เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 190 ซูเย่เข้ารอบ เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัย
บทที่ 190 ซูเย่เข้ารอบ เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัย
ซูเย่ตอบทันที “ฉีปั๋วกล่าว : ฤดูหนาวชี่น้ำแข็งแกร่ง ชี่ไต2หลบหลีก หยางลดน้อยลง หยินเพิ่มมากขึ้น จุดชีพจรหยางก็นิ่งลง ดังนั้นต้องฝังเข็มที่จุดจิ่งเพื่อกดทบหยิน และที่จุดซูเพื่อกระตุ้นหยาง ด้วยเหตุนี้จึงมีคำกล่าวว่า ‘เหมันต์ฝังเข็มจุดจิ่งและจุดซู วสันต์เลือดไหลเวียนดี’ ด้วยประการฉะนี้”
อาจารย์ท่านแรกพยักหน้า
นักศึกษาสาขาแพทย์แผนจีนที่อยู่หน้าจอพยักหน้า
อาจารย์ท่านที่สองตั้งคำถามต่อ “อาจารย์จะพูดชื่อตำรับยาเธอตอบเนื้อหา ‘ตำรับยาต้าเฉิงชี่3’ ”
“ตำรับยาต้าเฉิงชี่ ตัวยาหลักมีต้าหวงและหมางเซียว ตัวยานำพาคือจื่อสือและโฮ่วผอช่วยระบายของเสียตกค้าง เป็นยาระบายตำรับหนึ่ง”
อาจารย์ท่านที่สองก็พยักหน้า คำตอบถูกต้อง
นักศึกษาสาขาแพทย์แผนจีนที่อยู่หน้าจอก็พยักหน้า
นี่ยังอยู่ในเนื้อหาตำราโบราณอยู่
“อาจารย์จะพูดชื่อจุดฝังเข็ม 10 จุด ภายในหนึ่งนาทีให้เธอแตะจุดดังกล่าวบนร่างกายของเธอ” อาจารย์ท่านที่สามกล่าว
ไม่ต้องถึงหนึ่งนาที ซูเย่ก็แตะครบแล้ว ไม่แตะผิดแม้แต่จุดเดียว
ในขณะที่พูดคำถามจบ มือก็แตะเรียบร้อยแล้ว
ที่หน้าจอ นอกจากนักศึกษาไม่กี่คนที่เคยเรียนกับซูเย่แล้ว นักศึกษาแพทย์แผนจีนคนอื่น ๆ ล้วนตะลึงงัน ความเร็วนี้เร็วเกินไปแล้ว เร็วกว่าลวี่อวิ๋นเผิงกับลู่จวิ้นที่คะแนนดีก่อนหน้านี้
“แตะเร็วแถมยังแม่นยำมาก ๆ เขาไม่ต้องวัดขนาดเลยงั้นหรือ เอามือไปแตะในทันทีเลย คุ้นเคยถึงระดับนี้เลยหรือ”
“ไอนี่มันไม่ต้องคิดเลยรึไง จุดทั้ง 365 จุด ถือว่าพิสูจน์ได้ว่าเขาคุ้นเคยกับจุดฝังเข็ม”
“มีความสามารถจริงสินะ”
ทุกคนดูต่อ
“แสดงวิธีการฝังแบบหนึ่งแบบ ‘มังกรสะบัดหาง’”
อาจารย์ท่านที่ 4 ชี้มาทีเข็มและหุ่นจำลองที่วางอยู่บนโต๊ะ
ซูเย่ไม่ได้หยิบหุ่นจำลองมา แต่หยิบเข็มมาแล้วแทงไปที่ร่างของตัวเอง ฝังเข็มให้ตัวเองแถมยังต้องสาธิตไปด้วย ไม่เพียงมีฝีมือ ยังต้องมีทักษะการปั่นเข็มด้วย
อาจารย์คนที่ตั้งโจทย์มองอย่างตกตะลึง
ฝังเข็มให้ตัวเองเลยงั้นหรือ โหดเหี้ยมกับตัวเองใช้ได้
ลู่จวิ้นกับลวี่อวิ๋นเผิงดวงตาส่องประกาย
นักศึกษาแพทย์แผนจีนที่ดูอยู่ยิ่งตะลึง คนที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยเชื่อว่าซูเย่ฝังเข็มรักษานักศึกษาที่ดื่มน้ำฮวงเสี่ยเฮียะให้หายเป็นปกติ ในตอนนี้ได้เชื่อหมดใจแล้ว ทักษะการฝังเข็มยอดเยี่ยมจริง ๆ นี่เป็นข้อพิสูจน์อีกอย่างหนึ่ง
“ใช้ได้”
มองการสาธิตของซูเย่ อาจารย์ท่านที่สี่พูดอย่างพึงพอใจ และเป็นท่านแรกที่พูด ซูเย่ดึงเข็มออก
