เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 446 ซีเหอทรุด! สาเหตุร่างพรหมจารี?
จักรวาลและดวงดาวที่แต่เดิมล้อมสวรรค์เก้าชั้นฟ้าไว้เปลี่ยนแปลงและกระจายตัวออกอย่างต่อเนื่อง มันเริ่ม ‘กะพริบ’ และสั่นไหว เพราะพลังวิเศษของเยี่ยนอวี๋
ราชวงศ์ต่างๆในโลกมนุษย์รู้สึกว่าดวงอาทิตย์และดวงดาวสว่างไสวเป็นพิเศษในยามนี้ กระทั่งเหมือนกับว่ากำลังเคลื่อนไหว เพียงแต่มนุษย์บำเพ็ญเพียรยังมิอาจมั่นใจได้ว่าการรับรู้ของตนเองถูกต้องหรือไม่
แต่ซีเหอและเทพองค์อื่นๆ พวกเขารู้ดีว่าดวงดาวที่โคจรรอบสวรรค์เก้าชั้นฟ้ากำลังเคลื่อนไหวจริงๆ! แม้จะมิได้เคลื่อนไหวรุนแรง แต่ความเคลื่อนไหวนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขารู้สึกแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น!” ทัวเทียนอ๋องผู้บัญชาการกองทัพสวรรค์ เขายังไม่เคยพบเจอการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มาก่อน แต่เขาเคยพบเจอการเปลี่ยนแปลงที่คล้ายคลึงปรากฏการณ์เช่นนี้ เมื่อครั้นปฐมราชินีหยวนชูตายจากไป ดวงดาทั่วทั้งท้องฟ้าก็หายไปมากกว่าครึ่ง!
นั่นถือเป็นปรากฏการณ์ดวงดาวดับหายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ปฐมราชินีผู้สร้างโลกตายจากไป ‘สวรรค์’ ราวกับจะถล่มทลาย
แม้การเคลื่อนไหวจะสู้ครานั้นไม่ได้ แต่โดยทั่วไปแล้วปรากฏการณ์ดวงดาวสั่นไหวเช่นนี้จะเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตระดับสร้างโลกเท่านั้น หรือหมายถึง…
“หรือว่าตบะของตี้จวินเลื่อนขั้นแล้ว” ทัวเทียนอ๋องเดา
ซีเหอก็คิดว่าอาจจะเป็นไปได้ นางอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อยคิดว่าหากเป็นเช่นนี้ บางทีตี้จวินที่จดจ่อกับการฝึกบำเพ็ญอาจไม่ได้ยินคำขอเข้าพบก่อนหน้านี้ของนางจริงๆ
“ไม่เหมือน!” มหาเทพเบิกฟ้ากลับกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ลางสังหรณ์ของข้าบอกว่าต้นตอที่ทำให้เกิดหมู่ดาวสั่นไหวอยู่ที่สวรรค์ชั้นหนึ่ง”
“เหนียงเหนียง หรือว่าจะเป็นเทพตกสวรรค์ ตามรอยเท้าของหงส์เทพ นางอาจจะพาเทพตกสวรรค์มาถึงสวรรค์ชั้นหนึ่งแล้ว!” หลิงเย่ว์พูดเตือนซีเหออย่างรอบคอบ
ซีเหอลองคำนวณดูแล้วก็คิดว่าด้วยประสิทธิภาพของหงส์เทพ บัดนี้น่าจะพาเทพตกสวรรค์มาถึงสวรรค์ชั้นหนึ่งแล้ว หากเป็นเช่นนี้…
