เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 57 เล่นเกมเพิ่มพลังเสริมการฝึกตน
บทที่ 57 เล่นเกมเพิ่มพลังเสริมการฝึกตน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
จางกงหมิงก็กลับมาออนไลน์อีกครั้ง และแจ้งว่า
“ฉันบริจาคเงิน 1,000,000 หยวนเรียบร้อยแล้วนะ”
เน็ตไอดอลหนุ่มมองหน้าซูเย่ด้วยความสงสัย และอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะทราบหรือไม่ว่าเขาบริจาคแล้วจริง ๆ
ซูเย่รอคอยอยู่ในความเงียบ
แล้วเสียงติ้งก็ดังขึ้นในหัวของเขา
แต้มศีลธรรม +20
ขณะนี้ซูเย่มีคะแนนศีลธรรม 27 แต้ม ขาดอีก 73 แต้ม ก็จะมีครบ 100 แต้มพอดี
“เรียบร้อย”
ซูเย่โยนดาบเวหา และอาวุธอีกสองชิ้นไปกองไว้ตรงหน้าจางกงหมิงก่อนจะถอยหลังกลับมา
“เดี๋ยวนะ…เฮ้ย?”
จางกงหมิงมองหน้าซูเย่ด้วยความเหลือเชื่อ “นายรู้ได้ยังไง?”
ซูเย่ไม่ตอบรับคำใด เพียงผายมือไปยังอาวุธที่วางกองอยู่เบื้องหน้าเน็ตไอดอลหนุ่ม เป็นสัญญาณให้จางกงหมิงเก็บอาวุธเหล่านั้นไปซะ
จางกงหมิงรีบเก็บอาวุธเข้าสู่กระเป๋าเวทมนตร์ทันทีแม้หัวใจจะเต็มไปด้วยความสงสัยก็ตาม
เมื่อเห็นว่าการซื้อขายเสร็จสิ้นเรียบร้อย ซูเย่ก็เตรียมตัวจะไปสำรวจบริเวณเขตชายแดนของแผนที่ระดับ 20 อีกครั้ง เพราะก่อนที่จะหมดเวลาเล่นเกมประจำวัน ยังพอมีเวลาให้ได้ออกเดินสำรวจอะไรอีกบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ
“เดี๋ยวก่อนสิ ท่านเทพ”
เมื่อเห็นว่าซูเย่ทำท่าจะเดินจากไปแล้ว จางกงหมิงก็รีบวิ่งมายืนขวางหน้าและกล่าวอย่างมีความหวัง “ในเมื่อการซื้อขายของเราผ่านไปอย่างราบรื่น ไม่ทราบว่านายพอจะช่วยทำให้ความฝันของฉันเป็นจริงได้ไหม?”
“นายต้องการอะไร?”
ซูเย่ถามด้วยความมึนงง
“ทุกคนต่างก็บอกว่านายมีฝีมือเก่งกาจ และแข็งแกร่งมาก ถ้างั้นช่วยประลองเพลงดาบกับฉันสักกระบวนท่าได้ไหม!”
จางกงหมิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“หา?”
ซูเย่ไม่คิดจริง ๆ ว่าจะได้ยินคำขอเช่นนี้
แต่บัดนี้ จางกงหมิงชักดาบออกมาตั้งท่ารอรับการโจมตีแล้ว
“ได้สิ เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหาหรอก”
ซูเย่ยิ้มแย้ม และพยักหน้า
เมื่อเขายื่นมือขึ้นไปในอากาศ
ดาบเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือของซูเย่
คมดาบสาดประกายเจิดจ้า
“เคล้ง”
จางกงหมิงได้ยินเพียงเสียงโลหะปะทะกัน จากนั้นดวงตาของเขาก็พร่ามัวมองไม่เห็นอะไรอีกทั้งสิ้น
ในใจได้แต่คิดด้วยความตกตะลึงว่า X ช่างมีเพลงดาบที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน!
