เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 223 เราไม่ได้ดี แกก็อย่าหวังจะได้ดี!
บทที่ 223 เราไม่ได้ดี แกก็อย่าหวังจะได้ดี!
ผู้เล่นฝึกยุทธ์ที่เหลือเดินออกมาจากทั่วสารทิศ ส่วนกองทัพของผู้เล่นธรรมดาก็รวมตัวกันและเดินหน้าต่อไป
พวกเขาไม่กล้าโจมตีกลุ่มของพวกซูเย่โดยตรง จึงทำได้เพียงโจมตีกลุ่มเป้าหมายคนอื่น ๆ ที่เหลืออยู่
ผู้ฝึกยุทธ์สามหมื่นคนต้องการพยายามรวมตัวกัน แต่จะทำอย่างไรได้ ? ผู้เล่นธรรมดามีมากเกินไป…น่าจะถึงหลักล้านคน…
ภายใต้การล้อมของกองทัพผู้เล่นทั่วไป ในช่วงการรวมตัวของเป้าหมายสามหมื่นคน มีหลายพันคนถูกตัดศีรษะและเสียชีวิตลง
“สู้ไม่ได้เลย…คนเยอะเกินไป!”
“ฆ่าไม่หมดไม่สิ้นสักที!”
“จำนวนของเรากับพวกเขาเลยไม่สมดุลกันเลย…เราสู้ไม่ได้!”
“ยังมีคนอยู่ เรายังมีคนอยู่สามพันคน และไอ้เจ้าเวรกรรมกับอีกสามพันคน” ผู้เล่นที่ฝึกยุทธ์คนหนึ่งตะโกนขึ้น
ใช่! ยังมีเจ้าเวรกรรมกับอีกสามพันคนที่กล้าไล่ฆ่าคนนับแสนคน!
“เร็วเข้า ไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าเวรกรรม ถ้าพวกเขาเข้าร่วมกับเรา จะอยู่ได้จนถึงสุดท้ายแน่นอน”
“ใช่!”
ผู้เล่นจำนวนมากพากันไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าเวรกรรม
ผู้นำกลุ่มเป้าหมายที่เหลืออยู่สองหมื่นกว่าคนก็พุ่งเข้าไปหาซูเย่ทันที
“เจ้าเวรกรรม เราต้องการความช่วยเหลือจากนาย…”
ผู้นำกลุ่มเป้าหมายรีบวิ่งไปหาซูเย่ ประสานมือของเขาแล้วกล่าว “เราเป็นหนึ่งเดียวกัน ตอนนี้เราอยู่บนเรือลำเดียวกัน ช่วยเราด้วย!”
“ตอนฉันเผชิญหน้ากับคนนับแสนด้วยตัวคนเดียว พวกนายมุดหัวไปอยู่ไหน?” ซูเย่ถามอย่างสงบนิ่ง
อีกฝ่ายตกตะลึง
“ตอนเราหมื่นคนถูกกองทัพผู้ล่าหลายล้านคนฆ่าเหลือเพียงสามพันคน พวกนายมุดหัวอยู่ไหน?”
ซูเย่ถามอีกครั้ง
อีกฝ่ายพูดไม่ออกแม้คำเดียว พวกเขาไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงปิดปากเงียบ
“อ๊ากก!!!!”
เบื้องหลังมีเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด เขาหันศีรษะไปมองรอบ ๆ เห็นเพียงว่ามีคนมากกว่าสองหมื่นคน ถูกกองทัพผู้ล่าปิดล้อมโจมตี และมีคนเสียชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ
“นายจะไม่ช่วยเราจริง ๆ เหรอ” อีกฝ่ายถามอย่างโกรธเคือง
“พวกนายคือผู้ฝึกยุทธ์ พวกนายรู้ว่านี่เป็นการฝึกฝนประสบการณ์สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ พวกนายทำได้เพียงพึ่งพาตัวเองเท่านั้น…”
ซูเย่กล่าว “การพึ่งพาฉันหรือพึ่งพาพวกเราเพื่อความอยู่รอดไม่เรียกว่าฝึกฝนประสบการณ์หรอกนะ…”
“ถ้านายไม่ช่วยเรา นายจะเสียใจ!” อีกฝ่ายกัดฟันพูด
อีกฝ่ายจ้องไปที่ซูเย่อย่างหมายมาดอาฆาตแค้น จึงทำได้เพียงหันหลังจากไป
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ทำไมพวกเจ้าเวรกรรมยังไม่มาอีก?”
