เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 170
ตอนที่ 170 การพบปะอันน่าตื่นตะลึงแห่งตระกูล
มิง 1
“ๆ เด็กคนเจียงฮุ่ยซินหัวเราะอย่างระมัดระวัง ด้วยความกลัวว่าจะเผลอพูดอะไรผิดไป
โม่มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นของมิงเจิ้งเทียน ดวงตาดำลึกฉายแววไม่พอใจนัก จึงซักถาม อย่างเบาๆ ทว่าน้ำเสียงเย็นชา “พ่อคิดจะชดใช้อะไรให้ พวกเขา?”
โม่ซักถามขึ้นเสียงหนึ่ง ต่อหน้าทุกคน ทำให้คุณ ท่านรู้สึกเสื่อมเสียเกียรติ แต่ก็ยอมลงให้ไม่ได้ ดังนั้นจึง กระแทกไม้เท้าอย่างดุดันลงบนพื้นด้วยความโกรธและเสีย หน้า “เหลวไหล! ฉันจะชดใช้พวกเขาอย่างไรก็เป็นเรื่อง ของฉัน! ให้สิทธิ์ถือครองหุ้นแกไปแล้วยี่สิบ เปอร์เซ็นต์ แล้วแกยังคิดจะฮุบทุกอย่างไม่เหลืออะไรไว้ เลยเรอะ?!”
ดวงหน้าหล่อเหลานิ่งสนิทของเป่หมิงโม่ กวาดสายตาไป
ยังเป่ยหมิงเฟยหย่วนอย่างเย็นชา
โดยไม่ตอบรับคำคุณท่าน เขาเลื่อนสายตาจ้องตรงไป ยังฉิงฮัว “ไปหยิบเอกสารมาให้เขาเซ็น”
เป็หมิงเฟยหย่วนได้ยินคำว่าเอกสาร สีหน้าตกใจจนซีด
เผื่อด
ฉึงฮัวพยักหน้า หยิบเอกสารปีกหนึ่งออกมาจากซอง ยื่น ส่งให้ยังมือเป้หมิงเฟยหย่วน “คุณชายใหญ่ นี่คือสัญญา โอนหุ้นส่วนยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทเป็หมิง เชิญคุณเซ็น ชื่อด้วยครับ”
“พ่อ….”เป่ยหมิงเฟยหย่วนขัดขืนเล็กน้อย หันไปมองพ่อ อย่างออดอ้อน แม้ว่าพ่อจะเล่าสถานการณ์ให้เขาฟังตั้งแต่ ต้นจนจบแล้ว และเข้าใจเหตุผลที่ตัวเองสามารถกลับมา บ้านได้อย่างปลอดภัย แต่หากต้องโอนกรรมสิทธิ์ถือครอง หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์นี้ ใจของเขากลับยังเต้นระรัวราวกับตี กลอง..”
อีกอย่าง หากเซ็นลงไป ย่อมหมายความว่าเขาสูญเสีย หุ้นในบริษัทเป่หมิงทั้งหมด พ่ายแพ้ต่อเป่ยหมิงโม่อย่าง
ราบคาบ!
หลันเนี่ยนอยู่เคียงข้างเป่ยหมิงเฟยหย่วน ยังหน้าซีดเผือด แต่ด้วยฐานะสะใภ้ ในสถานการณ์ที่ฝ่ายชายตัดสินใจเป็น หลักอย่างนี้ เธอจึงไม่กล้าพูดอะไร
ท่านปู่เป้หมิงเบิ่งตาโตพ่นลมหายใจแรง ทว่าเพียง โบกมืออย่างปัดสวะ “เซ็นไปซะเจ้าใหญ่ พ่อจะชดใช้ให้ พวกแกเอง…”
เป่ยหมิงเฟยหย่วนทำใจกล้ารับปากการที่ฉิงฮัวส่งให้ ด้วย มือสั่นเทาลังเลอยู่ชั่วขณะทว่าสุดท้ายกลับจรดปากกาไม่
ลง.
หลันเนี่ยนเกาะแขนเป่หมิงเฟยหย่วนเอาไว้ แอบดึงรั้ง การจรดปากกาเซ็นชื่อของเป่ยหมิงเฟยหย่วนอยู่ในที่ ขณะ เดียวกันก็มองไปยังนอกประตูอย่างหวาดหวั่น ราวกับเฝ้า รออะไรสักอย่าง ทว่าไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา
มุมปากของเป่ยหมิงโม่ยกขึ้นเล็กน้อย มองท่าทีกดดันของ เป็หมิงเฟยหย่วน แล้วอดหัวเราะเยาะขึ้นมาไม่ได้ “เป็น อะไรไป จะกลับคำเหรอ?”
