เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 96 ศาสตร์ฉีเหมินตุ้นเจี่ย!
ท่ามกลางกลุ่มคน
ซูชือที่มือเปล่าเห็นเพื่อนร่วมชะตาด้านข้างที่ล้มพับลงไป ดวงตาของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที เขาส่งเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมกับพุ่งทะยานเข้าไป
ความรุนแรงของหมัดที่ซัดออกไปมีแรงขับเคลื่อนจากความโกรธที่ปะทุขึ้นในใจของเขา
พลั่ก!
กำปั้นของซูชือกระแทกเข้ากับมอนสเตอร์ระดับ 41 อย่างรุนแรง ฆ่ามอนสเตอร์ที่ยังคงคลุ้มคลั่งจนตาย!
ไม่ใช่แค่เพียงซูชือเท่านั้น ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ต่างต่อสู้แลกชีวิตกับกองทัพมอนสเตอร์อย่างดุเดือด
“ฆ่า!”
ไป๋จือเหยียนโบกขวานทั้งสองในมือ และฟันมอนสเตอร์ระดับ 30-40 อย่างบ้าคลั่ง ยิ่งฆ่าก็ยิ่งห้าวหาญมากขึ้น แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บแต่ก็ยังไม่ละความพยายาม และก้าวไปเบื้องหน้าอย่างกล้าหาญ
“ทุกคน ห้ามยอมแม้แต่ก้าวเดียว พุ่งเข้าไป!”
จินฟานส่งเสียงตะโกนเรียกความฮึกเหิมให้คนที่อยู่โดยรอบ
เสียงการโจมตีของเฉินเซียนเยว่ และจางจงหมิงที่ได้รับบาดเจ็บ ความกล้าหาญของทุกคนที่สู้สุดชีวิต เสียงอาวุธที่พุ่งเข้าใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ดังก้องอย่างต่อเนื่อง
ผู้เล่นหนึ่งหมื่นคนที่สวมเหรียญตราแห่งเกียรติยศ ผู้เล่นทั้งหมดในเขตมหานครตะวันออก พุ่งเข้าสู่กองทัพอย่างบ้าคลั่ง
บางคนหวาดกลัว
บางคนถอยหลังไปอย่างตื่นตระหนก
แต่มีคนจำนวนมากที่พุ่งไปข้างหน้า!
กลุ่มลูกรักสวรรค์หลายชีวิต เวลานี้ราวกับอสรพิษที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางความมืด แทรกซึมเข้าไปในฝูงมอนสเตอร์อย่างไม่หวาดหวั่น และหาโอกาสโจมตีมอนสเตอร์ระดับสี่อย่างรุนแรงในทันใด
แม้ว่ากำลังคนจะมามาก แต่มอนสเตอร์ก็มีมากไม่ต่างกัน
ในระหว่างการโจมตี มีหลานคนถูกรุมล้อมไปด้วยเหล่ามอนสเตอร์ที่น่าสะพรึงกลัว
มีประกาศอีกฉบับปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
‘ทีมหนึ่งร้อยคน เข้าช่วยเหลือ!’
