เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 421 เทียนตี้ชอบถูกทรมาน! ปฐมราชินีเยี่ยนเย้าแหย่สามีตามใจลูก
- Home
- เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน
- ตอนที่ 421 เทียนตี้ชอบถูกทรมาน! ปฐมราชินีเยี่ยนเย้าแหย่สามีตามใจลูก
บนสวรรค์ชั้นเก้า! ณ จุดสูงสุดของโลก!
วิ้ง!
ตำหนักไท่ชางที่หายสาบสูญไปพร้อมกับการจากไปของปฐมราชินีหยวนชูเมื่อสามหมื่นปีก่อนปรากฏขึ้นเลือนราง
แต่ในบัดนี้ยังไม่มีผู้ใดเห็นภาพนี้ เพราะว่าที่นี่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต เพราะว่าที่นี่ถูกปิดตายมานานแล้ว ราวกับ ‘หลุด’ ออกจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าไปแล้ว แต่เหล่าทวยเทพรุ่นแรกต่างรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของที่นี่ โดยเฉพาะเทียนตี้! เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามีกลิ่นอายลึกลับที่เขาคุ้นเคยกำลังกลับคืนมา! ทำให้เขาผู้ซึ่งประทับบนตำแหน่งเทียนตี้ในตำหนักสวรรค์ลุกขึ้นยืนอย่างยั้งสติไม่อยู่! ทำเอาเหล่าทวยเทพจากทั่วสารทิศที่เขาเรียกมาเงียบงันในทันใด
แม้แต่เทพรับใช้สวรรค์ที่ก่อนหน้านี้กำลังทูลรายงานเรื่องการปิดตัวของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็หยุดการรายงาน ไม่กล้าพูดอะไรอีก คิดว่าการรายงานของตนทำให้เทียนตี้โกรธกริ้ว!
“เทพตกสวรรค์ทำตามอำเภอใจไปจริงๆ บทจะปิดสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็ปิดเช่นนี้ได้อย่างไร” บัดนี้เหล่าทวยเทพในตำหนักสวรรค์ต่างก็คิดว่าเทียนตี้โกรธกริ้วเพราะการกระทำของเทพตกสวรรค์จนยั้งสติไว้ไม่อยู่!
หารู้ไม่ว่าแม้การกระทำของเทพตกสวรรค์จะทำให้เทียนตี้โกรธกริ้ว แต่ก็มิอาจทำให้เขาถึงกับยั้งสติไม่อยู่ได้ เพราะว่าบนจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้า มีเพียงปฐมราชินีหยวนชูเพียงผู้เดียวและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนางเท่านั้นที่สามารถทำให้เขายั้งสติไม่อยู่ได้
ดังนั้น… สิ่งที่เทียนตี้เอื้อนเอ่ยต่อไปจึงทำให้เทพทุกองค์งุนงง เพราะว่าเทียนตี้ที่สงบสติอารมณ์ลงได้ก็ประกาศขึ้นว่า “ตบรางวัลไข่มุกสวรรค์สิบถังให้เทพตกสวรรค์”
“?!”
เทพน้อยใหญ่ในอาณาเขตหมื่นลี้ที่ทอดยาวออกไปถึงตำหนักทวยเทพนอกตำหนักสวรรค์จากที่ประทับของเทียนตี้ต่างเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามเพราะประโยคนี้ของเทียนตี้
เทพสวรรค์ทุกองค์ล้วนรู้ว่าการที่เทพตกสวรรค์ปิดสวรรค์เก้าชั้นฟ้าโดยพลการโดยไม่ได้รับคำบัญชาจากเทียนตี้ย่อมเป็นความผิดที่มิอาจอภัยให้ได้! ถึงแม้เขาอาจจะไม่รู้ว่าเทียนตี้ออกจากการจำศีลแล้ว กระทั่งมีเหตุผลจำเป็นอย่างอื่นจึงตัดสินใจกระทำเช่นนี้ แต่ตามกฎสวรรค์แล้ว ไม่ว่าเทพตกสวรรค์จะมีเหตุผลอะไร เขาจะถูกปลดออกจากตำแหน่งเทพ และถูกเนรเทศออกจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ไม่สามารถดำรงตำแหน่งสำคัญได้อีกต่อไป
ทว่าเทียนตี้กลับเพิกเฉยกฎสวรรค์ นอกจากไม่ได้ลงโทษเทพตกสวรรค์ เขายังตบรางวัลไข่มุกสวรรค์ให้? แม้สำหรับเทพตกสวรรค์แล้วไข่มุกสวรรค์จะไม่มีประโยชน์อันใดก็ตาม แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การตบรางวัล แต่อยู่ที่การตัดสินของเทียนตี้ต่างหาก!
