เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 61 ข้าไม่ได้รังแกเด็ก
ต้าซือมิ่งก้มมองเท้าของเขาอย่างเงียบขรึม เสมือนกำลังไตร่ตรองอะไรบางอย่าง เขาขมวดคิ้วอย่างเคร่งขรึม จากนั้นก็ยื่นมือของเขาออกไปอีกครั้ง และเริ่มคลายปมเสื้อผ้าของตัวเอง
นิ้วเรียวยาวราวกับหยกอันไร้กระดูก คลายสายรัดเอวออกอย่างคล่องแคล่วเรียบร้อย และถอดเสื้อคลุมออกอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นแผงอกกว้างอันน่าลุ่มหลงที่ซ่อนอยู่ในเสื้อคลุม
ขายาวได้สัดส่วน เอวคอดเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ แผ่นหลังตั้งตรงดั่งต้นไม้ และบั้นท้ายอันน่ามอง เสมือนจิตรกรวาดได้สัดส่วนที่ลงตัว ไร้ที่ติอย่างแท้จริง
ทว่า…
เขารีบสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่อย่างเรียบร้อยและพิถีพิถันทันที ทําให้เขาเปล่งรัศมีเรืองรองชวนให้ลุ่มหลงที่ทั้งล่อใจและมิอาจเอื้อมได้
น่าเสียดายที่ไม่มีผู้ใดอยู่บริเวณนั้นเลย มิเช่นนั้น คงจะดึงดูด ทำให้ผู้คนอ้าปากค้างและลุ่มหลงมากเป็นแน่
และต้าซือมิ่งที่เห็นได้ชัดว่าต้องการที่จะ ‘ตบตา’ ผู้คน เขาได้นั่งลงและจ้องมองที่เสื้อผ้าเล็กๆ ที่สกปรกอยู่ตรงหน้าของเขา เขาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
ในเมื่อ…
ต้าซือมิ่งคิดจริงๆ ว่าเขาไม่ได้รังแกเด็ก เขาเพียงแค่ช่วยอาบน้ำให้เด็กเท่านั้น ใครจะรู้ว่าเจ้าก้อนเล็กๆ นั่นจะไม่ให้ความร่วมมือ ทำให้เขาเผลอทำหลุดมือจนตกโคลนไปได้
ฉะนั้นแล้ว…
หลังจากที่ต้าซือมิ่งครุ่นคิดเรื่องนี้จบ เขาก็เก็บเสื้อผ้าเล็กๆ อย่างเงียบๆ และหายตัวไปอีกครั้ง ไม่ทำผู้ใดแตกตื่น นำไปเพียงชุดเด็กเท่านั้น
…
ในเวลาเดียวกัน เยี่ยนอวี๋ที่กลับไปยังหอเจ้าสำนักแล้วก็ได้อธิบายให้เยี่ยนชิงฟังอย่างชัดเจนแล้วว่า นางจะออกจากสำนักชางอู๋พร้อมกับเยี่ยนจื่อเสาในเวลาเที่ยงคืน
“เร็วเพียงนี้เลยหรือ” แม้ว่าเยี่ยนชิงจะรู้ดีว่าชักช้าไม่ได้ แต่เขาเพิ่งได้อยู่กับบุตรสาวสุดที่รักเพียงไม่นานเอง ตัดใจไม่ได้จริงๆ!
แต่เยี่ยนอวี๋ก็พยักหน้ายืนยัน พูดว่า “ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องส่งคนไปกับข้า ข้าเพียงแค่พาเม่ยเอ๋อร์ไปก็พอแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น…”
เยี่ยนชิงขัดขึ้นโดยไม่ต้องคิด “ไม่ได้! พ่อตัดสินใจแล้วว่าเจ้าจะต้องพาผู้พิทักษ์สำนักทั้งสี่ไป และเจ้าก็ไม่สามารถต่อรองได้”
เยี่ยนอวี๋มองพ่อโดยไม่เอ่ยคำใด
เยี่ยนชิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างไม่ยอมแพ้ “เจ้ามองพ่อเช่นนี้ก็ไร้ประโยชน์ พ่อไม่ประนีประนอมเรื่องนี้เด็ดขาด!”
