เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 68 สองสาวฝาแฝดไป๋จือหายตัวไป
บทที่ 68 สองสาวฝาแฝดไป๋จือหายตัวไป
ทันใดนั้น ดูเหมือนเจ้าตัวเฉิงหวงจะตกใจกลัวจนหาย ‘วูบ’ กลับเข้าไปในม่านหมอกอีกครั้ง
วินาทีต่อมา หมอกขาวรอบกายซูเย่ก็ค่อย ๆ จางหายไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นเช่นนั้น ซูเย่ก็ต้องประหลาดใจมากไปกว่าเดิม
เขาคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ
ตัวเฉิงหวงยังมีความสามารถเหล่านี้อยู่อีกหรือ ?
ต่อให้มันจะมีหน้าตาเหมือนในเกมทุกกระเบียดนิ้ว แต่ตัวเฉิงหวงของที่นี่ก็ดูจะมีความตื่นตัวและกลัวคนมากกว่าที่อยู่ในเกมหลายเท่า แต่คำถามสำคัญสุดก็คือ มันหายตัวไปได้อย่างไร ?
ซูเย่ตัดสินใจซ่อนเร้นพลังลมปราณของตนเองและนั่งรอคอยอยู่ตรงนั้น!
ในเมื่อที่นี่ยังคงมีตัวเฉิงหวงอยู่ การเดินทางครั้งนี้ก็คุ้มค่าแล้ว
ซูเย่นั่งขัดสมาธิรอคอยอยู่ตรงนั้น
ไม่นานเขาก็พบว่าหมอกขาวเริ่มปรากฏขึ้นในอากาศอีกครั้ง
‘กลับมาแล้วสินะ!’
ซูเย่คิดอยู่ในใจ แต่ไม่ได้พูดออกมา
เขายังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
ห้านาทีผ่านไป หมอกขาวจับตัวหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ
สิบนาทีผ่านไป รอบกายของซูเย่เต็มไปด้วยสายหมอกขาว
15 นาทีต่อมา
หมอกขาวก็โรยตัวปกคลุมหนาแน่นจนมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือรัศมีหนึ่งเมตร
มุมปากของซูเย่บิดตัวเป็นรอยยิ้ม เขารู้ว่าเจ้าตัวเฉิงหวงอยู่ที่นี่แล้ว
ทันใดนั้น
ซูเย่ลงมืออย่างกะทันหัน
ดวงตาของเขาเป็นประกายแวววาว
ชายหนุ่มปลดปล่อยพลังลมปราณออกไปจากร่างกาย!
เป็นไปตามคาด
เมื่อเจ้าตัวเฉิงหวงสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณจากร่างกายของเขา มันก็พุ่งวูบออกมาจากเบื้องหลังหมอกขาวพร้อมกับเขาแหลมที่อยู่บนศีรษะ ซึ่งมีความสวยงามสะดุดตาผู้คนมากกว่าพวกตัวที่อยู่ในเกมหลายต่อหลายเท่า
ตัวเฉิงหวงจ้องมองซูเย่ด้วยดวงตาสว่างไสว
มันเดินอย่างมีความสุขมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าซูเย่ ก่อนจะแลบลิ้นออกมาเล็กน้อย ปรากฏว่ามันกำลังกินพลังลมปราณจากตัวของเขาอยู่นั่นเอง
เมื่อเห็นเช่นนั้น ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“พอได้แล้ว แกชักจะตะกละเกินไปแล้วนะ” เขาลุกขึ้นยืนอย่างปราศจากสัญญาณเตือน
เจ้าตัวเฉิงหวงผงะถอยหลัง แต่ภายใต้ความเย้ายวนของพลังลมปราณ มันก็ค่อย ๆ ก้มหัวลงและเดินเข้ามาหาซูเย่อีกครั้ง
“ดีมาก”
ซูเย่ยิ้มกว้างและยื่นมือออกไป พยายามจะลูบลำคอของตัวเฉิงหวง
แต่กลับปรากฏว่ามันพลันอ้าปากจะงับแขนของซูเย่ด้วยความดุร้ายที่ไม่เคยได้พบเห็นในตัวเกมมาก่อน!
“หืม?”
ซูเย่รีบชักแขนของตนเองกลับมา
มันเห็นเขาเป็นอาหารไปแล้วเหรอเนี่ย?