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสมความปรารถนาแล้ว
ซูเย่ก็ถอยหลังเดินหายไปยังเขตชายแดนของแผนที่ระดับ 20 อยากจะไล่ฆ่าสัตว์ประหลาดแถวนั้นดูอีกสักหน่อย เผื่อเขาจะได้อาวุธพิเศษเพิ่มเติมมาบ้างอีกสักชิ้นสองชิ้นก็ยังดี
ในเวลาเดียวกันนี้
นอกจากมีคนมากมายระดมโพสต์กระทู้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการอัพเลเวลได้อย่างรวดเร็วผิดปกติของ X แล้ว ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยคอยเฝ้าสังเกตการณ์กระดานคะแนนผู้เล่นอยู่ตลอดเวลา
บนกระดานคะแนนในตอนนี้ X ยังคงเป็นผู้เล่นอันดับ 1
และบนกระดานคะแนนก็ยังแสดงลำดับผู้ที่ได้ครอบครองอาวุธวิเศษภายในเกมอีกด้วย
ตอนนี้มีผู้เล่นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ครอบครองดาบเวหา แต่ผู้เล่นคนนั้นไม่ประสงค์จะเปิดเผย ID ของตนเอง
ทว่า ทุกคนก็รู้ดีว่าจะต้องเป็น X อย่างแน่นอน
แต่ทันใดนั้นเองจู่ ๆ ชื่อ ID เจ้าของดาบเวหากลับปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคนเสียอย่างนั้น
ปรากฏว่าไม่ใช่ผู้เล่น X แต่เป็นผู้เล่นที่ชื่อว่าบัณฑิตหลู่ช่วงจากที่ไหนก็ไม่รู้
ที่สำคัญก็คือหมอนี่ยังได้ครอบครองอาวุธวิเศษอีกสองชนิด
ดาบคมพยัคฆ์ และธนูปลิดวิญญาณ
อาวุธวิเศษทั้งหมดนี้ล้วนตกเป็นของบัณฑิตหลู่ช่วงแต่เพียงผู้เดียว!
บัณฑิตหลู่ช่วงเป็นใครมาจากไหนกันนะ?
ทุกคนรีบตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของบัณฑิตหลู่ช่วง และก็พบว่าอีกฝ่ายเพิ่งจะอยู่ในเลเวล 9 เท่านั้นเอง
มีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว
X จะต้องขายอาวุธเหล่านี้มาให้แก่บัณฑิตหลู่ช่วงแน่นอน!
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีผู้เล่นบางคนนำเรื่องนี้ไปโพสต์ลงบนเว็บบอร์ดส่วนกลาง
“คิดไม่ถึงเลยนะว่า X จะเห็นแก่เงินจนถึงกับยอมขายดาบเวหา!”
เมื่อข้อความถูกโพสต์ออกไป
กระทู้นี้ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมหาศาล
ทุกคนรีบเปิดกระดานคะแนนเพื่อตรวจสอบผู้ครอบครองอาวุธวิเศษ จึงได้พบว่าชื่อเจ้าของดาบเวหาได้เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ
แม้ว่าบัณฑิตหลู่ช่วงจะมีชื่อเป็นเจ้าของอาวุธวิเศษอีก 2 ชนิดที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ แต่พวกเขาก็มั่นใจว่าในเกมนี้มีเพียง X คนเดียวเท่านั้น ที่มีความสามารถมากพอจะเก็บอาวุธเหล่านั้นได้สำเร็จ
หลังจากนั้น
บอร์ดข้อความก็กลับมาอยู่ในบรรยากาศอันร้อนระอุอีกครั้ง
“นี่มันปฏิบัติการเปิดกล่องดำหรือไง?”
“สรุปว่าดาบเวหาอยู่ในมือของ X จริง ๆ ใช่ไหม”
“แต่เขาเอามันมาขายทำไมล่ะ? หรือ X เป็นพวกร้อนเงิน ตั้งใจเข้ามาเล่นเกมเพื่อเอาไอเท็มไปขายโดยเฉพาะงี้เหรอ?”
