เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 16 เข้าร่วมรายการชุมนุมวิชาการ
บทที่ 16 เข้าร่วมรายการชุมนุมวิชาการ
ทุกคนมองไปทางซูเย่อย่างหมดคำพูด นี่มันใช่เวลาไหม สามวันหลังจากนี้ก็เริ่มอัดรายการช่วงที่สองแล้ว จะเตรียมตอนนี้ยังไม่ทันเลย ยังจะไปอัดรายการอะไรอีก
“คุณมีคุณสมบัติสอดคล้องกับที่ฉันพูดไป?” จ้าวเหมียนเอ่ยถาม
ซูเย่พยักหน้ารับ
“ได้ งั้นคุณไป”
เมื่อเห็นว่าคนอื่นไม่สนใจ จ้าวเหมียนจึงกล่าวกับซูเย่ “พรุ่งนี้เช้าเริ่มอัด เมื่อถึงเวลาจะมีทีมงานติดต่อไป”
“ครับ”
ซูเย่พยักหน้าเข้าใจ
“นายจะไปจริงๆ เหรอ?”
เมื่อทุกคนแยกย้ายกันไป ลวี่อวิ๋นเผิงก็มุ่นคิ้วเดินเข้ามากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “นายไม่เอาเวลาสามวันที่มีอยู่ไปเตรียมตัวสำหรับการแข่งรอบต่อไป แต่กลับไปอัดรายการอะไรก็ไม่รู้เนี่ยนะ?”
“มันก็ต้องผ่อนคลายกันบ้างนี่”
ซูเย่ตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ลวี่อวิ๋นเผิงมองไปทางซูเย่อย่างจนปัญญา
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าซูเย่เก่งมาก และการแข่งครั้งนี้ก็พิสูจน์แล้ว แต่ว่าการแข่งขันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ลวี่อวิ๋นเผิงจริงจังกับการแข่งครั้งนี้มาก และหวังว่าซูเย่ก็จะจริงจังให้เหมือนกับตนเอง แต่ชายหนุ่มในตอนนี้กลับไม่มีความจริงจังแม้แต่น้อย ช่างทำให้รู้สึกจนปัญญาจริงๆ!
ลวี่อวิ๋นเผิงรู้สึกว่าตนเองและซูเย่ไม่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนกันจริงๆ จึงทำได้เพียงหันกายเดินออกไป
…
เช้าวันถัดมา ซูเย่ได้รับโทรศัพท์หนึ่งสาย
เมื่อลงมาล็อบบี้โรงแรม ซูเย่ก็เห็นผู้กำกับจ้าวมารอด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีโปรดิวเซอร์เกาที่เป็นคนสัมภาษณ์ซูเย่ในตอนแรก
“ฉันจะไปกับคุณด้วย พวกเขาก็จะตามไปถ่ายด้วยเช่นกัน จะได้เอาไปใช้ในรายการของเราด้วย”
จ้าวเหมียนเอ่ยบอก แล้วพาซูเย่ไปยังตึกสถานีโทรทัศน์เมืองตี้ตูทันที
เมื่อมาถึงสถานที่ถ่ายรายการ ซูเย่ก็เห็นทีมงานกำลังวิ่งวุ่นกันอยู่
“ที่นี่ก็คือสถานที่อัดรายการชุมนุมวิชาการ ดูเหมือนว่าใกล้จะเริ่มอัดแล้ว”
จ้าวเหมียนชี้ไปยังคนที่กำลังเดินเข้ามา แล้วเอ่ยแนะนำ “คนนี้คือเฉินหลี่ซ่างผู้กำกับรายการนี้ วันนี้เธอก็ทำตามที่เขาบอกก็พอ”
“ครับ”
ซูเย่พยักหน้าเชิงว่าเข้าใจแล้ว
“คุณจ้าว นี่คือคนที่คัดเลือกมาจากรายการของคุณใช่ไหม”
เมื่อพบหน้ากัน เฉินหลี่ซ่างผู้กำกับรายการชุมนุมวิชาการก็หันไปถามจ้าวเหมียนทันที “ความสามารถใช่ได้แน่นะ”
“อะไรคือใช้ได้ใช้ไม่ได้?”
