เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 443 สามีภรรยาจอมวายร้าย!
เทพตกสวรรค์ที่คิดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนอวี๋จะจำเขาได้และยังตบหน้าโดยไม่พูดไม่จาเช่นนี้ แม้เขาจะปล่อยพลังป้องกันระดับมหาเทพออกมาในทันที แต่ใบหน้าชราของเขาก็ถูกตบจนบวมแล้ว
“บังอาจ!”
หงส์เทพโมโห รอบกายแผ่ซ่านรังสีหงส์ฟ้าสีทองอร่ามออกมา ทั้งยังรวบรวมเงาร่างปลาคุนนกเผิงสีมืดหม่นเป็นวงแหวนหลายวง ทันใดนั้นลมก็โหมพัดไปทั่ว
สีหน้าของเทพตกสวรรค์ก็ขรึมลง แสงหม่นมืดแผ่ซ่านออกมาจากทั่วทั้งร่าง “เจ้าคนเลวกล้าดีนัก! รู้หรือไม่ว่าข้าคือใคร!”
เยี่ยนอวี๋ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย จมูกของนางพ่นหายใจเย็นชาออกมา “ต้องใช้ความกล้าจัดการเจ้าด้วยหรือ เทพสวะที่ไม่สนใจชีวิตผู้อื่น ทำลายผนึกขุนเขาและท้องทะเล และยังวางยาบุตรชายของข้า เจ้าคิดว่าเจ้าอำพรางตัวได้ดีมากรึ”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา…
“!”
พลังของเทพตกสวรรค์ชะงักอย่างชัดเจน! เขารู้สึกตกตะลึงมากจนเกือบจะหลุดพูดออกไปว่า เจ้ารู้ได้อย่างไร! พวกเจ้า…
แต่เทพตกสวรรค์ยั้งไว้ทัน เขาปฏิเสธทันทีว่า “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดอะไร แต่จะปล่อยเรื่องวันนี้ไปไม่ได้! หงส์เทพ เจ้าจะลงมือหรือให้ข้าลงมือเอง!”
หงส์เทพย่อมรับหน้าที่เอง นางพูดว่า “ในเมื่อข้าได้รับบัญชาจากเทียนตี้ นำตัวเทพตกสวรรค์ไปตำหนักสวรรค์ เช่นนั้นข้าย่อมต้องดูแลความปลอดภัยทั้งหมดของเจ้า ข้าจะรับผิดชอบเอง”
เมื่อหงส์เทพพูดถึงตรงนี้ก็เว้นจังหวะก่อนจะจ้องเยี่ยนอวี๋เขม็ง กล่าวว่า “สตรีคนนี้ฆ่าซื่อฝานเทียนอ๋องต่อหน้าข้า จากนั้นยังตบหน้าเทพตกสวรรค์ต่อหน้าข้า โทษประหารเท่านั้น”
“ฮึ!” เม่ยเอ๋อร์ที่ฟังถึงตรงนี้ก็อดพ่นหัวเราะเย็นชาออกมาไม่ได้ “ฝีปากกล้านัก แต่เทพผู้ที่สามารถตัดสินโทษคุณหนูใหญ่ของข้ายังไม่เกิด! และเจ้าก็ไม่คู่ควร!”
“ใช่!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าสำทับเสียงเล็กเสียงน้อย!