“แล้วใครคือบัณฑิตหลู่ช่วง? เขามีตัวตนจริงหรือเปล่า?”
“หมอนั่นออกจากเกมไปแล้วหรือยัง?”
“ฉันว่าเรื่องนี้ต้องมีลับลมคมในแน่นอน!”
“นั่นสิ ผ่านมาจนถึงตอนนี้แล้วทีมงานยังไม่ออกมาอธิบายอะไรเลย ถ้าวันพรุ่งนี้เรายังไม่ได้รับคำอธิบายที่น่าพอใจ ก็อย่าเล่นมันอีกเลยว่ะเกมห่วยแตกแบบนี้!”
“เลิกเล่นโว้ย! เลิกเล่น!”
พวกเขาไม่สนใจเลยว่าการซื้อขายอาวุธวิเศษเหล่านั้นมีมูลค่าเท่าไหร่
ทุกคนเพียงอยากรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เล่นเกมทุกคนรู้สึกรำคาญใจก็คือ X ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเลเวลไม่สุงสิงกับใคร แต่สุดท้ายก็นำดาบเวหาไปขายให้แก่คนอื่นหน้าตาเฉย
นี่มันเท่ากับเป็นการตบหน้าผู้เล่นส่วนใหญ่เลยไม่ใช่หรือไง?
แค้นนี้ต้องชำระ
เริ่มเกิดกระแสไม่พอใจเกม Fantasy Dream ขึ้นมาอีกครั้งจากการขายดาบเวหา
ผู้เล่นเกือบทุกคนหยุดเล่นเกมโดยทันที พวกเขาไปรวมตัวกันอยู่ในบอร์ดข้อความ เพื่อถกเถียงถึงประเด็นนี้อย่างเผ็ดร้อน
ในไม่ช้า บอร์ดข้อความก็เต็มไปด้วยความคิดเห็นในแง่ลบ
สุดท้ายความคิดเห็นในแง่ลบเหล่านั้นก็สามารถรวมออกมาได้เป็นประโยคเดียวว่า
ถ้าทีมงานไม่ยอมออกมาชี้แจงเรื่องนี้ พวกเราจะเลิกเล่น!
เหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจจากทีมงานผู้ผลิตเกมตั้งแต่แรก มีการจัดประชุมเร่งด่วนเพื่อตั้งทีมสืบสวนการเลื่อนเลเวลที่รวดเร็วผิดปกติของผู้เล่น X
กระแสต่อต้านการเล่นเกม Fantasy Dream เกิดขึ้นได้ประมาณครึ่งชั่วโมง
ทางทีมงานก็โพสต์ข้อความชี้แจงว่า
“ประกาศเรื่องการเลื่อนเลเวลอย่างรวดเร็วผิดปกติและการขายดาบเวหาของผู้เล่น X”
“หลังจากที่ทีมงานได้ตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ไม่พบว่าเกมของเรามีบั๊กหรือมีการเล่นที่ละเมิดกฎแต่อย่างใด ผู้เล่น X สามารถอัพเลเวลได้รวดเร็วมากเกินไปก็จริง แต่เขาก็อัพเลเวลจากค่าประสบการณ์ในการฆ่าสัตว์ประหลาดเช่นเดียวกับผู้เล่นคนอื่น ๆ”
“ทั้งนี้ เราได้แนบคลิปวิดีโอหลักฐานของผู้เล่น X มายืนยันให้ทุกคนได้ทราบว่า ผู้เล่น X สามารถอัพเลเวลขึ้นมาได้อย่างถูกต้องทุกประการ ทุกท่านสามารถรับชมคลิปวิดีโอนี้ได้โดยการปรับมุมมองของหมวก VR ให้เป็นมุมมองบุคคลที่สาม”
ด้านล่างข้อความเป็นคลิปวิดีโอคลิปหนึ่ง
ทุกคนเห็นข้อความประกาศนี้ด้วยตาของตนเอง
ในที่สุดทีมงานก็ออกมาชี้แจงสักที!