เจ้าตัวเฉิงหวงส่งเสียงครางในลำคอ ก่อนจะก้มหัวลงกระดิกหางและเหลือบตาขึ้นมาจ้องมองซูเย่ด้วยความหิวกระหาย
“ให้ตายสิ ไม่เห็นเหมือนในเกมสักนิด! แกต้องรู้จักควบคุมความหิวของตัวเองสักหน่อยนะ!”
ซูเย่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหาสัตว์วิเศษซึ่งเคยเป็นพาหนะของเขาในเกม Fantasy Dream
เมื่อได้ขึ้นไปนั่งอยู่บนหลังของเจ้าตัวเฉิงหวงเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ใช้มือข้างหนึ่งจับเขาของมันเอาไว้ และใช้มืออีกข้างตบลงไปที่หัวของมันเบา ๆ
เจ้าตัวเฉิงหวงวิ่งวุ่นไปทั่วอาณาเขตด้วยความเดือดดาล มันพยายามสลัดซูเย่ให้ตกลงจากแผ่นหลัง แต่ถึงจะเร่งความเร็วสุดความสามารถ ชายหนุ่มก็ยังคงอยู่บนแผ่นหลังของมันไม่ได้หายไปไหน
สองมือของซูเย่จับเขาบนศีรษะของมันแนบแน่น
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
เจ้าเฉิงหวงก็หมดฤทธิ์
น่าประทับใจ
ขณะนี้ มันกำลังก้มหัวให้แก่ซูเย่และรับประทานพลังลมปราณที่ปลดปล่อยออกมาจากนิ้วมือของชายหนุ่มอย่างมีความสุข
ดูเหมือนมันจะลืมไปเสียแล้วว่าตนเองเพิ่งถูกเขาจับมาเป็นสัตว์เลี้ยง
“ไม่ต้องห่วงนะ รับรองว่าการติดตามฉัน จะทำให้แกได้ประโยชน์แน่ ๆ”
ซูเย่ยิ้มกว้างและใช้มือตบเบา ๆ ไปที่ลำคอของเจ้าตัวเฉิงหวง ก่อนพูดต่อ “เอาล่ะ พวกเราออกไปสำรวจโลกภายนอกกันดีกว่า”
เจ้าเฉิงหวงพยักหน้ารับคำด้วยความแสนรู้ หลังจากนั้น มันก็พาชายหนุ่มวิ่งออกมาจากอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาไป๋ซานตะวันออก
“ไปทางนั้น”
หลังจากกวาดสายตามองอย่างระมัดระวัง ซูเย่ก็ยกมือชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง
เจ้าเฉิงหวงเคลื่อนไหวตามคำสั่ง
มันมีความว่องไวปราดเปรียว และภายใต้การนำทางของซูเย่ เจ้ากวางวิเศษก็ก้าวเท้าเข้าไปในเขตป่าแห่งหนึ่งของภูเขาใหญ่
นี่คือบริเวณที่ซูเย่ค้นพบหยกปราณธรรมชาติในตัวเกม
แต่เมื่อลองลงมือค้นหา
ทั้งหมดที่เขาได้พบกลับมีเพียงหลุมบนพื้นดินที่ว่างเปล่า
“โดนขุดออกไปหมดแล้วจริง ๆ แฮะ”
ซูเย่กระโดดลงมาจากแผ่นหลังของตัวเฉิงหวงและตรวจสอบร่องรอยการขุดดินอย่างระมัดระวัง
“ดูจากร่องรอยพวกนี้ คงถูกขุดขึ้นไปวันเดียวกับที่เราขุดในเกมแน่ ๆ”
เมื่อคิดได้ดังนี้
ดวงตาของชายหนุ่มก็เป็นประกายแวววาวด้วยความเข้าใจอะไรบางอย่าง
ซูเย่พบว่าตนเองถูกหลอกใช้!
ทุกอย่างที่เขาทำในเกม ทุกอย่างที่เขาค้นพบด้วยตัวเองในเกม Fantasy Dream จะถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลมากระทำซ้ำสองในโลกแห่งความจริงที่นี่!
ช่างใจร้ายกันเหลือเกิน!
ไม่คิดจะให้รางวัลกันซะด้วย!
