เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 252 พาลูกแฝดหลบหนีไป
ตอนที่ 252 พาลูกแฝดหลบหนีไป
“อิอิ ผมยังพูดไม่จบนี่” ลูกตาดำหยินปู้ฝันสว่างเป็นประกาย “ผมก็ชอบผู้หญิงแบบนี้แหละ”
ลมหนาวพัดผ่านไป กู้ฮอนขนลุกตัวสั่น
เธอกัดฟัน “หยินปู่ฝัน งั้นก็ขอบคุณที่คุณชอบฉันนะ ขอบคุณทั้งบ้านของคุณเลย”
หยินปู้ฝันกุมอกเหมือนกับเสียใจยังไงยังงั้น ” โอ้ย ไม่ อยากแยกจากพวกคุณจริงๆ”
“เอาล่ะ อย่าทำเป็นเศร้าราวกับจะส่งฉันไปตายเลย” กู้ ฮอนเคาะศีรษะเขาดัง โป๊ก จากนั้นคว้ากระเป๋าเดินทาง อีก มือหนึ่งจับมือหยางหยางและพูดว่า “หยางหยาง พวกเรา ควรออกเดินทางได้แล้วนะ”
“ว้าว เก่งจัง อีกไม่นานก็จะเป็นหนึ่งเดียวกันกับเป่หมิงชิ ฉิงแล้ว อิอิ เหมือนเป็นสายลับเลย” หยางหยางตื่นเต้นเล็ก น้อย ทั้งตื่นเต้นทั้งเร้าใจ
หยินปู้ฝันมองภรรยาและลูก ภรรยาจับราวประตู หน้าย่น โบกมือไปมาอย่างไม่อยากจาก “ฮอนฮอน หยางหยาง เดิน
ทางปลอดภัยนะ ผมจะรอพวกคุณกลับมานะ” “ใครจะรู้ พอเสียงเงียบไป ภรรยาและลูกหันหน้ากลับมามองหยินปู้ฝันอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นก็พร้อมใจกันมอง
บน”
“หยินปู้ฝัน คนปากอัปมงคล”
“พ่อปู้ฝัน พ่อแช่งพวกเรานะ!”
อุปส์ หยินปู้ฝันหุบปากอย่างน่าสงสาร
สนามบินนานาชาติเมือง A
“เฉิงเฉิงนั่งรออยู่ในห้องรับรอง VIP ครอบครัวตระกูลเป่ห มิงล้วนนั่งอยู่เป็นเพื่อนเขา”
“เฉิงเฉิง อยู่ที่นั่นต้องตั้งใจเรียนล่ะ ย่ามีเวลาจะไปหาที่ ออสเตรเลียนะ ดีไหม?”
“เฉิงเฉิงอย่ากลัวไปเลย ลุงสามเสร็จธุระแล้วจะบินไปหา และพาไปโต้คลื่นนะ บอกไว้เลยว่า หุ่นสาวๆ ออสเตรเลียแซ่ บมาก”
“เจ้าบ้า พูดอะไรน่ะ อย่าหลานฉันออกนอกลู่นอกทางนะ! เฉิงเฉิง รับปากปู่นะว่าจะวิดีคอลมาหาลุงทุกสัปดาห์ ตกลง ไหม?”
“เฉิงเฉิง..
เฉิงเฉิงฟังพวกเขาพูดหูซ้ายที่ขวาที จนเวียนหัวไปหมดแล้ว มองนาฬิกาข้อมือไม่หยุด ก็จะบินแล้ว ที่จะเดินทางไป กับเฉิงเฉิงก็มีแค่คนใช้สองคนที่รับใช้เขามาตั้งแต่เด็ก
ในใจเขาคิดแค่ แม่กับหยางหยางมาหรือยัง?
ขณะเดียวกัน ในห้องรับรองผู้โดยสารปกติสนามบินนา ชาติเมือง A ผู้ใหญ่ 1 เด็ก 1 กำลังหลบอยู่ในมุมเงียบๆ อย่างลับๆ ล่อๆ
“แม่ครับ แม่ว่าเป่หมิงซิเฉิงถึงหรือยัง? ทำไมถึงไม่เจอเขา
ล่ะ?”
