เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 416 ต้าซือมิ่งแกงลูก! เรียกข้าว่าสามีให้ฟังสักคำ!
- Home
- เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน
- ตอนที่ 416 ต้าซือมิ่งแกงลูก! เรียกข้าว่าสามีให้ฟังสักคำ!
เยี่ยนอวี๋ตกใจ เด็กน้อยจับท่านพ่อของเขาไว้อย่างประหม่า เขาโผล่ศีรษะโล้นๆ ของตนเองออกมาระหว่างพวกเขาสองคน “พ่อ! พ่อ! ถูกจับแล้ว!”
“เสี่ยวเป่า?” เยี่ยนชิงที่ได้ยินเสียงหลานชายน้อยก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว “เจ้าเด็กหรง เจ้าพาเสี่ยวเป่ามาหาเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์หรือ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่ารีบปิดปากน้อยๆ ของตนเองและมุดเข้าไปในอ้อมอกของท่านพ่ออย่างเอาเป็นเอาตาย “ถูกจับ!” ถูกจับแล้ว ตายแล้ว ข้าต้องแอบ! ไม่มีใครเห็นข้าทั้งนั้น
ต้าซือมิ่ง “…”
เขากำลังคิดว่าไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่พาเสี่ยวเป่ามาด้วย ทว่าตอนนี้อาจจะถือว่าคิดถูกเป็นการชั่วคราว เพราะเมื่อประตูถูกผลักออก เขาก็พูดออกไปอย่างหน้าไม่อายว่า “ท่านพ่อตา ไม่ใช่เขยอยากมา แต่เสี่ยวเป่าคิดถึงแม่ นอนไม่หลับขอรับ”
เยี่ยนชิง “…”
หากเขาเชื่อจริงๆ ก็ไม่ใช่คนอาบน้ำร้อนมาก่อน! เขาจะไม่รู้หรือว่าเจ้าบัดซบคนนี้ทนไม่ไหวแม้แต่วันเดียว ก็เลยปีนหน้าต่างมาหาบุตรสาวสุดที่รักของเขา
“ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ” เยี่ยนอวี๋ที่รู้สึกเก้อเขินได้แต่เปลี่ยนเรื่อง
อันที่จริงเยี่ยนชิงก็ไม่มีเรื่องอะไร “ก็แค่เห็นว่าพ่อลูกสองนี่หายไปอย่างไรเล่า ตอนแรกคิดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูแล้วคงไม่มีเรื่องอะไร”
“…” เยี่ยนอวี๋ที่ไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไรได้แต่เม้มปาก เกี่ยวปอยผมไปทัดไว้ข้างหูอย่างเก้อเขิน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เยี่ยนชิงก็ไม่ใช่พ่อตาที่ไม่รู้จักเปิดกว้าง เมื่อเขาเห็นเช่นนี้ก็คิดว่าหากไล่ว่าที่ลูกเขยไปตอนนี้ อีกไม่นานเขาก็จะมาอีก เยี่ยนชิงจึงทำเป็นหลับตาข้างนึงพูดว่า “หนึ่งถ้วยชา เมื่อถึงเวลา เจ้าเด็กหรงรีบไสหัวออกไปซะ!”
“ขอรับ” หรงอี้ตอบทันที
เยี่ยนชิงจึงยื่นมือออกไปหาเสี่ยวเป่าพูดว่า “เสี่ยวเป่า ออกไปกับตาเถอะ”
“ไม่! ไม่มีเสี่ยวเป่า!” เด็กน้อยที่รีบดึงเสื้อผ้าของท่านพ่อบังตนเองไว้เพื่อบอกว่า เสี่ยวเป่าของตาไม่อยู่ มองไม่เห็น! ไม่อยู่!
เยี่ยนชิงขบขันพร้อมกับตบก้นน้อยๆ ของเขาเบาๆ “แล้วนี่คือใครหรือ”
“ไม่ใช่เป่า! คือพ่อ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายืนหยัดไม่ยอมรับ
แต่แล้วท่านพ่อของเขาก็ดึงตัวเขาออกมาแล้ว “ไปเล่นกับท่านตาก่อน อีกประเดี๋ยวพ่อออกไปอุ้มเจ้า”
“อ้ะ!” เด็กน้อยที่ถูกจับออกมาทำหน้ามุ่ย กล่าวโทษท่านพ่ออย่างไม่พอใจ “พ่อทร ทรยศเป่า! ไม่ ไม่เจอ!”