จ้าวเหมียนกล่าวอย่างเบื่อหน่าย “ที่รายการของฉันก็มีแค่เขาคนเดียวที่ยกมือสมัครใจมา มีคนมาก็ถือว่าไม่เลวแล้ว”
เมื่อเฉินหลี่ซ่างได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วทันที
ชุมนุมวิชาการถือว่าเป็นรายการที่เข้มงวดไม่น้อย ไม่ใช่รายการที่จะสุ่มเลือกใครก็ได้ และถ้าหากคนที่เลือกมาไม่มีความสามารถเลย งั้นก็ได้กลายเป็นตัวตลกน่ะสิ! ไม่ได้การ เขาจะต้องทดสอบความสามารถเจ้าหนูนี่ก่อน
“งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน”
เขาหยุดครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วกล่าว “ฉันมีแบบทดสอบอยู่หนึ่งชุด แบบข้อสอบแบบเติมคำเกี่ยวกับกวีนิพนธ์จีน เดี๋ยวฉันจะให้คนไปเอามาให้ลองทำดูก่อน ดูว่าพอจะใช้ได้ไหม ถ้าไม่ไหวก็จะได้ไม่ต้องขึ้นไปขายหน้า”
“โอเคไหม?”
จ้าวเหมียนมองไปทางซูเย่
“ไม่มีปัญหาครับ”
ซูเย่เอ่ยตอบ
ไม่นาน ทีมงานก็นำแบบทดสอบมา
ซูเย่ถูกพามายังห้องรับรองหลังหนึ่งเพื่อทำแบบทดสอบ จ้าวเหมียนและเฉินหลี่ซ่างนั่งคุยกันอยู่ด้านข้าง ซูเย่นั่งพลิกกระดาษคำถาม ทั้งหมดมีสองร้อยข้อ ส่วนมากเนื้อหาเกี่ยวกับบทกวี
ซูเย่อ่านคำถามจบก็ตอบทันที ในเวลาไม่นาน ก็วางปากกาลง
“หืม? เสร็จแล้วเหรอ” เฉินหลี่ซ่างเห็นดังนั้นจึงถามด้วยความฉงน เร็วขนาดนี้เลย?
เมื่อครู่เขาสังเกตซูเย่ตลอดเวลา คิดว่ายังไงจ้าวเหมียนก็คงช่วยหาคนที่มีความสามารถมา ไม่คิดเลยว่าตอนทำข้อสอบเขาจะทำรวดเร็วแบบนี้ ไม่หยุดคิดเลยแม้เพียงอึดใจเดียว
เขาทำเร็วมากเกินไป ความเร็วเกินกว่าคนปกติ!
ถ้าไม่ใช่อัจฉริยะ ก็คงเป็นแค่ไอ้งั่ง!!
เฉินหลี่ซ่างพินิจพิเคราะห์
“ครับ”
ซูเย่พยักหน้า ส่งกระดาษคำตอบไป เฉินหลี่ซ่างก็รับมาตรวจดูทันที เมื่อตรวจเสร็จแล้วแววตาของเขาก็ปรากฏแววประหลาดใจ
ตอบถูกหมดเลยงั้นเหรอ!
“เป็นยังไง”
จ้าวเหมียนเอ่ยถามทันที
“เข้าร่วมรายการได้”
เฉินหลี่ซ่างมองไปยังซูเย่ เจ้าหมอนี่ความสามารถใช้ได้!