พวกเขากดเข้าไปดูคลิปวิดีโอเพื่อขจัดข้อสงสัย
เมื่อเข้าสู่โหมดการรับชมวิดีโอ บรรดากลุ่มผู้เล่นก็เปลี่ยนมุมมองจากบุคคลที่หนึ่ง เป็นมุมมองจากบุคคลที่สาม
หลังจากได้ดูคลิปวิดีโอตั้งแต่ต้นจนจบ
ทุกคนก็ถึงกับตกตะลึง
“บ้าที่สุด!”
นั่นคือคำอุทานที่ผุดขึ้นมาในหัวของใครหลายคน
พวกเขารู้สึกว่าตนเองหยุดดูคลิปวิดีโอนี้ไม่ได้
ให้ตายสิ! ลิงดำพวกนั้นถูกฆ่าตายไม่เหลือสักตัวเดียว!
สุดยอด! ช่างเป็นดาบที่เด็ดขาดเหลือเกิน!
เหลือเชื่อ! เขาฟันหัวสัตว์ประหลาดตัวนั้นขาดในดาบเดียวได้ยังไง
แล้วมือของเขาก็มั่นคงแข็งแรงเหมือนไม่ใช่มือมนุษย์!
ทุกคนได้เห็นแล้วว่า X กำลังใช้ดาบเวหาเก็บค่าประสบการณ์ไล่ล่าสัตว์ประหลาด
นอกจากนั้น มันยังมีประโยชน์ช่วยเขาโจมตีสัตว์ประหลาดจากกลางอากาศได้อีกด้วย
ข้อสงสัยทั้งหมดถูกคลี่คลายลงแล้ว
ดาบเวหาเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ X สามารถอัพเลเวลได้อย่างรวดเร็ว
ไม่มีใครแปลกใจอีกต่อไปแล้วที่ X จะมีคะแนนเป็นผู้เล่นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์
“คุ้มค่าเงิน! คุ้มค่าเงินแล้วจริง ๆ!”
จางกงหมิงที่ออกจากเกมมานั่งดูคลิปวิดีโอบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้แต่พึมพำออกมาด้วยความตื่นเต้น
X สามารถอัพเลเวล 12 ได้อย่างง่ายดาย
X สามารถอัพเลเวล 13 ได้อย่างง่ายดาย
X สามารถอัพเลเวล 14 ได้อย่างง่ายดาย
…
เมื่อได้เห็นกับตาว่า X สามารถหลบหลีกการโจมตีของตัวบอสระดับ 20 ได้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะสังหารมันด้วยดาบเดียว ซึ่งเป็นผลให้เขาเลื่อนระดับขึ้นมาอยู่ในเลเวล 20 อย่างง่ายดาย ผู้เล่นเกมเกือบทั้งหมดต่างก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว
“โคตรเทพ!”
“ดาบที่ใช้เป็นดาบธรรมดาด้วยนะ เพราะดาบเวหาเขาเพิ่งเอาออกมาตอนหลัง”
“ฉันไม่สงสัยการอัพเลเวลของเขาอีกแล้ว สิ่งเดียวที่ฉันสงสัยก็คือ X เป็นมนุษย์จริง ๆ หรือเปล่าเนี่ย! ถ้าทางทีมงานยอมเปิดเผยข้อมูลว่าตัวจริงของ X เป็นใคร ฉันก็จะขอขอบคุณเป็นอย่างสูง!”
