เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 91 เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ถูกเปลี่ยนโชคชะตา
และเยี่ยนจื่ออวี๋ นางฟื้นขึ้นอีกครั้งด้วยความเจ็บปวด นางถูกทำแท้งแล้ว
ภาพเหล่านั้นเหมือนกับที่เยี่ยนอวี๋ ‘ฝัน’ ก่อนหน้านี้ทุกประการ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนก็คือทารกที่ถูกทำแท้งออกมา หน้าตาเขาดูไม่เหมือนเสี่ยวเป่า แต่เป็นก้อนเลือดเลือนรางก้อนหนึ่ง
ถึงกระนั้น เยี่ยนอวี๋ก็ไม่แตกต่างจากเยี่ยนจื่ออวี๋ ที่สุดแสนเจ็บปวดเหลือคณา!
ในหูของนาง เสียงของเยี่ยนชิงถังดังขึ้นอีกครั้ง “นังสารเลว! ข้าอยากจะทำอย่างนี้มานานแล้ว! เจ้าคนสารเลว ทำไมทั้งๆ ที่ข้ามีพรสวรรค์มากกว่าเจ้าทุกอย่าง เจ้าเป็นแค่ขยะ! แต่เยี่ยนชิงกลับมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เจ้า! แม้แต่ผู้ชายก็ใช่! พี่เหิง เขาเป็นของข้า! นังสารเลว”
“เอาล่ะชิงถัง เจ้าไปโมโหอะไรกับคนสารเลวเช่นนี้ แจกันประดับที่โง่เขลาเบาปัญญาอย่างนางสมควรที่จะลงเอยเช่นนี้! หน้าตาดีแล้วจะมีประโยชน์อะไร เจ้าดูสิคุณชายเจ็ดยอมแตะต้องนางที่ไหนกัน แหวะๆๆ น่าขยะแขยง!”
…
ก่อนที่เยี่ยนจื่ออวี๋กำลังจะหมดสติ เยี่ยนอวี๋เห็นว่าไม่เพียงเยี่ยนชิงถังเท่านั้นที่ยืนดูการทำแท้งของเยี่ยนจื่ออวี๋ ยังมีเหยาหลินอยู่ด้วยจริงๆ
แต่ในตอนนี้ ความสนใจของเยี่ยนอวี๋ไม่ได้อยู่ที่ผู้หญิงสองคนนี้ แต่เป็นก้อนลิ่มเลือดที่หลุดออกมา นางสามารถเห็นได้ชัดเจน…
ก้อนลิ่มเลือดถูกดูดซึม!?
มันถูกดูดซับโดยค่ายกลชิงโชคลาภชิงพรสวรรค์!
และเยี่ยนจื่ออวี๋ที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เลือดของนางยังคงไหลและถูกดูดซึม!
นี่คือ…
“แผนร้าย!”
ดวงตาของเยี่ยนอวี๋มืดมน ในความจริงนางชี้ไปที่กระบี่ไท่ชางทันที “ช่วยข้า”
หึ่งงง!
ทันทีที่กระบี่ไท่ชางขยับ เยี่ยนอวี๋เรียกพลังงานสีม่วงเหลือบดำบริสุทธิ์ และรวบรวมมันเข้าไปในอนุสติของนาง ตัวนางเองก็ขัดขวางวงโคจรเช่นกัน!
แยกตัวออกจาก ‘จักษุสัมผัส’ ที่ติดตามเยี่ยนจื่ออวี๋ ไล่ตามค่ายกลของลมปราณนั้นไป! อย่างไรก็ตามหลังจากแยกตัวออกจาก ‘จักษุสัมผัส’ ของเยี่ยนจื่ออวี๋ ร่างกายที่มีสติสัมปชัญญะของนางไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้อีกต่อไป นางสามารถสัมผัสได้เท่านั้น แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ในขณะนี้เยี่ยนอวี๋ตระหนักดีว่าสิ่งที่เยี่ยนจื่ออวี ประสบจะต้องเป็นการสมรู้ร่วมคิดครั้งใหญ่! เยี่ยนจื่ออวี๋นางอาจไม่ได้ไร้พลังมาแต่กำเนิด
มีคนเปลี่ยนชะตากรรมของเยี่ยนจื่ออวี๋!
และผู้ที่เปลี่ยนชีวิตผู้คนได้ก็ไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ
ดังนั้นเยี่ยนอวี๋จึงเรียกใช้พลังงานกระบี่จากกระบี่ไท่ชางเพื่อปกป้องร่างกายของนาง และนางก็ไล่ตามไปยังแหล่งที่มาของค่ายกลที่ดูดซับขุมพลังของก้อนเลือดก้อนนั้น รวมทั้งขุมพลังทางเลือดของเยี่ยนจื่ออวี๋
…
ไม่นานหลังจากนั้น จากการสัมผัสของเยี่ยนอวี๋ ปรากฏเขตพระราชวังอันสลับซับซ้อน จากขนาดของอาคารและระยะทางในการติดตาม เยี่ยนอวี๋มั่นใจว่าวังแห่งนี้คือวังหลวงของต้าซย่า
กล่าวคือ คนที่ลอบเล่นงานเยี่ยนจื่ออวี๋มีเบื้องหลังมาจากราชสำนัก?!