จ้าวเหมียนได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจ ยังดีที่ไม่ได้เสียหน้า
“งั้นเดี๋ยวฉันจะอธิบายเกี่ยวกับการถ่ายรายการให้ฟัง”
หลังจากเหลือบมองเวลาและเห็นว่าเกือบจะถึงเวลาบันทึกรายการแล้ว เฉินหลี่ซ่างจึงกล่าวกับซูเย่
“เมื่อการอัดเทปเริ่มต้นขึ้น จะมีคนจากสาขาอาชีพ 5 อาชีพ ได้แก่ เกษตรกร แรงงาน เจ้าของกิจการ อาจารย์ และแพทย์ซึ่งจะขึ้นเวทีตามลำดับ มีผู้ท้าชิงทั้งหมด 5 คน คุณเป็นตัวแทนของสายอาชีพแพทย์และเป็นคนสุดท้ายที่จะได้ขึ้นเวที”
“การอัดรายการนี้ก็เหมือนกับรายการแข่งขันตอบคำถามทั่วไป”
“ขั้นที่หนึ่ง”
“ด่านแรกคือการแข่งตอบคำถาม ทีมผู้แข่งมี 100 คนที่ต้องทำการตอบคำถามพร้อมกับผู้ท้าชิง”
“หากผู้เข้าแข่งขัน 100 คนตอบคำถามผิด แสงไฟหน้าที่นั่งของผู้ตอบผิดจะดับลง ทุกครั้งที่ไฟดับลง จะกลายเป็นคะแนนของผู้ท้าชิง ผู้ท้าชิงแต่ละคนสามารถตอบคำถามได้มากถึงสิบข้อ ถ้าตอบผิด การท้าของคุณจะจบลงทันที”
“สุดท้าย ผู้ที่มีคะแนนรวมสูงสุดในบรรดาผู้ท้าชิงทั้งห้า และผู้เล่นห้าคนแรกที่มีอัตราการตอบที่ถูกต้องสูงสุดในทีมผู้เข้าแข่ง 100 คน จะได้เข้าร่วมการแข่งขันท้าชิงตำแหน่งผู้ชนะของรายการ”
“สำหรับขั้นตอนช่วงหลัง คุณเพียงแค่ทำตามขั้นตอนไปก็พอ ทำได้เท่าไหนก็เท่านั้น”
เฉินหลี่ซ่างอธิบายเฉพาะที่ต้องอัดช่วงแรกเท่านั้น เพราะเขาคิดว่าซูเย่จะไม่สามารถอยู่จนถึงช่วงสุดท้ายได้
ซูเย่พยักหน้าเข้าใจ ขั้นตอนต่างๆ ไม่ได้ซับซ้อนมากนัก
ซูเย่ออกจากหลังเวที มาที่ด้านล่างของเวทีสตูดิโอ ก่อนเฉินหลี่ซ่างจะชี้ไปที่ทางเข้า “รอตอนที่มีคนเรียกชื่อคุณ คุณก็ขึ้นเวทีจากทางนี้ และพิธีกรจะบอกเองว่าให้เดินไปที่ไหนเมื่ออยู่บนเวที”
ซูเย่พยักหน้า เขามองเห็นคนสี่คนยืนเคียงข้างกัน แต่ละคนสวมชุดที่โดดเด่นมาก มีคุณลุงชาวสวนใส่เสื้อตัวโคร่ง สวมหมวกฟาง และรองเท้าบูทขนาดใหญ่ คนงานสวมหมวกนิรภัยและเสื้อผ้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมโรงงาน นักธุรกิจที่สวมสูทสีดำที่ดูดีมีระดับ มองดูแล้วราวกับมีเงินก้อนโต อาจารย์สวมแว่น ใส่เสื้อขาวกางเกงดำ
การแต่งกายของคนทั้งสี่ทำให้สามารถแยกแยะตัวตนได้อย่างรวดเร็ว แต่ชุดที่ซูเย่ใส่เป็นเพียงชุดลำลองธรรมดาเท่านั้น
“พ่อหนุ่มน้อย เธอทำอาชีพอะไรละ”
คุณลุงชาวสวนเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“หมอจีนครับ”
ซูเย่เอ่ยตอบอย่ามีมารยาท
“หมอแพทย์แผนจีนไม่ใช่เสื้อคลุมสีขาวๆ งั้นเหรอ ทีมงานไม่ได้เตรียมให้เอ็งรึ เห็นว่าเขาเตรียมมาให้ลุงหมดเลย ลุงไม่ได้ใส่แบบนี้ที่บ้านหรอกนะ เสื้อผ้าพวกนี้ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ…”