“เซินเซินน่าจะไม่เป็นอะไร” ซีเหอวางใจลงเล็กน้อย น้ำเสียงก็ไม่ได้ดุดันเช่นนั้นแล้ว “มหาเทพเบิกฟ้า เมื่อครู่นี้ข้าร้อนรนจะพบลูกสาว หากมีวาจาล่วงเกิน ท่านโปรดใจกว้าง อภัยให้ด้วย”
“อภัยให้มิได้! ถึงอย่างไรค่ายกลเคลื่อนย้ายก็ใช้ไม่ได้ ท่านอยากฆ่าก็ฆ่า! อย่างที่พูดไป ไม่ว่าใครพบข้อบกพร่องค่ายกลย้ายมิติของการสร้างโลกก็ต้องรอ! แม้เทียนตี้มาแล้วก็เช่นกัน ไม่เช่นนั้นก็บินไปเอง” มหาเทพเบิกฟ้าพูดจบก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป ไม่สนใจซีเหอแม้แต่น้อย
ซีเหอสูดหายใจเข้าลึกไม่หยุด! หายใจเข้าลึกๆ! จึงสงบสติอารมณ์ลงได้
ในขณะที่ซีเหอและเทพองค์อื่นๆ จำเป็นต้องรอ และทำได้เพียงรอให้ค่ายกลเคลื่อนย้ายหายเป็นปกติ ‘ด้วยตนเอง’ เยี่ยนอวี๋ก็เข้าควบคุมอนุสติของเทพตกสวรรค์แล้ว แต่ฝ่ายหลังยังคงแสดงสีหน้าไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย ราวกับมั่นใจว่าเยี่ยนอวี๋จะทำไม่สำเร็จ
“…”
อนุสติของเยี่ยนอวี๋แพร่กระจายไปยังทั่วทุกอณูอนุสติของเทพตกสวรรค์อย่างไร้สุ้มเสียง และด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่อนุมานข้อมูลทุกส่วนในอนุสติของเทพตกสวรรค์ เพื่ออนุมานความจำส่วนที่ถูกลบไป
นี่ก็เหมือนกับการค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขในข้อมูลจำนวนมหาศาล และก็เหมือนกับการค้นหากฎแห่งความสัมพันธ์ระหว่างดวงดาวบนท้องฟ้า…
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการสืบย้อนกลับเชิงตรรกะที่ซับซ้อน เป็นการวิเคราะห์สรุปและเรียกคืนส่วนที่ ‘ถูกลบ’ จากการอ้างอิงนี้ว่าเป็นเช่นไร
ความสามารถในการ ‘คาดคะเน’ อันน่ากลัวเช่นนี้ ในสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามีเพียงเทพผู้สร้างโลกเช่นเยี่ยนอวี๋ที่สามารถทำได้ เพราะว่านาง ‘คุ้นเคย’ กับกฎเกณฑ์ทุกอย่าง ที่สำคัญคือนางควบคุมกฎพื้นฐานดั้งเดิมที่สุดไว้!
ดังนั้น ต้าซือมิ่งที่ดูถึงตรงนี้ นัยน์ตาของเขาก็เคร่งขรึมลงเล็กน้อย อดคิดไม่ได้ว่า ครานั้นภรรยาก็ใช้วิธีเช่นนี้ลบความจำของข้าอย่างไร้ร่องรอยหรือเปล่านะ ทั้งยังคืนร่างพรหมจารีให้ข้าด้วย
เมื่อคิดถึงตรงนี้ มือของต้าซือมิ่งที่กอดเด็กน้อยไว้ก็แน่นขึ้นกว่าเดิม พลังที่กดทับเทพตกสวรรค์ไว้ก็หนักขึ้นกว่าเดิม จนฝ่ายหลังเกือบจะหายใจไม่ออก!