ผู้เล่นทั่วไปมองไปยังประกาศด้วยความสับสนว่าทีมร้อยคนมาจากไหน
ทว่าในมุมที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ทีมลูกรักสวรรค์ที่แข็งแกร่งกว่าร้อยคนซึ่งเคลื่อนตัวอยู่ในกองทัพมอนสเตอร์ เริ่มปรากฏกายขึ้นในตำแหน่งต่าง ๆ เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้เล่นทั่วไปที่ถูกรุมล้อม และในขณะเดียวกันก็ยังรักษาหน้าที่จัดการมอนสเตอร์ระดับสูงของตัวเองต่อไป
มองจากระยะไกล การก่อตัวของกองทัพพันธมิตรที่มีผู้เล่นจำนวนมากจากหกเขตรวมตัวกัน กำลังเดินหน้าไปอย่างช้า ๆ
ภายใต้คำสั่งของซูเย่ กองกำลังทั้งหมดได้โจมตีกองทัพมอนสเตอร์อย่างต่อเนื่อง เมื่อรวมกับการโจมตีจากภายในสู่ภายนอกโดยทีมลูกรักสวรรค์ที่แข็งแกร่ง กองทัพมอนสเตอร์ก็ค่อย ๆ พ่ายแพ้ต่อกองทัพผู้เล่น
ด้านหลังของสนามรบ ภายใต้การผนึกกำลังของลูกรักสวรรค์ มนุษย์กิ้งก่าตนหนึ่งถูกฆ่าตาย เหลือเพียงสามตัวสุดท้าย
เมื่อเห็นสถานการณ์พลิกกลับ มนุษย์กิ้งก่าทั้งสามรวมกำลังบุกทะลวงออกจากวงล้อมของเหล่าลูกรักสวรรค์ทันที มีมนุษย์กิ้งก่าตนหนึ่งที่สั่งการฝูงมอนสเตอร์ให้โจมตีพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง
ส่วนมนุษย์กิ้งก่าอีกสองตนควบคุมมอนสเตอร์ที่เหลือให้ถอยกลับอย่างรวดเร็ว
เมื่อไม่มีการรบกวนของสัตว์ประหลาดน้ำแข็ง กองทัพมอนสเตอร์สามารถถอยกลับได้อย่างมั่นคง ถอยกลับเข้าไปในพื้นที่ระดับ 40-50 อย่างรวดเร็ว
……
บนยอดเขาสูง
เมื่อเห็นฉากนี้ ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในสายตาของผู้บัญชาการทั้งหก
พวกเขาคาดไม่ถึงว่าซูเย่ไม่เพียงแต่จะอยู่รอดปลอดภัยภายใต้การไล่ล่าของสัตว์ประหลาดน้ำแข็ง แต่ยังหลอกใช้มันเพื่อกำจัดมอนสเตอร์จำนวนมาก ช่วยให้ผู้เล่นคนอื่นได้เปรียบอย่างมาก
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลังจากที่ผู้เล่นตกสู่ความเสียเปรียบในการต่อสู้ที่ดุเดือด ซูเย่ก็ขึ้นไปเป็นผู้บัญชาการด้วยตัวเองทันทีและแปรเปลี่ยนความเสียเปรียบให้กลายเป็นชัยชนะ
ความสามารถในการสั่งการเช่นนี้หาได้ยากยิ่ง มันทำให้ใบหน้าของพวกเขาฉายแววความสุขมากยิ่งกว่าเดิม
และในที่สุดผู้เล่นทุกคนก็ได้เข้าสู่พื้นที่ระดับ 40-50 ได้อย่างสง่าผ่าเผยแล้ว!
……
ในเกม ภายใต้การสั่งการของซูเย่ ผู้เล่นกองกำลังพันธมิตรเดินหน้าไล่ตามและโจมตีกองทัพมอนสเตอร์อย่างต่อเนื่อง
เมื่อมนุษย์กิ้งก่าทั้งสามเห็นเช่นนี้ พวกมันก็หยิบหินสีเขียวออกมาบดขยี้ให้เป็นผงแล้วโปรยไปบนท้องฟ้า
มอนสเตอร์ที่เริ่มสงบลงเล็กน้อยก็ตกสู่สภาวะบ้าคลั่งอีกครั้งในทันใด และโจมตีกองทัพผู้เล่นกลับอย่างดุเดือด
ทว่าภายใต้การจู่โจมที่รุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้พวกมันจำต้องใช้พลังงานอย่างมาก
ส่งผลให้ร่างกายของพวกมันเริ่มทนไม่ไหว
ในการไล่ล่าอันดุเดือด มอนสเตอร์จำนวนมากได้ล้มพับลงเนื่องจากร่างกายทนรับไม่ไหว
ในขณะนี้ กองทัพมอนสเตอร์ที่เริ่มมีอาการดุร้ายในตอนแรกเริ่มปั่นป่วนอีกครั้ง
มนุษย์กิ้งก่าสามตนที่คอยกระตุ้นพวกมันก็ใช้หินสีเขียวหมดไปแล้วเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าพวกมันไม่สามารถกระตุ้นความเกรี้ยวกราดของมอนสเตอร์ได้อีกต่อไป มนุษย์กิ้งก่าทั้งสามจึงตัดสินใจบุกฝ่าวงล้อมออกไปและหนีไปยังส่วนลึกของพื้นที่ระดับ 40-50
ขณะที่ซูเย่กำลังสั่งการ เขายังคงจ้องมองไปที่มนุษย์กิ้งก่าทั้งสามไปด้วย
“ส่งไม้ต่อให้เธอแล้วกันนะ”
เมื่อเห็นพวกมนุษย์กิ้งก่าหนีไป ซูเย่พลันหันไปพูดกับไป๋จือหรานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาทันที “ฉันจะตามพวกมันไป!”
