหนือฟ้ายังมีฟ้า! คุณหนูใหญ่ท่านนั้นของสำนักชางอู๋และต้าซือมิ่งในตำนานท่านนั้น พวกเขาไม่เพียงแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่กว่าฮ่องเต้หยวนคัง แม้แต่ท่านเทพที่อยู่เบื้องหลังฮ่องเต้หยวนคังล้วนถูกพวกเขาสังหารราวกับสังหารสุนัข
สิ่งนี้ทำให้กู้ปิ่งคุนตระหนักได้ว่า “ต้าซย่ากำลังจะล่มสลายแล้วจริงๆ”
ดูท้องฟ้าสีเลือดทั้งผืนนี่สิ นี่คือสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง
มีชั่วจังหวะหนึ่ง กู้ปิ่งคุนคิดว่าหากตอนนั้นยืนหยัดให้ลูกชายคนเล็กแต่งงานกับคุณหนูใหญ่เยี่ยนและดูแลนางอย่างดี เขาและสำนักเหยาไถเซียนในวันนี้คงมีประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เสียดายที่เรื่องเหล่านี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้อีกแล้ว ดีที่ต้าหลางยังอยู่ ดีที่… เขาไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว…
เมื่อคิดถึงตรงนี้ กู้ปิ่งคุนมองไปทางอิงหลงอีกครั้ง เขารู้ว่าลูกชายของเขาอยู่ทางนั้น แต่เขากลับไม่อยากเจอหน้าลูกชายอีก ดังนั้นเมื่อกู้หยวนหมิงกลับมาหาบิดา กู้ปิ่งคุนก็ฆ่าตัวตายแล้ว
ในขณะเดียวกัน…
เยี่ยนอวี๋ที่กลับถึงสำนักกำลังพูดกับท่านพ่อของนางว่า “ท่านพ่อ พวกข้าอาจจะต้องกลับสวรรค์ชั้นเก้าเร็วขึ้นแล้วเจ้าค่ะ”