เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 548 มือที่อยู่ไม่สุข
บทที่ 548 มือที่อยู่ไม่สุข
กลิ่นของยาสูบที่หอมสดชื่นสัมผัสแก้มของเธอ “แม้ว่าจะเหลือเพียงหนึ่งวันสำหรับข้อตกลงการแต่งงานกำมะลอ คุณก็ยังคงเป็นภรรยาของฉัน……”
เขาพูดจบ ปล่อยมือออก หันตัวแล้วนั่งลงบนโซฟา
หยิบรีโมตบนโต๊ะกาแฟ เปิดทีวีและกดช่องอย่างไม่ตั้งใจ “มีอะไรหรือเปล่า แล้วยืนทำอะไรตรงนี้ ยังไม่รีบไปทำกับข้าวอีก แม้ว่าในตอนนี้คุณยังไม่หิว แต่ลูกๆหิวแล้ว”
งี่เง่าจริงๆ อันธพาล…..ณ ตอนนี้ในใจกู้ฮอน ด่าว่าผู้ชายคนนี้เป็นสิบๆครั้งแล้ว
กู้ฮอนชำเลืองเขาแล้วหันหลังเดินไปห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็น
หลังจากที่เฉิงเฉิงกับหยางหยางหลบเข้าไปในห้องอาบน้ำแล้ว ถึงกล้าถอนหายใจแรงๆ
“เฉิงเฉิง คุณว่าไอ้พ่อนกเป็นอะไรหรือเปล่า ทั้งๆที่โอบกอดสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดคนนั้นออกไปก่อนแล้วทิ้งพวกเรา ตอนนี้กลับปรากฏตัวที่บ้านของแม่ หรือเขาคิดว่ารังแกแม่ไม่พอหรือ เขา…….. ฮือ……”
หยางหยางยังอยากจะพูดต่ออีก แต่ถูกเฉิงเฉิงปิดปากไว้
เฉิงเฉิงสีหน้าเปลี่ยน เขากดเสียงต่ำลงแล้วพูดกับหยางหยาง “เวลาคุณพูดลดเสียงหน่อย พูดเบาๆไม่ได้เหรอ ไม่กลัวพ่อจะได้ยินเหรอ ถ้าเขาไม่ชอบฟัง ก้นคุณก็จะได้บานเหมือนดอกไม้อีกแน่”
หยางหยางดึงมือเฉิงเฉิงที่ปิดปากตัวเองออก เสียงก็เบาลงมาก “คุณไม่อยากให้ฉันพูด คุณก็บอกมาสิ ทำไมต้องมาปิดปากฉันด้วย มือคุณก็ไม่รู้ว่าสะอาดไหม”
เฉิงเฉิงชำเลืองมองหยางหยาง “ถ้าฉันพูดให้คุณหยุดจะได้ผลไหม ก็มีแค่วิธีนี้ที่สามารถหยุดคุณได้ผลที่สุด” เฉิงเฉิงพูดอยู่ แล้วก็เอื้อมมือเล็กๆของตัวเองออกมา แล้วเอาไปเทียบกับหน้าของหยางหยาง “คุณดู มือของฉันสะอาดกว่าหน้าของคุณเยอะเลย ฉันยังไม่รังเกียจใบหน้าของคุณจะเปื้อนมือฉันเลย”
หยางหยางรำคาญแล้ว “พอแล้ว พอแล้ว คุณกับไอ้พ่อนกเหมือนกันเลย คุณรักสะอาดขนาดนี้ ครั้งหน้าก็ไม่ต้องมาปิดปากฉันอีก”
“ใครอยากจะไปปิดปากคุณ ขอร้องครั้งหน้าถ้าคุณอะไร โดยเฉพาะสถานการณ์ที่มีพ่ออยู่ ควรจะคิดก่อนพูดด้วย” เฉิงเฉิงพูดจบ ค่อยๆถอดเสื้อออกทีละชิ้นวางลงที่พื้น จากนั้นปรับน้ำร้อนและเย็นเสร็จ ก็เริ่มอาบน้ำ
หยางหยางเบ้ปาก แล้วก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก แล้วเดินไปอาบน้ำกับเฉิงเฉิง “‘เชี่ย’ แกก็รีบมาสิ แกก็กลิ้งสิ่งสกปรกมากมายในหลุมเหมือนกัน มาฉันจะอาบน้ำให้แก…….”
