เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 83 เจ้าเวรกรรมออนไลน์แล้ว
บทที่ 83 เจ้าเวรกรรมออนไลน์แล้ว
“ฆ่ามัน!”
กลุ่มผู้เล่นจำนวนมากรวมทีมกันวิ่งเข้าไปหาฝูงสัตว์ประหลาดอย่างพร้อมเพรียง
ไม่ใช่เพียงกลุ่มผู้เล่นที่มาจากมหานครตะวันออกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มผู้เล่นจากเขตมหานครอื่น ๆ อีกด้วย
เมื่อทอดสายตามองออกไป
ทั้งกองทัพมนุษย์และกองทัพสัตว์ประหลาดกำลังต่อสู้กันด้วยความบ้าระห่ำ
พื้นดินสั่นสะเทือนเมื่อการต่อสู้อันดุเดือดเริ่มขึ้น
บนยอดเขาสูง
ผู้บัญชาการทั้งหกต่างก็เข้าระบบมาล่วงหน้าก่อนสิบนาที เพื่อมารอดูเหตุการณ์นี้โดยเฉพาะ
“เด็ก ๆ จากมหานครเหนือของผมก็ใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย!”
“เด็กพวกนี้ไม่เลวเลย รู้จักร่วมมือกันในเวลาที่สมควร ไม่รู้ว่าครั้งนี้พวกเขาจะต้านทานได้นานสักแค่ไหน?”
“ด้วยจิตใจที่สมัครสมานสามัคคี ก็จะไม่มีอะไรมาหยุดยั้งพวกเราได้อีก! ผมว่าครั้งนี้พวกเราคงพอมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้ว”
ผู้บัญชาการทั้งหกมีสีหน้ายิ้มแย้ม
เทียบกับสถานการณ์เมื่อคืนนี้ นี่คือสิ่งที่พวกเขาอยากเห็นที่สุด
ในสายตาของผู้บัญชาการทั้งหก
เมื่อคนที่มีจิตใจกล้าหาญมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก แม้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นถึงกองทัพสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ แต่คนเรายามกำลังใจดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง
ทว่า ผู้บัญชาการทั้งหกปรารถนาสิ่งใดจากเหตุการณ์นี้?
พวกเขาหวังว่าผู้เล่นทุกคนจะสามารถต้านทานกองทัพสัตว์ประหลาดได้ ใช่หรือไม่?
แน่นอนว่าไม่ใช่!
ผู้บัญชาการทั้งหกรู้ดีว่าช่องว่างระหว่างมนุษย์กับสัตว์ประหลาดมีมากเกินไป
และจำนวนของสัตว์ประหลาดนั้นก็มีไม่มากไม่น้อยไปกว่ามนุษย์ผู้เล่นเกมนี้
ปรากฏว่าสิ่งที่คล้ายการเผชิญหน้ากันระหว่างกองทัพสองฝ่าย และเป็นการต่อสู้อย่างยิ่งใหญ่นั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่เลย
เพียงไม่นานหลังจากที่กองทัพทั้งสองฝ่ายปะทะกัน
กองทัพสัตว์ประหลาดก็กลืนกินกลุ่มผู้เล่นหายวับไปกับตาราวกับเป็นหลุมดำในจักรวาล
สองชั่วโมงต่อมา
หมอกควันลอยในอากาศ
กลุ่มผู้เล่นสามารถต้านทานกองทัพสัตว์ประหลาดได้นานมากกว่าเมื่อคืน
แต่ผลสรุปก็คือ
ทุกคนยังคงถูกฆ่าตายทั้งหมดอยู่ดี…
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบ
ผู้บัญชาการทั้งหกตกอยู่ในความเงียบ
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาประเมินระดับพลังของกองทัพสัตว์ประหลาดต่ำมากเกินไปอีกครั้ง
หรือว่าเมื่อคืนนี้ การที่เทพ X หลอกกองทัพสัตว์ประหลาดเหล่านี้ให้ไปถูกแช่แข็งตาย จะเป็นวิธีการรับมือที่ดีที่สุดแล้ว?