ลุงชาวนาพูดอย่างช่วยไม่ได้
“อาจเพราะผมมาช้าก็เลยไม่ทันเตรียมไว้น่ะครับ”
ซูเย่พูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไร ขึ้นไปเดี๋ยวพิธีกรก็ช่วยแนะนำตัวให้เอง”
คุณลุงชาวสวนพูดยิ้มๆ
“ครับ”
ซูเย่ยิ้มและพยักหน้า
ในขณะนี้การบันทึกได้เริ่มขึ้นแล้ว
“ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการ ชุมนุมวิชาการ…”
แสงไฟพลังสว่างขึ้น เวทีเปิดออกอย่างเป็นทางการ และพิธีกรสาวเดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อดำเนินรายการ
“ก่อนอื่นเลยต้องขอต้อนรับผู้เข้าแข่งขันทั้งหนึ่งร้อยคนของเราด้วยนะคะ”
กล้องหันไปทางด้านข้างที่มีผู้เข้าแข่งร้อยคนนั่งอยู่ทันที ด้านหน้าของพวกเขามีแท่นไฟ LED วางตั้งอยู่ ทุกคนใส่หูฟังไว้ เพื่อป้องกันการกระซิบกันหรือได้ยินคำตอบของผู้อื่นที่อยู่บนเวที พวกเขาเพียงแค่มองหน้าจอที่อยู่บนเวทีตรงหน้าพวกเขาเพื่อทำการตอบคำถามเท่านั้น
“อันดับต่อไป ขอต้อนรับผู้ท้าชิงคนแรกของเรา”
“เขาประกอบอาชีพเกษตรกรรม…”
ภายใต้การแนะนำของพิธีกร ลุงชาวสวนที่ยืนอยู่ข้างซูเย่ก็เดินขึ้นเวทีทันที เขาโบกมือให้ผู้ชมและกล้องด้วยรอยยิ้ม แล้วเดินไปที่ตำแหน่งผู้ท้าชิงตรงกลางเวที
“เอาล่ะ ตอนนี้ฉันจะแนะนำกติกาให้ทุกท่านได้ทราบ สิ่งที่กำลังจะเริ่มต้นต่อไปนี้คือการแข่งขันตอบคำถาม… ถ้าคุณตอบผิด การท้าชิงของคุณก็จะสิ้นสุดลงทันที”
เมื่อพูดจบ พิธีกรก็มองไปที่ลุงชาวสวนที่อยู่ข้างๆ แล้วถามอย่างสุภาพว่า “พร้อมหรือยังคะ?”
“พร้อม”
ลุงชาวสวนยิ้มและพยักหน้า
“เอาล่ะ ผู้ท้าชิงคนแรก เริ่มตอบคำถาม!”
พิธีกรโบกมือ เสียงกลองอันน่าตื่นเต้นดังขึ้นบนเวที จากนั้นคำถามข้อแรกก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่ทันที
“บทกวีเกี่ยวกับ ‘ดอกสาลี่’ ประโยคใดต่อไปนี้หมายถึงดอกสาลี่ที่แท้จริง”
“A.ดอกสาลี่พลันบานสะพรั่งนับหมื่นต้น”
“B.กิ่งผกาสาลี่พิรุณโปรย”
“C.ปิดประตูเรือนฟังเสียงฝนกระทบดอกสาลี่”
คุณลุงตอบพร้อมรอยยิ้ม “ข้อ C”
“คำตอบถูกต้อง”
พิธีกรปรบมือพลางเอ่ย
ในกลุ่มคนหนึ่งร้อยคนก็ยังไม่มีใครตอบผิด
คำถามที่สอง “คุณหวังได้รับการ์ดอวยพร ‘ขอแสดงความยินดีมีเรื่องมงคลได้ทำตราประทับหยก’ ขอถามว่าคุณหวังมีเรื่องมงคลอะไร”
“ฉันตอบ C ภรรยาคลอดลูกชาย”
“คำตอบถูกต้อง”
ในกลุ่มหนึ่งร้อยคนมีคนตอบผิดสองคน พวกเขาถูกดับไฟลงทันที
“ข้อที่สาม”
…
มาถึงคำถามข้อที่หก ที่คุณลุงชาวสวนรู้สึกว่าค่อนข้างยาก
“การประสานมือคารวะ คือการแสดงความเคารพผู้ใหญ่ โดยทั่วไปแล้ว เวลาผู้ชายประสานมือคารวะควร___?”