“ชวู! เบาๆ สิ ตระกูลเป่ยหมิงรวยขนาดนั้น ต้องพาเฉิงเฉิง ไปห้องรับรองผู้โดยสาร VIP สิ แล้วก็ต้องเดินขึ้นเครื่องผ่าน ช่อง VIP ไม่เห็นพวกเขาอยู่ตรงนี้ก็ไม่แปลก”
“อ๋อ งั้นพวกเราขึ้นเครื่องตอนไหนล่ะครับ?”
“รออีกหน่อย ใกล้แล้วล่ะ”
กู้ฮอนพูดจบ สนามบินก็ประกาศทันที
“ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังซิดนีย์โปรดทราบ เที่ยวบินที่ A2759 ขณะนี้สามารถขึ้นเครื่องได้แล้ว กรุณานำสัมภาระ และแสดงบัตรโดยสารที่ประตูขึ้นเครื่องหมายเลข 6 ขอให้ ท่านมีความสุขตลอดการเดินทาง ขอบคุณค่ะ Ladies and Gentlemen, may I have your attention please: FlightA2759 to Sydney is now…”
“ขึ้นเครื่องแล้ว” กู้ฮอนจับมือหยางหยางแน่น สีหน้าตื่น
เต้นเล็กน้อย
“โอเย้ เยี่ยมมาก เรารีบไปกันเถอะแม่”
บนเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาส
“เฉิงเฉิงหลานรัก ย่าไม่อยากแยกจากหนูเลย” เจียงฮุ่ยชิ นร้องไห้จนเบ้าตาแดง
“แม่อย่าร้องไห้เลย ให้เฉิงเฉิงไปต่างประเทศอย่างมีความ สุขเถอะ” เป่ยหมิงยันโอบไหล่แม่ไว้และพูดอย่างยิ้มๆ ว่า “หลานรัก ไปอยู่โน่นแล้วถ้ามีอะไรสนุกๆ อย่าลืมลุงสามนะ”
“เอาล่ะๆ เครื่องจะออกแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ” ท่านปู่ เป่ยหมิงทนเห็นภาพที่ต้องแยกจากกันไม่ได้สั่นหัวและถอนใจ
“เฉิงเฉิง…” เจียงฮุยซินไม่ยอมปล่อยมือของเฉิงเฉิง “แม่ พวกเราไปกันเถอะ เป่หมิงยันดึงเจียงฮุ่ยซินออกมา”
เมื่อได้บอกลาคนในครอบครัวเป่หมิงไปแล้ว เฉิงเฉิงก้โล่ง ใจไม่น้อย
ฉิงฮัวบอกว่า พ่อเหมาชั้นเฟิร์สคลาสไว้แล้ว ดังนั้นจึงมีแค่ เขาและคนใช้อีก 2 คน
อึดอัดจัง แม่ขึ้นเครื่องหรือยัง?
กู้ฮอนจับมือหยางหยางรีบเดินเข้าไปในช่องขึ้นเครื่อง ระหว่างทางมองซ้ายมองขวา กลัวว่าจะเจอคนในตระกูลเป่ห
ทางเข้า
มองด้วยตาต้องรีบไปที่ประตูขึ้นเครื่องแล้ว ทันใดนั้น เธอ กลับมองเห็นเงาของคนเดินออกมาจากห้องผู้โดยสาร
บีบหัวใจแน่น
เธอหันกลับมาอุ้มหยางหยางวิ่งกลับไป
“แม่..”
“ชวู!”
“แม่ ถ้าแม่ยังร้องไห้อยู่แบบนี้ตาจะบวมเอานะ เดี๋ยวจะไม่ สวย” เป่ยหมิงยันกอดแม่
“แกจะไปเข้าใจอะไร 5 ปีมานี้ ฉันดูเฉิงเฉิงค่อยๆ เติบโต มาตั้งแต่เล็กจนโต ทั้งเชื่อฟังทั้งกตัญญู จนบัดนี้เป็นครั้งแรก ที่ต้องแยกจากกัน ฉันก็ต้องร้องไห้สิ แกคิดว่าเฉิงเฉิงเขาจะ ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี 3 วันไม่กลับบ้านแบบแกเหรอ?”
