เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 72 หยกพลังปราณ 5,000 ก้อน!
บทที่ 72 หยกพลังปราณ 5,000 ก้อน!
คนกลุ่มหนึ่ง เดินไปด้านหน้าพลางสอดส่องสายตาค้นหาเป้าหมาย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในตอนที่พวกเขากำลังรีบรุดมุ่งไปข้างหน้า เงาคนหนึ่งเงาพลันปรากฏเข้าสู่สายตาของพวกเขาจากบนยอดเขาไป๋และคนคนนั้นกำลังขี่เฉิงหวงอยู่!
“ซูเย่!”
เมื่อเห็นเงาอันคุ้นเคยของเฉิงหวงและเจ้านายของมันที่กำลังขี่มันอยู่บนยอดเขา หวังห่าวก็ส่งเสียงเรียกอย่างตื่นเต้น
ความดีใจเอ่อล้นเต็มหัวใจของเขา ….ซูเย่ยังมีชีวิตอยู่ ซูเย่ยังมีชีวิตอยู่!
รอดมาได้ก็ดีแล้ว!
ก้อนหินหนักอึ้งในใจของหวังห่าวสลายตัวลงในที่สุด
เมื่อคนอื่น ๆ ในทีมเห็นว่าซูเย่รอดชีวิตมาได้ พวกเขาก็แทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเอง มีคนรอดชีวิตจากกองทัพมอนสเตอร์จำนวนมหาศาลได้?
ตอนนั้นเขาวิ่งล่อกองทัพมอนสเตอร์วิ่งออกไปนี่น่า…
แล้วสองพี่น้องไป๋ละ?
หวังห่าวนึกถึงสองพี่น้องไป๋ทันที
บนภูเขามีเพียงซูเย่ ไม่เห็นเงาของสองพี่น้องไป๋เลย
เขารีบพุ่งเข้าไปอย่างรีบร้อน
ในตอนที่กำลังจะปีนขึ้นยอดเขาไป๋ สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าก็ทำให้หวังห่าวผ่อนคลายลงอย่างแท้จริง
เขาเห็นเงาคนที่คุ้นตาอีกคนเงายืนอยู่ด้านหลังเฉิงหวง และสองคนนั้นก็คือสองพี่น้องไป๋ แม้ว่าเสื้อยังมีรอยคราบเลือดอยู่บ้าง แต่พวกเธอยังมีชีวิตอยู่!
“ยอดไปเลย ทำเรื่องเสี่ยงตายขนาดนี้ แต่ยังรอดมาได้”
หวังห่าวพุ่งเข้าไปหาพวกเขาทันที สะกดกลั้นความตื่นเต้นและความโมโหเอาไว้ก่อน แล้วเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเย็น
“จะให้ทำไงได้ คนมันเก่งนี่ครับ”
ซูเย่เอ่ยขึ้น
สองพี่น้องไป๋ที่ได้ยินพลันยิ้มแย้ม
“เลิกทำหน้ากวนบาทาได้แล้ว สัตว์ประหลาดตัวนี้อันตรายมาก คนในเขตฮัวตงยังห้ามไว้ไม่อยู่ พูดมา พวกนายรอดชีวิตมาได้ยังไงภายใต้การโจมตีของมัน”
หวังห่าวเอ่ยถามเสียงขรึม
คำถามนี้สำคัญมาก ไม่เพียงแค่เขาที่ต้องถามเท่านั้น แต่หลังกลับเมืองแล้วซูเย่ก็ยังต้องเขียนรายงานขึ้นมา
คนในทีมสำรวจก็แอบเอียงหูฟังด้วย
สองพี่น้องไป๋ก็มองซูเย่อย่างสงสัยเช่นกัน ซูเย่เพิ่งมาถึงที่นี่ และพวกเธอก็ไม่รู้ว่าเขาทำได้ยังไงเหมือนกัน
“เพราะที่นี่ไง”
ซูเย่ยื่นมือชี้ไปทางแดนลับที่อยู่ข้างหลัง
ดวงตาหวังฮ่าวพลันเป็นประกาย รหัสเข้าแดนลับซูเย่เป็นผู้มอบให้ แน่นอนว่าซ่อนในแดนลับปลอดภัยกว่าในเมืองเสียอีก
เจ้าบ้านี่ หัวหมอจริง ๆ!