“สงสัยคงต้องประกาศเรื่องนี้ให้ชาวเกมเมอร์รู้สักหน่อยแล้วสิ อยากรู้จริง ๆ ว่าทางรัฐบาลจะแก้ตัวยังไง”
ซูเย่หัวเราะในลำคอ
ก่อนจะขี่ตัวเฉิงหวงเทพเจ้ามุ่งหน้าไปยังทิศทางป่าน้ำแข็ง
เนื่องจากไม่จำเป็นต้องไปสำรวจบริเวณอื่นแล้ว เขาทราบดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างคงถูกขุดไปหมดสิ้น
ซูเย่เพียงอยากรู้ว่าป่าน้ำแข็งจะมีอันตรายขนาดไหน!
เมื่อมาถึงชายป่าน้ำแข็ง
ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าเข้าไป ซูเย่ก็ต้องหยุดชะงัก
ขมวดคิ้ว
เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงอันตรายที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกข้างหน้า
ในตัวเกม นอกป่าน้ำแข็งก็เป็นเพียงผืนป่าธรรมดา
แต่เขตแดนนอกป่าน้ำแข็งในดินแดนภูผามหานที มีความแตกต่างจากในตัวเกมอย่างสิ้นเชิง
ที่นี่ผืนดินปกคลุมด้วยหิมะและเกล็ดน้ำแข็ง
เกล็ดน้ำแข็งปรากฏอยู่ทุกที่ ไม่ใช่เพียงบนพื้นดิน แต่ยังรวมถึงบนต้นไม้ใบหญ้ารอบบริเวณอีกด้วย
บรรยากาศรอบกายเย็นยะเยียบ
ที่นี่อันตรายมากเกินไปสำหรับผู้ฝึกยุทธ์คนอื่น ๆ
ขนาดเขายังไม่ได้เข้าไปในเขตป่าน้ำแข็งด้วยซ้ำ
ซูเย่จ้องมองลึกเข้าไป
เขารู้สึกว่าในป่าลึกที่อยู่เบื้องหน้านี้ มีบางสิ่งบางอย่างกำลังจ้องตอบกลับมา และมันก็พร้อมที่จะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างได้ตลอดเวลา
ซูเย่สัมผัสได้ถึงพลังลมปราณที่เป็นอันตรายจากในป่าน้ำแข็ง
“แข็งแกร่งมากทีเดียว”
ซูเย่พูด
พยายามก้าวเท้าเดินเข้าไปในป่าน้ำแข็ง
แต่ทันทีที่เดินเข้าไปเท่านั้น
พลังกดดันมหาศาลก็แผ่มากระทบร่างกายพร้อมกับความหนาวเย็นสุดขั้ว
“พลังลมปราณระดับนี้ต้องอยู่ไม่ต่ำกว่าขั้นแปดแน่ ๆ ตอนนี้เราจะไปยุ่งด้วยไม่ได้เด็ดขาด”
ซูเย่สูดลมหายใจลึก
และรีบถอยกลับออกมาจากเขตป่าน้ำแข็ง เตรียมตัวไปสำรวจพื้นที่อื่นต่อ
แต่จังหวะนั้น
“ตี๊ด…”
เสียงการแจ้งเตือนดังขึ้น!
เป็นเสียงที่ดังออกมาจากนาฬิกาอัจฉริยะซึ่งซูเย่สวมใส่อยู่บนข้อมือ
ซูเย่รีบยกนาฬิกาขึ้นมาตรวจสอบ
และเขาก็ได้เห็นข้อความสีแดงกะพริบอยู่บนหน้าจอนาฬิกาว่า : การแจ้งเตือนระดับ 1 !!! ฝูงสัตว์ประหลาดบุกโจมตีเมือง รีบกลับเมืองโดยเร็วที่สุด!!!
“ฝูงสัตว์ประหลาด?”
ซูเย่ถึงกับหยุดชะงัก
ที่นี่มีฝูงสัตว์ประหลาดบุกโจมตีเมืองมนุษย์ด้วยหรือ?
พวกมันไม่กลัวคนเลยหรือไง?
“โฮกกก...”
ทันใดนั้น บังเกิดเสียงคำรามดังกังวานลอยมาตามสายลม
ด้วยเหตุนี้ ซูเย่จึงรีบเดินทางกลับไปยังเมืองมหานครตะวันออกโดยไม่ลังเลอีกแล้ว
และด้วยความที่ขี่เจ้าตัวเฉิงหวง เขาจึงกลับไปได้รวดเร็วมาก
ในขณะนี้
กลุ่มคนจำนวนมากมายืนรวมตัวกันอยู่บนกำแพงเมืองมหานครตะวันออก สายตาของทุกคนจ้องมองไปยังพื้นที่ห่างไกล
“นั่นมันอะไรน่ะ?”
