เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 81 การวินิจฉัยที่แม่นยำ
บทที่ 81 การวินิจฉัยที่แม่นยำ
เมื่อเขียนรายละเอียดทั้งหมดนี้ครบถ้วน ซูเย่ก็พยักหน้ากับคนไข้ และพูดว่า
“อาการของคนไข้นับเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ”
“คุณหมอเก้าคนก่อนหน้านี้ก็พูดแบบนี้แหละครับ คุณหมอไม่ต้องพูดแล้วก็ได้” คนไข้วัยกลางคนแสยะยิ้มเหมือนเหยียดหยาม
ซูเย่พูดอะไรไม่ออก
ถือว่าเป็นคนไข้ที่ทำตัวน่ารำคาญจริง ๆ
ซูเย่ส่งใบวินิจฉัยของเขาให้แก่ผู้สังเกตการณ์ จากนั้นก็เดินไปที่โต๊ะของคนไข้รายที่สอง
เมื่อชายหนุ่มนั่งลงประจำที่เรียบร้อย
การตรวจวินิจฉัยก็เริ่มขึ้น
เจ้าหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ในห้องตรวจโรคกำลังอ่านใบวินิจฉัยของซูเย่ด้วยความตั้งอกตั้งใจ
แล้วพวกเขาก็ต้องจ้องมองมาที่ซูเย่ด้วยความเหลือเชื่อ
ไม่ว่าจะเป็นการซักถามอาการคนไข้ ไปจนถึงการวิเคราะห์อาการป่วย และวิธีการรักษา ชายหนุ่มคนนี้สามารถทำออกมาได้อย่างแม่นยำสมบูรณ์แบบ
เจ้าหน้าที่ทั้งสามท่านนี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีฝีมือในวงการแพทย์แผนจีน และขณะนี้พวกเขาก็ต้องลอบพยักหน้าให้แก่ซูเย่ด้วยความชื่นชม
คนไข้รายที่สองเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 30 ปี
“ไม่ทราบว่าคนไข้เป็นอะไรมาครับ”
“แค่ก ๆๆ ขากกก ถุ้ย!”
หญิงสาวไออยู่หลายครั้ง ก่อนจะถ่มเสมหะลงบนพื้นห้อง หลังจากนั้นจึงสูดหายใจตอบกลับมาว่า
“ไอไม่หายเลยค่ะคุณหมอ”
ซูเย่พูดอะไรไม่ออกอีกครั้ง
ไม่ต้องบอกเขาก็เห็นอยู่แล้ว
ว่าแต่ทางสมาคมไปสรรหาคนไข้เหล่านี้มาจากไหนกันนะ?
“ไอแห้ง ๆ มีเสมหะเป็นสีขาวเล็กน้อยนะครับ”
ซูเย่เอนตัวมองเสมหะที่อยู่บนพื้นห้อง แล้วเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ก็เริ่มรับฟังการตรวจอาการของชายหนุ่ม
“ลำคอรู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ?”
“รู้สึกคันคอแล้วก็เจ็บคอด้วยค่ะ”
“มีอาการอื่นร่วมด้วยอีกไหมครับ?”
“รับประทานอาหารได้ตามปกติหรือเปล่า?”
“การขับถ่ายเป็นยังไงบ้างครับ?”