“ซ่อนในแดนลับก็ถือเป็นวิธีที่ดี”
หวังห่าวพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วเอ่ยถามต่อ “ฉันเห็นนายปรากฏตัวด้านหลังกองทัพมอนสเตอร์ ในตอนนั้น นายดึงดูดมันออกไป แล้วทำไมอยู่ ๆ กองทัพมอสเตอร์ก็ล่าถอยออกไป?”
ทันทีที่ประโยคนี้ออกมา ดวงตาของสมาชิกทีมสำรวจก็หรี่ลง นี่คือประเด็นที่พวกเขาสนใจมากที่สุด
“แน่นอน ว่าเพราะผม”
ซูเย่พูดพร้อมรอยยิ้ม
“เป็นไปไม่ได้!”
หวังห่าวเอ่ยค้าน และกล่าวอย่างจริงจัง “นายเพิ่งขั้นสามระดับสาม ไม่ว่าพลังการต่อสู้จะแข็งแกร่งแค่ไหน นายก็ไม่สามารถเอาชนะกองทัพมอนสเตอร์ทั้งหมดเพียงลำพังได้ หนำซ้ำกองทัพมอนสเตอร์ครั้งนี้แตกต่างจากปกติมาก นายบอกความจริงมา!”
ซูเย่ยักไหล่เบา ๆ พลางเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “คุณลืมไปแล้วเหรอครับว่าผมรับมือคนนับหมื่นด้วยตัวคนเดียวได้ยังไง?”
เมื่อได้ยิน หวังห่าวก็ตื่นตะลึง มองซูเย่ด้วยสายตายากที่จะเชื่อ “นายลวงกองทัพมอนสเตอร์ไปป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง?”
เมื่อได้ยินดังนั้น สมาชิกในทีมสำรวจก็มองซูเย่ด้วยสายที่เหมือนกับมองภูตผีปีศาจ
ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งเป็นสถานที่อะไร ที่นั่นน่ะคือสถานที่ต้องห้าม นายกล้าหลอกล่อมันไปถึงที่นั่น?
“ไม่สิ”
หวังห่าวพลันนึกขึ้นได้ เขาขมวดคิ้วมุ่น ส่ายหน้าพลางเอ่ย “ก่อนหน้านี้ที่เดินผ่าน เขาตั้งใจมองเข้าไปข้างในนั้น พบว่าทุกอย่างปกติดีไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย”
“ถ้าสัตว์ประหลาดน้ำแข็งที่อยู่ลึกในป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งถูกนายปลุกให้ตื่นจริง ต้นไม้ใบหญ้าในป่าจะไม่ได้รับความเสียหายได้ยังไง?”
เขายังจำได้ดี ในเกมที่ซูเย่ใช้กลยุทธ์นี้รับมือกองทัพผู้เล่น ต้นไม้ในป่ามากกว่าเก้าส่วนถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี
แม้ว่าดินแดนภูผามหานทีจะเป็นโลกที่มีอยู่จริง แต่สถานการณ์ที่นี่ก็เหมือนกับในเกม
อันที่จริง… สัตว์ประหลาดยักษ์ที่หลับใหลอยู่ข้างสระน้ำเย็นนั้นแข็งแกร่งกว่าในเกมด้วยซ้ำ!!
ด้วยกำลังของมัน หากถูกปลุกขึ้นมาจริง พลังทำลายล้างที่ปะทุออกมาย่อมไม่ใช่สิ่งที่ป่าเกล็ดน้ำแข็งจะต้านทานได้อย่างแน่นอน
“ถ้าผมบอกว่าตอนที่สัตว์ประหลาดน้ำแข็งยักษ์กำลังจัดการกับกองทัพมอนสเตอร์จำนวนมาก มันก็จงใจใช้ผลึกน้ำแข็งเพื่อปกป้องต้นไม้ในป่าคุณจะเชื่อไหม”
ซูเย่เอ่ยถาม
“มันแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิดไว้มาก”
อะไรนะ?
ทุกคนต่างตกใจเมื่อได้ยิน
ความสามารถของมันแข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?
ตอนนี้สายตาของทุกคนที่มองไปยังซูเย่เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เจ้าเด็กนี่ กล้าไม่เบาเลย
เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าสัตว์ประหลาดน้ำแข็งยักษ์สามารถปกป้องต้นไม้บริเวณโดยรอบระหว่างการต่อสู้ได้ แสดงว่ามันมีความสามารถมากกว่าที่คิด!
และตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาเข้าไปในมหานครตะวันออก ผู้คนต่างบอกว่าสัตว์ประหลาดยักษ์ในป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งนั้นน่ากลัวมาก
ชีวิตมีแค่ชีวิตเดียว ตายแล้วตายเลย แต่ซูเย่ยังกล้าที่จะทำการเคลื่อนไหวดังกล่าว เจ้าเด็กคนนี้กล้ามากเกินไปแล้ว!