…
ในเว็บบอร์ดของผู้เล่นเกม
“เชี่ย! แบบนี้พวกเราจะเล่นต่อกันไปทำไม? ยังไงก็ตายอยู่ดี!”
“นี่มันสองวันแล้วนะ ฉันทนไม่ไหวแล้ว อยากจะบ้าตายแล้วเนี่ย ทีมงานช่วยปรับระดับความยากลดลงมานิดนึงได้ไหม ยากแบบนี้ใครจะไปเล่นไหว?”
“ใครรู้ที่อยู่ของผู้ผลิตเกมบ้าง เอาที่อยู่ผู้ผลิตเกมมาให้ฉันที!”
“เราไม่ขอเอาของรางวัลก็ได้ แต่ขอแค่ปรับระดับความยากลงมาก็พอ แบบนี้มันยากเกินไป พวกเราไม่รู้ว่าจะเล่นไปเพื่ออะไรอีกแล้ว”
…
ในเว็บบอร์ดของผู้ฝึกยุทธ์
ทุกคนไม่รู้ว่าจะแสดงความคิดเห็นอะไรดี
พวกเขาไม่เคยพบเจออุปสรรคที่ยากขนาดนี้มาก่อน!
แค่ในเกมยังยากขนาดนี้
แล้วในดินแดนภูผามหานทีจะยากขนาดไหน!
พวกเขาไม่อยากจินตนาการเลยว่าในพื้นที่ระดับสี่ของดินแดนภูผามหานทีจะมีสิ่งใดรอคอยตนเองอยู่อีกบ้าง
…
ในกรุ๊ปแชทของสมาชิกกลุ่มถูโช่วจย้าเทียน
เมื่อเห็นผู้เล่นคนอื่น ๆ โอดครวญด้วยความโกรธแค้น สมาชิกกลุ่มทุกคนก็ได้แต่หัวเราะออกมาด้วยความขบขัน
“โชคดีนะที่พวกเราเชื่อฟังคำสั่งของลูกพี่ซู ไม่งั้นถ้าคืนนี้พวกเราเข้าร่วมสงครามด้วย ก็คงได้ตายหยั่งหมาแน่ ๆ”
“นั่นสิ ฉันไม่อยากตายแบบเมื่อคืนอีกแล้ว แม่งโคตรทรมาน”
“ลูกพี่ซูนี่สามารถอ่านสถานการณ์ได้ทะลุปรุโปร่งจริง ๆ ข้าน้อยเลื่อมใสยิ่งนัก”
เพราะเชื่อฟังคำสั่งของซูเย่เป็นอย่างดี คืนนี้ จึงไม่มีสมาชิกกลุ่มถูโช่วจย้าเทียนเข้าเล่นเกมเลยสักคน
ดังนั้น ในกรุ๊ปแชทจึงมีแต่ถ้อยคำสรรเสริญซูเย่
แต่ทันใดนั้น
“หืม?!”
มีคนส่งสติ๊กเกอร์ตกใจเข้ามาในกลุ่ม
“ลูกพี่ซูยังอยู่ในเกมว่ะ เขายังไม่ตายตอนออกสำรวจอีกเหรอเนี่ย!”
“ลูกพี่ยังอยู่รอดอีกได้ยังไง”
“มีคนมาตั้งกระทู้พูดถึงเต็มเลยอ่ะ”
“พวกเราลองเข้าไปอ่านดูสิ”
หลังจากนั้น
ทุกคนก็รีบเข้าระบบไปอ่านข้อความในเว็บบอร์ดสำหรับผู้เล่นเกม Fantasy Dream
และสิ่งแรกที่พวกเขาพบเห็นความเปลี่ยนแปลงก็คือกระดานลำดับผู้เล่น ซึ่งบัญชีผู้ใช้งานของซูเย่นั้นเลื่อนระดับขึ้นมาจาก เลเวล 40 มาเป็นเลเวล 41 แล้ว
ความเปลี่ยนแปลงนี้เองที่ทำให้คนทั้งเว็บบอร์ดตกตะลึง
“เจ้าเวรกรรมยังไม่ตายอีกเหรอ?”