“ได้!”
ไป๋จือหรานพยักหน้ารับ กองทัพมอนสเตอร์ในยามนี้ถูกซูเย่ตีแตกไปแล้ว
สิ่งที่เธอต้องทำก็คือรับช่วงต่อให้ดีเท่านั้น!
ขอเพียงทำหน้าที่ได้ดีในการสั่งการต่อเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น หลังจากนั้นกองทัพมอนสเตอร์ต้องพ่ายแพ้แน่!
หลังจากนั้นซูเย่ก็ไล่ตามมนุษย์กิ้งก่าทั้งสามไปทันที
ไล่ผ่านกองทัพมอนสเตอร์ ไปจนถึงใจกลางของพื้นที่ผจญภัยระดับ 40-50 ซึ่งเป็นที่ตั้งของแดนลับ
ในตอนนี้ มนุษย์กิ้งก่าทั้งสามเปิดประตูสู่แดนลับและเดินเข้าไป
“หืม?”
ซูเย่ผงะไปครู่หนึ่ง ไม่คิดว่าจะเป็นแดนลับแห่งนี้ และที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้นพวกมันรู้รหัสผ่านของแดนลับนี้ด้วย!
เมื่อเขากำลังจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบ ทันใดนั้น ประตูของแดนลับพลันปล่อยพลังปราณที่สับสนยุ่งเหยิง
มนุษย์กิ้งก่าสามตนเดินออกมาจากพื้นที่แดนลับ ในมือแต่ละข้างมีถุงหวายซึ่งบรรจุหินสีเขียวจำนวนมาก
ซูเย่ตกตะลึง
“ดินแดนลับนั้นใช้เป็นที่เก็บหินพวกนี้?”
ทันทีที่พวกมันเดินออกจากดินแดนลับ กิ้งก่าทั้งสามก็บดหินสีเขียวให้เป็นผงและโปรยปรายขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเหล่ามอนสเตอร์
แต่ฉากต่อมากลับทำให้พวกมันตกตะลึง
เมื่อพวกมันโปรยผงหินสีเขียวไปจำนวนมาก กองทัพมอนสเตอร์ที่เหลืออยู่เข้าสู่สภาวะคุ้มคลั่งอีกครั้ง แต่ในเวลาเดียวกันกับที่มอนสเตอร์กำลังเข้าสู่สภาวะบ้าคลั่ง พวกมันก็ล้มลงกับพื้นโดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้เล่นโจมตีเลย
ภายใต้การกระตุ้นของผงหินสีเขียว มอนสเตอร์ที่ทนรับไม่ไหวตายไปมากกว่าครึ่ง
การกระตุ้นที่มากเกินพอดีทำให้ร่างกายของพวกมันทนรับไม่ไหว
เมื่อเห็นมอนสเตอร์จำนวนมากตายตกไป กองทัพผู้เล่นยิ่งฮึกเหิมมากกว่าเดิม
ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม!