เมื่อได้ดูคลิปวิดีโอจบลงแล้ว ผู้เล่นจำนวนมากก็ไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้อีกต่อไป
ข้อสงสัยถูกคลี่คลาย ความคลางแคลงใจไม่มีเหลือ สิ่งที่หลงเหลือมีเพียงความตกตะลึงเท่านั้น
X มีความแข็งแกร่งมากเกินไป
แข็งแกร่งจนเหมือนไม่ใช่มนุษย์
ไม่มีใครเข้าใจเลยว่า X สามารถแข็งแกร่งถึงระดับนี้ได้อย่างไร
สิ่งเดียวที่ทุกคนเข้าใจก็คือ X สามารถลงมือโจมตีสัตว์ประหลาดได้อย่างรวดเร็วและเด็ดขาดราวกับเป็นนักฆ่ามืออาชีพ
ผู้เล่นบางคนถึงกับนั่งดูคลิปวิดีโอซ้ำไปซ้ำมาเพื่อวิเคราะห์อย่างจริงจังว่า X สามารถฆ่าสัตว์ประหลาดได้อย่างไร
ทันใดนั้น ทางทีมงานก็ออกประกาศใหม่มาอีกหนึ่งฉบับ
“เพื่อดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมของการเล่นเกม Fantasy Dream ทางทีมงานได้ลงมติเห็นชอบที่จะระงับการอัพเลเวลของผู้เล่น X เป็นเวลาครึ่งเดือนนับจากนี้ไป ไม่ว่าเขาจะฆ่าสัตว์ประหลาดได้อีกมากมายแค่ไหน ก็จะไม่สามารถอัพเลเวลเพิ่มขึ้นได้อีกแล้ว”
ครึ่งเดือนอย่างนั้นหรือ?
เมื่อเห็นประกาศฉบับใหม่ ใครหลายคนก็ต้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ
ผู้เล่นเกือบทุกคนกำลังรู้สึกสับสน
นี่คือความยุติธรรมที่พวกเขาอยากได้ก็จริง แต่ทำแบบนี้มันไม่มากเกินไปหรือไง ก็ในเมื่อ X ไม่ได้ทำผิดกติกาสักหน่อย
X มีความสามารถมากกว่าพวกเขา และที่พวกเขาตั้งคำถามก่อนหน้านี้ก็เพียงอยากจะได้คำตอบที่ฟังดูมีเหตุมีผลเท่านั้นเอง
พวกเขาไม่ได้อยากจะขัดขวางการอัพเลเวลของผู้เล่นคนอื่นสักหน่อย
สุดท้าย X ก็ต้องถูกระงับการอัพเลเวลเพราะความขี้ระแวงของพวกเขาแท้ ๆ
ดังนั้น กลุ่มผู้เล่นที่เคยตั้งข้อสงสัยกับ X ก่อนหน้านี้ จึงมีความรู้สึกหลาย ๆ อย่างผสมปนเปจนยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
จะว่าดีใจก็ไม่ใช่ จะว่าเสียใจก็ไม่เชิง
ตอนนี้ถึงอยากจะพูดอะไรก็พูดไม่ออกอีกแล้ว พวกเขาทำได้เพียงถอนหายใจ และเปิดดูคลิปวิดีโอวนไปด้วยความตื่นเต้น
เมื่อส่วนสุดท้ายของคลิปวิดีโอจบลง ทุกคนก็ได้รู้แน่ชัดอย่างหนึ่งว่า
บริเวณไหนเป็นจุดอ่อนของสัตว์ประหลาดแต่ละชนิดบ้าง!