“โอ้ย แม่ ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีคือเจ้าเป่หมิงเอ้อต่างหาก ที่เฉิงเฉิงต้องไปต่างประเทศก็เพราะเขาบังคับ”
“แก.”
ท่านปู่เป่ยหมิงพูดอยู่ข้างๆ “เอาล่ะ ฮุ่ยซิน เธอหยุดร้องให้ ได้แล้ว เฉิงเฉิงขึ้นเครื่องแล้ว ชายรองก็จัดแจงทุกอย่างไว้ แล้ว เธอก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว พวกเราควรกลับบ้านไป เตรียมตัวเพื่อไปร่วมงานแต่งงานยี่เฟิงได้แล้วนะ”
“ใช่สิ วันนี้ยี่เฟิงจะแต่งงานแล้ว” เจียงฮุ่ยชินเช็ดน้ำตา และมองเป่หมิงยันประเดี๋ยวหนึ่ง “ยันยัน ตอนไหนแกจะมี ภรรยาเป็นตัวเป็นตนให้ฉันซะที?”
เป่ยหมิงยันมองบนอย่างแรง “โอ้ย เอาอีกแล้วนะแม่”
3 คนตระกูลเป่ยหมิงเปลี่ยนทิศทาง เข้าไปช่องทางเดิน VIP
กู้ฮอนและหยางหยางที่หลบอยู่ในช่องทางเดินธรรมดานั้น บีบหัวใจแรงมาก
จนกระทั่งได้ยินเสียงที่ไกลออกไปของเจียงฮุ่ยซิน เธอค่อย โล่งใจขึ้น
แอบมองแวบหนึ่ง เห็นเงาของพวกเขาค่อยๆ หายไปจาก ซ่องทางเดิน VIP แล้ว เธอถึงได้พาหยางหยางวิ่งเข้าไปใน เครื่องอย่างรวดเร็ว
สองแม่ลุกไม่รู้เลยว่า ผู้สายที่สวมหมวกแก็ปสะพาย กระเป๋าที่อยู่ด้านหลัง ค่อยๆ เดินก้มหน้าตามเข้ามา
กู้ฮอนอุ้มหยางหยางไปที่ชั้นประหยัด เดินตรงไปที่ที่นั่ง แถวสุดท้าย
วางหยางหยางลงที่ที่นั่ง รัดเข็มขัดนิรภัย
ตอนนี้ถึงถอดหมวกกันแดดของหยางหยางออก และถือ โอกาสถอดของตัวเองออกด้วย
“แม่ครับ พวกเราต้องไปหาเปาหมิงซิเฉิงไหม?”
“ไม่ต้องหรอก ลงเครื่องก่อนค่อยว่ากัน” กู้ฮอนกล้ายืนยัน ได้เลยว่าเฉิงเฉิงก็ต้องอยู่บนเครื่องบิน ไม่อย่างนั้นเมื่อสักครู่ เธอคงไม่เห็นเจียงฮุ่ยซินเดินออกมาจากเครื่องบินหรอก
“โอ้ลันลา แม่ครับ ผมมีความสุขจัง เหมือนเมื่อก่อนที่บิน กลับจากอเมริกาเลย ในที่สุดตอนนี้ก็จะได้บินออกไปอีก แล้ว”
“เราเนี่ยนะ วันวันรู้จักแค่ออกเถลไถลข้างนอก ไม่รู้เรียน มาจากใคร?” เธอถูจมูกลูกตัวเองอย่างสนิทสนม
“แฮ่แฮ่ นี่ไม่เรียกเถลไถลนะแม่ เพราะหยางหยางเป็น พระอาทิตย์น้อย พระอาทิตย์น้อยก็ต้องลอยไปรอบโลก ส่อง แสงไปรอบโลกสิครับ”
“ซนจัง ออกไปส่องแสงได้ แต่อย่าออกไป เพาะพันธุ์ ก็ แล้วกัน”
“แม่ เพาะพันธุ์แปลว่าอะไรครับ?”
