เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 463 ปฐมราชินีหวนคืน!
ในขณะเดียวกัน ด้านนอกทะเลสาบสือซ่าไห่
“ปะ เป็นไปได้อย่างไร…”
ตี้เซินมองทะเลสาบสือซ่าไห่อย่างตะลึงงัน ไม่สามารถจิตนาการได้เลยว่าเมื่อครู่นี้เห็นอะไร
แต่ภาพเมื่อครู่นี้ยังคงฉายในหัวของนางอย่างต่อเนื่อง เมื่อครู่นี้ทั้งดวงตะวัน ดวงจันทรา ดวงดาว ภูเขา แม่น้ำและสวรรค์เก้าชั้นฟ้า …สิ่งที่ดำรงอยู่ทั้งหมดในจักรวาลหลั่งไหลเข้าไปในทะเลสาบสือซ่าไห่
ทั้งหมดนี้หมายความถึงอะไร… ตี้เซินผู้คุ้นเคยกับตำราโบราณรู้ดี เพราะว่าเทวาอัสดงคือความภาคภูมิของเหล่าเทพ! เป็นวิชาชั้นยอดของสวรรค์เก้าชั้นฟ้า และเป็นวิชาที่มีเพียงปฐมราชินีหยวนชูท่านนั้นที่ใช้มันได้
มันทำลายจักรวาลแบบย้อนกลับด้วยสิ่งดำรงจักรวาลจากในกระบี่ไท่ชาง อนุมานการสิ้นสุดของจักรวาลภายในดาบเดียว พลังทำลายล้างเพียงพอที่จะกำจัดสิบสองเทพมารในชั่วพริบตา!
“เป็นไปได้อย่างไร…”
ตี้เซินยิ่งไม่เข้าใจ! ยิ่งไม่สามารถจินตนาการและยิ่งไม่อยากจะเชื่อ ถึงอย่างไรก็มีเพียงปฐมราชินีหยวนชูที่สามารถทำให้พลังของจักรวาลฟังคำสั่งของนางและยินยอมให้นางใช้กลายเป็นพลังการโจมตีที่ทำให้แอนนาสิ้นซากในทันที ซึ่งเป็นพลังที่แข็งแกร่งพอๆ กับเทพแห่งความมืด
“แม้นังสารเลวนั่นจะสืบทอดพลังปฐมราชินีก็ไม่สามารถทำถึงขั้นนี้ได้ ถึงแม้พลังจักรวาลจะยอมฟังคำสั่งนาง นางก็ไม่เก่าแก่พอที่จะกระตุ้นพลังได้! ไม่ใช่หรือ” ตี้เซินไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจริงๆ
“นั่นน่ะสิ…” เทพพิทักษ์ข้างกายตี้เซินก็ไม่เข้าใจ “เมื่อสามหมื่นปีก่อน ปฐมราชินีหยวนชูสิ้นชีพอย่างสมบูรณ์ ร่างกายสูญสิ้น วิญญาณสลายหาย แม้นางจะเกิดใหม่ ร่างกายร่างใหม่ก็ไม่สามารถแบกรับพลังสมัยยังรุ่งโรจน์ของนางได้ ระดับชั้นของร่างกายนางต่ำเกินไป!”
“…” ตี้เซินเงียบ
ทว่านางตั้งข้อสันนิฐานในใจ โดยเฉพาะเมื่อนางเห็นเทวรถสุริยันที่แหลกสลาย และคิดถึงหมู่เทพสวรรค์และกองทัพเทพสุริยันส่วนใหญ่ที่ ‘หายสาบสูญ’ ไปนานแล้ว นางก็ยิ่ง ‘มั่นใจ’ ในข้อสันนิษฐานของตน
บางทีหรืออาจะ นังสารเลวคนนั้นคงไม่ใช่ผู้ขโมยพลังปฐมราชินีและก็ไม่ใช่ผู้สืบทอดพลังของนาง แต่คือปฐมราชินีตัวจริง
มีเพียงองค์จริงจึงจะแข็งแกร่งเช่นนี้…
“ปฐมราชินีหยวนชูหรือ” ปากสีแดงระเรื่อของตี้เซินพึมพำ ส่วนลึกในดวงตาฉายประกายมืดมิดซับซ้อน ตั้งแต่เล็กจนโตนางไม่ค่อยได้ยินชื่อนี้บ่อยนัก เพราะว่าเสด็จแม่ของนางจงเกลียดจงชังผู้เป็นเจ้าของยิ่งนัก
นางรู้มาตลอดว่าที่เสด็จพ่อของนางไม่เคยออกจากการบำเพ็ญมาเยี่ยมนางเลยสักครั้งเป็นเพราะปฐมราชินีหยวนชูคนนี้ เขากักตนบำเพ็ญอยู่ในจักรวาลดั้งเดิมมาโดยตลอด!