“A.มือซ้ายอยู่นอก”
“B.มือขวาอยู่นอก”
เมื่อเห็นคำถาม คุณลุงชาวสวนพลันขมวดคิ้วและนิ่งเงียบเป็นเวลานาน เมื่อการนับถอยหลังใกล้สิ้นสุดลง เขาก็ทำการเลือกคำตอบ
“ฉันเลือก ข้อ B”
ทันทีที่พูดจบ ไฟสีแดงปรากฏบนเวทีพร้อมกับเสียงสัญญาณเตือน
“เสียใจด้วยค่ะ คุณตอบผิด คำตอบที่ถูกต้องคือข้อ A มือซ้ายอยู่ด้านนอก”
พิธีกรยิ้มแล้วกล่าว “การท้าชิงของคุณสิ้นสุดลงชั่วคราว โปรดไปที่พื้นที่พักผ่อนเพื่อนั่งรอ คุณจะสามารถไปต่อได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคะแนนของผู้ท้าชิงอีกสี่คนที่เหลือ”
ลุงชาวสวนเดินไปยังพื้นที่พักของผู้ท้าชิง บนหน้าจอแสดงผลคะแนนทันที คุณลุงได้ 50 คะแนน กล่าวอีกนัยคือเขาเอาชนะผู้เข้าแข่ง 50 คนจากหนึ่งร้อยคน
“ผู้ท้าคนต่อไป เขาคือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง…”
การแข่งขันยังดำเนินต่อไป นักธุรกิจกิจหนุ่มได้รับ 50 คะแนนเช่นกัน
“ขอเชิญผู้ท้าคนที่สาม เขาคือกรรมกรผู้ล่ำสันแข็งแรง…”
ชายคนงานได้รับ 63 คะแนน
“ขอเชิญผู้ท้าคนที่สี่ เขาคืออาจารย์ของเหล่านักศึกษา…”
อาจารย์คณิตศาสตร์เดินขึ้นไปบนเวที เขาตอบคำถามอย่างรวดเร็วต่างจากคนจากสาขาอาชีพอื่นๆ หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็ไปถึงคำถามข้อที่แปดและคะแนนของเขานำอยู่ที่ 74 คะแนน
“ ‘เสียงปะทัดกึกก้องหนึ่งปีสิ้นสุดลง ลมวสันต์มอบความอบอุ่นสู่ถูซู ’ คำว่า ‘ถูซู’ นี้หมายถึงอะไร?”
“A.ซูโจว”
“B.เรือนบ้าน”
“C.สุรา”
“D.ธัญพืช”
เมื่อได้ยินคำถามนี้อาจารย์พลันตะลึงงัน เขาไม่รู้คำตอบจริงๆ
“ผมไม่รู้คำตอบข้อนี้จริงๆ ทำได้แค่เดาสุ่มแล้ว… เวลาจุดปะทัดจะจุดที่หน้าบ้าน ลมฤดูใบไม้ผลิไม่น่าจะหมายถึงสถานที่ที่ใหญ่มากนัก เหล้าก็คงไม่ใช่เด็ดขาด ธัญพืชก็ไม่ใช่ งั้นผมเลือกข้อ B เรือนบ้าน!”
ผลปรากฏว่าไฟหน้าแท่นยืนของเขากลายเป็นสีแดง สัญญาณเตือนดังขึ้นอีกครั้งบนเวที คุณครูยิ้มขื่น นี่เขาวิเคราะห์ผิดพลาดงั้นเหรอ?
“น่าเสียดาย คำตอบของข้อนี้คือสิ่งที่คุณคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด… คำตอบคือข้อ C สุรา!”
พิธีกรประกาศคำตอบที่ถูกต้อง คุณครูส่ายหัวพลางหัวเราะเบาๆ และก้าวไปยังพื้นที่พักผ่อนของผู้ท้าชิง
บนเวทีพิธีกรยังคงดำเนินรายการต่อไป
“ผู้ท้าชิงคนสุดท้าย เป็นนักศึกษาสายอาชีพแพทย์แผนจีน”
ในที่สุดก็มาถึงซูเย่
จ้าวเหมียนที่นั่งอยู่ล่างเวทีก็ลุกขึ้นทันทีเช่นกัน ถึงแม้ว่ารายการนี้จะไม่ดังมากนัก ถ้าเขาทำได้ดีก็แล้วไป กลัวแต่ว่าเขาจะทำได้ไม่ดีแล้วส่งผลกระทบต่อรายการอนาคตแพทย์จีนของเขาน่ะสิ
ซูเย่! นายห้ามทำขายหน้าเด็ดขาด
“เขาเป็นหนึ่งในตัวแทนนักศึกษาที่มาเข้าร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีนระดับประเทศ เขามีพื้นฐานที่แข็งแกร่งมากในด้านภาษาจีน และเขายังเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการใหม่ของช่องเราที่ชื่อว่าอนาคตแพทย์จีน ซึ่งจะเปิดตัวโดยผู้กำกับจ้าวของพวกเรานั่นเองค่ะ”
“อนาคตแพทย์จีน เป็นรายการวาไรตี้ที่มีมหาวิทยาลัยแพทย์ 33 แห่งเข้าร่วมการแข่งขัน เป็นโครงการที่สนับสนุนโดยกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข…”
พิธีกรกล่าวแนะนำรายการอนาคตแพทย์จีนอย่างตั้งใจตามแผนที่กำหนดไว้
“ขอเชิญนักศึกษาซูเย่ขึ้นมาบนเวที”
ซูเย่สูดหายใจเข้าลึกหนึ่งเฮือกแล้วเดินขึ้นไปบนเวที