เซียนหมากข้ามมิติ - ตอนที่ 292 ใครเข้ามาใกล้ต้องตาย
ตอนที่ 292 ใครเข้ามาใกล้ต้องตาย
ถึงแม้จอมพลังเกราะทองก้าวไปข้างหน้าพร้อมแรงมหาศาล อีกทั้งรอยแตกไม่ได้ขยายออกไปทางข้างหลัง แต่แรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากหมัดอันหนักหน่วงกระทบพื้นยังคงทำให้บ้านที่อยู่ข้างหลังเขาสั่นสะท้าน
ความเคลื่อนไหวบนพื้นดินสงบลงแล้ว ภายในเรือนยังคงมีฝุ่นตกลงมาจากหลังคาและขื่ออยู่บ้าง
หากบอกว่าเพราะตอนเทพเกราะทองปรากฏตัวขึ้นเมื่อครู่ สายตาคนในเรือนล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ เช่นนั้นตอนนี้ทุกคนก็ตกอยู่ในสภาวะมึนงงแล้ว
จอมยุทธ์คนหนึ่งตรงหน้าประตูชี้พื้นนอกเรือนที่ถูกแสงไฟส่องสว่าง พูดติดขัดขึ้นว่า
“พะ พื้น…”
“ตะ…แตกแล้ว…”
หวงจือเซียนกลืนน้ำลายก่อนพล่าวประโยคครึ่งหลังแทนอีกฝ่าย
“ทุกคน ทุกคนอย่าเพิ่งออกมา!”
เพราะระดับการมองเห็น คนในเรือนมองไม่เห็นสัตว์ประหลาดที่ถูกจอมพลังเกราะทองเหวี่ยงหวัดใส่ แต่คนที่ปฏิกิริยาตอบสนองว่องไวอย่างพวกหวงจือเซียนสังเกตเห็นบางอย่างแล้ว ชัดเจนมากว่าจอมพลังเกราะทองกำลังจู่โจมอะไรอยู่
หลังจากจอมพลังเกราะทองปล่อยหมัดแล้วค่อยๆ ยืดตัวตรง สองเท้าแยกออกเล็กน้อย ส่วนสองมือซ้ายขวาห้อยอยู่ข้างลำตัว ผ้าสีเหลืองบนกายขยับไหวตามลม
ติ๋งๆๆๆ…
หยดน้ำฝนข้างนอกเรือนกระทบบนเกราะของจอมพลังเกราะทอง ส่งเสียงขึ้นมาเล็กน้อย
ครืน…
ทันใดนั้นฟ้าร้องขึ้นมา สายฟ้าส่องสว่างผืนดิน และทำให้ทุกคนข้างนอกเรือนที่กำลังตั้งใจสังเกตทุกอย่างมองเห็นทัศนียภาพที่อยู่ไกลออกไป
ตรงที่ห่างออกจากหน้าบ้านหลังนี้ยี่สิบถึงสามสิบจั้ง มีเงาร่างสามร่างยืนอยู่บนพื้นที่ว่าง หนึ่งในนั้นแม้มองด้วยระยะไกลขนาดนี้ก็ยังคงแข็งแรงกำยำยิ่งนัก ถึงขนาดไม่ด้อยไปกว่าเทพเกราะทองเลย
ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้นคือตอนนี้ทุกคนมองไปภายใต้แสงสายฟ้าส่งสว่างชั่วครู่ คล้ายกับมองเห็นว่าคนประหลาดเหล่านั้นปล่อยควันดำน่ากลัวออกมาด้วย
นอกจากนี้เพียงมองพวกเขา ไม่ว่าจอมยุทธ์หรือคนธรรมดาล้วนเกิดความรู้สึกกลัวอย่างน่าประหลาด กระวนกระวายจนขนลุกไปหมดทั้งตัว ราวกับถูกสิ่งที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งยวดจับตามองอย่างไรอย่างนั้น
แต่ความจริงพวกหวงจือเซียนมองออกแล้ว คนประหลาดทั้งสามที่อยู่ไม่ไกลตรงหน้ายังคงนอนอยู่ ทว่าผิวกายทั้งหมดแตกออก บาดแผลภายในตัดสลับกันลึกเหมือนหุบเหว ราวกับผ้าเก่าขาดที่ถูกฉีกทึ้งอย่างไรอย่างนั้น ร่างกายสั่นสะท้านอย่างต่อเนื่อง
ศพชั่วร้ายที่ดูน่าเวทนาที่สุดก็คือศพที่คิดดำดินเข้าใกล้บ้านหลังใหญ่ ทว่าถูกจอมพลังเกราะทองเหวี่ยงหมัดใส่
“ทางนั้นคือ…คนหรือ”
“ปะ แปดส่วนไม่ใช่…”
“ไม่เป็นไร พวกเรามีเทพเกราะทองคอยคุ้มครองอยู่…”
“ใช่ๆๆ…”
“พวกเรามีเทพเกราะทองอยู่!”