“ตี้จวิน เรื่องนี้… ไม่เหมาะสมหรือไม่เพคะ” ซีเหอ เทียนโฮ่วหรือพระมเหสีของเทียนตี้ นางก็อดตั้งคำถามถึงสิ่งที่อยู่ในใจของเหล่าทวยเทพไม่ได้ ยังมีเทพไม่น้อยทำท่าจะสำทับ ทว่าเทียนตี้ไม่ยอมฟังแม้แต่น้อย “เขาสร้างคุณูปการมหาศาล!” บางทีคงเป็นเพราะเทพตกสวรรค์ปิดสวรรค์เก้าชั้นฟ้าจึงทำให้ปฐมราชินีตื่นตระหนก นางจึงกลับมา!
เช่นนั้นไม่ว่าเทพตกสวรรค์ปิดสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเพราะเหตุผลใดก็ถือว่าทำคุณประโยชน์ให้! สามหมื่นปีแล้ว สามหมื่นปีเต็มๆ แล้ว นางกลับมาแล้วจริงๆ!
“เทพหงส์ฟ้า เราบัญชาเจ้าประกาศโองการและนำตัวเทพตกสวรรค์มายังตำหนักสวรรค์” เทียนตี้บัญชาโดยเร็ว ไม่ปล่อยให้เหล่าทวยเทพมีเวลาตั้งสติด้วยซ้ำ
หงส์เทพเป่ยหมิงได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง “เพคะ! เทียนตี้”
“ตัวเหวินเทียนอ๋อง เราบัญชาให้เจ้าเฝ้าสังเกตสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและอาณาจักรเซียนสวรรค์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากมีเหตุการณ์ผิดปกติ รายงานแก่เราทันที ห้ามผิดพลาดเด็ดขาด!”
“พ่ะย่ะค่ะ! เทียนตี้”
“จิ้งเทียนอ๋อง เราบัญชาเจ้าเรียกเหล่าขุนเขาและท้องทะเลกลับมาตั้งแต่บัดนี้! เราต้องพบพวกเขาภายในสามเดือน ห้ามขาดแม้เพียงผู้เดียว!”
“…พ่ะย่ะค่ะ เทียนตี้” จิ้งเทียนอ๋องลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากไปหา แต่เพราะถึงแม้เขาจะมีอิทธิฤทธิ์มากมาย แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะตามหาเทพดุร้ายแห่งขุนเขาและท้องทะเลแต่ละท่านที่แสนหัวแข็งดื้อรั้นบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอันไพศาลและไร้ขอบเขตแห่งนี้เจอได้
แต่คำบัญชาของเทียนตี้ย่อมมิอาจปฏิเสธได้ เขาต้องน้อมรับ! และต้องทำให้สำเร็จ มิเช่นนั้นก็เท่ากับว่าเขาไร้ความสามารถ ดังนั้นจิ้งเทียนอ๋องจึงมิอาจพูดอันใดได้
เทียนตี้พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ผูถีเทียนอ๋อง เจ้าคอยช่วยเหลือจิ้งเทียนอ๋อง ทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ”
“พ่ะย่ะค่ะ! เทียนตี้” ผูถีเทียนอ๋องมีลักษณะต่างจากเทพทั่วไปอย่างชัดเจน ราวกับเป็นต้นโพธิ์ที่เหี่ยวเฉาก็ลุกขึ้นน้อมรับคำบัญชาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ทว่าคำบัญชาสองข้อสุดท้ายของเทียนตี้กลับทำให้เหล่าทวยเทพรู้สึกประหลาดใจ ซีเหอก็เอ่ยขึ้นอีกครา “ตี้จวิน เหล่าขุนเขาและท้องทะเลฟังเพียง… ปฐมราชินีมาโดยตลอด สามหมื่นปีมานี้ก็หายสาบสูญไปแล้ว เกรงว่าจะไม่ง่ายหากจะเรียกกลับมาเพคะ”
“ใช่แล้ว มิทราบว่าเหตุใดตี้จวินจึงเรียกพวกมันกลับมา” ซื่อฝาน เทียนอ๋องแห่งสวรรค์ชั้นหนึ่งก็ไม่เข้าใจ เพราะว่าเขาจำได้อย่างแจ่มชัดจนถึงบัดนี้ว่า เมื่อสามหมื่นปีก่อน เพราะว่าการจากไปของปฐมราชินีหยวนชู ทำให้เทพดุร้ายเหล่านั้นก่อความวุ่นวายบนสวรรค์และทุบตีเขาเช่นใดในครานั้น
เห็นได้ชัดว่าซื่อฝานเทียนอ๋องที่ลืมหายนะในครานั้นไม่ลงไม่สามารถเข้าใจได้ เทียนตี้ที่ถูกทุบตีจนเจ็บปวดแต่กลับโล่งใจอันที่จริงยังอยากจะถูกทุบตีอีกครั้ง…
“เราย่อมมีดุลยพินิจของเรา” เทียนตี้มิได้บอกกล่าวสัญญาณการกลับมาของปฐมราชินีแก่เหล่าทวยเทพ เพราะว่าเขาคิดเห็นเช่นเดียวกับเหล่าขุนเขาและท้องทะเล การลงไปจุติบนโลกของปฐมราชินีต้องมีลับลมคมในแน่นอน!