“อาจารย์จะพูดตำรับยาหนึ่งขนาน เธอพูดว่าใช้รักษาโรคอะไร”
อาจารย์ท่านที่ 5 อ่านตำรับยา ไม่ใช่ตำรับยาทั่วไป แต่เป็นตำรับยาที่คิดค้นเอง
ซูเย่ฟังจบตอบทันที : “โรคไขมันพอกตับ”
อาจารย์ท่านที่ 5 พยักหน้า คำตอบถูกต้อง
ข้อพิสูจน์อีกหนึ่ง เข้าใจตำรับยา
หลังจากนั้น อาจารย์ท่านที่ 6
ที่ 7
ที่ 8
……
ซูเย่ตอบอย่างลื่นไหล ถามคำถามจบก็ตอบทันที
ไม่ว่าจะเป็นคำถามยากขนาดไหนก็เอาอยู่ ทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติ ราวกับเป็นเรื่องธรรมดา
สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ทีมหน้าจอของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง ล้วนอดไม่ได้ที่จะแอบสูดหายใจลึก ๆ หนึ่งเฮือก จับจ้องไปยังซูเย่
“นี่คือระดับความสามารถของซูเย่งั้นหรือ”
ขนาดซุนชือกับจินฟานยังตกตะลึงจนตาค้าง จ้องไปที่ซูเย่ที่อยู่ในการถ่ายทอดสดสดอย่างเอาเป็นเอาตาย
ต่อให้เป็นพวกเขา นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นความสามารถทางการแพทย์แผนจีนของซูเย่ตรง ๆ
เก่งมากไอ้ชาย
ภายใต้ความไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเองของมวลชน การสอบดำเนินต่อไป
ซูเย่มาถึงด้านหน้าของอาจารย์ท่านที่ 9
“สาธิตกรรมวิธีการต้มยาจีน” อาจารย์ชี้ไปที่เครื่องมือการต้มยาทั้งหมดที่เตรียมไว้อย่างดี เป็นการบอกว่าซูเย่สามารถเริ่มได้เลย
ซูเย่เองก็ไม่ลังเล เดินเข้าไป เริ่มลงมือสาธิตอย่างรวดเร็ว ถึงแม้เวลาจะไม่พอ แต่ก็สามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างสมบูรณ์แบบ สาธิตเสร็จ อาจารย์ท่านที่เก้ามองไปทางซูเย่และพยักหน้าอย่างชื่นชม
ซูเย่เดินกลับไปบนเวทีอีกครั้ง
“อาจารย์จะพูดอาการ เธอออกเทียบยารักษา” อาจารย์ท่านที่สิบพูดขึ้นทันที
เมื่ออาจารย์กล่าวจบ ทุกคนที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ก็เรียกสติตัวเองทันที จับจ้องไปที่ซูเย่อย่างตั้งใจ นี่คือข้อที่ลู่จวิ้นตอบพลาด
ตอนนั้น เทียบกับยาที่เธอออกแม้ว่าจะได้รับการยอมรับจากอาจารย์ แต่เป็นเพราะว่าปริมาณยาที่ใช้ในเทียบยานั้นไม่เพียงพอ ถูกอาจารย์ชี้ข้อบกพร่องออกมาทันที
พวกเขาอยากรู้ว่าซูเย่จะตอบพลาดเหมือนกันไหม
ภายใต้การจับตามองของทุกคน ซูเย่ออกเทียบยาด้วยความรวดเร็ว เพราะดูจากหน้าจอ ทุกคนก็มองไม่ค่อยชัดว่าซูเย่จะออกเทียบยาแบบไหน ได้แค่รอปฏิกิริยาตอบรับจากอาจารย์
“อืม”
อาจารย์ได้รับเทียบยา เห็นได้ชัดว่าตะลึงไปชั่วขณะ แล้วจึงพยักหน้าและยิ้มให้ซูเย่อย่างพอใจ เป็นเชิงให้เริ่มสอบต่อไปได้
ฉากนี้ ทำให้คนที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ตกตะลึง
ซูเย่ ไม่ได้ตอบพลาดงั้นหรือ?
