เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 435 เทียนโฮ่วริษยา! ห้ามมองสามีรูปงามของข้า!
ในขณะเดียวกัน…
บนสวรรค์ชั้นเก้า! เทียนโฮ่วซีเหอที่อยู่ในตำหนักสวรรค์ นางเพิ่งได้รับข่าวตี้เซินไปสวรรค์ชั้นหนึ่งกับท่านเทพอี้หยางยังไม่ทันได้โมโห ศูนย์กลางของตำหนักสวรรค์ก็เกิดความผิดปกติขึ้น
วิ้ง!
แสงสีม่วงเจิดจ้าวงหนึ่งกำลังแผ่กระจายออกมาจากศูนย์กลางตำหนักสวรรค์ เรียกความสนใจไม่น้อย
“พลังไท่สื่อเคลื่อนไหวแล้ว?”
“ตี้จวินกำลังฝึกฌานหรือ”
“ไม่น่าจะใช่ กลิ่นอายนี้ไม่รุนแรงมาก…”
เหล่าทวยเทพมากมายแยกแยะได้ว่าแสงสีม่วงนี้หมายถึงพลังไท่สื่อกำลัง ‘สร้างปัญหา’ และบนสวรรค์ชั้นเก้านี้ เทพที่สามารถใช้พลังไท่สื่อได้มีเพียงเทียนตี้และองค์หญิงเจ็ดตี้เซิน
หากเป็นองค์หญิงเจ็ด นางเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกตลอดเวลา น้อยครั้งที่จะกลับมาตำหนักสวรรค์ ในการประชุมเทพครั้งก่อน เทพทั้งหมดก็มาโดยทั่วกัน แต่องค์หญิงเจ็ดก็มิได้ปรากฏตัว
ดังนั้นเทพมากมายกำลังทายว่าความเคลื่อนไหวในยามนี้น่าจะมาจากเทียนตี้ แม้แต่ซีเหอเองแต่เดิมก็คิดเช่นนี้ แต่นางก็พบความผิดปกติอย่างรวดเร็ว “กลิ่นอายนี้…”
“ไม่ถูก! ไม่ใช่ตี้จวินที่ใช้พลังไท่สื่อ เซินเซินต่างหาก!” ซีเหอที่แยกความแตกต่างได้ก็รู้สึกได้ทันทีว่า บัดนี้ลูกสาวลงไปสวรรค์ชั้นหนึ่งแล้ว นี่มัน…
ซีเหอไม่ทันได้ครุ่นคิด นางฟ้าจากตำหนักเทียนโฮ่วก็มารายงานอย่างร้อนรนว่า “ทูลเทียนโฮ่วเหนียงเหนียง เมืองไป๋เฟิงเกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ! เจ้าเมืองไป๋เฟิงถูกเทพเถื่อนสังหาร ต้นไม้โบราณไป๋เฟิงก็ถูกเทพเถื่อนควบคุม องค์หญิงเจ็ดเพิ่งรับสั่งให้เชิญเทพต้นไม้ระดับท่านเทพจากเผ่าเทพต้นไม้ลงไป”
“แล้วอย่างไรอีก” ซีเหอเชื่อว่าเรื่องไม่ได้มีเพียงเท่านี้ มิเช่นนั้นบุตรสาวของนางคงไม่ปล่อยพลังไท่สื่อออกมา “เซินเซินยังทำอะไรอีก”
เห็นได้ชัดว่านางฟ้าที่มารายงานไม่รู้เรื่องที่เหลือแล้ว แต่ข้างนอกตำหนักเทียนโฮ่วก็มีเสียงรายงานของเทพรับใช้ดังขึ้นกังวาน “รายงานพ่ะย่ะค่ะ..”
ซีเหอได้ยินก็รู้ว่านี่คือเทพรับใช้ของตำหนักเทียนตี้ คงเป็นเพราะหาเทียนตี้ไม่เจอ จึงมาหานางเพื่อรายงานแล้ว แน่นอนว่าข่าวของเทียนตี้ย่อมรวดเร็วกว่านาง ดังนั้นนางจึงรีบพูดว่า “รีบเชิญเข้ามา!”
เทพรับใช้ที่ไม่พบเทียนตี้ จึงมาตำหนักเทียนโฮ่วอย่างไม่มีทางเลือกตามที่ซีเหอคาดเดาไว้ก็คุกเข่าลง เขารายงานอย่างไม่รีรอทันที “ทูลเทียนโฮ่วพ่ะย่ะค่ะ ตามคำบอกเล่าจากทูตสวรรค์ชั้นหนึ่ง องค์หญิงเจ็ดประสบศัตรูที่น่ากลัวในเมืองไป๋เฟิง! บุคคลที่ถูกระบุว่าเป็นเทพเถื่อนจากแดนมนุษย์เกรงว่าจะเป็นจักรพรรดิอสูรที่มาจากแดนมืดวิญญาณอสูร! องค์หญิงเจ็ดถูกหยามหมิ่น ซื่อฝานเทียนอ๋องแห่งสวรรค์ชั้นหนึ่งยังอยู่บนสวรรค์ชั้นเก้า องค์หญิงเจ็ดตกอยู่ในอันตรายพ่ะย่ะค่ะ!”