หลังจากสอบถามเสร็จเรียบร้อย ซูเย่ก็เริ่มจดบันทึกหลังตรวจชีพจร และดูลิ้นของหญิงสาวครบถ้วน
คนไข้เพศหญิง อายุ 35 ปี
อาการไอ มีเสมหะในลำคอ
ส่วนใหญ่จะเป็นการไอแห้ง ๆ เวลาไอก็จะมีเสมหะสีขาวออกมาด้วยทุกครั้ง คนไข้มีอาการคันคอ และเจ็บคอ นอนหลับเป็นปกติ ขับถ่ายวันละสองครั้งเป็นปกติ ลิ้นมีฝ้าขาวซีดเล็กน้อย และคนไข้มีชีพจรลื่นไหล
การวินิจฉัยโรค : ไอเรื้อรังเนื่องจากปอดถูกรุกรานจากพลังงานภายนอก
การรักษา : เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ปอด บรรเทาอาการไอ และเจ็บคอ
ใบสั่งยา : ฉานทุ่ย 10 กรัม, ไป่ปู้ 10 กรัม, เก็งไก่ 10 กรัม, จี๋อ้วง 10 กรัม, ข่วนตงฮวา 10 กรัม, ไจ่โอ๊ว 10 กรัม, ไป๋เฉียน 10 กรัม, กิ๊กแก้ 10 กรัม, กันเฉ่า 8 กรัม, เฮี่ยงเซียม 10 กรัม, ฮู้เตี๊ยบ 10 กรัม, ซัวเตากิง 10 กรัม, ชวงป๋วยบ้อ 10 กรัม, ปั๊กซาเซียม 10 กรัม, ซูเยี่ย 10 กรัม
วิธีใช้ : นำไปต้มน้ำรับประทานวันละ 1 หม้อ แบ่งเป็นตอนเช้ากับตอนเย็น รับประทานให้ครบกำหนด 7 วัน
เมื่อเขียนมาถึงตรงนี้
ซูเย่ก็หยุดชะงักเล็กน้อย และเขียนเพิ่มเติมลงไปว่า : หากคนไข้รับประทานเข้าไปแล้วเริ่มมีอาการดีขึ้น เสมหะลดลง ไม่มีอาการเจ็บคอ ก็ให้นำตัวยาเฮี่ยงเซียมกับซัวเตากิงออกจากรายชื่อ และต้มสมุนไพรส่วนที่เหลือรับประทานต่อไปให้ครบกำหนดเดิมทั้ง 7 วัน
แนวคิดการรักษา : ปอดของคนไข้ถูกพลังงานความร้อนรุกรานจากภายนอก พลังลมปราณในตัวปอดจึงไหลเวียนแบบย้อนกลับ ทำให้คนไข้เกิดอาการไอ ในบรรดาสมุนไพรเหล่านี้ ฉานทุ่ย ไป่ปู้ และเก็งไก่ จะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย บรรเทาอาการไอ จี๋อ้วง ข่วนตงฮวา ไจ่โอ๊ว และสมุนไพรส่วนที่เหลือ มีสรรพคุณช่วยละลายเสมหะ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับปอด…
เมื่อเขียนจบแล้ว ซูเย่ก็ส่งใบวินิจฉัยให้แก่ผู้สังเกตการณ์ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะของคนไข้รายที่สาม
เจ้าหน้าที่ผู้สังเกตการณ์มองใบวินิจฉัยของซูเย่อีกครั้ง แล้วดวงตาของพวกเขาก็ปรากฏประกายแห่งความพอใจมากขึ้นกว่าเดิม
คนไข้คนสุดท้ายเป็นชายหนุ่มที่อ้วนมากเกินไป
“คนไข้เป็นอะไรมาครับ?”
“ผมอ้วนเกินไปครับหมอ”
“มีอาการไหนอยากบอกหมอเป็นพิเศษไหมครับ?”
“ผมอ้วนแล้วปวดหัวจังเลยครับหมอ ผมอ้วนแล้วก็ไม่ค่อยอยากขยับตัวด้วย ผมอยากจะกินอย่างเดียว ว่าแต่คุณหมอมีอะไรให้ผมกินบ้างไหมครับ? ผมเริ่มหิวขึ้นมาแล้วเนี่ย ระหว่างที่คุณหมอตรวจ ผมสามารถกินไปด้วยได้ไหม?”
เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์คนหนึ่งพูดแทรกเข้ามาว่า “แต่การตรวจเก้ารอบก่อนหน้านี้ คุณก็กินทุกรอบเลยนะ”
ซูเย่พูดอะไรไม่ออกแล้วจริง ๆ
…
คนไข้เพศชาย อายุ 46 ปี
หลังตรวจสอบพื้นฐานเสร็จเรียบร้อย ซูเย่ก็จดบันทึกอย่างรวดเร็ว
คนไข้มีอาการปวดหัวซีกซ้าย อ่อนเพลีย ง่วงซึมตลอดเวลา
การวินิจฉัยโรค : คนไข้ป่วยเป็นโรคอ้วน และโรคเบาหวานมามากกว่า 20 ปี มีน้ำหนักสูงถึง 103 กิโลกรัม ตัวอ้วน ท้องป่อง หน้าผากนูน ใบหน้าเป็นสีแดงก่ำ มักรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ลิ้นเป็นฝ้าเหลืองมันวาว ตัวลิ้นมีสีม่วงเข้ม ชีพจรแผ่วบาง และลื่นไหล
สาเหตุ : ไขมันอุดตันในเส้นเลือด
การรักษา : สลายไขมันที่อุดตันในเส้นเลือด
ใบสั่งยา : ฉูต้าหวง 4 กรัม, ไหลฟู่จือ 12 กรัม, เฉิงจาโหยว 15 กรัม, เซอหลันซี่เกอ 15 กรัม, โหน่ยเฮี๊ยะ 15 กรัม, เมล็ดชุมเห็ดเทศ 15 กรัม, สาหร่ายทะเล 15 กรัม, เทียนเซียนเถิง 15 กรัม, โกฐเขมา 10 กรัม , ไต่ปั๊กพ้วย 15 กรัม, กุยเจี้ยนหยู่ 15 กรัม, โกฐหัวบัว 10 กรัม, ฝ่าปั้นเซี่ย10 กรัม
แนวคิดการรักษา : ตำราแพทย์แผนจีนกล่าวไว้ว่า มนุษย์เรานั้นมีของเหลวอยู่ในท้องเป็นจำนวนมาก การที่คนไข้มีลักษณะท้องป่อง หน้าผากนูน หมายความว่าร่างกายไม่สามารถระบายของเหลวได้ดีอย่างที่ควร ของเหลวนั้นจึงตกค้างอยู่ในร่างกาย เปลี่ยนสภาพกลายเป็นไขมันในเส้นเลือด หากเกิดอาการไขมันอุดตันขึ้นมา คนไข้ก็อาจเกิดอันตรายได้ถึงขั้นเสียชีวิต ดูจากลักษณะอาการของคนไข้ที่ปวดหัวซีกซ้ายและมีลิ้นสีม่วงเข้ม นี่คือสัญญาณที่บอกว่าเริ่มมีไขมันอุดตันในเส้นเลือดบางส่วนแล้ว เมื่อเกิดการอุดตัน คนไข้จึงมีลักษณะใบหน้าแดงก่ำ เพราะเลือดลมไม่สามารถไหลเวียนได้อย่างสะดวกเหมือนปกติ ด้วยเหตุนี้จึงต้องจัดสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ละลายไขมันในเส้นเลือด บรรเทาอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว และกระตุ้นให้คนไข้กระฉับกระเฉงหลุดพ้นจากอาการง่วงเหงาหาวนอน เมื่อคนไข้นำสมุนไพรเหล่านี้ไปต้มรับประทาน ไขมัน และของเหลวส่วนเกินก็จะถูกละลายขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะ และของเสียในร่างกาย…
เมื่อเขียนจบแล้ว เขาก็ส่งใบวินิจฉัยให้ผู้สังเกตการณ์ดู
การตรวจคนไข้คนสุดท้ายของซูเย่จบลงอย่างเป็นทางการ
…
บนห้องรับรองที่ชั้นสองของตัวตึก
“ผมมั่นใจมากว่าด้วยความเร็วของลูกศิษย์ผมในระดับนี้ เขาจะต้องทำคะแนนเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน”
จางกงอี้พูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจกับคณะอาจารย์อาวุโส “ไม่เชื่อลองนับดูในกลุ่มผู้เข้าสอบดูสิ มีใครใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีบ้าง?”
กลุ่มคณะอาจารย์อาวุโสเพียงยิ้มเล็กน้อยและแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
ลูกศิษย์ของตัวเองเก่งกาจก็เรื่องหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ จะไม่เก่งสักหน่อย!
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครยอมรับช่วงพูดคุยต่อจากคำพูดของตนเอง จางกงอี้ก็หันหน้ากลับมามองที่หลี่เคอหมิงด้วยแววตาท้าทาย พูดพร้อมยิ้มกว้าง
“ผมบอกแล้วใช่ไหมอาจารย์หลี่ ลูกศิษย์ของคุณเพิ่งจะฝึกได้ไม่ถึงเดือน การสอบรอบสุดท้ายเขาคงใช้เวลานานน่าดู น่าเสียดายที่การสอบรอบนี้เป็นตัวเก็บคะแนนตัดสินซะด้วย ยิ่งใช้เวลานานมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งถูกตัดคะแนนมากเท่านั้น” พูดมาถึงตรงนี้ จางกงอี้ก็ไม่ลืมกล่าวเสริมว่า “แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ความแม่นยำในการวินิจฉัยก็สำคัญเหมือนกันนะครับ”
เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
“การสอบรอบสุดท้ายจบลงแล้ว”
เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์โทรศัพท์มารายงานที่ห้องรับรอง