เขาเก่งกว่าลู่จวิ้นจริง ๆ งั้นหรือ??
นักศึกษาคณะแพทย์แผนจีนมองซูเย่ที่อยู่บนหน้าจออย่างตะลึงงัน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นระดับความสามารถที่แท้จริงของซูเย่
จุดที่ลู่จวิ้นตอบผิด เขากลับตอบถูก
เขาเก่งกว่าลู่จวิ้นจริงงั้นหรือ?
นักศึกษาคณะวิจัยสมุนไพรจีนที่เพิ่งเรียนสองเดือนมาถึงระดับนี้เลยเหรอ? พวกเขารู้สึกรับไม่ได้
ลู่จวิ้นที่กำลังดูการถ่ายทอดสดอยู่ขณะนี้ ลังจากมองซูเย่ตอบถูกอย่างสวยงาม ก็อดไม่ได้ที่จะถอดหายใจออกมาแผ่วเบา
เธอสู้ซูเย่ไม่ได้สินะ
ลวี่อวิ๋นเผิงกลับยกยิ้มบาง ๆ มองดูการถ่ายทอดสดต่อ ข้อนี้น่ะเขาไม่ได้ทำตอบผิดนี่
อันดับต่อมา อาจารย์ท่านที่สิบเอ็ด ท่านที่สิบสอง
ความเร็วในการถามของคณะอาจารย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซูเย่เองก็ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ถามตอบไม่หยุด
ในที่สุดก็ถึงอาจารย์ท่านที่สามสิบ
“มาแล้ว”
ลวี่อวิ๋นเผิงกล่าวในใจ นี่คือข้อสุดท้ายและเป็นข้อที่เขาทำพลาด
ทุกคนเองก็เรียกสติกลับคือมาอีกครั้ง จับจองซูเย่อย่างจดจ่อ
“อาจารย์มีแฟ้มประวัติอยู่ เธอดูว่ามีตรงไหนผิดพลาด” อาจารย์ท่านที่สามสิบมองซูเย่หนึ่งครั้ง แล้วกล่าว “ผู้ป่วยคนหนึ่งของฉัน ขณะกำลังเป็นหวัดอยู่กินเสี่ยวหลงเซียะหม่าล่า4ไปจำนวนมาก ทำให้เกิดโรคสะเก็ดเงินที่ขา หลังจากนั้นเริ่มลามไปทั่วร่าง”
“หลังจากการตรวจเบื้องต้น วินิจฉัยได้ว่าความร้อนเข้าสู่กล้ามเนื้อในร่างกาย เพื่อระบายความร้อนออก ใช้ยาที่มีสรรพคุณ ปรับการไหลเวียนเลือด สลายการอุดตัน ขับเสมหะ ดับลม อาการหงุดหงิดง่าย ใช้ยาตำรับไฉหูซูกานซ่าน5”
“ส่วนประกอบ ได้แก่ไฉหู 10 กรัม ชิงผี 10 กรัม เซียงฝู 10 กรัม ……ตานเซิน 50 กรัม ตะขาบ 2 ตัว แมงป่อง 3 ตัว”
ผลปรากฏว่าหลังจากผู้ป่วยเริ่มใช้ยากลับไม่ได้ผล
“เป็นเพราะเหตุใด” อาจารย์สอบถาม
วินาทีนี้ ทุกคนมองตรงไปยังซูเย่ รวมถึงคณะอาจารย์ที่อยู่ในสนามสอบ นี่คือข้อสุดท้าย ถ้าข้อนี้ตอบถูก ก็เท่ากับว่าคำตอบทั้งหมดสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
มองอย่างผิวเผิน โจทย์ข้อนี้ฟังดูแล้วราวกับไม่มีปัญหาใดใด แต่ผลกลับทำให้ผู้คนแปลกใจ และด้วยเหตุผลนี้ ลวี่อวิ๋นเผิงจึงได้ทำพลาด
จะต้องรู้ก่อนว่าลวี่อวิ๋นเผิงนั้นเป็นหัวกะทิชั้นปีที่ 5 ถือว่าเป็นคนที่เก่งกว่าลู่จวิ้นหนึ่งขั้น ขนาดเขายังเอาข้อนี้ไม่อยู่ แล้วซูเย่จะทำได้หรือ