“อันที่จริง มีคนเสนอไอเดียนี้มาเหมือนกัน”
หวังห่าวยิ้มอย่างขมขื่นแล้วกล่าวต่อ “ตอนที่ได้รู้ว่ามีกองทัพมอนสเตอร์พวกนี้ ผู้ตรวจการมหานครตะวันออกเสนอให้หลอกล่อมันไปยังทิศทางของป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง”
“แต่ว่าไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ก็ไม่สามารถล่อมันไปถึงที่นั่นได้เลย คิดไม่ถึงว่านายจะล่อมันไปถึงที่นั่นได้”
“น่าจะเป็นเพราะผมพบตัวบงการที่อยู่เบื้องหลัง!”
ซูเย่กล่าวทันที “เมื่อกองทัพมอนสเตอร์มาถึง ผมพบว่ามีสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์อยู่ตรงกลางฝูงมอนสเตอร์และมันเป็นตัวที่กำกับฝูงมอนสเตอร์”
“ผมยังโจมตีสัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์ตัวนั้นหลายครั้ง ก่อนที่ผมจะดึงดูดกองทัพมอนสเตอร์ไป”
ทันทีที่ซูเย่พูดจบ สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
กองทัพมอนสเตอร์มีสัตว์ประหลาดบงการอยู่?
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนหน้านี้ พวกเขามักจะคิดว่าพวกมันรวมตัวกันเองตามธรรมชาติ แต่พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่ามันจะมีตัวที่คอยบงการอยู่!
สัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์ แล้วมันคือมนุษย์หรือสัตว์ประหลาดกันแน่?
ใบหน้าของสมาชิกของทีมสำรวจกลายเป็นเคร่งขรึมทันที ข่าวที่ซูเย่เปิดเผยเป็นข้อมูลที่สำคัญมากและต้องรายงานโดยเร็ว
ซูเย่กระโดดลงจากหลังเฉิงหวง เดินไปด้านข้างของหวังห่าวอย่างรวดเร็ว เขาดึงหวังห่าวออกไปด้านข้าง และถามด้วยเสียงต่ำ “ผลึกปราณของมอนสเตอร์ระดับสี่ธรรมดามีมูลค่าเท่าไหร่?”
“ผลึกวิญญาณของมอนสเตอร์ระดับสี่มีค่าเท่ากับหยกปราณธรรมดาเพียงครึ่งเดียว”
หวังห่าวตอบแล้วเอ่ยเสริม “ความบริสุทธิ์ของพลังงานปราณของผลึกปราณระดับสี่นั้นไม่ดีเท่ากับหยกปราณ ดังนั้นมูลค่าจึงไม่สูงมากเท่าไหร่”
“แล้วถ้าเพิ่มซากศพของมอนสเตอร์ระดับสี่เข้าไปด้วยละครับ?”
“ถ้าแบบนี้ก็เท่ากับหยกปราณหนึ่งก้อนได้”
หวังห่าวพยักหน้า
“สนใจทำการค้าด้วยกันไหมครับ”
ซูเย่เอ่ยพร้อมรอยยิ้มปริศนา
“การค้าอะไร”
หวังห่าวเอ่ยถามอย่างสงสัย
ซูเย่พาหวังห่าวเข้าไปในแดนลับ
ฉากเบื้องหน้าหมุนเปลี่ยนไป ทันทีที่เขาปรากฏตัวในดินแดนลับ หวังห่าวก็เห็นซากศพของมอนสเตอร์จำนวนมหาศาลในทันที
“เห้ย!!!”
เสียงอุทานดังมาจากปากของหวังห่าว
ดวงตาของเขาเบิกกว้างขณะที่เขาจ้องไปยังเบื้องหน้าของเขา เขาไม่คิดว่าซูเย่จะซ่อนศพมากมายที่นี่
“พวกนี้ถูกสัตว์ประหลาดน้ำแข็งยักษ์ฆ่าทั้งหมด?”