“ว่าไงนะ!” ซีเหอลุกพรวดอย่างคุมอารมณ์ไม่อยู่ นางล้มโต๊ะข้างตัวทันที!
แม้เทพรับใช้ที่มารายงานจะไม่แสดงสีหน้าใดๆ แต่น้ำเสียงกลับหนักแน่นขึ้นกว่าเดิม “เทียนโฮ่วโปรดรีบตัดสินพระทัย ความสามารถของจักรพรรดิอสูรไม่ธรรมดา! ช้าไปอาจจะไม่ทันการณ์พ่ะย่ะค่ะ!”
“ไป! ถ่ายทอดคำสั่งของข้าให้ซื่อฝานลงไปยังสวรรค์ชั้นหนึ่งเดี๋ยวนี้!” ซีเหอรีบบัญชาทันที สีหน้านางแปรเปลี่ยนเล็กน้อย หากไม่ใช่เพราะนางไม่สามารถแผลงฤทธิ์ได้เต็มที่ในสวรรค์ชั้นหนึ่ง นางคงลงไปเองแล้ว
แต่นางไม่ได้ลงไป นางยังคงมีสติดี และจำเป็นต้องคุมสติให้ดีเข้าไว้ เพราะว่ายังไม่พบเทียนตี้ หากนางไม่สงบอารมณ์ลง เกรงว่าเซินเซินของนางจะเกิดเรื่องจริงๆ แล้ว!
เทพรับใช้ที่ได้รับคำบัญชาก็ได้รับป้ายประกาศิตเทียนโฮ่วจากนางฟ้าข้างกายนาง เขาก็รีบไปหาซื่อฝานด้วยความรวดเร็วทันที จะช้าก็ไม่ได้
“หลิงเย่ว์ ไปตรวจสอบว่าตี้จวินไปไหน” ซีเหอรู้ดีว่า หากต้องเห็นความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง ถึงอย่างไรก็ต้องหาเทียนตี้ให้พบก่อน
ทว่าหลิงเย่ว์นางฟ้าอาวุโสที่ถูกเรียกชื่อก็ทำท่าทีลังเล “เหนียงเหนียง…”
“เจ้ารู้อยู่แล้วว่าตี้จวินไปที่ใดหรือ” ซีเหอชะงักงันก่อนจะคิดอะไรขึ้นได้! สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน “ตี้จวินไปจักรวาลดั้งเดิมอีกแล้วหรือ!”
จักรวาลดั้งเดิมอยู่เหนือสวรรค์ชั้นเก้า ในอดีตเป็นตำแหน่งที่ตั้งของตำหนักไท่ชาง หลังจากที่ปฐมราชินีหยวนชูสิ้นชีพ ตำหนักไท่ชางก็หายสาบสูญ จักรวาลดั้งเดิมก็หายไปจากสายตาของเหล่าทวยเทพ แต่ซีเหอรู้ว่าจักรวาลดั้งเดิมคงอยู่มาโดยตลอด เพียงแต่นอกจากเทพรุ่นแรกแล้ว เทพรุ่นอื่นๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ อีกทั้งจักรวาลดั้งเดิมยังจางหายไปเรื่อยๆ
แม้เป็นเช่นนี้ก็มิอาจขัดขวางเทียนตี้ได้! สามหมื่นปีที่ผ่านมา เทียนตี้จำศีลอยู่ในจักรวาลดั้งเดิมมาโดยตลอด บัดนี้เขาเพิ่งจะออกมาประชุม ทว่ากลับไปอีกแล้ว!?
หากเป็นยามปกติ ซีเหอที่ชินชาไปแล้วก็คงไม่คิดอะไร แต่ยามนี้บุตรสาวเพียงหนึ่งเดียวตกอยู่ในอันตราย เทียนตี้ในฐานะที่เป็นบิดากลับยังอยู่บนจักรวาลดั้งเดิม เรื่องนี้ทำให้ซีเหอล้มโต๊ะและเก้าอี้ข้างกายอย่างมิอาจระงับอารมณ์ได้ “จักรวาลดั้งเดิม! จักรวาลดั้งเดิม! จักรวาลดั้งเดิมอีกแล้ว! สามหมื่นปีแล้ว ข้าคิดว่าในเมื่อเขากลับมาแล้วก็คงทำใจได้แล้ว รู้จักปล่อยวางแล้ว รู้ว่าหยวนชูไม่มีทางกลับมาอีกแล้ว! แต่สุดท้ายเขาเพิ่งออกมาไม่ถึงหนึ่งวันก็กลับไปอีกแล้ว!?”