เป้หมิงเฟยหย่วนมองยังเป่ยหมิงโม่ สายตานั้นเปี่ยม ด้วยความขุ่นเคือง จับปากกาพะว้าพะวังไม่กล้าลงมือ
ท่านปู่เปหมิงร้องขึ้นด้วยความโมโหเดือดดาล “เจ้าใหญ่ แกโยนความผิดมาให้ฉันเสียก็ได้! เซ็นชื่อลงไปซะ ยกให้ มันไปให้หมด จากนี้ไปมันจะได้เลิกกัดแกไม่ปล่อยเสียที-”
ในฐานะที่เป็นลูกๆ ของพ่อ จะหลังมือหรือหน้ามือก็ยัง
เป็นเนื้อหนัง เป้หมิงเจิ้งเทียนคิดว่ามีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ทั้ง
ครอบครัวจึงจะสมัครสมานสามัคคีกันได้ เขาอายุมากแล้ว อยากเห็นลูกหลานห้อมล้อมกลมเกลียวกัน ไม่อยากให้ลูก คนโตระหกระเหินอยู่ข้างนอกอีกต่อไป เป้หมิงเฟยหย่วนกำหมัดแน่น พลางกัดฟันกรอด กลั้นลม หายใจเฮือกหนึ่งแล้วจับปากกามั่นไว้ในมือ เพ่งมองกำลัง
จะเซ็นชื่อลงไป
ทันใดนั้น ทางลานด้านนอกปรากฏเสียงรถเบรกเสียง แหลมดังเสียดแทงแก้วหู
คล้ายกับว่ามีรถบุกรุกเข้ามากะทันหัน ด้านนอกคฤหาจึงร้อนรนขึ้นมาชั่วขณะ
ต่างได้ยินเพียงคนรับใช้ตะโกนเสียงดัง
ปากกาของเฟยหย่วนร่วงหล่นลงสู่พื้น หลันเนี่ยนตื่นเต้นจนแทบจะร้องไห้ออกมา “ยี่เฟิงมาแล้ว พ่อคะ ยี่เฟิงมาแล้ว….
ร่างของเป้หมิงเจิ้งเทียนสั่นสะท้านด้วยความตกตะลึง “ยี่ เฟิงเจ้าเด็กนั่น ก็กลับมาด้วยรี?”
“ใช่ค่ะ เขาบอกว่าอยากทำให้คุณพ่อประหลาดใจ” หลันเนี่ยนพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น ฝ่ามือข้างที่รั้งเป่ห มิงเฟยหย่วนล้วนชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เจียงฮุ่ยซินเองก็ประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ถอนหายใจ อย่างโล่งอก “ฉันไม่เห็นยี่เฟิง เจ้าเด็กคนนั้นมาหลายปีแล้ว เจิ้งเทียน ดูท่าคืนนี้คุณคงจะดีอกดีใจจนนอนไม่หลับล่ะ
ใครจะรู้ว่า สายตาเย็นชาของหมิงโม่เมื่อครู่กลับดุดัน ยิ่งขึ้น แววตาแข็งกร้าวเลื่อนลงไปยังปากกาที่ร่วงหล่นลง บนพื้น เขาเอ่ยขึ้นกับฉิงฮัว-
“หยิบปากกาขึ้นมา ให้เขาเซ็นซะ!”
ฉิงฮัวสะดุ้ง ลนลานเก็บปากกาของเฟยหย่วนที่ ร่วงหล่นลงบนพื้น แล้วยื่นใส่มือเป่หมิงเฟยหย่วนอีกครั้ง “คุณชายใหญ่ กรุณาเซ็นชื่อด้วย!”
ครั้งนี้ ฉิงฮัวเน้นน้ำเสียงหนักขึ้น แฝงคำเตือนอย่างชัดเจนด้วยหวังว่าคุณชายใหญ่เปหมิงจะเข้าใจ ว่าเจ้านาย ไม่มีความอดทนมากนัก
เปหมิงเฟยหย่านมือสั่นเทา รับปากกาจากฉิงฮัว ด้วย นิสัยอ่อนแอทำให้เขาไม่กล้าขัดขืนเป่หมิงโม่ ยิ่งเมื่อเป่หมิง โม่จ้องมองด้วยสายตาดุดัน แต่เขาไม่สมัครใจจะทำเลย จริง ๆ..
ขณะที่เป่ยหมิงเฟยหย่วนกำลังเหงื่อแตกพลัก ปากกา กำลังจรดลงบนกระดาษสัญญา เสียงตะโกนของเด็กหนุ่ม
ก็ลอยเข้ามาทันเวลา-
“เซ็นไม่ได้นะ!”
สิ้นเสียงนั้น ทุกคนที่อยู่ภายในห้องล้วนเลื่อนสายตา มายังชายหนุ่มผิวขาวที่ก้าวเข้ามาข้างใน รวมทั้งหญิงสาว ที่เขากุมมือไว้..
ยี่เฟิงกุมมือกู้ฮอน ก้าวเข้ามายังคฤหาสน์ตระกูลเป่หมิง 2 ท่ามกลางประจักษ์พยานต่อหน้าสายตาผู้คน!
ท่านปู่เป่ยหมิงชะงักงันไปชั่วขณะ เจียงฮุยซินขมวดคิ้ว
เข้าหากันเล็กน้อย
ดวงตาของเป่หมิงโม่เยียบเย็นขึ้นมาในทันใด!
เห็นได้ชัดว่ากู้ฮอนที่ถูกยี่เฟิงดึงตัววิ่งเข้ามา ยังไม่ทันได้ อธิบายเรื่องราวอะไร ก็พึมพำกระซิบเสียงเบาอยู่ข้างหูกู้ ฮอน “ยี่เฟิง เธอจับมือฉันแน่นจนเจ็บแล้ว….”