เมื่อต้าซือมิ่งที่จัดเสื้อผ้าพลางยื่นเด็กน้อยออกไปถูกกล่าวโทษก็หรี่ตามองเขา ถามอย่างจริงจังว่า “เมื่อครู่นี้ใครพูดเสียงดังจนถูกท่านตาพบนะ”
เด็กน้อยที่ทำเป็นไม่ได้ยินก็กอดคอของท่านตาไว้ก่อนจะพูดอย่างน่าเอ็นดูว่า “ไป ตาไป!”
“ฮ่าๆๆ…” เยี่ยนชิงตลกขบขันกับเด็กน้อยซุกซนหัวไวคนนี้ เขาอุ้มเจ้าตัวน้อยออกไปอย่างมีความสุข ทว่าท่านตาของเขาก็ไม่ลืมที่จะหันกลับมาย้ำว่า “หนึ่งถ้วยชา! จำไว้นะ ข้าจะให้พี่รองพวกเจ้ามาเฝ้า!”
เยี่ยนจื่อเสาที่ว่างที่สุดในยามนี้ถูกส่งมาเฝ้าสังเกตการณ์ ส่วนเยี่ยนจื่อเยี่ย เขายุ่งจนไม่มีเวลาได้หยุดพัก แต่เดิมคิดว่าเวลากระชั้นชิด ไม่น่าจะมีคนมาเยอะ แต่เขากลับคิดผิดแล้ว เพราะว่าในวันนี้แม้แต่ตี๋อูหวนเจ้าสำนักแห่งสำนักเนี่ยผานที่เพิ่งกำราบติ้งซีอ๋องได้ที่เมืองหมิงเถียวก็เร่งเดินทางมาถึงแล้ว! และยังพาผู้อาวุโสสองสามท่านมาด้วย
นักดาบอาวุโสของสำนักจวินจื่อ เจ้าสำนักจวินอั้นเทียน และจวินอั้นหยวนแห่งหอจวินเป่ารวมถึงจวินฮวนก็มาถึงกันหมดแล้ว พวกเขาเพิ่งเร่งเดินทางมาถึงวันนี้เช่นกัน
หากไม่ใช่เพราะเยี่ยนหงชวนกลับมาจากเมืองจิ่วหลีล่วงหน้าหนึ่งวันจึงช่วยเยี่ยนจื่อเยี่ยได้ไม่น้อย เขาคงวุ่นจนหัวหมุน เพราะอาจารย์และศิษย์สหายคนสนิทของเยี่ยจื่อเยี่ยจากสำนักศึกษาก็มาถึงสำนักชางอู๋อย่างเกรียงไกร โดยมีลู่หมิงเป็นคนนำขบวน
แม้อีอิ่นไม่ได้มาด้วยตนเอง แต่คณะตัวแทนสำนักศึกษาที่เขาส่งมาก็แสดงให้เห็นถึงความจริงใจของสำนักศึกษาที่มีต่อสำนักชางอู๋แล้ว สำนักศึกษานักอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเป็นกลางและไม่สนใจเรื่องทางโลกปฏิบัติต่อสำนักชางอู๋แตกต่างไปอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้นแม้ว่างานสมรสครั้งนี้ คนที่มาร่วมงานจะไม่ได้มากมายนัก แต่ผู้ที่มาก็เป็นผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดแห่งต้าซย่า เพียงพอที่จะทำให้คนรุ่นหลังได้กล่าวถึงไปอีกนาน
ในขณะที่เยี่ยนจื่อเยี่ยกำลังวุ่นวาย เยี่ยนชิงก็แอบอู้มาเล่นกับหลานชายตัวน้อย เห็นได้ชัดว่าเจ้าบ่าวต้าซือมิ่งคนนี้ว่างเกินไปแล้ว เยี่ยนอวี๋อดถามไม่ได้ว่า “เจ้าไม่ต้องไปช่วยงานหรือ”
“มีหลานชังอยู่” ต้าซือมิ่งที่เรียกผู้ดูแลตำหนักซือมิ่งมา เขาก็ว่างมากจริงๆ ถึงอย่างไรคนที่เขาต้องไปต้อนรับด้วยตนเองก็ไม่มีอยู่แล้ว เขาจึงอุ้มเด็กน้อยปีนหน้าต่างมาหาภรรยา บัดนี้หลังจากถูกจับได้คาหนังคาเขาแล้วก็ยังหน้าด้านอยู่ต่อไป แต่ว่า… ต้าซือมิ่งที่โอบภรรยาที่กำลังจะตกเป็นของตนเองแล้วยังคงรู้สึกกังวลเรื่องหนึ่ง เขาสำรวจตรวจสอบตนเองอีกครั้งพบว่าเขายังอยู่ในร่างพรหมจารีจริงๆ!