“เป่หมิง…….ซี…….หยาง”
***
กู้ฮอนเดินเข้าไปในห้องครัว ได้ยินเสียงของการสลับช่องอย่างต่อเนื่องจากห้องนั่งเล่น
แต่เดิมคิดว่าวันนี้กลับมาบ้าน จะได้พักผ่อนกับลูกๆให้เต็มที่ ใครจะไปนึกว่าจะถูกเป่หมิงโม่ทำให้เสียแผนหมด
เปิดตู้เย็น ดูว่ามีอะไรที่สามารถทานได้บ้าง
เหลือแค่น้ำผลไม้กระป๋องอยู่ในตู้เย็น
เปิดช่องแช่แข็งอีกครั้ง ทั้งสามช่องมีแต่ความว่างเปล่า เมื่อเปิดลิ้นชัก ในที่สุดก็มีอะไรกินแล้ว —— เกี๊ยวแช่แข็งสองถุงจากแบรนด์ไต้หวันที่โฆษณาทางทีวีบ่อยๆ
เย็นนี้ก็ทานแค่นี้แล้วกัน
กู้ฮอนหยิบเกี๊ยวออกมา คิดว่าจะทำประเภทเกี๊ยวน้ำ แต่จะมีผักอื่นๆประกอบด้วยไหม เอาง่ายๆแล้วกันทำเกี๊ยวทอดดีกว่า แล้วก็มีน้ำผลไม้ประกอบก็ถือว่าสุขภาพดีอยู่
เธอเปิดเตาแก๊ส หยิบกระทะก้นแบนมา หลังจากหยดน้ำมันเล็กน้อย นำเกี๊ยวเรียงอย่างสวยงามบนกระทะ
ต่อด้วยหยิบถ้วยน้อยๆออกมาหนึ่งใบ ลองน้ำมาครึ่งถ้วย แล้วใส่แป้งมันลงไปเล็กน้อย
หลังจากเกี๊ยวทอดเหลืองแล้ว เทน้ำครึ่งถ้วยลงไปในกระทะ
“ซั่ว……” น้ำเดือดทันทีและมีควันสีขาว ๆ ลอยขึ้นในเวลาเดียวกัน
เทน้ำต่อไปจนกว่าน้ำจะไม่เกินครึ่งหนึ่งของเกี๊ยว ปิดฝากระทะ ปรับไฟให้เล็กลง ค่อยๆต้มเกี๊ยว
เมื่อเวลาผ่านไป มองผ่านฝาโปร่งใส ดูน้ำค่อยๆลดลงจากการเดือดอย่างต่อเนื่องภายใน
จนกว่าน้ำใกล้จะแห้ง แล้วเปิดฝาออก พลิกไปมาสม่ำเสมอ จนกว่าน้ำแห้งสนิท เกี๊ยวก็จะไม่ติดกระทะ แล้วก็จะค่อยๆเคลื่อนไหวตาม
ขณะนี้เธอก็ปิดไฟ หยิบจานสีขาวที่มีขนาดเท่ากระทะ ค่อยๆเอาจานปิดลงไป มือหนึ่งถือหม้อ อีกมือถือจาก แล้วพลิกหม้อกลับ เกี๊ยวก็ถูกเทลงจานอย่างสมบูรณ์แบบ
จานสีขาว เกี๊ยวสีเหลืองก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
เธอวางจานไว้ข้างๆ เตรียมที่จะล้างกระทะ มีมือน้อยๆแอบเอื้อมมาที่จาน
กู้ฮอนไม่ต้องดูก็รู้ว่าเป็นใครที่จะทำเช่นนี้
“ตอนนี้ยังไม่เสร็จ ใครบอกให้มาแอบกิน” พูดอยู่เธอก็เอาตะหลิวตีมือน้อยๆที่เอื้อมมาเบาๆ
“ฮือ…….” เมื่อมือน้อยๆหดตัวลงก็ได้ยินเสียงหยางหยางร้อง “แม่ จะต้องรอถึงเมื่อไหร่ถึงจะได้ทาน ท้องของฉันร้องไปหลายรอบแล้วนะ…….”