หวังห่าวถามอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“ใช่ครับ”
ซูเย่พยักหน้ายืนยันและกล่าวว่า “ผมฆ่าพวกมันบางส่วน มีซากมอนสเตอร์ทั้งหมดมากกว่า 5,000 ตัว เนื่องจากพวกมันได้รับความเสียหายเล็กน้อย ผมให้คุณหมดนี้เลย ส่วนคุณมอบหยกปราณให้ผมแทน”
เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็แบมือไปหาหวังห่าวทันที
หวังห่าวจ้องไปยังซากศพที่อัดแน่นอยู่ข้างหน้าเขาด้วยสีหน้าที่ดูอึ้งค้าง และเมื่อเรียกสติได้
“ฮ่าฮ่า”
จู่ ๆ เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา หวังห่าวตบไหล่ซูเย่เบา ๆ “ยอดเยี่ยมไปเลย ขน แขน ขา กระดูก และเนื้อของพวกมันสามารถใช้เป็นอาวุธหรือยารักษาโรคได้ นายทำได้ดีมาก!”
“จะดีก็ต่อเมื่อหยกปราณมาถึงมือของผม”
ซูเย่กล่าวต่อ “5,000 ก้อน ห้ามขาดแม้แต่ก้อนเดียว”
เมื่อมาถึงขั้นสาม จำนวนหยกปราณธรรมดาที่ต้องใช้เลื่อนขั้นต้องใช้จำนวนมากขึ้น ห้าก้อนสามารถเปิดหนึ่งจุดลมปราณ ส่วนห้าสิบก้อนสามารถทะลวงหนึ่งเส้นลมปราณ
แม้ว่าเขาจะเลื่อนไปถึงขั้นที่สี่และต้องเพิ่มจำนวนหยกปราณในการเลื่อนขั้น แต่ 5,000 ก้อนนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะพุ่งทะยานไปถึงขั้นที่ห้า!
แค่คิดก็มีความสุขแล้ว!
“นายคิดเลขแบบนั้นไม่ถูกหรอกนะ”
หวังห่าวยกยิ้มแล้วกล่าวต่อ “เหตุผลที่นายสามารถเข้าสู่โลกนี้และรับทรัพยากรบนดินแดนนี้เป็นเพราะการลงทุนขนาดใหญ่ของประเทศ ดังนั้นสามในห้าของทรัพยากรที่ได้รับในโลกนี้จะต้องส่งมอบให้ทางการก็เหมือนกับส่งภาษี”
“สามในห้า… เยอะขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
ซูเย่เอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึง “กดราคาเกินไปแล้ว”
“กดราคาอะไรกันเล่า!”
หวังห่าวเหลือบมองซูเย่ “ถ้าไม่มีรัฐบาล นายจะฝึกได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้น นายจะมาถึงโลกนี้ได้ยังไง แล้วไหนจะทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้ที่นี่อีก สามต่อห้าเยอะที่ไหนกัน”
“ยิ่งไปกว่านั้น โลกใบนี้กำลังพัฒนา ถ้าไม่มีทรัพยากรที่เพียงพอ รัฐบาลขอเราก็จะช้ากว่าคนอื่น”
“แล้วอีกเรื่อง กองทัพยังไม่ออกเดินทาง ยุทโธปกรณ์จะต้องตระเตรียมให้พร้อมก่อน ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องการทรัพยากรจำนวนมหาศาล หนึ่งเพื่อกระจายให้ผู้ฝึกยุทธ์ สองคือเพื่อเตรียมพร้อมไว้ในยามจำเป็น”
“เพราะงั้นน่ะ ทางการก็ยากลำบากพอกันแหละ”
เมื่อพูดจบ หวังห่าวก็สูดหายใจลึกหนึ่งเฮือก
“ก็ได้ครับก็ได้ครับ สามพันก้อนก็สามพันก้อน ที่เหลือสองพันก้อนเอามาให้ผมด้วย”
ซูเย่แบมือไปหน้าหวังห่าวทันที
“ไม่รีบร้อน ยังพูดไม่จบเลย”
หวังห่าวเอ่ยต่อพร้อมรอยยิ้ม “นายยังมีเฉิงหวง ถ้าพูดตามหลักการแล้วเฉิงหวงถือว่าเป็นของรัฐบาล ต่อให้นายไม่ไปเรียกมันออกมา จะช้าหรือเร็วยังไงรัฐก็จะหาทางเรียกมันออกมาเอง ในเมื่อนายเรียกมันออกมาแล้ว รัฐบาลก็ไม่ควรไปแย่งชิงใช่ไหมละ แต่ว่านายก็ควรที่จะแลกเปลี่ยนอะไรสักหน่อยไหม?”