“พวกเขากำลังเตรียมจะบุกฆ่าผู้ล่าที่อยู่นอกวงนั้นหรือเปล่า?”
“กลยุทธ์ของเจ้าเวรกรรมสุดยอดมาก เขาจะต้องคิดหาวิธีจัดการได้แน่ ๆ”
ทุกคนรีบวิ่งออกไป ดูเหมือนว่าพวกเขาเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าเจ้าเวรกรรมจะช่วยพวกเขา
“เขาไม่รับปาก” หัวหน้าพูดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“ทำไมล่ะ!” ทุกคนตกตะลึง
“เจ้าเวรกรรม เขาไม่ต้องการช่วยเรา” หัวหน้าพูดซ้ำ
“ทำไมล่ะ?!”
“พวกเรามาจากค่ายเดียวกันไม่ใช่เหรอ?”
“ทำไมเขาไม่ช่วยเราล่ะ?”
ผู้เล่นฝึกยุทธ์จำนวนมากทั้งตกใจและโกรธจัด
สิ่งที่ตกใจคือถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าเวรกรรม พวกเขาไม่สามารถต้านทานการโจมตีของผู้ล่าได้เลยแม้แต่น้อย ส่วนที่โกรธก็คืออยู่เรือลำเดียวกันแท้ ๆ แต่เจ้าเวรกรรมกลับไม่ยอมที่จะช่วยพวกเขา!
เห็นคนเดือดร้อนแล้วไม่ช่วยเหลืองั้นเหรอ
ที่นอกวง มีเสียงร้องอย่างทรมานดังมาไม่ขาด
เมื่อเลื่อนสายตาไปมอง ภายใต้การล้อมโจมตีของผู้เล่นธรรมดา ผู้ฝึกยุทธ์กำลังจะทนไม่ไหวอีกต่อไป!
ทุกคนพลันหน้าซีด…
เสียงกรีดร้องที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับกำลังกัดกร่อนจิตใจของพวกเขา
ดูพวกเราถูกฆ่า แต่กลับไม่ช่วย ทำไมพวกเราถึงต้องถูกฆ่า แต่พวกแกถึงได้ยืนอยู่เฉย ๆ ที่จุดศูนย์กลาง โดยมีพวกเรายืนอยู่นอกวงคอยเป็นโล่กำบังให้พวกแก…
“แม่งเอ้ย! ในเมื่อไม่ช่วย ฉันจะทำให้แกเสียใจ…พวกเราไล่มันออกไป ให้พวกเราได้ยืนอยู่ที่จุดศูนย์กลาง ให้พวกมันคอยเป็นโล่กำบังให้พวกเราบ้าง!”
ผู้เล่นคนหนึ่งตะโกนอย่างเดือดดาล คนอื่น ๆ ก็เห็นทางระบายความโกรธแค้น
“ใช่ พวกเขาจะตัดเยื่อใย งั้นเราก็ต้องตัดบัวไม่ให้เหลือใย ไม่ช่วยเราก็ได้ เราก็อย่าไปช่วยมัน ไล่พวกมันออกไป!”
“เราไม่ได้ดี แกก็อย่าหวัง!”
……
เมื่อได้ยินคำพูดที่โกรธแค้นของทุกคน หัวหน้าพูดอย่างเย็นชา ก่อนหน้านี้เขาก็คิดแบบนี้เอาไว้อยู่แล้ว…
แม่ง เป็นผู้ฝึกยุทธ์เหมือนกันแต่กลับไม่ช่วยเหลือกัน ยังจะพูดจาแดกดันใส่อีก!
สัมผัสประสบการณ์หาเตี่ยมึงรึไง?!