ดังนั้น… “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์” ต้าซือมิ่งที่จูบจอนผมของภรรยาเบาๆ อดถามไม่ได้ว่า “เจ้าจำเรื่องคืนนั้นของเราไม่ได้จริงๆ หรือ”
เยี่ยนอวี๋ขดตัวเล็กน้อย มุดศีรษะเข้าไปในซอกคอของชายคนนี้ พูดพึมพำว่า “จำไม่ได้!”
“แล้วเจ้าร้อนตัวทำไม” ต้าซือมิ่งที่คิดว่าจำเป็นต้องถามให้รู้เรื่องก็จับใบหน้าที่ซบอยู่ในซอกคอของเขาออกมา เห็นขนตายาวงอนของนางหลุบลงเล็กน้อย ท่าทีราวกับเด็กน้อยทำอะไรผิดมาและแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ร้อนตัวที่ไหนกัน!” ดวงตาของเยี่ยนอวี๋เบิกกว้างอย่างไม่ยอมรับ แสงที่ส่องระยิบระยับในดวงตาดูราวกับไร้เดียงสามาก! ทว่าท่าทีเช่นนี้ของนางก็คือกำลังร้อนตัว
หรงอี้เห็นดังนั้นก็เม้มปาก อดจูบดวงตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นไม่ได้ แต่ก็ไม่ยอมให้นางปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปเช่นนี้ “เจ้าคิดดูดีๆ สิ ข้าคิดว่าร่างกายข้ามีปัญหาเล็กน้อย”
“!?” เยี่ยนอวี๋ที่เบิกตาโพลงก็กอดเขาแน่นขึ้นเล็กน้อย “ปัญหาอะไรหรือ”
ต้าซือมิ่งที่ไม่มีทางบอกว่าตนเองยังเป็นร่างพรหมจารีก็กล่าวอย่างจริงจังว่า “เจ้าพูดก่อนว่าเจ้าทำอะไรไป”
“?” เยี่ยนอวี๋ที่ไม่รู้ว่าต้าซือมิ่งคนนี้กำลังเล่นอุบายก็คิดไม่ออกจริงๆ แต่ก็พูดอย่างรู้สึกผิดด้วยสัญชาติญาณว่า “ระ หรือว่าข้าทำร้ายเจ้าจนสุขภาพเจ้าแย่แล้ว? น้องชายเจ้า… ไม่ไหว?”
ต้าซือมิ่งที่ขรึมลงในทันใดก็นวดระหว่างคิ้วเบาๆ ครั้นกำลังจะกัดปากที่พูดพล่อยๆ ปฐมราชินีเยี่ยนก็คิดว่าตนเองทายถูก “คงไม่ใช่หรอกนะ! ข้าขอดูหน่อย!”