คมดาบในมือ X ทุกครั้งที่โจมตีใส่คู่ต่อสู้ มันจะเล่นงานตรงเป้าเข้าไปที่จุดอ่อนของร่างกายเสมอ
คลิปวิดีโอเหล่านี้เป็นเหมือนการเฉลยข้อสอบให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้รับทราบเคล็ดลับการเล่นเกมไปในตัว
…
โลกเสมือน
ณ เขตชายแดนของแผนที่ระดับ 20
เมื่อไม่มีดาบเวหาให้ใช้เหาะบนท้องฟ้าอีกแล้ว ซูเย่ก็ต้องเดินตัดผ่านผืนป่า และฆ่าสัตว์ประหลาดมาตลอดทาง
ปรากฏว่าเมื่อเขาขึ้นมาถึงเลเวลที่ 20 ได้แล้ว ไม่ว่าจะฆ่าสัตว์ประหลาดเพิ่มได้อีกสักกี่ตัว คะแนนประสบการณ์ของเขาก็ไม่เพิ่มขึ้นอีกเลย
และมันก็เป็นจังหวะเดียวกับที่บนท้องฟ้ามีข้อความประกาศว่า
“มีข้อความแจ้งเตือนจากทีมงานส่งถึงท่าน กรุณาตรวจสอบ”
ซูเย่สั่งให้หยุดเกมชั่วคราวเพื่อกดดูข้อความแจ้งเตือนที่ว่านั้น แล้วก็พบว่ามันเป็นประกาศระงับการอัพเลเวลของเขาเป็นเวลาครึ่งเดือน
“น่าสนใจดีนี่”
ซูเย่หัวเราะในลำคอ ไม่ต้องระงับการอัพเลเวลของเขาหรอก ตั้งแต่ขึ้นมาอยู่ในเลเวล 20 ค่าประสบการณ์ของเขาก็ไม่ขึ้นอยู่แล้ว ส่วนประกาศแจ้งเตือนเหล่านี้เป็นเพียงเหตุผลที่เอาไว้ปิดปากผู้เล่นคนอื่น ๆ มากกว่า
“ดูเหมือนว่าอีกครึ่งเดือนต่อจากนี้ เราคงยังไปด่านอื่นไม่ได้สินะ”
ซูเย่พูดกับตนเอง และกำลังจะกดคำสั่งให้ดำเนินเกมต่อจากเดิม แต่แล้วมือของเขาก็ชะงักค้างอยู่กลางอากาศ
เมื่อเห็นว่ามีแจ้งเตือนอีเมลฉบับหนึ่งถูกส่งมาหาเขา
“หืม?”
และเวลาที่อีเมลฉบับนี้ถูกส่งเข้ามา ก็เป็นตอนที่เขาขึ้นสู่เลเวล 20 ได้พอดี
ชายหนุ่มเปิดดูด้วยความสงสัย
วินาทีต่อมา
สภาพแวดล้อมรอบกายซูเย่ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเขากวาดตามองอีกครั้ง จึงได้พบว่าตนเองกำลังยืนอยู่บนยอดเขาสูงเหนือกลุ่มก้อนเมฆบนท้องฟ้า
และบนยอดเขาแห่งนี้ มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิด้วยท่าทางสงบสำรวม
มวลพลังงานหลากสีสันจำนวนมากปรากฏตัวอยู่บนท้องฟ้าเหนือศีรษะ
ตามมาด้วยเสียงบริกรรมคาถา
ก่อนที่มวลพลังงานเหล่านั้นจะไหลรินลงมาที่ศีรษะของชายหนุ่มแปลกหน้า จากนั้นจุดลมปราณที่อยู่ตามตำแหน่งต่าง ๆ ในร่างกายของเขาก็ถูกเปิดออกจุดแล้วจุดเล่า
“นี่มันการเปิดจุดลมปราณนี่นา?”
เมื่อพบว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้าคืออะไร ซูเย่ก็ถึงกับตกตะลึงไปทั้งร่างกายและจิตใจ
ทันใดนั้น บนท้องฟ้าก็มีข้อความเป็นแถวยาวเหยียดปรากฏขึ้นมา เมื่อซูเย่ไล่อ่านดูจนครบหมดทุกประโยค เขาก็พบว่ามันเป็นคำแนะนำวิธีเปิดจุดลมปราณในร่างกายนั่นเอง!
ถึงแม้วิธีการนี้จะแตกต่างไปจากวิธีที่ซูเย่ใช้อยู่เล็กน้อย เพราะมันอาจจะทำให้สามารถเปิดจุดลมปราณได้อย่างรวดเร็วก็จริง แต่รากฐานพลังจะไม่แข็งแรง ส่งผลให้การเปิดจุดลมปราณในตอนหลังจะยากลำบากมากยิ่งขึ้น ทว่าถึงกระนั้นก็ตาม ซูเย่ก็ยังอดตกตะลึงกับสิ่งที่ตนเองค้นพบไม่ได้อยู่ดี
“ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“ทำไมถึงมีวิธีเปิดจุดลมปราณอยู่ในเกมนี้ด้วยล่ะ?”