“เซ่าซือมิ่ง” เยี่ยนอวี๋คิดโยงไปถึงทันที เซ่าซือมิ่งแห่งราชสำนักเป็นผู้สรุปว่าเยี่ยนจื่ออวี๋ไร้พลังมาแต่กำเนิด
นั่นทำให้ดวงตาของเยี่ยนอวี๋มืดมนดำดิ่งลง จิตสำนึกยังคงแอบเข้าไปในราชสำนักของต้าซย่า และหลังจากที่ ‘เดินสำรวจไปรอบๆ’ ก็มาถึงวังหลังของราชสำนัก
เพียงแต่เมื่อมาถึงที่นี่ ลมปราณของค่ายกลนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย?
“ฝีมือไม่เลว” แม้ว่าเยี่ยนอวี๋จะไม่สามารถจับลมปราณของค่ายกลเมื่อครู่ต่อไปได้ แต่นางก็สัมผัสได้ถึงลมปราณที่อยู่ตรงนั้น ลมปราณของค่ายกล ‘ชิงนภาเปลี่ยนตะวัน’ ที่พิเศษมาก
และค่ายกลชนิดนี้ เยี่ยนอวี๋เห็นมามากแล้ว สิ่งสำคัญของมันคือการเร้นตัวหลบจากความลับของสวรรค์ การฝึกฌานจากเคล็ดวิชาต้องห้ามอันดำมืดที่สวรรค์ไม่อนุญาต ใช่แล้ว
เยี่ยนอวี๋ระบุตำแหน่งของค่ายกลอย่างระมัดระวัง และสติของนางก็จมลงอีกครั้ง! นางต้องรู้ว่าคนนี้เป็นใคร
อย่างไรก็ตาม เมื่อจิตสำนึกของเยี่ยนอวี๋ดำดิ่งลงไปในแหล่งกำเนิดค่ายกล นางพบว่าสิ่งที่นางสัมผัสได้คือม่านสีดำ และมีการแทรกแซงที่ทรงพลังอย่างยิ่งที่ตัดขาดจิตสำนึกของนางจากโลกภายนอก
หึ่งงง!
ในความเป็นจริง เยี่ยนอวี๋ดึงพลังงานกระบี่มาจากกระบี่ไท่ชาง และขุมพลังอันแข็งแกร่งของกระบี่ไท่ชางก็ทะลุผ่านชั้นของการแทรกแซงที่ตัดขาดจิตสำนึกของนางจากโลกภายนอกอย่างรวดเร็ว
ซ่า โลกที่เปิดกว้างของการสัมผัส ทำให้เยี่ยนอวี๋เข้าใจได้กระจ่างว่านางน่าจะอยู่ในวังใต้ดิน และมีอักษรรูนชั่วร้ายมากมายที่จารึกไว้รอบๆ วังใต้ดิน
“จริงด้วย” เยี่ยนอวี๋ระบุได้ว่าอักษรรูนเหล่านี้เป็นอักษรรูนพื้นฐานที่สร้างค่ายกลที่ยอดเยี่ยมในการชิงนภาเปลี่ยนตะวัน น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บริเวณรอบๆ ค่ายกล? เห็นได้ว่าคนที่สร้างค่ายกลนี้ระมัดระวังตัวมาก
แต่ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะระมัดระวังมาก เยี่ยนอวี๋ก็ยังมีวิธี! แทรกซึมจิตสำนึกของนางเข้าไปในทุกอักษรรูนพื้นฐานที่อยู่รอบตัวนาง
หนึ่งเค่อต่อมา ในการสัมผัสของเยี่ยนอวี๋ ในที่สุดลมปราณของมนุษย์ก็ปรากฏขึ้น แต่ทั้งร่างนั้นเต็มไปด้วยขุมพลังของเคล็ดวิชาต้องห้ามอันมืดมิด ทำให้เยี่ยนอวี๋ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงลมปราณของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
แต่ทว่า…
“เหนียงเหนียง?” เสียงของข้ารับใช้ในวังที่ระมัดระวังดังมาจากที่ไม่ไกล ทำให้เยี่ยน อวี๋รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นนางสนมในวังหลัง
น่าเสียดายที่นางสนมผู้นั้นไม่ตอบ เพราะนางสนมยังคงปรับลมปราณ เพื่อย่อยขุมพลังสวรรค์และโชคชะตาของเยี่ยนจื่ออวี๋สองแม่ลูกที่นางเพิ่งกลืนกินเข้าไป
ชั่วขณะจิตนั่นเอง เยี่ยนอวี๋เกือบจะวู่วาม! ใช้จิตสำนึกของนางโจมตีหญิงคนนี้ แต่นางต้องทนไว้ เพราะนางรู้ดีว่าอย่างมากจิตสำนึกของนางทำได้แค่ทำร้ายผู้หญิงคนนี้ได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถทำลายอีกฝ่ายหนึ่งได้
ยิ่งกว่านั้น ถ้าตายไปเช่นนี้ก็ออกจะสบายเกินไป
เยี่ยนอวี๋สัมผัสอย่างมั่นคง จับลมปราณสตรีที่ถูกโอบล้อมด้วยลมปราณจากวิชาต้องห้ามอันมืดมิดให้ได้มากที่สุด นางจะต้องทำให้สตรีผู้นี้ชดใช้ด้วยราคาที่ไม่สามารถหามาจ่ายได้ง่ายๆ!
“ใคร!” สตรีที่ถูก ‘จ้องมอง’ จากเยี่ยนอวี๋มีประสาทสัมผัสเฉียบไว ดูเหมือนว่านางจะสังเกตพบการดำรงอยู่ของเยี่ยนอวี๋ และแผ่ขุมพลังแห่งความมืดอันทรงพลังออกมารอบตัวนาง