ถึงแม้หลายคนข้างนอกนั่นจะอยู่ชั่วร้ายเป็นอย่างยิ่ง มอบความรู้สึกกลัวให้ผู้คน แต่จอมพลังเกราะทองยืนอยู่หน้าเรือนแล้วมอบความรู้สึกปลอดภัยให้ทุกคนอย่างเต็มเปี่ยมเช่นกัน
หวงจือเซียนเหมือนกับนึกอะไรขึ้นได้ มองไปรอบๆ ทางซ้ายและขวา แต่ตอนนี้กลับหานกกระดาษตัวเมื่อครู่นี้ไม่เจอแล้ว
ได้ยินเทพเกราะทองเรียกนกกระดาษตัวนั้นว่านายท่าน เห็นทีที่มาของนกกระดาษต้องไม่ธรรมดาแน่ น่าเสียดายที่ตอนนี้หายไปแล้ว
นกกระเรียนในตอนนี้หลบอยู่ที่ปลายขื่อในเรือนอีกครั้ง อีกทั้งห้อยศีรษะมองออกไปข้างนอก รับรู้ความรู้สึกหวาดกลัวและตื่นเต้นของทุกคนในสถานการณ์นี้ได้เช่นกัน
ห่างจากบ้านไปประมาณยี่สิบสามสิบจั้ง ศพชั่วร้ายที่อยู่ในสภาพยืนนิ่งมองจอมพลังเกราะทองกันทั้งหมด แม้อยู่ท่ามกลางยามราตรีมืดมิดก็ยยังคงส่องแสงเทพจางๆ ไม่ต่างอะไรกับบุคคลผู้แข็งแกร่ง ดึงดูดความสนใจยิ่งนัก
“เมื่อครู่เจ้าซ่อนตัวอย่างไร เหตุใดข้าไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของเจ้าเลย”
เสียงแหบพร่าเย็นชาสายหนึ่งดังมาแต่ไกล คนประหลาดที่แข็งแรงที่สุดเป็นคนกล่าวขึ้น
ทุกคนภายในเรือนได้ยินแจ่มชัด แต่พวกเราล้วนรู้ว่าพูดให้จอมพลังเพราะทองฟังอย่างแน่นอน
ทว่าจอมพลังเกราะทองเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง ยืนอยู่ตรงนั้นไม่พูดจา
“เจ้าเป็นเทพหรือปีศาจ เหตุใดปราณถึงได้พิเศษเช่นนี้ เหตุใดไม่มีทั้งปราณเพลิงและปราณวิญญาณเทพ”
จอมพลังเกราะทองยังคงเงียบเชียบ ยืนอยู่หน้าเรือนใหญ่ปล่อยให้น้ำฝนชะล้างตนเอง
“บนตัวเจ้าไม่มีแรงปรารถนากำยานและไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ไยต้องปกป้องคนธรรมดาเหล่านี้ด้วย”
ประโยคที่สามดังมา จอมพลังเกราะทองที่เดิมทีคิดว่าจะเย็นชาได้ตลอดเอ่ยปากแล้ว