“ใช่แล้ว!” ลูกไก่ รวมถึงอินหลิวเฟิงต่างสำทับ
หงส์เทพรู้สึกหมดคำพูดกับกลุ่มคนโง่เขลาและไร้ยางอายกลุ่มนี้ นางรู้สึกได้ว่าคนกลุ่มนี้ทั้งเล็กและไร้ประโยชน์ ไม่มีค่าแก่การกล่าวถึงเลย
ทว่าเยี่ยนอวี๋ที่ได้ยินดังนั้นก็สบตาหงส์เทพ แววตาว่างเปล่า น้ำเสียงไร้คลื่น “ดังนั้น เจ้าหมายความว่าหากจะแตะต้องเทพตกสวรรค์ที่พวกเจ้าพูดถึง ต้องผ่านด่านเจ้าก่อนรึ”
“ใช่แล้ว” หงส์เทพไม่พูดพล่าม “ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถไม่ธรรมดา ข้าจะให้โอกาสเจ้าแจ้งชื่อแซ่ของเจ้าอีกครา จากนั้นก็ออกมาตายซะดีๆ! อย่าทำให้พวกไร้ประโยชน์ตัวเล็กตัวน้อยข้างกายเจ้าต้องตกลำบากไปด้วยเลย ถึงแม้พวกเขาก็คงไม่มีจุดจบที่ดีหลังจากที่เจ้าตายไปก็ตาม”
เยี่ยนอวี๋จึงไม่พล่ามไร้สาระอีก นางเหลือบมองต้าซือมิ่งพูดว่า “ฝากสามีช่วยดูเทพสวะนั่นให้ข้าก่อนนะ ข้าขอไปจัดการหงส์น้อยตัวนี้ก่อน”
“ได้” หรงอี้ที่ถูกจัดแจงหน้าที่ก็ตอบอย่างไม่ลังเล
หงส์เทพโมโหกับคำว่า ‘หงส์น้อย’ ที่นางเรียก! แต่นางยังไม่ทันได้ปริปาก เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ถามเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “แม่ ข้าล่ะ”
“ฟังพ่อเจ้านะ” เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะโล้นๆ ของเด็กน้อยพลางตอบอย่างอ่อนโยน
เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงตอบอย่างจริงจังว่า “ขอรับ!”
“พอแล้ว ไสหัวออกมาซะ!” หงส์เทพหมดความอดทนแล้ว
เมื่อตี้เซินฟังถึงตรงนี้ นางก็อดเตือนไม่ได้ว่า “ท่านเทพ ระวังตัวด้วย สตรีนางนี้ไม่ได้ดูไร้พิษสงดั่งภายนอก ความสามารถของนางเก่งกาจมิอาจประเมินได้”
“ขอบพระทัยองค์หญิงเจ็ดที่เตือน เมื่อข้ากำจัดโจรเหล่านี้ได้ ย่อมคืนอิสระแก่องค์หญิงเจ็ด” หงส์เทพกล่าวขอบคุณเสร็จก็เดินหลีกไปทางหนึ่งแล้ว เห็นได้ชัดว่านางต้องการไปสู้ที่อื่น เพื่อหลีกเลี่ยงทำให้คนบริสุทธิ์ฝั่งนี้ต้องตาย
ในขณะเดียวกัน เนื่องจากซื่อฝานเทียนอ๋องถูกเยี่ยนอวี๋ฆ่าตายแล้ว พลังชะล้างตาข่ายสวรรค์ที่เขาเป็นผู้ปลุกเร้าก็มลายหายไปแล้ว สวรรค์ชั้นหนึ่งที่แต่เดิมแตกแยกก็ ‘ได้รับการเยียวยา’ ในบัดนี้แล้ว
สิ่งมีชีวิตทั่วไปไม่สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงมากมายได้ อีกทั้งยังคิดว่าเหตุการณ์ฟ้าทลายดินถล่มที่เห็นเมื่อครู่นี้เป็นเพียงภาพลวงตา เพราะภาพนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว
ทว่าผู้บำเพ็ญระดับเทพขึ้นไปรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจังหวะเมื่อครู่นี้คือปรากฏการณ์ฟ้าถล่มดินสลายจริงๆ เป็นสัญญาณของการล่มสลายของโลก พวกเขาในบัดนี้จึงยังคงรู้สึกหวาดกลัวไม่หาย
อย่างเช่นท่านเทพซ่านเฉิง เขาอดสบถออกมาไม่ได้ว่า “มารดามันเถอะ…” อีกเพียงเล็กน้อย ท่านเทพที่เป็นเทพสังกัดสวรรค์ชั้นหนึ่งผู้ถูกกฎเกณฑ์สวรรค์ชั้นหนึ่งกระทบกระเทือนเกือบจะหายไปพร้อมกับการชะล้างตาข่ายสวรรค์แล้ว