“อ้ะเนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ ‘แอบกิน’ ขนมไหน่เกาก็เงยหน้ามองท่านพ่อ คิดว่าท่านพ่อจับได้ว่าเขาแอบกินขนมแล้ว จึงรีบยัดขนมเข้าปากจนหมด
เมื่อต้าซือมิ่งหลุบตาลงก็พบว่าปากน้อยๆ ของเด็กน้อยเต็มไปเศษผงสีขาว แก้มบวมตุ่ยออกมา และยังพยายามปิดหน้าไว้เช่นนั้น…
“กินก็กินสิ ทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ ทำไมกัน” หรงต้าซือมิ่งที่ป้อนเด็กน้อยไม่ทันจำได้ว่าเมื่อครู่นี้เด็กน้อยบอกว่าหิวแล้ว แต่เนื่องจากซื่อฝานเทียนอ๋องแผลงฤทธิ์ไม่หยุด เด็กน้อยจึงไม่ได้ทานอะไรจนถึงยามนี้
เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่กล้าบอกว่าขนมไหน่เกาที่เขากินไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของท่านแม่ เขาก็กะพริบตาปริบอย่างรู้สึกผิดกว่าเดิม
ต้าซือมิ่งรีบบีบใบหน้าของเด็กน้อยทันที ทำเอาเด็กน้อยที่ไม่ทันตั้งตัวอ้าปาก จากนั้นขนมของท่านแม่ที่เขาแอบกินก็ถูกท่านพ่อของเขา ‘หยิบ’ ออกมาแล้ว
“เป่า! หิว!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าประท้วงอย่างโมโห
ต้าซือมิ่งหยิบขนมไหน่เกาออกมา “นี่ของเจ้า”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าหน้าเหยเก “ไม่ ไม่ชอบ!”
“อันนี้ล่ะ” ต้าซือมิ่งหยิบขนมไหน่เการูปจิ่วอิงออกมา
“อิงอิง!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตาเป็นประกาย เขากิน ‘จิ่วอิง’ ลงไปทันที!
จิ่วอิง “…”
เขารู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัวอย่างไรไม่รู้! ความรู้สึกบอกว่าเด็กน้อยคงอยากได้มันมานานแล้ว! ดูความกระหายนั่นสิ ชิ้นละคำ ชิ้นแล้วชิ้นเล่า…
จิ่วอิงไม่ทัน ‘ตาย’ หมด เทพตกสวรรค์ที่รู้สึกหนาวสะท้านก็ตะโกนสุดเสียง ‘หยุด’ !
“หยุด!”
“หยุด!”
สัญชาติญาณของมันบอกว่าเยี่ยนอวี๋อาจจะ ‘ฟื้นคืน’ ความจำได้ เทพตกสวรรค์ที่ลบความจำเหล่านั้นไปหมดสิ้น ครานี้เขารู้สึกวิตกแล้วจริงๆ “เจ้าหยุดก่อน! มีอะไรค่อยๆ คุย”
“กลัวแล้วรึ สายไปแล้ว” อินหลิวเฟิงพูดได้เพียงว่า มหาเทพอาวุโสคนนี้หน้าด้านจริงๆ ก่อนหน้านี้วางท่ามาดดีเสียดิบดี ทำเอาเขาคิดว่าครั้งนี้กูไหน่ไนเจอของแข็งเข้าให้แล้ว
สุดท้ายผ่านไม่ไปถึงมื้อก็ร้องขอความเมตตาเสียแล้ว เก่งจริงก็เสแสร้งต่อไปสิ!
แต่เทพตกสวรรค์แสดงท่าทีอ่อนแออีกครั้ง “ข้าบอกแล้วว่ามีอะไรค่อยๆ คุย พวกเจ้าไม่อยากคุยหรือ หากไม่หยุดอีก อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”
“แน่จริงเจ้าก็ไม่เกรงใจดูสิ เห็นเจ้าพูดปาวๆ อยู่นั่น ไม่เห็นเจ้าจะไม่เกรงใจอย่างไรเลย” อินหลิวเฟิงหงุดหงิด
สุดท้าย…
เทพตกสวรรค์แสดงแววตาเคร่งขรึม ดึงดูดดวงดาวมามากมาย “เจ้าบีบบังคับข้า ตกสวรรค์!” เขากำลังจะทำลายอนุสติของตนเอง และถือโอกาสกลืนกินเยี่ยนอวี๋ที่กำลังจดจ่อกับการอนุมาน
แต่ในขณะเดียวกัน เยี่ยนอวี๋ก็เห็นว่า…