เสียงของมันทุ้มต่ำมาก แต่กลับชัดเจนสะเทือนหู
“คำสั่งของนายท่าน ปีศาจมารหรือภูตหน้าไหน ใครเข้ามาใกล้ต้องตาย”
ข้างนอกนั่นไม่มีเสียงดังมาอยู่ครู่หนึ่ง ประมาณสี่ห้าลมหายใจให้หลังถึงค่อยเอ่ยปากอีกครั้ง
“นายท่านที่เจ้าว่าเป็นใคร”
จอมพลังเกราะทองเข้าสู่สภาพเย็นชาอีกครั้ง เหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไรโดยสิ้นเชิง
กลับเป็นพวกหวงจือเซียนภายในเรือนที่เสาะหานกกระดาษตัวนั้นตามสัญชาตญาณ แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้มันไปที่ไหนแล้ว
ท่ามกลางความมืด ศพยักษ์ร่างใหญ่มองจอมพลังเกราะทองหน้าบ้านที่อยู่ไม่ไกล ในจมูกพ่นไอสีเทาออกมาสายหนึ่ง
“ฟู่…”
ในสายตาของมันมองทะลุไปถึงบ้านที่อยู่ข้างหลังเจ้าของร่างใหญ่ใส่เกราะทอง ข้างในนั้นล้วนเป็นมนุษย์จำนวนหนึ่ง ถึงขนาดมีคนเผยสีหน้าหวาดกลัวด้วย
มันก้มหน้ามองทาสที่ถูกจอมพลังเกราะทองจู่โจมจนต้องออกจากใต้ดิน จากนั้นมองตามร่างของมันไปทางรอยแตกนั้น รอยแตกยืดยาวไปถึงตรงหน้าจอมพลังเกราะทอง ชัดเจนว่าแรงจู่โจมเมื่อครู่นี้ไม่ได้เกินจริงเลย
เดิมทีคืนนี้ได้รับรายงานจากทาสคนหนึ่ง หลังจากรู้ว่ามีจอมยุทธ์ที่มีปราณดั้งเดิมเต็มเปี่ยมสิบกว่าคน ความคิดดูดเลือดเป็นอาหารก็เกิดขึ้นมา ทำให้รีบเคลื่อนไหว โจรพวกนั้นมีทาสคนอื่นไปด้วยจะไม่มีทางเสียเปล่า
ทีแรกควรได้กินอาหารค่ำอย่างมีความสุข ส่วนภาพที่อยู่ตรงหน้าชัดเจนว่าไม่ได้คาดคิดไว้เลย
แม้ตอนแรกจอมยุทธ์สิบกว่าคนจะอ้วนท้วน ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่สู้ดีก็ใช่ว่าต้องกินอาหาร แต่จอมพลังเกราะทองเหมือนกับดูถูกมันเป็นพิเศษ นี่ทำให้ศพยักษ์เกิดโทสะอยู่ในใจ
“นายท่านที่เจ้าว่าเป็นใครกันแน่ แล้วเจ้าเป็นใคร บอกชื่อมา!”