“ได้ เขาไม่ให้เราได้ดี เราก็อย่าให้เขาได้ดี ทุกคนฟังคำสั่ง ไปฆ่าเจ้าเวรกรรมกับฉัน ไล่พวกมันออกไป…ให้พวกมันไปปะทะกับผู้ล่า แล้วพวกเรามองดูอยู่ข้างๆ!” หัวหน้าตะโกน
“ดี!” คนอื่น ๆ เห็นดีเห็นงามด้วย
คนสองหมื่นคนที่เหลือรวมตัวกัน มุ่งหน้าไปหาซูเย่และคนอื่นๆ ที่ใจกลางแผนที่…
ที่เหนือท้องฟ้า
“แน่นอน ไม่มีผู้ใดล่วงรู้จนกว่าจะถึงตอนจบ!” เยี้ยนตี้ ผู้บัญชาการเขตฮัวเป่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแสงอันเย็นยะเยือก
“ธรรมชาติของมนุษย์เป็นเช่นนี้ ความชั่วร้ายทั้งหมดจะปรากฏขึ้นในช่วงเวลาวิกฤติ! ความแข็งแกร่งคือการทดสอบ และนี่คือการทดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!” ผู้บัญชาการเขตซีเป่ยก็ก่นด่าด้วยความโกรธเช่นกัน
ผู้บัญชาการคนอื่น ๆ ต่างขมวดคิ้วแน่น
ในเกม
เมื่อเห็นว่ากลุ่มเป้าหมายห้ำหั่นกันเอง กองทัพของผู้เล่นธรรมดาหยุดล้อมเพื่อชมเรื่องสนุก
“ให้พวกมันฆ่ากันเอง!”
“ฮ่าฮ่า ถ้าจะให้ดีก็คือให้เจ้าเวรกรรมฆ่าไปครึ่งหนึ่งเพื่อที่เราจะได้เก็บงานได้ง่าย…เหลือเจ้าเวรกรรมให้จัดการ”
“ตีกันเลย! ตีเลย! ยิ่งดุเดือดยิ่งดี.!”
…
“เจ้าเวรกรรม…แกร้องหาความตายเอง เราไม่ได้ดี แกก็อย่าหวังจะได้ดี! ไสหัวออกไป!”
“ฆ่า!”
หัวหน้ากลุ่มเป้าหมายนำคนที่เหลืออีกสองหมื่นคน พุ่งเข้าใส่ซูเย่อย่างบ้าคลั่ง
เบื้องหลังซูเย่ สามพันคนก็เตรียมพร้อมแล้ว บนใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ไร้ซึ่งความกลัว!
สู้กับล้านคนมาแล้ว ยังจะมากลัวอะไรอีก?
ในตอนที่สามพันคนลุกคนพร้อมรับการโจมตี ซูเย่หันศีรษะไปแล้วสั่งทันที
“ทุกคนอย่าขยับ!”
เขากวาดสายตามองดูคนจำนวนสามพันคน แล้วกล่าว “ตอนนี้ยังมีเวลาอีก 10 นาทีก่อนเข้าสู่ชั่วโมงสุดท้าย ขอแค่เพียงอยู่จนถึงชั่วโมงสุดท้าย ทุกคนก็จะได้รับรางวัลมากขึ้น”
“ก้าวสุดท้ายนี้ ฉันจะจัดการเอง!”
“ในเมื่อพวกนายติดตามฉัน…ฉันจะปกป้องพวกนายเอง!”
“ทุกคนยืนอยู่ที่เดิม ห้ามใครขยับ แค่สิบนาทีเท่านั้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ตกตะลึงไปทั่วร่าง พลันมีกระแสความซาบซึ้งไหลผ่านหัวใจ พวกเขากำหมัดแน่น มองไปที่แผ่นหลังของซูเย่
ซูเย่เรียกเฉิงหวงและขี่มันพุ่งไปเบื้องหน้า
“มีอะไร ก็มาลงที่ฉัน!” ซูเย่ตะโกนบอก พลางยกดาบมือใหม่ในมือขึ้น พุ่งทะยานเข้าไปในกลุ่มคน
เหนือท้องฟ้าขึ้นไป ณ ยอดเขาสูง
ผู้บัญชาการทั้งหกคนมองหน้ากัน พลันมีแววความประหลาดใจปรากฏในแววตาของพวกเขา
คิดไม่ถึงเลยว่าซูเย่จะทำการเลือกเช่นนี้
ไม่ว่าเหตุผลของเขาคืออะไร การทำเช่นนี้หมายความว่านิสัยใจคอของเขาดีมากจริงๆ!