เยี่ยนอวี๋ยังคงมองไปที่บิดาของนาง
เยี่ยนชิง “…”
เขาเบือนหน้าหนีอย่างทนไม่ได้
เยี่ยนอวี๋กล่าวว่า “อินหลิวเฟิงจะตามข้ามาอย่างแน่นอน ท่านไม่ต้องกังวลไปเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นก็ไม่ได้!” เยี่ยนชิงประกาศกร้าว ถึงอย่างไรก็ไม่ยอม
เยี่ยนอวี๋ถอนหายใจเบาๆ แล้วกอดแขนบิดาด้วยมือข้างเดียว โดยที่อุ้มเสี่ยวเป่าไว้ในอ้อมแขนไม่ปล่อย และกระซิบว่า “ท่านพ่อ ท่านต้องรู้ แม้ว่าข้าจะเขียนจดหมายถึงสํานักหมอหลวงแล้ว แต่พวกเราไม่เข้าใจสถานการณ์ของสำนักคุนอู๋เลย สำนักเราต้องไม่ขาดผู้พิทักษ์ไปแม้แต่คนเดียว”
เยี่ยนชิงที่รู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่นั้นก็อดมิได้ที่จะเห็นด้วย “ก็จริง”
“เช่นนั้นแล้ว ไม่ต้องให้ผู้พิทักษ์ตามข้าไปหรอก ข้าจะบอกท่านตามตรง จนถึงตอนนี้เม่ยเอ๋อร์ยังไม่ได้แสดงพลังทั้งหมดออกมา หากผู้พิทักษ์ของสำนักตามไปก็มีแต่จะยืดยาดทำให้ช้าลง” เยี่ยนอวี๋กล่าว
เยี่ยนชิง “…”
แล้วเขาจะทําอย่างไรได้เล่า
ลูกสาวทั้งออดอ้อน ทั้งสิ่งที่พูดมาก็เป็นความจริง เขา เขาชักจะทนไม่ไหวแล้ว!
คราวนี้เยี่ยนอวี๋นางยอมแพ้จริงๆ แม้ว่าจะเป็นการเกลี้ยกล่อมบิดา แต่นางก็ยังไม่คุ้นเคยนัก นางเงยหน้ามองบิดา “ท่านพ่อเจ้าคะ?”
เยี่ยนชิงผู้ซึ่งหวั่นไหวโดยสมบูรณ์แล้ว แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะกลั้นเอาไว้ แต่แล้วแผ่นไหล่อันแข็งแกร่งของเขาก็ห่อเหี่ยวลงอย่างรวดเร็ว “เช่นนั้นให้ท่านปู่ทวดทดสอบเม่ยเอ๋อร์ดู นางต้องชนะท่านปู่ทวดของเจ้าให้ได้ พ่อถึงจะยอม”
เยี่ยนอวี๋ลังเลเล็กน้อย แต่แล้วก็ส่ายศีรษะพูดว่า “ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ หากท่านไม่วางใจ ก็ไปถามความเห็นของท่านปู่ทวดเสียก่อนก็ได้” ถ้าเกิดเม่ยเอ๋อร์เผลอทำร้ายคนชราเข้าล่ะ?