ถึงแม้จะรู้ว่าซื่อฝานเทียนอ๋องพูดถูก ต่อหน้าศัตรูแล้ว การสละเทพสามัญไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทว่าเขาผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในเหล่าเทพสามัญที่เกือบจะถูกสังเวยนั้นกลับรู้สึกไม่ดีมาก
ที่ตลกคือผู้ที่ช่วยพวกเขาไว้คือศัตรูที่พวกเขาต้องป้องกัน หากไม่ใช่เพราะสตรีผู้งดงามไร้ที่ติคนนั้นตบเทียนอ๋องของพวกเขาตายด้วยฝ่ามือเดียว คนที่ตายก็คงเป็นพวกเขาแล้ว
ความรู้สึกเช่นนี้ ช่าง ‘มหัศจรรย์’ ยิ่งนัก…
และขณะที่ท่านเทพซ่านเฉิงรู้สึกอัศจรรย์ใจอยู่นั้น
“กลืน”
หงส์เทพที่เริ่มปลุกพลังวิเศษปลาคุน นกเผิง นางก็กลายร่างเป็นปลาคุนขนาดมโหฬาร ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เยี่ยนอวี๋หมายจะกลืนกินนาง ไม่ปล่อยให้เยี่ยนอวี๋มีเวลาเตรียมตัวด้วยซ้ำ
ทว่าเยี่ยนอวี๋ก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัว นางถึงกับยังมี ‘เวลา’ เงยหน้ามองหงส์เทพที่กลายเป็นปลาคุน นางเห็นว่าสายเลือดปลาคุนนกเผิงในร่างกายของหงส์เทพบริสุทธิ์มาก แต่ว่า…
“ปลาหลิง”
ขณะที่เยี่ยนอวี๋ปริปาก ข้างกายนางก็ปรากฏอสูรแข็งแกร่งที่มีกลิ่นอายโบราณ มันมีใบหน้างดงาม แต่กลับอยู่ในร่างของปลา และมีมือและเท้าของคน ดูภาพรวมแล้วแปลกประหลาดสุดจะพรรณนา
แต่เมื่อมันปรากฏตัวขึ้น… สีหน้าของหงส์เทพก็แปรเปลี่ยน “ปลาหลิงอสูรโบราณแห่งขุนเขาและท้องทะเล!”
อสูรโบราณขุนเขาและท้องทะเลที่หงส์เทพจำได้ หนึ่งในลูกน้องเก่าของเยี่ยนอวี๋ มันก็ไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงความโบราณของมันเสื่อมเสีย ทันทีที่มันปรากฏตัว มันก็ปล่อยคลื่นทะเลซัดโหมไปทั่วท้องฟ้า ปกคลุมปลาคุนนกเผิงที่กลายร่างมาจากหงส์เทพ
“ทำได้ดี!” หงส์เทพหรี่ตาลง ปีกของปลาคุนนกเผิงคู่หนึ่งก็บดบังท้องฟ้าทั่วทั้งบริเวณ คลื่นปั่นป่วนถูกพัดออกไปอย่างรวดเร็วปะทะกับคลื่นทะเลทั่วทั้งฟ้าที่ปลาหลิงแปลงมา
ไม่เพียงเท่านี้…
“เฟิ่งหวง!”
นกเพิ่งหวงสีทององค์หนึ่งที่จู่ๆ กลายร่างออกมาจากปลาคุนนกเผิงก็จู่โจมใส่เยี่ยนอวี๋ขณะที่มันปรากฏขึ้นกลางท้องฟ้า ทั่วทั้งอากาศถูกฉีกจนเกิดเป็นรอยแยกขนาดใหญ่
“ตาย!”
เห็นได้ชัดว่าพลังการโจมตีมากกว่าเก้าส่วนของหงส์เทพรวมตัวกันในร่างของนกเฟิ่งหวงองค์นี้ จึงสามารถฉีกทึ้งท้องฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าจนขาดวิ่น อีกเพียงพริบตาก็จะฉีกเยี่ยนอวี๋เป็นชิ้นแล้ว
“!”
ทุกคนที่เห็นภาพเช่นนี้พากันหยุดหายใจอย่างไม่รู้ตัว! ต่างกลัวจะพลาดการเปลี่ยนแปลงใดๆ แม้เพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะตี้เซิน! นางอยากจะดูว่านังสารเลวจะยังรอดพ้นจากการทำลายล้างระดับนี้ได้อีกหรือไม่
ความเป็นจริงคือ… เยี่ยนอวี๋ยังคงไม่ต้องหนี มิหนำซ้ำนางไม่ต้องโจมตีด้วยซ้ำ เพียงแค่มองนกเฟิ่งหวงที่โถมใส่นาง
จากนั้น…
วี้ด!
