เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 202 สร้อยคอกลับคืนสู่เจ้าของ1
- Home
- เดิมพันรักยัยตัวแสบ
- เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 202 สร้อยคอกลับคืนสู่เจ้าของ1
ตอนที่ 202 สร้อยคอกลับคืนสู่เจ้าของ1
“คุณชายรองแห่งตระกูลเป่หมิงคะ ถ้าคุณทำไม่ได้ ก็ไม่ต้อง มาขวางทางฉัน ฉันมีสิ่งที่ฉันต้องการเหมือนที่คุณก็มีสิ่งที่คุณ ยึดมั่น แล้วคนระดับคุณ อยากได้ผู้หญิงแบบไหน แค่กระติก นิ้วทีเดียว ก็มีผู้หญิงกรูเข้ามาหาคุณแล้ว แล้วทำไมคุณถึงไม่ ยอมปล่อยฉันไปสักที?”
ประโยคนี้กลับสร้างความเจ็บปวดให้กับเป่ยหมิงโม่อย่าง คาดไม่ถึง
เขามองเธอที่มองออกไปยังนอกหน้าต่างนั้น อย่างอด สงสัยไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงแหบพร่านั้น “แล้ว ทำไมในบรรดาผู้หญิงมากมายเหล่านั้นถึงไม่มีคุณ! ทำไมถึง อยากแต่งงานนัก? เราเป็นเหมือนเมื่อก่อน ก็ดีมากอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอ..”
“ดีงั้นเหรอ?” เธอหัวเราะอย่างขมขื่น “วันไหนอารมณ์ดีก็ ให้สร้อยคอเส้นหนึ่ง วันไหนเกิดอารมณ์เสียขึ้นมา ก็มาลง กับฉัน อยู่ดีๆก็มาฉีกกางเกงฉัน เพื่อระบายความต้องการ ของตัวเอง เป้ หมิงมู่ คุณเห็นฉันเป็นอะไร? เป็นสัตว์เลี้ยงที่ คุณเลี้ยงไว้อย่างงั้นเหรอ?!”
นัยน์ตาดุดำขลับมีแววอ่อนลง เขาถึงกับพูดไม่ออก
กู้ฮอนหันหน้าหนี พร้อมน้ำตาแห่งความเสียใจใหลพราก ลงมาเป็นทาง
มือน้อยสั่นเทาล้วงเอาสร้อยคอออกมาจากคอเสื้อ
สร้อยสเตนเลสคุณภาพดีเส้นนี้เป็นสร้อยที่เธอใส่ติดตัวมา ตลอด แต่กลับลืมถอดคืนให้เขา
เธอเม้มปากและใช้นิ้วกระชากมันจนขาด
ตึก-
สร้อยคอถูกกระชากจนขาดพร้อมบาดเข้าที่คอของเธอจน
ถลอก
เธอกำจี้สเตนเลสชั้นดีนั้นอย่างแน่น ก่อนจะเขวี้ยงใส่มือ เขาอย่างแรง “เป่หมิงโม่ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันตอนอยู่บาเซ โลน่า..แต่ ฉันคิดว่า ฉันคงไม่เหมาะที่จะครอบครองสร้อย เส้นนี้ ตอนนี้ฉันขอคืนมันให้กับคุณ เราไม่มีอะไรติดค้างกัน
อีก!”
จี้แวววาวระยิบระยับเม็ดนั้น ตกลงกลางฝ่ามือเขาพอดี
จี้ยังอบอวลไปด้วยไออุ่นจากตัวเธอ
เขารู้สึกเหมือนถูกบีบที่หัวใจ
ทันใดนั้น เธอก็ทุบตีประตูรถอย่างเดือดดาลพร้อมตะโกน บอกให้ฉิงชั่ว “จอดรถ! ฉันจะลง”
เอี้ยด – เสียงเบรกรถแบบกะทันหันดังสนั่นราตรีที่เรียบ
สงัดนั้น
ฉิงฮัวเหยียบเบรกฉุกเฉิน
นึ่งไปสักพัก เมื่อไม่ได้ยินเสียงห้ามปรามจากเจ้านาย ฉึงฮัวจริงปลดล็อกประตูรถจากแผงควบคุมกลาง
กู้ฮอนรีบเปิดประตูรถแล้วเดินลงจากรถไป
ผุ้บ-
ทันทีที่ประตูรถถูกปิดลง ก็มีคลื่นความเย็นยะเยือกปะทะ เข้าที่ใจของเหมิงโม่
เขาได้สติและมองลอดหน้าต่างรถออกไปเห็นเงาร่าง สะบักสะบอมที่เดินไปยังริมถนน ก่อนจะโบกแท็กซี่และจาก
ไปอย่างสง่าผ่าเผย
ฉิงฮัวเห็นภาพนั้น ก็ถอนหายใจพร้อมกดปุ่มเพื่อเลื่อนเปิด ม่านกั้นระหว่างคนขับกับห้องโดยสารบานนั้นขึ้น
มองเหมิง โม่ผ่านกระจกมองหลังก่อนจะเอ่ยถามขึ้นว่า “จะตามไปไหมครับ เจ้านาย?”