ทุกคนออกโจมตีอีกครั้ง ลูกรักสวรรค์ออกจากสนามรบและเข้าไปล้อมรอบมนุษย์กิ้งก่าสามตนที่เหลือทันที
ทว่ามนุษย์กิ้งก่าไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย พวกมันมองหน้ากันไปมา แล้วใช้ภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่องพูดคุยอะไรบางอย่างกัน
เมื่อเห็นพวกมันยืนเฉย พวกเขาก็ไม่รีรอ
“ฆ่า!”
พวกเขาส่งเสียงตะโกนพร้อมกัน
จากประสบการณ์ในดินแดนภูผามหานที เพื่อนพี่น้องของพวกเขาหลายคนไม่เคยได้กลับออกมาอีกเลยเพราะพวกกองทัพมอนสเตอร์
ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็พบต้นตอที่มาของพวกมัน และในที่สุดก็พบโอกาสที่จะล้างแค้นให้พี่น้องของพวกเขา
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงโลกจำลอง ทว่าความแค้นในใจของพวกเขามิอาจลบเลือน!
“ฆ่า”
พวกเขาพุ่งทะยานไปหาพวกมนุษย์กิ้งก่าทั้งสามตนทันทีตามคำสั่งของซูเย่
แต่ในตอนนี้เอง มนุษย์กิ้งก่าทั้งสามกลับเปิดใช้ค่ายกลพร้อมกัน ทำให้แสงพลังปราณสีเหลืองจากดินปรากฏขึ้นใต้เท้าของพวกมัน และแถบแสงที่ยื่นออกมาจากดินเหล่านี้ก็เชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว ก่อตัวเป็นรูปแบบของค่ายกล
วินาทีต่อมา
พรึ่บ——
พลังงานสีเหลืองใต้ฝ่าเท้าพวกมันเปล่งประกาย มนุษย์กิ้งก่าทั้งสามหายตัวไปในทันที บนพื้นไม่มีอะไรเหลืออยู่และมันก็หายไปในพริบตา
ฉากนี้ทำให้ซูเย่ที่กำลังจ้องมองไปที่พวกมนุษย์กิ้งก่าอยู่ตลอดเวลาตะลึงงัน
“เกิดอะไรขึ้น?”
“พวกมันหายไปไหนแล้ว พวกมันหายไปได้ยังไง”
“ทำไมมันถึงหายไปล่ะ”
ในชั่วพริบตา ทุกคนหันมองไปรอบ ๆ เพื่อหาร่องรอยของมนุษย์กิ้งก่าทั้งสาม ซูเย่รีบไปยังตำแหน่งที่มนุษย์กิ้งก่าทั้งสามหายตัวไปและสำรวจอย่างระมัดระวัง
ซูเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“นี่คือศาสตร์ฉีเหมินตุ้นเจี่ย*[1]!”
ซูเย่สัมผัสได้ถึงพลังปราณของธาตุดินที่เข้มข้นมาก
ในสมัยโบราณมีหลายคนที่สามารถใช้ศาสตร์นี้ได้ มันเป็นการหลบหนีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดมาโดยตลอดซึ่งเขาพอจะรู้เกี่ยวกับมันมาบ้าง
กว่า 2,000 ปีที่แล้ว เขาบังเอิญได้เรียนรู้ศาสตร์นี้อย่างผิวเผิน และหลังจากการศึกษามันมาถึง 2,500 ปี ตอนนี้ถือได้ว่าเขาประสบความสำเร็จมาบ้าง แต่มันต้องใช้พลังปราณจำนวนมาก จึงไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถใช้ได้ในระดับความสามารถตอนนี้
ด้วยเหตุนี้ ศาสตร์นี้จึงใช้ตบตาเขาไม่ได้
เพียงแต่ในปัจจุบัน ศาสตร์นี้ไม่เป็นที่นิยมนักและสูญหายไปนานแล้ว
มันปรากฏในดินแดนภูผามหานทีได้อย่างไร?
