เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 67 พี่รองเสาบรรลุแล้ว
“อ้ะเนะเนะ?” เจ้าเด็กน้อยที่ไม่รู้ว่าลุงรองกำลังทำอะไรอยู่ จึงยกมืออวบอ้วนของเขาไปหาลุงรอง เพราะเขาเห็นว่าลุงรองของเขาจู่ๆ ก็ตัวสั่นอย่างรุนแรง!
“ไม่เป็นไรนะ” เยี่ยนอวี๋เข้าใจความหมายของลูกน้อยและอธิบายอย่างอดทน “ลุงรองของเจ้าเพียงแค่ตื่นเต้นเท่านั้น”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตระหนักได้จึงหันกลับไปทางทิศตะวันตกอย่างไม่อยู่นิ่งและโบกมือส่งเสียงร้อง “อ้ะเนะเนะ! อ้ะเนะเนะ…” ในเมื่อลุงรองไม่เป็นอะไรแล้ว เช่นนั้นก็รีบตามท่านพ่อรูปงามสิ!
“ยังขยับไม่ได้” เยี่ยนอวี๋รู้ว่าเยี่ยนจื่อเสาในตอนนี้กำลังเผชิญกับช่วงสำคัญอยู่ เขาจะสามารถติดต่อกับจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางได้สำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตอนนี้แล้ว
องครักษ์เมืองโยวตูบางคนก็เข้าใจในเรื่องนี้ดี ดังนั้นเขาจึงนำรถม้าออกจากเส้นทางนั้นและไปจอดที่บริเวณพื้นที่มั่นคง
อินหลิวเฟิงเองก็ทำได้ดีโดยการหยิบหลิงเป่า[1]ออกมาและเก็บซ่อนกลิ่นอายของรถม้าเอาไว้ เพราะเช่นนี้หยางเซ่าเหิงที่ห่างออกไปไกลแล้วจึงไม่ได้ย้อนกลับมาเพราะการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจื่อเสา
ในต้าซย่าผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ทุกคนที่สามารถติดต่อกับแก่นวิญญาณอสูรในตำนานได้ล้วนมีตำแหน่งที่สูงส่งมากและจะได้รับการคารวะนับถือจากผู้ฝึกฌานทุกคน!
ดังนั้นหากหยางเซ่าเหิงรับรู้ถึงลมปราณการติดต่อจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางของเยี่ยนจื่อเสาล่ะก็ เขาต้องย้อนกลับมาขัดขวางแน่!
ทว่า…
เยี่ยนจื่อเสาทำไม่สำเร็จ เพราะเขาไม่ได้รับการตอบสนองจากจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางเลยหรือแม้แต่สัมผัสได้ถึงลมปราณของอีกฝ่ายก็ตาม ทว่าสัญญาณที่เขาส่งออกไปกลับไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ เลย
“เกิดอะไรขึ้น” เยี่ยนจื่อเสาไม่เข้าใจ เขารู้สึกท้อแท้เล็กน้อยและคิดว่าตนไม่คู่ควรที่จะเป็นที่โปรดปรานของจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง
ทว่าเยี่ยนจื่อเสาที่เดินทางมาถึงเพียงนี้แล้วไม่คิดยอมแพ้ ดังนั้นไม่ว่าจะรู้ตัวดีว่าพรสวรรค์ยังไม่พอ ฝีมือก็ไม่ถึง แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้
ฉะนั้นเยี่ยนจื่อเสาที่ไม่ยอมแพ้ก็ส่งจิตไปทางช่องว่างอันไกลโพ้นตามการรับรู้ของเขาอีกครั้ง “ผู้อาวุโสจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง ข้าน้อยคือเยี่ยนจื่อเสาเอง ท่านอยู่หรือไม่”
“…”
สิ่งที่ตอบสนองต่อเยี่ยนจื่อเสายังคงเป็นความเงียบสงบ
แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้เยี่ยนจื่อเสาก็ยังไม่ยอมแพ้! เขาไม่ยอม และที่สำคัญคือเขามีความคิดที่จำเป็นต้องขบเคี้ยวเขี้ยวฟันและห้ามพ่ายแพ้เป็นอันขาด
หลังจากที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย เยี่ยนจื่อเสารู้แล้วว่าหากเขาไม่สามารถเป็นผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ในตำนานได้ เช่นนั้นเขาจะไม่สามารถปกป้องน้องสาวของเขาได้เลย
แม้ว่าภาพหลอนในวันนั้นสุดท้ายจะไม่เกิดขึ้นจริงก็ตาม แต่ฉากนั้นกลับฝังลึกไว้จิตวิญญาณของเขาแล้ว!