บนสนามรบ
ซูเย่ขี่เฉิงหวงและพุ่งตรงเข้าไปในกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์มากกว่าสองหมื่นคนเพียงลำพัง เขาเหวี่ยงดาบฟันอย่างไร้ความปราณี จัดการผู้เล่นฝึกยุทธ์ทุกคนที่พุ่งเข้ามาหาเขา
ผู้เล่นนับไม่ถ้วนโจมตีซูเย่อย่างบ้าคลั่ง
หนึ่งนาที…สองนาที…ห้านาทีผ่านไป…
ไม่มีใครสามารถก้าวไปข้างหน้าได้แม้ครึ่งก้าว…
“เขตปลอดภัยจะย่อตัวในห้านาที ผู้เล่นทุกท่านกรุณาเคลื่อนตัวให้ทันเวลา”
ประกาศลอยขึ้นมาบนท้องฟ้า
เขตปลอดภัยที่ถูกลดขนาดลงสู่มีรัศมีเพียงห้ากิโลเมตร และจะย่อตัวลงอีกครั้ง ในที่สุดก็เหลือเพียงพื้นที่ที่มีรัศมีเพียงสามกิโลเมตรเท่านั้น
เขตปลอดภัยมีไว้สำหรับเป้าหมายเท่านั้น ผู้ล่าไม่มีใครสนใจพื้นที่นี้เลย เพราะนอกเขตปลอดภัยพวกเขตก็ไม่เป็นอันตราย
เมื่อเห็นประกาศนี้ กองทัพของผู้เล่นธรรมดาที่อยู่รอบนอกก็ล้อมพวกเขาไว้ทันที ผู้เล่นฝึกยุทธ์มากกว่า สองหมื่นคนต่างตื่นตระหนก พวกเขาถูกเจ้าเวรกรรมต่อต้านอยู่ ยังจะถูกปิดล้อมโดยผู้เล่นธรรมดาอีก
ในเวลานี้…พวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรแล้วจริงๆ
ห้านาทีต่อมา
“เขตปลอดภัยจะทำการย่อขนาด” ประกาศเด้งขึ้นมาอีกครั้ง
ในยามนี้ ผู้เล่นทั่วไปย่อขนาดวงล้อมเหลือเพียงสามกิโลเมตร
เวลาสิบนาทีมาถึง
ผู้เล่นจำนวนสามพันคนที่เฝ้าดูซูเย่ตั้งรับการโจมตีเพียงลำพังเป็นเวลาสิบนาที
“หมดเวลาแล้ว พี่น้องเรา บุก!”
เมื่อประกาศย่ออาณาเขตปรากฏขึ้น ซูชือก็ชูแขนขึ้นแล้วตะโกนเสียงดัง
กองกำลังสามพันคนที่อยู่ในท่าตั้งรับ ได้เปลี่ยนเป็นกระบวนทัพโจมตีทันที ภายใต้คำสั่งของไป๋จือหราน พวกเขาก็เร่งรุดไปเบื้องหน้า
มีผู้เล่นฝึกยุทธ์มากกว่าสองหมื่นคน ถูกกระบวนทัพของสามพันคนไล่ต้อนไป
ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เข้าใจกระบวนทัพใด ๆ และด้วยการไล่ตามกองกำลังที่ดุดัน แรงกดดันทางจิตใจของพวกเขาพุ่งขึ้นสูง
แรงกดดันมหาศาลทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตระหนกและหวาดกลัวในใจ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ลดลงอย่างมาก
ผ่านไปไม่นานนัก ก็ถูกซูเย่ที่นำคนสามพันคนไล่ฆ่าพวกเขาหนีหัวซุกหัวซุน
เมื่อเห็นโอกาสอันดี กองทัพของผู้เล่นธรรมดาที่อยู่รอบนอกจู่ ๆ ก็พุ่งไปข้างหน้า ก่อตัวเป็นกองกำลังขนาบข้างสามพันคนที่นำโดยซูเย่ บุกสังหารผู้เล่นฝึกยุทธ์มากกว่าสองหมื่นคนจากทุกทิศทุกทาง
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
ผู้เล่นฝึกยุทธ์มากกว่าสองหมื่นคน ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว!