ตอนแรกที่เสด็จพ่อยังไม่สิ้นหวังนั้น นางที่ยังเล็กยังได้เห็นเสด็จพ่อ ได้อยู่ในอ้อมอกของเขาฟังเขากล่าวถึงเรื่องราวต่างๆ ของปฐมราชินี ต่อมาเมื่อเสด็จพ่อกักตน นางก็ไม่เคยได้พบเสด็จพ่อคนนี้อีกเลย ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะออกจากกักตนและเรียกประชุมเทพ นางกลับประชดด้วยการไปสาย สุดท้ายเขาก็กลับไปกักตนอีกครั้ง ถึงแม้จะรู้ว่านางถูกเผ่ามารจับตัวก็ไม่ยอมออกมา
“ฮึ!” ตี้เซินหัวเราะเย็นชา “ดูว่ามีผู้ใดรอดชีวิต พากลับตำหนักสวรรค์”
“แล้ว…” เทพพิทักษ์ที่ไม่กล้าพูดคำว่า ‘โจร’ ออกมาปาดเหงื่ออีกครั้ง
ตี้เซินกล่าวว่า “หรือว่าพวกเจ้าคิดว่าเหลือเพียงพวกเราไม่กี่คนจะต่อสู้กับนังสารเลวนั่นได้”
เหล่าเทพพิทักษ์เงียบงัน ย่อมรู้แก่ใจว่าเป็นไม่ไม่ได้ พวกเขาเห็นกับตาตัวเอง ทั้งก่วงมู่เทียนอ๋อง เทพอัคนีจู้หรง ท่านเทพเฮ่าเทียน และสมาชิกของเมืองต้าจ้างฟู หมู่เทพสวรรค์ เหล่ากองทัพเทพสุริยันถูกกำจัดอย่างไร
ด้วยการ ‘รับรู้’ เช่นนี้ แม้โง่เขลาเพียงใดก็ไม่คิดว่าตนเองจะเก่งกาจหรือมีความสามารถมากเช่นนั้น! นั่นเป็นความบ้าบิ่นที่แม้แต่คนบ้าก็ยังไม่มี มิหนำซ้ำยังมีฉากในตำนานตอนท้ายนั่น…
“องค์หญิงเจ็ด รีบถอยเถอะพ่ะย่ะค่ะ!” เทพพิทักษ์คิดว่าไม่ต้องค้นหาผู้รอดชีวิตแล้ว รีบหนีก่อนดีกว่า เมื่อครู่นี้พวกเขายังไม่ทันตั้งสติได้ ตอนนี้คิดได้แล้ว รีบหนีไปก่อนดีที่สุด!
“ไปหา!” ตี้เซินกลับบัญชาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ในขณะเดียวกันก็คอยสังเกตุการณ์ทะเลสาบสือซ่าไห่ตลอด
ในขณะเดียวกัน…
สวรรค์ชั้นเก้าสั่นคลอน!
ต่างจากที่ตี้เซินคาดเดา เทพแข็งแกร่งมากมายมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงของจักรวาลเมื่อครู่นี้ เป็นปรากฏการณ์ในตำนานที่เกิดขึ้นจากการแผลงพลังเทวาอัสดงของปฐมราชินี!
“ปฐมราชินี!”
“ปฐมราชินีกลับมาแล้ว!”
เทพมากมายรู้สึกตื้นตัน!