จอมพลังเกราะทองยังคงยืนอยู่หน้าเรือนใหญ่อย่างกล้าหาญ ครั้งนี้เงยหน้ามองตรงหน้าเล็กน้อย เสียงทุ้มต่ำเหมือนฆ้องดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าไม่ได้ตอบคำถามของศพยักษ์ กลับกล่าวซ้ำคำพูดเมื่อครู่นี้
“คำสั่งของนายท่าน ปีศาจมารหรือภูตหน้าไหน ใครเข้ามาใกล้ต้องตาย”
แม้คืนนี้จะมืดมาก แต่สำหรับศพยักษ์แล้วย่อมไม่ส่งผลกระทบใดเลย สายตานิ่งงันของจอมพลังเกราะทองไม่ต่างอะไรกับไม่เห็นใครในสายตาโดยสิ้นเชิง
ถึงศพยักษ์มีปัญญา ทว่าธาตุแท้ชั่วร้ายเป็นอย่างยิ่ง ทั้งก่อนและหลังตายล้วนไม่ได้มีนิสัยดีอะไร คืนนี้เกิดเรื่องไม่คาดคิดถึงได้อดทนถามอยู่หลายคำ ตอนนี้ถูกถากถางเช่นนี้ไหนเลยจะทนไหวอยู่ได้
“หึๆๆๆ…ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย เช่นนั้นก็ไปตายเสียเถอะ! วันนี้ข้าจะดูดเลือดเจ้าให้หมดก่อน ส่วนมนุษย์ที่เจ้าปกป้องไว้ข้าก็จะดูดเลือดให้หมดเช่นกัน โฮก!”
ตูม…
พื้นดินใต้เท้าศพยักษ์ถูกเหยียบแตกโดยพลัน ระเบิดร่างกายตามไปด้วย ทำให้ม่านฝนตรงนั้นแหวกออกเกิดเป็นทางน้ำ เสื้อผ้ามอมแมมบนตัวก็ถูกฉีกออกด้วยเช่นกัน เผยให้เห็นผิวหนังสีเหมือนเครื่องสำริดโบราณที่เต็มไปด้วยเกล็ดยาว
ความรู้สึกกดันที่เกิดขึ้นในตอนนี้ทำให้ทุกคนในบ้านหลังใหญ่หายใจไม่ออกกันถ้วนหน้า ราวกับหัวใจถูกใครบีบอยู่อย่างไรอย่างนั้น
พร้อมกันนั้นเอง สายตาและปฏิกิริยาของจอมพลังเกราะทองเปลี่ยนในทันที ร่างกายโน้มไปข้างหน้า สองแขนหน้าและหลังปรากฏกรงเล็บ แทบจะวินาทีเดียวกับที่จอมพลังเกราะทองขยับร่างกาย ศพยักษ์ก็โผล่มาตรงหน้ามันแล้ว
เวลาราวกับเชื่องช้าลงเล็กน้อย จากนั้นเจ้าของร่างใหญ่ทั้งสองก็กระแทกกันและกัน
ตึง…
น้ำล้วนกระเด็นออกจากแอ่งน้ำโดยรอบ ม่านฝนยิ่งยิงออกไปทั่วทุกทิศทาง ลมแรงที่ปะทะเข้ามาทำให้ประตูเรือนหลังใหญ่ไม่มั่นคง หน้าประตูยิ่งแทบจะพังทลายในอีกไม่นานนี้
บนพื้นดินปรากฏร่องเป็นทางยาว เพราะรับการจู่โจมจากศพยักษ์ ร่างของจอมพลังเกราะทองจึงถูกกดดันไปจนถึงตรงที่ห่างจากหน้าประตูเรือนเพียงไม่กี่ฉื่อ ข้างหลังมันเกิดเป็นดินนูน เท้ายักษ์ปกคลุมด้วยเกราะทองข้างหนึ่งย่ำลงข้างหลัง ร่างกายอยู่ในท่าโค้งตัว
กึกๆๆๆๆ…
เสียงเหมือนบ่วงรัดคอดังขึ้นที่หน้าประตู สองมือของจอมพลังเกราะทองและศพยักษ์ประสานกัน หนึ่งเป็นสีสำริด หนึ่งเป็นสีแดงชาด