“เมื่อวานนี้เป็นเทพ X วันนี้เป็นเจ้าเวรกรรมว่างั้น?”
“สองคนนี้เก่งมากเลยแฮะ ถ้าเอามาสู้กันใครจะเป็นฝ่ายชนะเนี่ย?”
หลายคนเฝ้าติดตามกระดานลำดับผู้เล่นด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากอยากรู้ว่าคืนนี้เจ้าเวรกรรมจะสามารถอัปเลเวลขึ้นไปได้สักแค่ไหน ไม่ทราบว่าจะสามารถเลื่อนขึ้นไปสูงได้ถึงเลเวล 45 อย่างเทพ X เมื่อคืนนี้หรือไม่?
…
บนยอดเขาสูง
“ตรงนั้น”
เมื่อเห็นผู้เล่นที่มีนามแฝงว่าเจ้าเวรกรรมปรากฏตัว เจียงซาน ผู้บัญชาการมหานครตะวันออกก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยราวกับนี่คือบุคคลที่เขารอคอยมานาน “ในที่สุด เด็กคนนี้ก็ปรากฏตัวออกมาสักที”
“เขาจะทำอะไรน่ะ?”
หลานหลาน ผู้บัญชาการมหานครตะวันตกเฉียงใต้ถามยิ้ม ๆ
“ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ก็คงทำได้ไม่ดีเท่าเทพ X แน่” จ้าวตงหลิน ผู้บัญชาการจากมหานครตะวันตกเฉียงเหนือส่ายศีรษะเล็กน้อย “ผลงานที่สร้างเอาไว้เมื่อคืนนี้ ยังติดตราตรึงใจผมอยู่เลย การเผชิญหน้ากับกองทัพสัตว์ประหลาดพวกนี้ ผมว่าซูเย่คงไม่มีทางทำได้ดีมากกว่าเทพ X หรอก”
“ก็ไม่เสมอไปนะ”
เยี่ยนตี้ ผู้บัญชาการมหานครเหนือยิ้มมุมปาก “ผมรู้สึกได้ว่าเด็กคนนี้มีความพิเศษบางอย่าง”
“ดูต่อไปเดี๋ยวพวกเราก็ได้รู้คำตอบเองแหละ”
อู๋เสี้ยนห่าว ผู้บัญชาการจากมหานครใต้ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ใบหน้าไร้อารมณ์ปราศจากความรู้สึกตั้งแต่ต้นจนจบ
“บางทีเขาอาจจะสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาก็ได้ ใครจะไปรู้?”
จ้าวตงหลิน ผู้บัญชาการมหานครตะวันออกเฉียงเหนือก็ยิ้มออกมาแล้วเช่นกัน
ระหว่างการพูดคุย
ดวงตาของผู้บัญชาการทั้งหกจับจ้องมองไปที่ผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของเขตแผนที่ระดับ 40 ในค่ำคืนนี้
…
โลกแห่งเกม
เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อย ซูเย่ก็ไม่ได้รีบร้อนลงสู่สนามรบแนวหน้า แต่สิ่งแรกที่เขาทำก็คือการขอยืมดาบเวหามาจากจางกงหมิง
เมื่อสามารถบินได้บนท้องฟ้า ก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวพวกฝูงสัตว์ประหลาดบนพื้นดินอีกต่อไป
แต่ปรากฏว่าเมื่อใช้ดาบเวหาเหาะเข้าสู่แผนที่เขต 41 ร่างของซูเย่ก็ร่วงหล่นลงมาบนพื้นดินทันที
ให้ตายสิ!
ไม่ต้องสงสัยอีกแล้วว่าเพราะเหตุใดดาบเวหาถึงมีราคาไม่สูง!