“…ก็ได้” เยี่ยนชิงยอมรับกับตัวเอง ต้องยอมรับว่าสาวใช้ที่ลูกสาวบอกว่าเขาเป็นผู้ส่งมาให้นั้นร้ายกาจมากจริงๆ
เยี่ยนอวี๋รู้สึกโล่งใจ นางกลัวว่าบิดาผู้เอ็นดูลูกสาวดุจองค์หญิงคนนี้จะไม่ยอมรอมชอม ขอแค่เขาพยักหน้า ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามในคืนนั้น ขณะที่เยี่ยนอวี๋กำลังพาคนออกไปนั้น นางก็พบว่ายังมีอีกคนหนึ่งที่นางไม่ได้ปลอบใจ นั่นก็คือชุ่ยชุ่ยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตรงนั้น
“คุณหนูใหญ่ ท่านไม่เอาชุ่ยชุ่ยแล้วหรือเจ้าคะ” เดิมชุ่ยชุ่ยคิดว่านางต้องได้ตามไปดูแลรับใช้คุณหนูใหญ่กับคุณชายน้อยเป็นแน่!
เยี่ยนอวี๋กําลังจะอธิบาย แต่เม่ยเอ๋อร์ได้กล่าวอย่างเคร่งขรึมไปก่อนแล้วว่า “สิ่งที่เจ้าทำได้ ข้าก็ทำได้ แต่สิ่งที่ข้าทำได้ เจ้ากลับทำไม่ได้ ครั้งนี้พาไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้น เมื่อใดที่เจ้าเก่งกว่าข้า ข้าก็จะยอมให้เจ้าไป”
“…” ชุ่ยชุ่ยพูดไม่ออก
ครั้นเมื่อเยี่ยนจื่ออวี๋และคนอื่นๆ คิดว่าชุ่ยชุ่ยจะถูกว่าจนคอตกไปแล้วนั้น นางกลับพยักหน้าอย่างจริงจัง “พี่เม่ยเอ๋อร์พูดถูก ชุ่ยชุ่ยต้องพยายามแช่ตัวในอ่างยา พยายามฝึกฌาน! และต่อสู้เพื่อล้มผู้อาวุโสเก้าให้ได้ด้วยหมัดเดียว”
“ดี” เม่ยเอ๋อร์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย พลางลูบศีรษะของชุ่ยชุ่ย บอกให้นางรีบกลับไปฝึกฌาน
ชุ่ยชุ่ยจึงถอยไปอย่างไม่รีรอ และวิ่งหนีไปจนไม่เห็นเงาภายในพริบตา
เยี่ยนชิง “…”
เยี่ยนอวี๋กล่าวพร้อมถอนหายใจโล่งอก “ท่านพ่อ พวกเราไปก่อนเจ้าค่ะ”
“ไปเถอะ” แม้ว่าเยี่ยนชิงจะตัดใจไม่ลง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาจะทำตัวแย่กว่าสาวใช้ได้อย่างไร
“ดูแลตัวเองด้วย” ขณะที่กำชับ เยี่ยนหงชวนก็หยิบถุงปักดิ้นใบหนึ่งออกมา “หากเกิดเหตุคับขัน ให้เปิดถุงปักดิ้นนี้ แล้วข้าจะสามารถรับรู้ได้”
“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋รับถุงปักดิ้นไว้
จากนั้น เยี่ยนอวี๋ก็พาเม่ยเอ๋อร์ที่แบกเยี่ยนจื่อเสาเดินทางออกจากสำนักชางอู๋ไปอย่างราบรื่น โดยไม่ทําให้ผู้คนแตกตื่น
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์…” เยี่ยนชิงกุมขมับ เมื่อมองไม่เห็นเงาร่างของลูกสาวแล้ว
เยี่ยนหงชวนถอนหายใจและตบไหล่หลานชาย “นางจะไม่เป็นไร องครักษ์ที่อยู่ข้างกายของเจ้าเด็กจากเมืองโยวตูนั่น ก็มีฌานตบะแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าเม่ยเอ๋อร์เช่นกัน”
“…ฮะ?” เยี่ยนชิงสงสัย เจ้านั่นไม่ได้เป็นคนเซ่อๆ ซ่าๆ หรอกหรือ
แต่เยี่ยนหงชวนรู้…