ลึกลงไปในแววตาของศพยักษ์ปรากฏความรู้สึกเหลือเชื่อ เพราะจอมพลังเกราะทองใช้เพียงพละกำลังต้านทานการจู่โจมที่หาใครเทียบได้ของตนเองเอาไว้
ความตั้งใจเดิมของศพยักษ์คือฝ่าจอมพลังเกราะทองไป อีกทั้งต้องการพังเรือนข้างหลังมันให้ทลายลง แล้วค่อยฆ่ามนุษย์เหล่านั้นให้ตายตกไป ถือเป็นการหัวเราะเยาะการคุ้มครองที่น่าขันของอีกฝ่ายได้
ตอนที่ในใจศพยักษ์เกิดความประหลาดใจ จอมพลังค่อยๆ เงยหน้าขึ้น บนใบหน้าสีแดงฉานนั้น ดวงตาสองข้างที่ไร้ชีวิตชีวาดูเย็นชาอย่างชัดเจนในสายตาของศพยักษ์
กึกๆๆๆๆ…
ขาข้างขวาของจอมพลังเกราะทองที่เดิมทีโค้งอยู่ข้างหลังห่างออกจากพื้น จากนั้นเตะออกไปข้างหน้า
ตึง
ตึง
ตึง
…
มันดันศพยักษ์ออกไปตลอดทาง ความเร็วยิ่งมายิ่งเพิ่มขึ้น ดันจนอีกฝ่ายห่างออกจากบ้านร้างไกลถึงสามสิบจั้ง
ศพประหลาดสองศพที่อยู่ข้างๆ กลายร่างเป็นเงาพุ่งเข้าใส่จอมพลัง ใช้กรงเล็บคมและฟันแหลมทึ้งและกัดบนร่างจอมพลังเกราะทอง ส่งเสียงดังกึกๆๆ และแกรกๆ…
ทว่าจอมพลังเกราะทองเหมือนจะไม่สนใจ ความสนใจรวมศูนย์อยู่ที่ร่างศพยักษ์ มันยิงฟันกล่าวว่า
“คำสั่งของนายท่าน ปีศาจมารหรือภูตหน้าไหน ใครเข้ามาใกล้ต้องตาย”
ผ้าสีเหลืองทั้งหน้าและหลังคล้ายกับกลายเป็นงูวิญญาณ เลื้อยพันแขนสองข้าง รวมถึงเอวของศพยักษ์แล้ว
พริบตาที่ศพยักษ์กล่าวในใจว่าแย่แล้ว จอมพลังเกราะทองพลันปล่อยมือแล้วหมุนกายไปด้านข้าง ใช้แขนรัดศีรษะของศพยักษ์เอาไว้
ทันใดนั้นศพยักษ์รู้สึกได้ว่าเสียศูนย์เพราะร่างกายถูกฉีกทึ้งอย่างแรง ร่างทั้งร่างถูกจอมพลังเกราะทองยกขึ้น ฉีกขาดกลางอากาศแล้วโยนลงกระแทกพื้น
ตูม…
แรงสั่นสะเทือนและความรู้สึกชาทั่วกายศพยักษ์ยังไม่หายไป ตอนที่สมองยังคงงุนงง มือยักษ์สวมเกราะทองข้างหนึ่งยกขึ้นทำมุมทันที จากนั้นกระทุ้งใส่ตรงหน้าอย่างแรง
“อึก…เฮือก…”
ตรงที่ศพยักษ์ตกลงเกิดรอยแตกบนพื้นดินอย่างรวดเร็ว เหมือนกับเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ที่เกิดจากหุบเหว
หลังจากมือขวาจู่โจมเสร็จ จอมพลังเกราะทองคล้ายกับไล่แมลงวัน สะบัดแขนซ้ายส่งเสียงโครม ผลักศพชั่วร้ายศพหนึ่งบนไหล่ตนเองลอยหวือไปแล้ว
เห็นศพชั่วร้ายอีกศพหนึ่งหลบออกไปก็ไม่คิดสนใจอะไรมาก ยกแขนขวาขึ้นอีกครั้ง ออกหมัดแล้วกระแทกลง
วูบ…ตูม…
การจู่โจมครั้งนี้ทำให้พื้นดินแตกละเอียด ศพชั่วร้ายจมลงในหลุมขนาดใหญ่รูปร่างเหมือนถ้วยทรงกลมขนาดสี่ห้าจั้ง