“เหนียงเหนียง! ระวังคำพูดด้วยเพคะ!” หลิงเย่ว์พานางฟ้ากลุ่มหนึ่งคุกเข่าลง กลัวว่าคำพูดเหล่านี้แพร่ไปตำหนักเทียนตี้จะมีแต่สร้างความเดือดร้อนโดยไม่จำเป็น และยังสร้างผลเสียต่อเหนียงเหนียงของพวกนางด้วย
ซีเหอสูดหายใจเข้าลึก พยายามอดกลั้นความโมโหไว้ “เปลี่ยนอาภรณ์! ไปตำหนักหยวนสื่อเทียนจุน!”
“เหนียงเหนียง?” หลิงเย่ว์เงยหน้ามองอย่างตะลึง
ซีเหอกลับสงบสติอารมณ์ลงแล้ว “ในเมื่อหาตี้จวินไม่พบ ข้าทำได้เพียงขอร้องหยวนสื่อเทียนจุนแล้ว”
“เพคะ!” หลิงเย่ว์ลุกขึ้นทันที และเริ่มเปลี่ยนอาภรณ์ให้ซีเหอ
…
ในขณะเดียวกัน…
จังหวะเดียวกันกับที่ตี้เซินจำต้าซือมิ่งได้!
ดวงตางดงามของเยี่ยนอวี๋เปล่งประกายวาบ นางดึงต้าซือมิ่งไปข้างหลังนางทันที “เจ้ารู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงของแดนมืด” นางคิดมาตลอดว่าเทพบนสวรรค์ชั้นเก้าไม่รับรู้การเปลี่ยนแปลงของแดนมืดเลยแม้แต่น้อย มิเช่นนั้นเหตุใดจึงปล่อยไว้ให้ลุกลามได้
ทว่าเท่าที่ดูตอนนี้ องค์หญิงเจ็ดคนนี้ต้องรู้แน่นอนว่าแดนมืดวิญญาณอสูรมีจักรพรรดิอสูรท่านหนึ่ง กระทั่งสามารถแยกแยะพลังและกลิ่นอายของจักรพรรดิอสูรได้ แต่สวรรค์เก้าชั้นฟ้ากลับไม่จัดการเรื่องที่แดนมืดคุกคามโลกมนุษย์เลย!
เมื่อรู้เช่นนี้ ทำให้เยี่ยนอวี๋ที่เดิมที่ไม่พอใจกับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในบัดนี้อยู่แล้วยิ่งไม่สบายใจ! นางเดาได้ว่าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าคงเห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยปริยาย
ตี้เซินที่ถูกบดบังสายตา นางก็ยืนยันสิ่งที่เยี่ยนอวี๋เดา “แน่นอน! ในฐานะที่ข้าเป็นเทพในเผ่าสวรรค์ ย่อมรู้เรื่องทุกสิ่งทุกอย่างของทั้งสามโลก สิ่งที่พวกเจ้าทำไว้ในแดนมืดย่อมหนีไม่พ้นสายตาของเผ่าสวรรค์ของข้า”
“ดังนั้นปัญหาเรื่องผนึกแดนมืดวิญญาณอสูร พวกเจ้าก็รับรู้อยู่แก่ใจ?” ขณะที่เยี่ยนอวี๋ถามอย่างเยือกเย็น รอบกายนางก็แผ่ซ่านแรงกดดันศักดิ์สิทธิ์ที่รุนแรงกว่าเดิมออกมา ทำให้ตี้เซินที่แต่เดิมอยากจะลุกยืนไม่สามารถแม้แต่จะขยับตัวได้ ถึงแม้รอบกายนางยังคงปลดปล่อยพลังไท่สื่ออย่างต่อเนื่องก็ตาม นางก็ลุกขึ้นไม่ได้อยู่ดี
เรื่องนี้ทำให้ตี้เซินตระหนักได้ว่า ที่นางถูกพลังกดทับจนร่วงลงบนพื้นจากบนฟ้า เกรงว่าจะไม่ใช่เพราะจักรพรรดิแดนมืดลอบลงมือ แต่มาจากสตรีงดงามไร้ที่ติดุจแจกันดอกไม้ตรงหน้าคนนี้ต่างหาก!?
นี่มัน…
ตี้เซินที่คิดถึงความเป็นไปได้นี้ม่านตาก็หดลง นางมองเยี่ยนอวี๋อย่างตั้งใจทันที ครานี้จึงพบว่า…