ในเมื่อบินไม่ได้แล้วยังจะมีประโยชน์อะไรอีก?
เมื่อพบว่าดาบเวหาไม่สามารถใช้บินในอากาศได้ตามที่หวัง ซูเย่ก็เปลี่ยนกลยุทธ์มาหลบอยู่ด้านหลังกองทัพมนุษย์ และเฝ้าสังเกตภาพรวมของการต่อสู้ ระหว่างนั้น เขาก็พยายามมองหามนุษย์กิ้งก่าไปด้วย
วันนี้ ซูเย่มีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะค้นพบความลับของกองทัพสัตว์ประหลาดให้จงได้
แต่แน่นอนว่าเขาทำคนเดียวไม่ได้!
จำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากสัตว์ประหลาดน้ำแข็งอีกครั้ง!
ในเมื่อซูเย่ไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปในกองทัพสัตว์ประหลาด เขาจึงต้องทำให้พวกมันถูกแช่แข็งตายไปก่อนสักหลายส่วน ถึงตอนนั้น ชายหนุ่มก็น่าจะมีโอกาสมากพอที่จะได้เห็นตัวมนุษย์กิ้งก่า เพื่อค้นหาคำตอบว่ามันสามารถควบคุมกองทัพสัตว์ประหลาดได้อย่างไร!
ซูเย่ยืนมองกลุ่มผู้เล่นถูกกองทัพสัตว์ประหลาดฆ่าตายคนแล้วคนเล่า
เขาพบว่าการคาดเดาของตนเองนั้นถูกต้อง ถึงผู้เล่นเกมและผู้ฝึกยุทธ์จะรวมตัวกัน แต่มันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดีเมื่อเผชิญหน้ากับกองทัพสัตว์ประหลาดฝูงนี้
จังหวะนั้น เขาก็ค้นพบตำแหน่งของมนุษย์กิ้งก่าโดยบังเอิญ
ซูเย่นำตัวเฉิงหวงออกมา
หลังจากสังหารสัตว์ประหลาดไปกลุ่มหนึ่ง
ชายหนุ่มก็พุ่งเข้าไปหามนุษย์กิ้งก่าด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้น
ครั้งนี้
เจตนาของเขาไม่ได้อยู่ที่การฆ่ามนุษย์กิ้งก่า ไม่ได้อยู่ที่การยั่วโมโหมนุษย์กิ้งก่า แต่เป็นการดึงดูดความสนใจจากมนุษย์กิ้งก่าต่างหาก!
“ย่ะ!”
เมื่อเข้าไปอยู่ในระยะที่สามารถโจมตีมนุษย์กิ้งก่าได้ ซูเย่ก็เหวี่ยงดาบมาตรฐานที่แลกมาตอนเข้าสู่ระบบตวัดฟันออกไปทันที
ขณะนี้ ชายหนุ่มถึงกับเปลี่ยนกระบวนท่าการโจมตี!
วินาทีที่คมดาบสาดประกายวูบ ซูเย่ก็โคจรกระแสพลังพิเศษลงไปในตัวดาบถึง 60 เปอร์เซ็นต์
คมดาบสาดประกายเจิดจ้า
แทนที่จะเป็นการระเบิดรัศมีทำลายล้างในวงกว้าง การโจมตีในครั้งนี้กลับมีเป้าหมายแห่งการทำลายล้างอยู่ที่จุดเดียวคือมนุษย์กิ้งก่าเท่านั้น
ต้องไม่ลืมว่าดาบนี้ ซูเย่ผสมกระแสพลังพิเศษของตนเองลงไปด้วย
ช่างน่าประหลาดใจ
มนุษย์กิ้งก่าไม่ได้สั่งให้ลูกสมุนมาขวางหน้า แต่ตัวมันกลับพุ่งเข้ามาหาซูเย่ด้วยตนเอง
ดูเหมือนมันจะสัมผัสได้ถึงกระแสพลังพิเศษนั้น
“วูบ!”