เทพรับใช้ตำหนักเทียนตี้เฝ้าอยู่ข้างนอกจักรวาลดั้งเดิม รอเทียนตี้ออกจากการกักตนทุกเมื่อ เพื่อรายงานข่าวนี้
ความเป็นจริงแล้ว หากไม่ใช่เพราะเทียนโฮ่วเน้นย้ำว่าห้ามรบกวนเทียนตี้เลื่อนขั้น เทพรับใช้ตำหนักเทียนตี้คงเข้าไปรายงานในทันทีแล้ว! พวกเขารู้ดีว่าเทียนตี้รอคอยวันนี้มากเพียงใด
ทว่าเทียนตี้ผู้ควรจะเป็นคนแรกที่ได้รับรู้ถึงการกลับมาของปฐมราชินี บัดนี้เขากำลังซึมซับพลังระดับสร้างโลกอยู่จริงๆ เขาที่ก่อนหน้านี้ร้องห่มร้องไห้ในตำหนักไท่ชางที่ ‘เหี่ยวเฉา’ กำลังได้รับวาสนานี้อยู่
“…”
เทียนตี้ที่ถูกแสงสีม่วงโอบล้อมรอบกายในบัดนี้รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่มาจากตำหนักไท่ชาง ที่มาจากเยี่ยนอวี๋ มาจากเหล่าขุนเขาและท้องทะเลโบราณและยุคสร้างโลกได้อย่างแจ่มชัด
กลิ่นอายเช่นนี้ทำให้เขาเมามาย ทำให้เขาคะนึงหา เป็นกลิ่นอายที่โอบล้อมเขาตั้งแต่แรกเกิดครั้นยังไม่ตระหนักรู้
ในกลิ่นอายเช่นนี้ เทียนตี้รู้สึกราวกับได้กลับไปเมื่อแรกเกิดอีกครั้ง นอกจากจะทำให้เขารู้สึกถึงพลังสร้างโลกอย่างแจ่มชัดแล้ว ยังทำให้เขาเหมือนกับได้กลับไปในช่วงเวลาที่อยู่กับเยี่ยนอวี๋และเหล่าขุนเขาและท้องทะเล
“ชูชู”
เทียนตี้ไม่อยากตื่นจากภวังค์
ในยามนี้ไม่มีผู้ใดปลุกเขาให้ตื่นได้ นอกจากเขาอยากตื่นเอง มิเช่นนั้นหากบังคับให้เขาตื่นขึ้น อาจจะทำให้เขาสิ้นชีพกลับไปสู่ครั้นแรกเกิด หวนคืนสู่ความว่างเปล่า…
ขณะเดียวกัน ณ ตำหนักเทียนโฮ่ว...
“เทียนโฮ่ว ควรถอนคำสั่งหมายจับนะพ่ะย่ะค่ะ! นั่นมันปฐมราชินีนะ มิใช่ผู้ขโมยพลังปฐมราชินี หัวขโมยย่อมไม่สามารถแผลงพลังเทวาอัสดงได้!” ปัวเหร่อเทียนอ๋องมั่นใจมาก!
“หากนั่นคือปฐมราชินี เหตุใดจึงสังหารซื่อฝานเทียนอ๋องเล่า” ซีเหอยืนกรานไม่เชื่อ
ปัวเหร่อเทียนอ๋องกลับพูดตบหน้าตนเอง “เช่นนั้นย่อมเป็นเพราะซื่อฝานสมควรตาย!”
“ปัวเหร่อเทียนอ๋องหมายความว่าปฐมราชินีหยวนชูสมรสเข้าเผ่ามารหรือ” ซีเหอโต้ตอบอย่างดุดัน
“เทียนโฮ่วกล่าวเช่นนี้ก็ไม่ถูก อาจจะเป็นความเข้าใจผิดก็เป็นได้ เอาเป็นว่าข้าก็เห็นด้วยกับการถอนคำสั่ง ให้เหล่าเทพไปต้อนรับปฐมราชินีที่ทะเลสาบสือซ่าไห่ทันที” มหาทพหลันเย่ว์แนะนำ
“เหลวไหล!…” ซีเหอแย้ง
มหาเทพเบิกฟ้าทนไม่ไหว “มารดาเจ้าน่ะสิเหลวไหล! เจ้ามันก็แค่เทียนโฮ่วตัวเล็กๆ บังอาจออกคำสั่งหมายจับปฐมราชินีหยวนชูผู้ที่ข้าเลื่อมใสบูชารึ! เบื่อโลกแล้วหรืออย่างไร!”