บนสนามรบ เหลือเพียงซูเย่และอีกสามพันคน รวมถึงผู้เล่นธรรมดาจำนวนมาก
“โหมดไล่ฆ่ากำลังจะสิ้นสุดในสามสิบนาที อีกห้านาทีเขตปลอดภัยจะย่อเขตลงอีกครั้ง สุดท้ายจะเหลือเพียงห้าสิบเมตรเท่านั้น”
ประกาศเด้งขึ้นมาบนท้องฟ้า
ซูเย่ดูนาฬิกา ตอนนี้ 05:30
เหลืออีกแค่ครึ่งชั่วโมง…ทนอีกแค่ครึ่งชั่วโมง! พวกเขาก็จะชนะแล้ว พื้นที่ที่เหลืออยู่เพียงพอให้พวกเขาแล้ว
ซูเย่เดินไปตรงกลางคนทั้งสามพัน…
“โหมดไล่ฆ่ากำลังจะจบลงแล้ว ถึงแม้ว่าจำนวนผู้ล่าจะมีจำนวนเยอะกว่า แต่พวกเราก็ผ่านพ้นมาได้ พวกเราไม่จำเป็นต้องกลัว…”
“ในเมื่อใกล้จะจบแล้ว ทุกคนมาฆ่ากันให้สบายใจกันเถอะ!”
“ยังคงเป็นคำพูดเดิม ต่อให้ตาย เราก็จะยืนตาย บุก!”
“ฆ่า!”
สามพันคนตะโกนพร้อมกัน
ระหว่างนั้น กองทัพผู้เล่นธรรมดาได้เร่งรุดเข้ามาแล้ว
“ฆ่า!”
ชั่วขณะหนึ่ง ในตอนทุกคนกำลังสู้กันอยู่
“ลูชวนเหยียนจิวเซิ่ง (ผู้วิจัยปิ้งย่าง) ตายแล้ว เจ้าเวรกรรมขี่ดาบไม่ได้แล้ว ไปฆ่าเจ้าเวรกรรมกันก่อน!”
ในกองทัพผู้เล่นธรรมดา ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกน
ทุกคนรีบวิ่งไปหาซูเย่อย่างบ้าคลั่ง
ทุกอย่างใกล้จบลงแล้ว ถ้าฆ่าเจ้าเวรรกรรมได้ก็ตาย ไม่ฆ่าก็ตายอยู่ดี ไม่ว่าจะยังไงก็ควรลองดูสักตั้ง!
อีกด้านหนึ่ง
“ตั้งกระบวนทัพ” ไป๋จือหราน ออกคำสั่ง
ในเวลาเดียวกัน ก็หยิบหยกปราณออกมาเพื่อออกห้าคำสั่งสุดท้าย เตรียมพร้อมทุกเมื่อ ก่อนหน้านี้เธอตัดใจใช้พวกมันจนหมดไม่ได้
ผู้คนจำนวนสามพันคนได้ก่อกระบวนทัพรูปแบบต่างๆ ทันที ปกป้องซูเย่ และพุ่งโจมตีใส่ผู้เล่นธรรมดาที่บุกขึ้นมา
ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น สมรภูมิก็ดุเดือดขึ้นทันที
ในการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างทั้งสองฝ่าย บนสนามรบนั้นน่าสลดใจอย่างยิ่ง
ตามเวลาที่เวลาผ่านไป วงพิษเริ่มแผ่กระจายไปอย่างไร้ความปราณี