จังหวะที่คมดาบกำลังจะเข้าถึงตัว มนุษย์กิ้งก่าก็สร้างม่านพลังลาวาขึ้นมาเป็นเกราะคุ้มกันร่างกาย
คมดาบปะทะเข้ากับม่านพลังลาวา แล้วอานุภาพในการทำลายล้างทั้งหมดของคมดาบก็ถูกดูดซับเข้าไปในม่านพลังหมดสิ้น
ในเวลาเดียวกับที่พลังทำลายล้างของคมดาบจางหายไป ดวงตาของมนุษย์กิ้งก่าก็สาดประกายเจิดจ้า
มันกระโดดเข้ามาหาซูเย่
“เรียบร้อย!”
เมื่อเห็นว่ามนุษย์กิ้งก่าไม่ได้ซ่อนตัวอยู่หลังกองทัพสัตว์ประหลาดอีกต่อไป และขณะนี้ มันก็กำลังวิ่งไล่กวดเขามาแล้ว ริมฝีปากของซูเย่ก็บิดตัวเป็นรอยยิ้มโดยไม่รู้ตัว
เมื่อคืนนี้ ซูเย่คิดว่าตนเองพอจะรู้คำตอบแล้วว่าเพราะเหตุใด เจ้าสัตว์ประหลาดน้ำแข็งยักษ์ถึงยอมออกมาไล่ล่าเขาในเขตแผนที่ระดับ 41
“ต้องเป็นเพราะกระแสพลังพิเศษนี้แน่ ๆ”
“นอกจากมันจะดึงดูดตัวเฉิงหวงกับเจ้าสัตว์ประหลาดน้ำแข็งได้แล้ว มันยังดึงดูดมนุษย์กิ้งก่าได้อีกด้วย!”
ดังนั้น ชายหนุ่มจึงขี่ตัวเฉิงหวง มุ่งหน้าตรงไปที่ป่าน้ำแข็ง
ระหว่างทาง
ซูเย่พยายามรักษาระยะห่างระหว่างตนเองกับกองทัพสัตว์ประหลาด และปลดปล่อยกระแสพลังพิเศษออกไปคล้ายกับต้องการใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อปลา นำกองทัพสัตว์ประหลาดมุ่งตรงมาที่ป่าน้ำแข็งเช่นกัน
คราวนี้ เขาไม่ได้หยุดอีกแล้ว
ซูเย่มุ่งตรงเข้าไปหาทะเลสาบที่อยู่ส่วนลึกของป่าน้ำแข็ง
พี่ชาย ผมมีเรื่องมารบกวนอีกแล้ว!
“กร๊าซ!”
กองทัพสัตว์ประหลาดหยุดชะงัก
สัตว์ประหลาดน้ำแข็งลุกขึ้นยืนมาแล้ว
มันเงยหน้าแผดเสียงคำรามใส่ท้องฟ้า
ม่านน้ำแข็งถูกพ่นออกมาจากปากขนาดใหญ่ยักษ์
เพียงพริบตาเดียว กองทัพสัตว์ประหลาดก็กลายเป็นหุ่นน้ำแข็ง
ทันทีที่เจ้าสัตว์ประหลาดน้ำแข็งตื่นขึ้นมา ซูเย่ก็ปิดผนึกกระแสพลังพิเศษของตนเอง และรีบหลบหนีไปพร้อมกับตัวเฉิงหวงคู่ใจ
เมื่อมนุษย์กิ้งก่าเห็นสัตว์ประหลาดน้ำแข็ง มันก็ทำท่าจะหันหลังวิ่งหนีเช่นกัน
แต่ปรากฏว่า
สัตว์ประหลาดน้ำแข็งกำลังจับจ้องมองมาที่มันเขม็ง
มันได้กลิ่นกระแสพลังพิเศษจากตัวมนุษย์กิ้งก่า!
เป็นร่องรอยพลังพิเศษตอนที่ดูดซับพลังทำลายล้างมาจากคมดาบนั่นเอง!