นกเฟิ่งหวงที่บินถลาเข้ามาถึงข้างหน้าเยี่ยนอวี๋ก็หยุดลง
หยุดลง… หยุดลงแล้ว! หยุดลงแล้ว?!
“เกิดอะไรขึ้น!?”
ตี้เซินพบว่าตนเองไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น นางมั่นใจได้ว่านังสารเลวคนนั้นไม่ได้โจมตีกลับ! ฝ่ายตรงข้ามเพียงแค่มองนกเฟิ่งหวงที่โจมตีใส่เท่านั้น ทว่าท้ายที่สุด… ก็ทำให้นกเฟิ่งหวงหยุดลงได้!?
นี่มัน…
ตี้เซินเบิกตาโพลง
หงส์เทพกลายร่างเป็นมนุษย์จากนกเฟิ่งหวงอย่างรวดเร็ว นางมองเยี่ยนอวี๋อย่างตะลึงงัน “ในร่างกายของเจ้ามีสายเลือดของบรรพบุรุษหงส์!” เมื่อครู่นี้ นางรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าสายเลือดนกเฟิ่งหวงของนางปฏิเสธการโจมตีฝ่ายตรงข้าม มันหยุดการโจมตีด้วยตัวมันเอง!
นี่เป็นสถานการณ์ที่หงส์เทพไม่เคยพบเจอมาก่อน! นางจึงไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางมั่นใจได้ว่านางไม่สามารถฆ่าสตรีตรงหน้าคนนี้ได้! เพราะว่าสายเลือดของนางไม่อนุญาตให้นางทำเช่นนี้
การรับรู้อันแสนประหลาดนี้ทำให้หงส์เทพเดาว่ามีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น สตรีตรงหน้าคนนี้เกรงว่าจะมีสายเลือดนกเฟิ่งหวงที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่านาง มิเช่นนี้คงไม่เป็นเช่นนี้ ทว่า… นางเดาผิดแล้ว
“สายเลือดของเจ้าใช้ได้” เยี่ยนอวี๋ที่รู้ดีที่สุดว่าเกิดอะไรขึ้น นางรู้ดีว่าที่สายเลือดของนังหนูตรงหน้าคนนี้อ่อนไหวกับนางเช่นนี้ เป็นเพราะสายเลือดนกเฟิ่งหวงที่ถูกปลุกในตัวนางบริสุทธิ์เพียงพอ ใกล้เคียงกับบรรพบุรุษของมัน
“เจ้าคือใครกันแน่!?” บัดนี้หงส์เทพอยากรู้เพียงว่า สตรีคนนี้คือผู้ใด เหตุใดจึงสามารถทำให้พลังสายเลือดของนางหยุดการโจมตีด้วยตนเองได้
“เจ้าจะได้รู้ในเร็ววันนี้ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา” เยี่ยนอวี๋ไม่อยากเสียเวลากับหงส์เทพ “ในเมื่อเจ้ารู้ว่าไม่สามารถสู้ชนะข้าได้ เรื่องของข้า เจ้าก็อย่ายุ่งเลย”
“เป็นไปไม่ได้!” หงส์เทพขมวดคิ้วโต้กลับ “ข้ามิได้รับบัญชาเรื่องขององค์หญิงเจ็ด แต่ข้าต้องพาเทพตกสวรรค์กลับไปพบเทียนตี้”
“เรื่องนั้นจะแล้วแต่เจ้ามิได้” เยี่ยนอวี๋กล่าวอย่างสงบเสร็จก็เหินข้ามหงส์เทพไปจับเทพตกสวรรค์
แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง…
ซู่!
เทพตกสวรรค์ที่แอบหดตัวเข้าไปในค่ายกลย้ายมิติตั้งแต่แรกแล้ว เขาก้าวเท้าเข้าไปในค่ายกลเร่งเร้าค่ายกลย้ายมิติ อีกเพียงพริบตาก็จะหนีไปแล้ว “หงส์เทพ ข้าล่วงหน้าไปตำหนักสวรรค์ก่อน”
เยี่ยนอวี๋มิได้เคลื่อนไหว เพราะว่า…
“ไสหัวมาซะ”