ดังนั้นเทียนตี้ผู้ไม่ใช่คนโง่เขลาย่อมไม่เปิดเผยความรู้สึกของตนเอง มิหนำซ้ำเขาจะพยายามปกปิดมันด้วย! แต่เขาก็จะพยายามหาปฐมราชินีให้เจอก่อนเพื่อปกป้องนางและต้อนรับนางกลับมา!
ดังนั้นแม้เหล่าเทพสวรรค์จะเต็มไปด้วยคำถาม แต่กลับได้แต่คิดสงสัยต่อไป อย่าคาดหวังว่าเทียนตี้จะคลายความสงสัยให้ กระทั่วหลังจากเลิกประชุม ซีเหอเอ่ยถามเป็นการส่วนตัวก็ยังไม่ได้คำตอบอะไร
…
“แปลกจริง” หลังจากซื่อผานเทียนอ๋องสืบทราบข่าวก็ยิ่งสงสัย
ท่านเทพอี้หยางที่กำลังเล่นหมากล้อมกับซื่อฝานเทียนอ๋องก็พูดเกลี้ยกล่อมอย่างอ่อนโยนว่า “ท่านพี่เหตุใดจึงต้องกังวลใจกับเรื่องนี้ด้วย ตี้จวินมิได้สั่งให้ท่านไปหาเหล่าขุนเขาและท้องทะเลที่ไม่เห็นคุณค่าของผู้อื่นเหล่านั้นเสียหน่อย”
“แต่ถึงอย่างไรหลังจากพวกมันกลับมาแล้วก็ต้องเผชิญหน้ากันอยู่ดี” ซื่อฝานเทียนอ๋องที่มิได้รู้สึกดีต่อเหล่าขุนเขาและท้องทะเลก็ไม่ได้ปิดบังน้องสาว “ครานั้นพวกเขากล้าทำร้ายข้า บัดนี้ก็คงยังกล้าเช่นเคย”
“ครานั้นท่านพี่ท่านยังไม่ได้เป็นเทียนอ๋องแห่งสวรรค์ชั้นหนึ่ง บัดนี้ท่านเป็นถึงราชาแห่งทวยเทพ เป็นราชาสวรรค์แห่งสวรรค์ชั้นหนึ่ง แม้จะเป็นเหล่าขุนเขาและท้องทะเลที่ดื้อรั้นเหล่านั้นก็มิบังอาจดูหมิ่นท่านได้” ท่านเทพอี้หยางกล่าวอย่างแน่วแน่
“ก็ไม่แน่เสมอไป” ซื่อฝานเทียนอ๋องกลับรู้แจ้งยิ่งกว่าว่า พวกมันกล้ากระทำเช่นนั้น! ถึงอย่างไรพวกมันในอดีตก็กล้าลงมือแม้แต่กับตี้จวิน เขาเป็นเพียงเทียนอ๋องธรรมดาๆ องค์หนึ่งจะเทียบกับตี้จวินได้อย่างไร ย่อมมิอาจเทียบได้
นี่ก็เป็นสาเหตุที่ซื่อฝานเทียนอ๋องไม่เข้าใจ เท่าที่เขาดูแล้ว ตี้จวินไม่ชอบพอเหล่าขุนเขาและท้องทะเลเป็นอย่างมาก เทพดุร้ายเหล่านี้ดื้อรั้นเกินไป! พวกเขาฟังเพียงคำสั่งของปฐมราชินีหยวนชูที่ดับสูญไปแล้วเท่านั้น
จะว่าไปแล้ว ปฐมราชินีหยวนชูท่านนั้น…
ซื่อฝานเทียนอ๋องที่กำลังครุ่นคิดอยู่ในบัดนี้ก็คงคิดไม่ถึงไม่ว่า ปฐมราชินีหยวนชูที่เขากำลัง ‘คิดถึง’ อยู่นั้น นางจะอยู่ในสวรรค์ชั้นหนึ่งที่เขาปกครอง อีกทั้งเจ้าเมืองแห่งเมืองเซียนไป๋เฟิงที่อยู่ใกล้กับประตูสวรรค์มากที่สุดยังเป็นบุตรชายของท่านเทพอี้หยางผู้เป็นน้องสาวของซื่อฝานเทียนอ๋องอีกด้วย ดังนั้นเทพเฝ้าประตูร่างกำยำสององค์จึงกำลังรายงานต่อเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อเฟิงว่า “…เจ้าเมืองเยี่ยน เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ท่านโปรดตัดสินใจ”
“พวกเจ้าหมายความว่า มีคนธรรมดาจากโลกมนุษย์บังอาจเปิดประตูสวรรค์และบุกเข้ามาหรือ!” เยี่ยนชื่อเฟิงรู้สึกเหมือนตนเองกำลังฟังนิทานอยู่ เรื่องเช่นนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้!