เยี่ยนอวี๋ตรวจชีพจรให้ต้าซือมิ่งทันทีที่พูดจบ และนางก็พบว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่ หรือว่าเป็นปัญหาด้านอื่นนะ ครั้นนางกำลังเปิดดู… เอ่อ… ปฐมราชินีเยี่ยนลังเลครู่หนึ่ง นางเหลือบมองเป้ากางเกงของต้าซือมิ่ง ต้าซือมิ่งโมโหจนหัวเราะออกมา เขาเลิกคิ้วถามว่า “อยากดูหรือ”
“พะ พรุ่งนี้ดีกว่า” เยี่ยนอวี๋มองกลับมาและยังถามจริงจังว่า “ร้ายแรงหรือไม่”
“คืนพรุ่งนี้ดูก็รู้แล้วนี่” ต้าซือมิ่งที่พูดเน้นทุกคำอย่างชัดถ้อยชัดคำ เขาก็อดบีบหลังคอของเจ้าปลาน้อยตัวนี้เบาๆ ไม่ได้ ไม่รู้ว่าเจ้าปลาน้อยตัวไหลลื่นตัวนี้ทำเรื่องน่าอับอายอะไรลงไป แม้แต่นางเองที่ลืมไปแล้วยังรู้สึกผิดอย่างไม่รู้ตัว
เป็นไปได้หรือไม่ที่เสี่ยวเป่าไม่ได้เกิดมาปกติ เจ้าปลาน้อยตัวนี้ยังมีความลับอย่างอื่น?…
ต้าซือมิ่งที่คิดถึงตรงนี้ก็ได้ยินภรรยาที่อยู่ในอ้อมอกพึมพำขึ้นว่า “คงไม่ร้ายแรงมากหรอก แม้จำไม่ค่อยได้ แต่…” ต้าซือมิ่งคนนี้ไม่ใช่คนไร้น้ำยานี่
“หืม?” ต้าซือมิ่งที่ได้ยินเข้าก็ประคองใบหน้านางออกมาเล็กน้อย หรี่ตาถามว่า “จำไม่ค่อยได้แล้วเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จำอะไรได้บ้าง”
“ไม่…” เยี่ยนอวี๋หลุบตาลง หูค่อยๆ แดง ถึงแม้เมื่อครั้งแรกสุด นางจะไม่มีความจำอะไรเลย แต่หลังจากที่ได้ค่อยๆ ใกล้ชิดกับชายคนนี้ นางก็จำบางสิ่งขึ้นมาได้อย่างเลือนราง นางจึง… รู้สึกเขินอายอย่างไรไม่รู้!
แต่แล้วต้าซือมิ่งก็กดเสียงต่ำลง พูดกระซิบกระซาบข้างหูนางว่า “ว่ามาสิ จำอะไรได้บ้าง”
เสียงทุ้มต่ำปนความแหบแห้งเล็กน้อยเพียงพอที่จะทำให้เยี่ยนอวี๋รู้สึกคลับคล้ายคลับคลากับเสียงหายใจของชายคนนี้ในครานั้น! หูของนางแดงจนแดงกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว!
ต้าซือมิ่งที่คอยสังเกตนางก็รู้สึกประหลาดใจ “ข้าก็พูดเช่นนี้หรือ”
“…อืม” เยี่ยนอวี๋เม้มปากเล็กน้อยก่อนจะขานตอบ
ต้าซือมิ่งเข้าใจทันที เขากอดภรรยาไว้แน่นกว่าเดิม “ยังมีอะไรอีก”
“มะ ไม่มี…” เยี่ยนอวี๋ยกมือขึ้นมาปิดหูไว้ นางรู้สึกได้ว่าหูของตนเองจะไหม้แล้ว! เจ้าหมอนี่น่ารำคาญจริงๆ! ถามอะไรนี่!
“ฮึ…” ต้าซือมิ่งยิ้มจางๆ เขาจูบมือของนางเบาๆ รู้สึกวางใจลงไปมาก รู้ว่าเด็กน้อยของเขาได้มาอย่าง ‘ถูกต้อง’ แน่นอน เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไม่มีทางได้มาอย่าง ‘ผิดกฎหมาย’
ทว่า… ร่างกายของเขาเป็นอะไรกันแน่นะ
ต้าซือมิ่งคิดคาดเดา แต่บัดนี้เรื่องเหล่านี้ไม่สำคัญแล้ว สิ่งที่สำคัญคือคนที่อยู่ในอ้อมกอดคนนี้ พรุ่งนี้ก็จะกลายเป็นภรรยาของเขา ภรรยาของหรงอี้แล้ว
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์” หรงต้าซือมิ่งเรียกนางด้วยความรัก พูดว่า “เรียกข้าว่าสามีให้ฟังหน่อยสิ”
เยี่ยนอวี๋เม้มปากเล็กน้อย นางไม่ได้พูดอะไร ต้าซือมิ่งจึงจูบใบหน้าของนางเบาๆ “ได้หรือไม่”
เยี่ยนอวี๋เงยหน้ามองชายที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมคนนี้ เผยอปากเล็กน้อย… ต้าซือมิ่งมองนางและรอนางพูดอย่างใจจดใจจ่อ นิ้วโป้งของเขาลูบคลึงใบหน้านุ่มลื่นของนางไปมาเบาๆ