ดินแดนภูผามหานทีมีความเกี่ยวข้องอะไรกับสมัยโบราณบนโลกมนุษย์?
ความสงสัยต่าง ๆ นานาประเดประดังเข้ามาในสมองของซูเย่โดยพลัน
เขายังคงตามมันต่อไปด้วยความสงสัยที่เปี่ยมล้น แล้วเปิดใช้นาสาสวรรค์ทันที เพื่อตามกลิ่นของพลังงานธาตุดินที่ปล่อยออกมาจากพวกมัน ชายหนุ่มเริ่มไล่ตามมันไปอย่างรวดเร็ว
ภายใต้การไล่ตามอย่างรวดเร็วโดยการขี่เฉิงหวง ซูเย่มาถึงป่าหินขนาดใหญ่ที่อยู่ลึกเข้าไปในพื้นที่ระดับ 40-50
ทันทีที่ซูเย่มาถึงป่าหิน เขาก็ได้ยินเสียงขุดแร่หิน ชายหนุ่มจึงเก็บเฉิงหวงไปทันที พยายามอำพรางกาย และมุ่งหน้าไปยังที่มาของเสียงดังกล่าว
ในเวลาไม่นาน ซูเย่หยุดฝีเท้าที่หลังหินก้อนใหญ่ แล้วค่อย ๆ โผล่ศีรษะมองออกไป ก่อนที่สายตาของเขาจะปะทะเข้ากับมนุษย์กิ้งก่าสามตัวนั้นจริง ๆ
ในเวลานี้ มนุษย์กิ้งก่าทั้งสามอยู่ในใจกลางป่าหิน และพวกมันกำลังขุดดินอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่ากำลังขุดอะไรบางอย่าง
ในตอนที่เขากำลังสงสัย มนุษย์กิ้งก่าตนหนึ่งเอื้อมมือออกไปและหยิบหินสีเขียวใสออกมาจากหลุมที่เพิ่งขุดลงไปบนพื้น
ซูเย่พลันชะงักค้าง หินสีเขียวนั่นต่างหากที่ส่งผลต่อมอนสเตอร์!
เป็นไปได้ไหมว่าหินสีเขียวมาจากใต้พื้นดิน?
ในไม่ช้า ซูเย่ค้นพบว่าหลังจากที่มนุษย์กิ้งก่าทั้งสามได้ขุดหินสีเขียวจำนวนมาก หินเหล่านั้นก็ถูกลำเลียงไปยังทางเข้าของดินแดนลับนอกป่าหินอย่างรวดเร็ว
หินสีเขียวทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกนำเข้าสู่แดนลับ!
“นี่คือแดนลับที่อยู่ตรงกลาง!”
ซูเย่หรี่ตาลงเล็กน้อย
เขารู้สึกถึงพลังปราณที่เล็ดลอดออกมาจากประตูแดนลับแห่งนี้ ซึ่งเหมือนกับพลังปราณของประตูที่แดนลับตรงบริเวณจุดศูนย์กลางระดับ 40-50
กล่าวอีกนัยหนึ่ง… ประตูแดนลับทั้งสองคือประตูแดนลับแห่งเดียวกัน! และประตูบานนี้คือประตูหลังของแดนลับที่ว่านั่น
ในตอนนี้ กิ้งก่าสามตนเดินออกจากแดนลับ เดินเข้าไปในป่าหินอีกครั้ง และขุดแร่หินต่อไป
“พิกัด: ศูนย์กลางของพื้นที่ระดับ 4 อยู่ห่างจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 3 กิโลเมตร อย่าส่งเสียงดัง นำคนไปซุ่มโจมตี”
ซูเย่ส่งข้อความหาถังอี้ทันที
[1]ฉีเหมินตุ้นเจี่ย 奇门遁甲 คือศาสตร์ลึกลับของจีนมาแต่สมัยโบราณ เป็นวิชาที่สามารถแตกออกได้หลายแขนงและมีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก สามารถใช้ได้ในการหลบหนี การทำนาย ฯลฯ