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์…” เยี่ยนจื่อเสาที่แม้ต้องตายก็ไม่ยอมแพ้ได้พึมพำชื่อเล่นของเยี่ยนอวี๋ออกมาโดยจิตใต้สำนึกของเขา พลังปราณยังคงหลอมรวมกันและระเบิดอย่างต่อเนื่อง
ทว่าเสียงพึมพำของเยี่ยนจื่อเสานี้ ทำให้เยี่ยนอวี๋ที่วางแผนจะช่วยเขาหยุดมือ เพราะนางเองก็รับรู้ถึงเจตจำนงที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งจากตัวเยี่ยนจื่อเสาได้
เจตจำนงนี้นางไม่รู้สึกแปลก
เม่ยเอ๋อร์เองก็ด้วย…
เพราะนี่คือเจตจำนงอันน่าหวาดกลัวที่เยี่ยนจื่อเสาสามารถอัญเชิญจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางออกมาได้ในวันนั้น มันมีพลังที่จะทำลายเวลา เหยียบย่ำพรสวรรค์ ความแข็งแกร่ง และอุปสรรคทั้งปวง มันคือแรงศรัทธาผู้พิทักษ์ที่เยี่ยนจื่อเสาผู้สิ้นหวังได้ระเบิดออกมา!
เดิมทีเยี่ยนอวี๋คิดว่าพลังเจตจำนงของเยี่ยนจื่อเสานี้จะปะทุขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาหรือนางเผชิญหน้ากับสถานการณ์สิ้นหวังเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น
…
วิ้ง! เยี่ยนจื่อเสาที่เปล่งประกายด้วยลำแสงสีขาวอันลึกลับในตอนนี้ ขณะที่เยี่ยนอวี๋กำลังมองเขาด้วยสายตาสับสนอยู่นั้นเขาก็ได้ส่งกระแสจิตไปยังจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางที่อยู่ ‘แดนไกลโพ้น’ อีกครั้ง
ทว่าครั้งนี้มีเสียงอันไร้ตัวตนที่ดูเหมือนดังมาจากจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางค่อยๆ ดังเข้าไปในจิตใต้สำนึกของเยี่ยนจื่อเสา “ใช่แล้ว”
นอกจากนี้ยังได้รับพลังวิญญาณพิเศษที่มาพร้อมกับการตอบสนองของจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางอีกด้วย! และหลอมรวมในไข่มุกวิญญาณของเยี่ยนจื่อเสาที่กำลังก่อเป็นรูปร่างราวกับปลุกให้ตื่นขึ้น
วิ้ง
วิ้ง! วิ้ง
กลุ่มไข่มุกวิญญาณอันคลุมเครือที่ก่อเป็นรูปร่างจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางแต่ก็ดูเหมือนไม่ใช่ หลอมรวมสู่จิตใต้สำนึกของเยี่ยนจื่อเสาอย่างรวดเร็ว และรวมพลังปราณอันยิ่งใหญ่ของเขาเป็นกลุ่มก้อนขนาดเท่าไข่ห่าน
มีพลังที่พุ่งทะยานสูงขึ้นพร้อมด้วยไข่มุกวิญญาณที่ก่อตัวกันอย่างมหัศจรรย์เม็ดนี้ ได้พุ่งเข้าไปในร่างกายของเยี่ยนจื่อเสาและรักษาอาการสาหัสของเขา ทำให้ร่างกายของเขาระเบิดออกมาด้วยพละกำลังมากมาย
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตะลึงงัน นัยน์ตาสีดำเบิกกว้างไม่แม้แต่จะกะพริบตาอีก เขารู้สึกว่าลุงรองในตอนนี้งดงามมาก เปล่งแสงออกมาได้ด้วย!
อินหลิวเฟิงที่เงียบมาตลอดในที่สุดก็ปริปากพูดอย่างประทับใจว่า “…เก่งกาจมาก” เขาไม่เคยพบเห็นเจตจำนงที่แข็งแกร่งเพียงนี้มาก่อน
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ยากที่จะเห็นด้วยกับอินหลิวเฟิงกลับส่งเสียงร้องใส่เขาไปครั้งหนึ่ง
อินหลิวเฟิงจึงมองพ่อทูนหัวคนนี้อย่างตกใจไปชั่วขณะ “ข้าได้รับการเชยชมแล้วอย่างนั้นหรือ”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยักหน้าราวกับรู้เรื่อง
อินหลิวเฟิง “…”
เขารู้สึกว่าเขาได้กลายเป็นทาสของพ่อทูนหัวคนนี้จริงๆ แล้ว
และเม่ยเอ๋อร์ในขณะนี้ได้ไปพูดกับองครักษ์บางคนแล้ว “ไปได้”
“ฮะ? อ้อ!” องครักษ์เมืองโยวตูที่กำลังอึ้งอยู่ถึงได้เดินทางต่อไปอย่างงุนงง มีความรู้สึกราวกับอยู่ท่ามกลางเมฆหมอกไม่รู้ว่าตนอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกเช่นนี้ เพราะหากผู้มีความรู้อยู่ที่นี่ก็ต้องตกใจเหมือนเขาเช่นกัน ใครจะคาดคิดว่า…
ก่อนหน้านี้ เยี่ยนจื่อเสาที่แม้แต่ผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ระดับสามยังเป็นไม่ได้จู่ๆ มาบรรลุเป็นผู้อัญเชิญศักดิ์ระดับห้าไม่พอยังเป็นผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าที่ติดต่อกับแก่นวิญญาณอสูรในตำนานได้อีก?
ทว่าการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจื่อเสา ท้ายที่สุดก็ยังดึงดูดความสนใจของหยางเซ่าเหิงไว้ ดังนั้นเขาจึงเปิดม่านรถม้าและกวาดตามองไปฝั่งเยี่ยนอวี๋
[1] หลิงเป่า สมบัติแห่งเมืองโยวตู