“ทุกคนที่ขึ้นมาถึงเลเวล 20 จะได้รับคำชี้แนะเรื่องการเปิดจุดลมปราณทั้งหมดเลยหรือเปล่า?”
“รัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่กันแน่? จุดประสงค์ของการสร้างเกมนี้ขึ้นมาคืออะไร?”
ซูเย่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มคิดว่าตนเองต้องเริ่มสนใจเกมนี้อย่างจริงจังเสียแล้ว
เมื่อชายหนุ่มแปลกหน้าที่นั่งสมาธิอยู่บนยอดเขาสามารถเปิดจุดลมปราณได้ครบ 365 จุด
หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน และเริ่มร่ายรำกระบวนท่าวิชายุทธ์
พลังลมปราณพลันระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา ทำให้ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่รอบกายโค่นล้มลงไปในพริบตา
เมื่อเห็นชายหนุ่มแปลกหน้าสามารถเลื่อนระดับพลังได้อย่างรวดเร็วทุกวินาที ซูเย่ก็พยักหน้าเล็กน้อยอย่างเข้าใจอะไรบางอย่าง
เป็นการเลื่อนระดับพลังที่รวดเร็วมาก
เพราะมีวิธีการเปิดจุดลมปราณได้อย่างรวดเร็ว ระดับพลังยุทธ์จึงแข็งแกร่งมากขึ้นด้วยความรวดเร็วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ก็มีข้อดีข้อเสียอยู่ในตัวมันเอง เช่นเดียวกับวิชาเปิดจุดลมปราณที่ซูเย่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
วิธีหนึ่งสามารถเปิดจุดลมปราณได้อย่างรวดเร็ว แต่มันก็ทำให้รากฐานพลังไม่มั่นคง
อีกวิธีสามารถเปิดจุดลมปราณได้อย่างเชื่องช้า แต่ก็แลกมาด้วยรากฐานพลังที่มั่นคง และแข็งแรง
ณ ตอนนี้ ซูเย่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าวิธีไหนดีกว่ากัน
แต่ถ้ายึดตามอัตราการเลื่อนระดับที่รวดเร็วถึงขั้นนี้ ซูเย่เกรงว่าพลังปราณธรรมชาติที่เหลืออยู่บนโลกมนุษย์ก็คงจะถึงคราวหมดสิ้นไปในเวลาเพียงไม่กี่สิบปีเท่านั้น
ซูเย่อ่านอีเมล์แจ้งเตือนจากทีมงานผู้ผลิตเกม Fantasy Dream ทวนซ้ำอีกหลายรอบ และก็จมดิ่งลงไปสู่ห้วงภวังค์ความคิดของตนเองโดยไม่รู้ตัว
ทำไมรัฐบาลถึงต้องทำอย่างนี้ด้วย?
เพียงเท่านี้พลังปราณธรรมชาติในโลกมนุษย์ก็เหลืออยู่เพียงน้อยนิดแล้ว เพราะอะไรรัฐบาลถึงต้องผลิตเกมนี้ขึ้นมา?
ถ้าอยากจะให้คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจการฝึกตนมากขึ้น ก็ไม่เห็นจะต้องทุ่มเทเงินจำนวนมหาศาล และทรัพยากรอีกจำนวนมากจากหลาย ๆ ประเทศ เพื่อผลิตเกมออนไลน์เกมนี้ขึ้นมาเลย เพราะมันดูเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าสักนิดเดียว
ตกลงแล้วเกมนี้สร้างขึ้นมาเพื่ออะไรกันแน่?
ตอนที่ซูเย่คิดมาถึงตรงนี้
ข้อความแจ้งเตือนประโยคใหม่ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
เวลาเล่นเกมสำหรับวันนี้หมดลงแล้ว ผู้เล่นทุกคนจำเป็นต้องออกจากระบบโดยทันที