“รอลูกโตขึ้นแล้วจะรู้เองแหละ”
กู้ฮอนหัวเราะ จากนั้นมองกลับไป จู่ๆ กลับมองไปเห็น ดวงตาอันโปร่งใสคู่หนึ่ง
ตัวสั่นอย่างสิ้นเชิง
เธอไม่คาดคิดว่าจะเจอผู้ชายสะพายกระเป๋าเป้ สวมหมวก แก๊ปผู้หล่อเหลาจะมาอยู่ต่อหน้าเธอ
หยางหยางมองไปตามสายตาของแม่ จากนั้นพูดว่า “ไฮ พี่หน้าขาว พี่มาอยู่นี้ได้ยังไง?”
ยี่เฟิงมองกู้ชอนและหยางหยางอย่างตกใจ ความรู้สึกผ่าน สายตาล้วนอัดแน่นอยู่ในใจ
เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าปากของตัวเองสั่น
ชัดเจนเลยว่า เมื่อสักครู่สิ่งที่เธอพูดกับหยางหยางเขา
ได้ยินหมดแล้ว
กู้ฮอนไม่คิดเลยว่าจะเจอยี่เฟิงอยู่บนเครื่องบิน เธอจากที่ อารมณ์สับสนก็กลับมาปกติแล้ว ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “เอ่อ…ยี่เฟิง คุณทำไมมาอยู่ที่นี่?”
ครูใหญ่ ยี่เฟิงกระแอม และเรียกสติกลับมาได้ พูดออกไป
แบบติดๆ ขัดๆ ว่า
“ฮอน.เขา…เรียกคุณว่าแม่?”
ไม่ทันรอกู้ฮอนตอบ หยางหยางก็กัดฟันตอบกลับไป และ เดือนกลับไปด้วยสายตาที่จ้องเขม็ง”ใช่ไม่อย่างนั้นพี่จะให้ ผมเรียกเธอว่าป้าหน้าขาวเหรอ? ไม่มีทางหรอกพี่หน้าขาว ชาติที่พี่คงไม่มีวันจีบแม่ผมได้หรอก รีบเรียกเธอว่าน้าสอง เถอะ
“น้าสอง” ประโยคเดียว ทำเอาสีหน้าของยี่เฟิงซีดไปเลยที
เดียว
“หุบปาก!” กู้ฮอนหยิกแก้มของหยางหยาง “ไม่อนุญาต
ให้เด็กพูดมั่วนะ”
ยี่เฟิงยังไม่หายจากอาการตกใจ มองไปที่ใบหน้าอันไร้ เดียงสาของหยางหยาง รอยยิ้มที่เหมือนกับเป่หมิงซิเฉิงไม่มี ผิด เขาเหมือนกับจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว “ฮอน เขา….เขาไม่ใช่เฉิงเฉิง ใช่หรือไม่ที่…”
เพราะเมื่อครู่เขาได้ยินที่เด็กคนนี้พูดว่าไปหาเป่หมิงซิเฉิง
กู้ฮอนถอนหายใจไม่คิดเลยว่าความลับที่เธอปกปิดมา นาน กลับถูกคนในตระกูลเหมิงค้นพบ
แม่ว่า…
คนนี้จะเป็นยี่เฟิงก็ตาม
เธอยิ้มแบบรู้สึกผิด “ยี่เฟิง เรื่องมันยาวนะ เขาไม่ใช่เฉิง เฉิงแน่นอน เขาคือหยางหยาง หยางหยางเรียกชื่อดีๆ”
หยางหยางปิดปาก ไม่กล้าที่จะพูดออกมาแล้ว “พียี่
เฟิง..”