เป๊หมิงโม่กำจี้นั้นแน่นจนข้อนิ้วแข็งแรงนั่นสั่นสะท้าน
แววตาล้ำลึกจดจ้องไปยังแท็กซี่คันนั้นอย่างไม่ละสายตา โดยไม่ปริปากเอ่ยอะไรออกมาเลยสักคำ
เขานั่งมองแท็กซี่ที่เคลื่อนเข้าไปในฝูงรถยนต์ที่โลดแล่น บนท้องถนนนั้นจนลับหายไป
จึงชัวรอการสั่งการจากเจ้านายตนอย่างเงียบๆ มองลอด ผ่านกระจกมองหลัง เห็นเพียงใบหน้าคมสันที่คล้ายจะ
พยายามเก็บงำบางอย่างเอาไว้ของเจ้านาย
“เจ้านายครับ คุณกู้ฮอนไปแล้วครับ” ฉิงฮัวเตือนสติชาย หนุ่มอย่างระมัดระวัง
เป่ยหมิงโม่กำมือแน่น ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “กลับบ้านตระกูลเป่หมิง”
ฉิงฮัวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่กล้าพูดอะไร สตาร์ทรถแล้วขับออกไป
กู้ฮอนกุมอกที่ว่างเปล่านั้น ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บ
ปวด
คนขับรถแท็กซี่มองเธอจากกระจกมองหลัง ด้วยความ กังวลอยู่หลายที “คุณครับ คุณไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ?”
กู้ฮอนยังคงสะอึกสะอื้น
วันที่ย้ายออกจากเย่หยิงอีพิน เธอไม่อาจตัดใจถอดจี้บน อกอันนั้นลง
แต่ครั้งนี้มันคงจบแล้วจริงๆ นับตั้งแต่วินาทีที่เธอกระตุก สร้อยเส้นนั้นจนขาด ก็หมายความว่าเธอต้องลืมคนคนนี้ให้ หมดไปจากใจ
ตอนที่เธอโพล่งประโยค ” หรือคุณจะยอมแต่งงานกับฉัน?” นั้น มีเพียงตัวเธอที่รู้ดีแก่ใจ ว่าแท้จริงแล้วเธอนั้นก็แอบมี ความหวัง แต่แล้ว เขาก็ตอบกลับด้วยความเย็นชา นั่นทำให้ เธอต้องเลิกหวังลมๆ แล้งๆ สักที
แม้ได้นอนอยู่ข้างกายเขา แต่กลับไม่ได้เข้าไปอยู่ในใจ
เขาเลย..
“เอ๊ะ คุณครับ คุณ คุณคงเพิ่งอกหักมาสินะครับ?” คนขับ แท็กซี่ถามขึ้นอย่างระวัง
ใครจะไปรู้ว่าประโยคนี้ จี้ใจดำกู้ฮอนเข้าอย่างจัง “ฮือๆ .” เธอร้องหนักขึ้นกว่าเดิม
“เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ ก็แค่อกหัก ไม่เห็นเป็นไรเลย เมื่อไอ้หนุ่มนั่น ไม่เห็นค่าเราก็แค่เปลี่ยนคนใหม่….”
แต่ไม่คิดว่าประโยคนี้ยิ่งทำให้กู้ฮอนรู้สึกเจ็บปวด ร้าวราน! “ฮือๆ .มันสายไปแล้ว…
“เอ๊ะ? หรือว่าคุณท้อง?” คนขับรถแท็กซี่นิ่งไปสักครู่ ก่อน รีบพูดปลอบใจว่า “ไม่ต้องกลัวหรอก! สมัยนี้มีคนทำแท้ง เยอะแยะไป ต้องโทษผู้ชายนั่นแหละ แต่ผู้หญิงก็อย่าหมดหวัง เข้าไปเอาเด็กออก พอออกมาก็เป็นกลับไปเป็นสาวสวย คนเดิมแล้ว!”
“ฮือๆๆ …” รอบนี้ร้องหนักเข้าไปใหญ่…
ลูกๆ ก็อายุ5ขวบกันแล้ว จะใส่กลับเอาไปแล้วไปเอาออก ได้มั้ย?
แต่เขา อาจจะไม่มีวันได้รู้ความจริงที่ว่า เธอคือแม่อุ้มบุญ ที่คลอดลูกๆ ของเขาเมื่อ5ปีก่อน
วินาทีที่สร้อยคอได้กลับคืนสู่เจ้าของนั้น เธอเข้าใจอย่าง ถ่องแท้แล้วว่า
ชีวิตต่อจากนี้ของเธอ คงจะไม่มีเป่หมิงโม่สามคำนี้อีกต่อ
ไป
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นราวกับฝัน ที่ดูจริงมากๆ
หัวใจแตกเป็นเสี่ยงๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น
กู้ฮอนสองแม่ลูกยังคงนอนคลอเคลียกันอยู่บนเตียง
ปังปังปัง-!
เสียงเคาะประตูอย่างดุเดือดนั้น ปลุกสองแม่ลูกให้ตื่นจาก
ฝัน
กู้ชอนแอบร้องไห้ทั้งคืนจนเหนื่อยและผล็อยหลับไปช่วง เช้าตรู่นี้ เธอรู้สึกเพลียมากจริงๆ
แต่เสียงเคาะประตูยังคงดังลั่นอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดลง
เธอจึงยื่นมือไปสะกิดลูกชาย เป็นสื่อความหมายว่าให้ ลูกชายไปเกิดประตู