“อีกเท่าไหร่ครับ”
ซูเย่เอ่ยอย่างเฉยชา
“ฉันไปสืบมาแล้ว เห็นแก่ส่วนที่นายจ่ายภาษี เฉิงหวงมีราคาเท่ากับหยกปราณ 1,000 ก้อน แต่ในเมื่อมีความดีความชอบในการจัดการกองทัพมอนสเตอร์ คิดนาย 600 ก็ได้”
หวังห่าวเอ่ยราคาขึ้นมาเองโดยไม่รอซูเย่พูดเลยสักนิด แล้วรีบเอ่ยเสริม “ไม่มีพื้นที่เหลือให้ต่อรองราคาแล้ว ถ้ายังต่อราคาอีก ก็เอาเฉิงหวงคืนทางการ”
ซูเย่ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วจริง ๆ
หยกปราณ 5,000 ก้อน พริบตาเดียวเหลือเพียง 1,400 ก้อนแล้ว หนำซ้ำถ้าหัก 1,000 ก้อนไว้เป็นส่วนที่ต้องเอาไว้ซื้อหญ้าปราณให้เฉิงหวง ก็เหลือแค่ 400 ก้อน?
“หักครบหรือยังครับ?”
ซูเย่เอ่ยอย่างหมดอารมณ์พลางแบมือออกไปอีกครั้ง “เอามาได้แล้วมั้ง”
“ยังไม่ครบ”
หวังห่าวยิ้มร่า “นายออกเมืองโดยพลการ ปรับ 100 ก้อน สรุปแล้วฉันให้นายได้แค่ 1,300 ก้อนเท่านั้น”
“ไหนบอกว่าทำได้ดีที่ปราบกองทัพมอนสเตอร์ไง?”
ซูเย่บ่นออกมาอย่างอดรนทนไม่ไหว “เรื่องแค่นี้ยังจะปรับกันอีกเหรอครับ!”
“ความชอบส่วนความชอบ ความผิดส่วนความผิด”
หวังห่าวเอ่ยอย่างชอบธรรมและไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ส่วนตัว “แน่นอนว่า นายเลือกใช้ความชอบหักล้างกับความผิดได้ ฉันจะไม่ปรับหยกปราณ 100 ก้อนก็ได้ แต่ส่วนลดราคาของเฉิงหวงก็จะเป็นโมฆะ นั่นไม่ใช่แค่หยกปราณ 100 ก้อนด้วยนะ นายเลือกเองเถอะ”
“ก็ได้ครับ”
ซูเย่กัดฟันพูด “เอาหยกปราณ 300 ก้อนมาให้ผม ที่เหลืออีกหนึ่งพันขอแลกเป็นหญ้าปราณ ข้อมูลไว้เดี๋ยวผมส่งให้”
“ได้ ไม่มีปัญหา”
หวังห่าวเอ่ยอย่างพอใจ
เจ้าหมอนี่ ได้ไป 1,300 ก้อนก็ถือว่าดีมากแล้ว
เมื่อก่อนฉันน่ะต้องสู้ตายเพื่อหยกปราณก้อนเดียว ในช่วงสองสามเดือนนี้ ทางการถึงได้มีนโยบายกระจายทรัพยากรเพิ่ม ตอนนั้นทำเอาหวังห่าวเจ็บใจจนแทบจะร้องไห้
ในตอนนี้ซูเย่อารมณ์ไม่ดีมาก ๆ ตั้งใจทำงานเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว สุดท้ายดันขาดทุนยับย่อย
“จริงสิ!”
ซูเย่พลันนึกขึ้นได้ “ในหนังในนิยายมันจะมีแหวนที่แบบใช้เป็นพื้นที่เก็บของได้ ในโลกนี้มีบ้างไหมครับ”
“ทำไม? นายอยากเก็บซ่อนของรึไง”
มุมปากของหวังห่าวยกยิ้มขึ้นน้อย ๆ “อย่าฝัน ไม่มี!”
ซูเย่ถอนหายใจ ของดี ๆ แบบนั้นทำไมถึงไม่มี?
เมื่อการค้าเจรจาสำเร็จ สองคนก็ออกจากแดนลับ
ในตอนที่เฉิงหวงลากซากศพมอนสเตอร์ออกมานอกแดนลับ เหล่าสมาชิกทีมสำรวจพลันอึ้งค้าง
นี่… นี่มันเยอะเกินไปแล้ว!!
ทุกคนเดินทางกลับเมืองพร้อมกัน
ในตอนที่เข้าเขตเมือง ชาวเมืองมองดูซากศพมอนสเตอร์จำนวนมหาศาลที่ถูกขนย้ายเข้ามา ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง สีหน้าเปี่ยมด้วยความตกใจ