ตาและคิ้วของยี่เฟิงสว่าง คำว่าพี่ของหยางหยาง ราวกับ เขาถูกตัดสินประหารชีวิต เจ็บปวดใจมาก
“ฮอน..” เสียงของเขาหดหู
เธอเม้มปากและยิ้มออกมาอย่างอายๆ อาศัยจังหวะ เปลี่ยนเรื่อง และถามว่า “อย่าพูดถึงเรื่องฉันอีกเลย คุณละ? ไม่ใช่วันนี้เป็นวันมงคลสมรสของคุณเหรอ?”
เมื่อสักครู่เธอในความไม่ได้ตั้งใจได้ยินท่านปู่เป่หมิงพูด
แบบนี้
ยี่เฟิงส่ายหัวอย่างเจ็บปวด เดินตรงไปนั่งตรงที่นั่งด้าน หลังถัดจากสองแม่ลูก วางกระเป๋าลง แสร้งทำเป็นสบายๆ และพูดว่า “ผมหลบหนีการแต่งงาน”
“หลบหนีการแต่งงาน?” เธออึ้งไป ครู่ใหญ่ถึงพูดออกมา ว่า “ยี่เฟิง คุณหนีมาแบบนี้ เกรงว่าตระกูลเป่หมิงจะพลิกฟ้า เอาน่ะสิ”
แม้จะพูดว่ายี่เฟิงถูกบังคับให้ไปแต่งงานกับเป่ยใต้เอ๋อ ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาไม่คาดฝันมาก่อน แต่เธอก็เข้าใจว่าถ้าตระกูล เป่หมิงและตระกูลเป่ยรวมเป็นทองแผ่นเดียวกัน คงดัง สะเทือนไปทั่วเมือง A
ยิ่งไปกว่านั้น นายกเทศมนตรีเมือง A มีส่วนเกี่ยวข้อง ยี่ เฟิงผู้หลบหนีการแต่งงาน จะต้องก่อให้เกิดข่าวอื้อฉาวไม่ น้อยแน่นอน
“ใช่” ดวงตาของยี่เฟิงแฝงไปด้วยความรู้สึกอันห่อเที่ยว หวังว่าจะได้เข้าไปอยู่ในสายตาของกู้ฮอน “ที่ผ่านมา เพราะ ว่าคุณพ่อเคยสำคัญสำหรับคนปู่เลย ดังนั้นคุณพ่อจึงฝาก ความหวังไว้ที่ตัวผม แต่ผมกลับมีชีวิตอยู่บนความหวังของ พวกเขา กดดันมาก เหนื่อยมาก จนกระทั่งช่วงเวลานั้นที่เสีย คุณไป จนกระทั่งที่คุณบอกว่าเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ ได้แล้ว ฮอน เวลานั้นผมถึงเข้าใจ ต่อให้ช่วงชิงมาได้ทุก อย่าง ก็ยังสู้คุณอยู่ข้างกายผมไม่ได้”
เสียงของยี่เฟิงสะอื้น
แล้วก็มองปากจู่ที่ไม่เปล่งเสียงออกมาของหยางหยางอีก เขายิ้มอย่างเหือดแห้ง “แต่ตอนนี้ ผมคิดว่าในที่สุดผมก็ เข้าใจ ทำไมคุณถึงยึดมั่นในตัวเองไม่ยอมกลับมาอยู่ข้าง กายผมแล้วล่ะ.อารองเขา.. โชคดีกว่าผมจริงๆ แต่เล็ก จนโตก็เป็นแบบนี้”
บนโลกนี้ เกรงว่าคงไม่มีอะไรที่น่าสะเทือนใจไปกว่าการที่รู้ว่าผู้หญิงที่ตัวเองรักมาโดยตลอด ไปแอบมีลูกแฝดกับน้า ของตัวเองอีกแล้วใช่ไหม?
น้ารองโชคดีกว่าเขาเป็นอย่างมาก
น้ารองโชคดีที่ได้เป็นคนที่ได้รับความสำคัญที่สุดจากตระ กูลเปหมิง
น้ารองโชคดีกระทั่งมีเด็กที่ทั้งฉลาดและน่ารักตั้ง 2 คน
แม้กระทั่ง น้ารองยังโชคดีที่ได้ผู้หญิงที่ยี่เฟิงไม่มีวันได้ไป
มาครอบครอง