แต่เทพเฝ้าประตูสององค์จำเป็นต้องพูดว่า “ขอรับ อีกทั้งคนผู้นี้มีพลังไม่ธรรมดา ภาพความศักดิ์สิทธิ์ที่เผยให้เห็นนั้นพิเศษมาก เป็นภาพที่พวกข้าไม่เคยเห็นมาก่อน”
“เหลวไหล!” เยี่ยนชื่อเฟิงตำหนิ “มนุษย์ทั่วไปจะเสกคาถาเทพได้อย่างไร เหลวไหลสิ้นดี! เสียแรงเปล่าที่เจ้าทั้งสองเป็นเทพรักษาประตูที่ถูกคัดเลือกมา ช่างไร้ประโยชน์จริงๆ”
“เจ้าเมืองเยี่ยน…” เทพสององค์ทำท่าจะอธิบาย
เยี่ยนชื่อเฟิงกลับออกคำสั่งว่า “ทหาร!”
“ขอรับ!”
“เจ้าจงไปยังประตูสวรรค์แดนมนุษย์และจับกุมสามัญชนผู้บุกรุกสวรรค์มาตามคำสั่งของข้า หากผู้ใดขัดขืน ฆ่าไม่ละเว้น!” เยี่ยนชื่อเฟิงฟังเสร็จก็ออกคำสั่งทันที
“ขอรับ! ท่านเจ้าเมือง” ผู้พิทักษ์จวนเจ้าเมืองแห่งเมืองไป๋เฟิงน้อมรับคำสั่ง จากนั้นก็นำองค์รักษ์เจ้าเมืองกลุ่มหนึ่งมุ่งไปทางประตูทิศใต้เพื่อจับกุมเยี่ยนอวี๋และคนอื่นๆ ทันที
ส่วนเยี่ยนอวี๋ในบัดนี้ นางเพิ่งดูดซับพลังสร้างโลกเสร็จ รัศมีรอบกายยิ่งมิอาจคาดเดาได้ รูปโฉมของนางเปล่งประกายสว่างไสวมากยิ่งขึ้น ทั่วทั้งร่างของนางเผยให้เห็นถึงความสง่าและสุขุมของเทพสูงสุด
“ว้าววว” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตะลึงงัน เขายังยื่นมือน้อยๆ ออกไปประหนึ่งคนบ้าสตรี “แม่! อุ้ม…”
เยี่ยนอวี๋จึงลืมตาขึ้น ในดวงตาของนางปรากฏแสงศักดิ์สิทธิ์วูบไหว ทำเอาดวงตาสีหมึกของต้าซือมิ่งที่คอยจับตามองนางตลอดหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนจะแสดงความยินดีเบาๆ “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ ยินดีด้วย”
“ยินดี! ด้วย!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็นำมือที่ยื่นออกไปขอให้อุ้มกลับมากุมประสานไว้และยัง ‘คารวะ’ ด้วยท่าทีจริงจัง ดวงตากลมโตของเขายิ้มหยีจนกลายเป็นพระจันทร์เสี้ยว เผยให้เห็นฟันซี่น้อยๆ คล้ายไข่มุกหลายซี่บนเหงือกสีชมพูของเขา ช่างน่ารักน่าชังนัก ทำเอาเยี่ยนอวี๋อดเดินเข้าไปกอดเด็กน้อยและชายที่อุ้มเด็กน้อยไว้ไม่ได้ และยังจูบสองพ่อลูกคนละทีด้วย
“ฮี่…” เจ้าตัวน้อยดีใจกระดี๊กระด๊า
ต้าซือมิ่งที่ได้รับผลพลอยได้ก็ยกริมฝีปากขึ้น ครั้นกำลังจะโอบภรรยาที่เข้าหาเขาก่อนเพื่อจูบนางกลับ เทพไร้ประโยชน์สององค์ก็อุทานขึ้นอย่างตื่นตระหนก “แย่แล้ว! เหมือนว่าจะมีเทพมาแล้ว!”
ในขณะเดียวกัน…
“โจรจากที่ใด! บังอาจฝ่าประตูสวรรค์! ยังไม่รีบคุกเข่า!”