“เปรี้ยง!”
เจ้าสัตว์ประหลาดน้ำแข็งกระทืบเท้า
บรรดาหุ่นน้ำแข็งแตกกระจาย
หลังจากนั้น สัตว์ประหลาดน้ำแข็งยักษ์ก็วิ่งไล่ล่ามนุษย์กิ้งก่าที่กำลังหลบหนี
ไม่ว่าพวกมันวิ่งไปบริเวณใด
พื้นที่ตรงบริเวณนั้นก็จะกลายเป็นน้ำแข็งไปทั้งหมดในรัศมี 100 เมตรทันที
ความหนาแน่นของจำนวนประชากรในกองทัพสัตว์ประหลาดลดน้อยลงจากฝีมือของสัตว์ประหลาดน้ำแข็งยักษ์
ไม่ว่ามันจะปรากฏตัวขึ้นบริเวณใด กลุ่มสัตว์ประหลาดที่ถูกแช่แข็งก็จะค่อย ๆ หายไปอย่างเชื่องช้า
ซากศพของพวกมันหลงเหลือเพียงผลึกวิญญาณแวววาวสะดุดตา
ซูเย่อาศัยจังหวะนี้เข้ามาเก็บผลึกวิญญาณบนพื้นดิน
เขาเก็บพวกมันไปด้วยพลางดูดซับพลังไปด้วย
ไม่นานหลังจากนั้น
วงแหวนสีขาวก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
ในเวลาเดียวกันนี้
กระดานลำดับผู้เล่นก็เกิดความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
เวรกรรม ทำไมถึงตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะ เลเวล 42
หลังจากนั้น
ไม่ถึงหนึ่งนาที
กระดานลำดับผู้เล่นก็รีเฟรซใหม่
เวรกรรม ทำไมถึงตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะ เลเวล 43!
“โอ้โห! ระดับความเร็วในการอัปเลเวลแบบนี้ สู้เทพ X ได้สบาย ๆ เลยนะ!”
“เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ พวกเขาเป็นผู้เล่นระดับเทพ ต้องมีความแข็งแกร่งกว่าคนปกติอยู่แล้ว!”
“ขอถามหน่อยสิ! สองคนนี้เอาชีวิตรอดมาอัปเลเวลได้ยังไง?”
ในเว็บบอร์ด
ทุกคนล้วนตั้งคำถามด้วยความตกตะลึง
…
บนยอดเขาสูง
“ฮ่า ๆๆ”
เมื่อเห็นพฤติกรรมของซูเย่ เจียงซานผู้บัญชาการมหานครตะวันออกก็หัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ “เด็กคนนี้ร้ายกาจมาก”
“เมื่อเทียบกับผู้เล่นที่ชื่อ ‘X’ เมื่อคืน เด็กที่ชื่อซูเย่คนนี้มีความร้ายกาจมากกว่ากันหลายเท่า แถมเขายังมีความรอบคอบมากกว่าด้วย นับว่าจิตใจของเขาอำมหิตใช้ได้!”
หลานหลาน ผู้บัญชาการมหานครใต้ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ไม่หรอก!”
เจียงซานส่ายหน้าด้วยความเข้มขรึม “ที่นี่เปรียบเหมือนสนามรบ ไม่มีคำว่าร้ายกาจหรืออำมหิตในสนามรบ ทุกคนมีเป้าหมายเดียวคือการอยู่รอด ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดก็ตาม ตราบใดที่สามารถเอาชีวิตรอดได้ นั่นก็ถือเป็นเรื่องดีทั้งนั้น!”
ผู้บัญชาการคนอื่น ๆ พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ดูเหมือนเด็กคนนี้จะคุ้นเคยกับดินแดนภูผามหานทีพอสมควร ไม่งั้นเขาคงไม่กล้าทำแบบนี้”
เยี่ยนตี้เอ่ย
“แต่นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น พวกเรามาดูกันเถอะว่า เขาจะทำอะไรต่อไปอีกบ้าง?”