ฉับพลันนั้น ใครบางคนก็ยกมือชี้ไปทางทิศตะวันออก
ทุกคนหันหน้ามองตามมือนั้นไป ก่อนจะได้เห็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายกวางคล้ายหมาป่า กำลังวิ่งตรงมาทางกำแพงเมืองแห่งนี้
“นั่นเหรอสัตว์ประหลาดที่จะโจมตีเมือง?”
“ไม่ใช่! มีคนขี่อยู่บนหลังมันด้วย!”
เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้น
“ว่าไงนะ?!”
ทุกคนล้วนมีสีหน้าตกตะลึง
เนื่องจากบนแผ่นหลังของสัตว์ประหลาดปริศนาตัวนี้ มีใครบางคนนั่งอยู่จริง ๆ
คนผู้นั้นไปนั่งอยู่บนแผ่นหลังสัตว์ประหลาดได้ยังไงกันนะ?
แล้วสัตว์ประหลาดตัวนั้นยอมให้หมอนั่นขึ้นไปขี่อยู่บนหลังได้ยังไง?
“นั่นมันลูกพี่ซูนี่นา!”
ซูชือกับจินฟานที่รีบกลับมายังเมืองมหานครตะวันออกตามการแจ้งเตือน จดจำชายหนุ่มที่กำลังขี่อยู่บนแผ่นหลังของเจ้ากวางยักษ์ได้ทันที พวกเขาตะโกนออกมาด้วยความดีใจว่า “เขาจับตัวเฉิงหวงกลับมาได้อีกแล้ว!”
“ตัวเฉิงหวง?”
“เชี่ย พูดจริงใช่ไหม? ฉันนึกว่าไอ้ตัวนั้นจะมีอยู่แต่ในเกมซะอีก!”
“ในเกมเขาจับได้ว่าน่าทึ่งแล้ว แต่ในโลกความจริงเขายังจับมันได้อีกเหรอ? เขาทำได้ยังไงกัน? แถมไม่โดนมันขวิดตายด้วย? สุดยอดไปเลยนะว่าไหม?”
บรรดาผู้ฝึกยุทธ์หน้าใหม่ของเมืองมหานครตะวันออกพร้อมใจกันอุทานออกมาด้วยความเหลือเชื่อ แม้แต่กลุ่มผู้ฝึกยุทธ์หน้าเก่าก็พูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นใครขี่สัตว์ประหลาดมาก่อน
พวกเขาไม่เคยได้ยินว่ามีใครสามารถทำได้สำเร็จด้วยซ้ำ
ไม่กี่วินาทีต่อมา
ซูเย่ก็ขี่ตัวเฉิงหวงกลับเข้ามาถึงในตัวเมือง
เขารีบพุ่งตรงไปหาพวกของหวังห่าว ซูชือและคนอื่น ๆ ที่ยืนรวมตัวกันอยู่บนกำแพงเมือง
“นายไปเจอตัวเฉิงหวงอีกแล้วเหรอเนี่ย?”
เมื่อเห็นซูเย่ขี่เจ้าเฉิงหวงกลับเข้ามาในเมือง หวังห่าวก็ต้องมองหน้าชายหนุ่มด้วยความตกตะลึง “นายรู้ใช่ไหมว่าต้องไปตามหามันที่ไหน?”
“โชคช่วยต่างหากครับ”
ซูเย่ตอบกลับไปยิ้ม ๆ “ผมแค่เข้าป่าไปสำรวจหาของทั่วไปนี่แหละ รู้ตัวอีกทีก็เห็นมันมายืนจ้องอยู่แล้ว”
หวังห่าวพูดอะไรไม่ออก
ทุกคนรู้สึกอิจฉาซูเย่เป็นอย่างยิ่ง
พวกเขาเองก็อยากขี่ม้า แต่การขี่ม้าในดินแดนภูผามหานทีมันไม่เท่เอาเสียเลย
ดินแดนที่กว้างใหญ่เช่นนี้ จะใช้สัตว์ปกติเป็นพาหนะได้อย่างไร
“อีกเดี๋ยวพวกฝูงสัตว์ประหลาดมันก็จะมากันแล้ว ทุกคนกลับมากันครบแล้วใช่ไหม?”