อาจารย์ท่านที่ถามก็มองซูเย่ด้วยสายตาแห่งความคาดหวัง
แรกเริ่มเขาคิดว่านักศึกษาคณะวิจัยสมุนไพรจีนคนหนึ่งคงไม่ได้ไม่ไกลบนเส้นทางของแพทย์แผนจีน แต่ในตอนที่เขาเห็นซูเย่พุ่งทะยานจนเข้ามาถึงรอบสุดท้ายได้ และยังเข้ารอบด้วยอันดับที่หนึ่งตลอดในทุกรอบ ในใจของเขาก็เริ่มเกิดความคาดหวังเล็ก ๆ ต่อนักศึกษาคนนี้ขึ้นมา มองเห็นซูเย่มาถึงเบื้องหน้าของเขาอย่างราบรื่น การเคลื่อนไหวทุกขั้นตอนลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ความคาดหวังในใจเขาก็เพิ่มขึ้นมาหนึ่งส่วน
เช่นนั้น คำถามนี้ของเขาที่ถือได้ว่าเป็นคำถามสุดโหดที่นักศึกษาทุกคนในคณะแพทย์แผนจีนเจอแล้วเป็นต้องสะดุด ซูเย่จะสามารถตอบออกมาได้ถูกหรือไม่
“ปริมาณยาน้อยไปครับ”
ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน ในที่สุดซูเย่ก็ตอบออกมา
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ในสนามสอบ สายตาของอาจารย์ทั้งสามสิบท่านเปล่งประกาย
“เพราะเหตุใด” อาจารย์ที่ตั้งโจทย์ตั้งใจขมวดคิ้ว
“แม้ว่าสาเหตุของโรคสะเก็ดเงินจะซับซ้อน แต่ไม่ได้เป็นเพราะความร้อนสะสมภายในเท่านั้น ตอนขับความร้อนออก ควรใช้ยาแรง ไม่สามารถยั้งมือ เพราะว่าร่างกายของคนยุคปัจจุบันนี้ดีกว่าคนสมัยก่อน อีกประการคุณภาพยาสมัยนี้ไม่ดีเท่าสมัยก่อน ดังนั้นใช้ยาควรใช้เยอะกว่าเดิมไม่ควรใช้น้อยเกินไป ดังนั้นเทียบยานี้ จึงใช้ยาเบาไปครับ” ซูเย่เอ่ยตอบ
ฉีปั๋ว ราชบริพานของหวงตี้ มีบททาทในการถกปัญหาทางด้านการแพทย์กับฮ่วงตี้ในคัมภีร์หวงตี้เน่ยจิง ในส่วนที่เป็นการถามและตอบ
2 ชี่ไต หมายถึง พลังชี่ต้นกำเนิดที่ได้จากพ่อแม่รวมกับชี่หลังกำเนิดที่ได้จากอาหารการกินที่กระเพาะ ม้าม และลำไส้ย่อยแล้วส่งไปสะสมไว้ที่ไตรวมกันเป็น รากฐานของชี่ในอวัยวะอื่น ๆ ด้วย การทำงานที่เข้มแข็งของไตต้องมีชี่ไต กล่าวได้ว่า “ชี่” ก็คือพลังการทำงานนั่นเอง
3 ตำรับยาต้าเฉิงชี่ ประกอบด้วยตัวยาต้าหฺวาง หมางเซียว โฮ่วพ่อ และจื่อสือ สรรพคุณ: ขับอุจจาระและระบายความร้อนในลำไส้อย่างแรง ข้อบ่งใช้: ภาวะโรคหยางหมิงฝู่แกร่ง; ภาวะความร้อนสะสมในลำไส้ใหญ่ มีอุจจาระแข็งค้าง ถ่ายออกได้เฉพาะของเหลวเหม็น และภาวะโรคร้อนแกร่งภายในมีอาการหมดสติ ชัก หรือเพ้อคลั่ง”
4 เสี่ยวหลงเซียะหม่าล่า กุ้งมังกรจีนหมาล่า กุ้งเครฟิชรสหมาล่า อาหารรสเผ็ดขึ้นชื่อของจีน
5ตำรับไฉหูซูกานซ่าน สรรพคุณ ระบายตับ ปรับพลัง กระตุ้นการไหลเวียนเลือด หยุดปวด