หวังห่าวกวาดสายตามองกลุ่มคนที่ยืนอยู่ด้านข้างและตะโกนว่า “หน่วยสืบสวนพิเศษประจำเขตมหาวิทยาลัย รวมตัว!”
ทุกคนรีบรวมตัวกันทันที
หวังห่าวเริ่มต้นขานชื่อ
ปรากฏว่า
เมื่อขานมาถึงชื่อของสองสาวฝาแฝดไป๋จือ กลับไม่มีเสียงตอบรับ
ซูเย่ขมวดคิ้ว
เขารีบขี่เจ้ากวางยักษ์ออกสำรวจรอบ ๆ เมือง แต่ก็ไม่พบวี่แววของสองพี่น้องฝาแฝดเลย
ขณะนี้
ทุกคนเริ่มวิตกกังวล
หวังห่าวมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันตาเห็น
ถ้าสองสาวฝาแฝดไป๋จือยังกลับไม่ถึงตัวเมืองก่อนที่พวกฝูงสัตว์ประหลาดจะยกโขยงกันมา รับรองว่าพวกเธอไม่รอดแน่
และอีกไม่นานพวกฝูงสัตว์ประหลาดก็จะมากันแล้ว เวลาเหลือน้อยลงทุกที!
“ฝูงสัตว์ประหลาดคืออะไรครับ?”
ซูเย่ถามออกมาด้วยความสงสัย
“พื้นที่ระดับสี่ไม่ใช่พวกเราที่เป็นฝ่ายครอบครอง”
“ที่นั่นมีอันตรายมากมายก็เพราะฝูงสัตว์ประหลาดพวกนี้นี่แหละ ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมันรวมตัวกันได้ยังไง แต่พวกมันก็รวมตัวกันขึ้นมาแล้ว”
“บางครั้งพวกมันก็จะยกโขยงเข้ามาหากินในพื้นที่ระดับสาม แม้แต่การโจมตีเมืองนี้ พวกมันก็เคยทำมาแล้ว”
“ที่พวกเราต้องสร้างเมืองขนาดใหญ่แบบนี้ ก็เพื่อป้องกันฝูงสัตว์ประหลาดพวกนี้นี่แหละ และว่ากันตามข้อมูลจากทีมสำรวจในพื้นที่ระดับสี่ สัตว์ประหลาดฝูงนี้มีจำนวนเยอะมาก เมื่อพวกมันตัดสินใจบุกโจมตีสิ่งใด รับรองว่าไม่มียอมแพ้ถอยหลังกลับง่าย ๆ เด็ดขาด!”
หวังห่าวอธิบายเสียงเครียด
นั่นยิ่งหมายความว่าสองสาวฝาแฝดไป๋จือกำลังตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น
หลายคนหันมองหน้ากันด้วยความเป็นห่วง
“มีวิธีแจ้งเตือนให้พวกเธอหาที่ซ่อนตัวไหมครับ?”
จินฟานสอบถาม
ทุกสายตาจ้องมองไปที่หวังห่าว
หวังห่าวสูดหายใจลึกและส่ายศีรษะ
ทุกคนก้มหน้าลง
หรือว่าสองเทพธิดาตระกูลไป๋จะต้องมาถูกฆ่าตายเช่นนี้?
“มีใครรู้บ้างไหมว่าพวกเธอออกไปสำรวจแถวไหน?”
ซูเย่พลันถามขึ้นมา
“ตะวันออกเฉียงเหนือ”
ชายหนุ่มคนหนึ่งรีบตอบคำถามทันที “หลังจากที่แยกย้ายกันแล้ว ฉันเห็นพวกเธอมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วฉันเองก็เดินตามไปพักนึงด้วย”
“ตะวันออกเฉียงเหนือ?”
ซูเย่เลิกคิ้วขึ้นสูง
เขตตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่ระดับ 38 ในเกม Fantasy Dream และสัตว์ประหลาดที่อยู่ที่นั่นก็ต้องมีระดับ 38 ด้วยเช่นกัน
หรือว่าพวกเธอจะไปเจอเข้ากับสัตว์ประหลาดระดับ 38 ?
“ส่งโลเคชั่นแถวนั้นมาให้หน่อย เดี๋ยวฉันจะไปตามหาพวกเธอเอง!”
พูดจบ ซูเย่ก็กระโดดขึ้นไปขี่หลังของเจ้าเฉิงหวงเทพเจ้าด้วยความร้อนใจ