กู้ฮอนหันไปมองหยางหยางกำลังบึนปาก มืออีกข้างลูบมือข้างที่ถูกตี
มองสีหน้าเขาตอนนี้กู้ฮอนหัวเราะ “สมควร ฉันสอนเธอว่าอย่างไร ต้องรอจนกว่าอาหารพร้อมแล้ว แม่บอกว่าทานได้ ถึงจะเริ่มทาน”
หยางหยางมองก้อนทองคำที่ล่อลวงความอยากอาหาร อดไม่ได้น้ำลายไหล
“เป่หมิงซีหยาง คุณทำตัวดีๆหน่อยได้ไหม” เฉิงเฉิงที่ยืนข้างๆหยางหยาง ขมวดคิ้วแล้วมองเขา ไอ้น้องเกเรคนนี้
“อืม เฉิงเฉิงน่ารักที่สุด หยางหยางไปรอที่ห้องอาหารกับเฉิงเฉิง เกี๊ยวใกล้จะเสร็จแล้ว” กู้ฮอนพูดอยู่ เริ่มเตรียมหม้อที่สอง
เดิมที แค่หม้อนี้ก็เพียงพอสำหรับกู้ฮอน เฉิงเฉิงและหยางหยางทานแล้ว
แต่คืนนี้ไม่เหมือนกัน วันนี้มี ‘แขกที่ไม่ได้เชิญ’ อยู่ที่บ้าน จะไม่ให้ทานก็คงจะไม่ดี ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะพูดว่าเป็นครอบครัวที่เย็นชาหรือการทำทารุณกรรม ทำเหล่านี้กับเธอ
เมื่อถึงเวลานั้นคนที่มีศีลธรรมอันสูงก็จะถูกครอบครองโดยผู้ชายคนนี้ ตัวเองก็จะเสียเปรียบเพราะพูดอะไรไม่ได้
ระหว่างที่กู้ฮอนกำลังทอดเกี๊ยว และคิดไปต่างๆนานา ก็มีมือเอื้อมมาที่จานอีกครั้ง
กู้ฮอนรู้สึกรำคาญ “ฉันบอกแล้วไง ให้รอจนกว่าจะทำเสร็จแล้วทานพร้อมกัน” พูดอยู่เธอก็ใช้ตะหลิวตีลงไปแรงๆที่มือข้างนั้น
“ผลัวะ…….” ดังขึ้น
ไม่คาดคิดว่าไม่ได้ยินเสียงร้องของหยางหยาง และมือที่ถือจานนั้นยังอยู่ภายใต้ตะหลิว
***
เมื่อกู้ฮอนใช้ตะหลิวตีลงไปอย่างแรงที่มือบนนั้น ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ทำไมมือเล็กๆของหยางหยางถึงได้ ใหญ่…..แล้ว……
ในหัววูบวาบโดยไม่ตั้งใจ ทำให้เธอสูดลมหายใจที่เย็นเข้าไป มือนี้คงไม่ใช่……..
เธอขมวดคิ้ว ค่อยๆหันไป……
เห็นแค่เป่หมิงโม่ยืนอยู่ด้านหลังเธออย่างไม่มีเสียง ตะหลิวถูกตีลงไปอย่างแม่นยำในมือของเขาบนจาน
ถึงแม้จะเป็นขโมยที่ถูกจับได้ แต่ดูเหมือนเขาก็ไม่หลบ
มองดูหน้าตาหล่อๆของเป่หมิงโม่ ดวงตาที่ลึกจ้องมองไปที่กู้ฮอน
กู้ฮอนถูกเขาจ้องจนใจสั่น ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นขโมยที่ถูกจับได้
“คุณยังไม่รีบเอาตะหลิวออกอีก” เป่หมิงโม่พูดช้าๆ มีท่าทางที่น่าเกรงขาม และไม่สามารถขัดขืนได้
กู้ฮอนก็ไม่ได้อ่อนแอ “ตะหลิวของฉันตีขโมย คุณจะมีสิทธิ์มาสั่งให้เอาออกได้อย่างไร”
เป่หมิงโม่ไม่พูดอะไร แค่ยกมือขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับเกี๊ยวจานนั้น
“นี่ นี่…..” กู้ฮอนเม้มปากแน่น ขมวดคิ้ว วางแรงทั้งหมดลงในมือที่ถือตะหลิวไว้
แต่ว่า ไม่ว่าเธอจะใช้แรงมากแค่ไหน คิดจะจับมือเขาไว้ ดูเหมือนว่าจะไร้ประโยชน์ในที่สุด
“อย่าเปลืองแรงเลย เอาเวลาไปดูเกี๊ยวในกระทะนั้นดีกว่า” เป่หมิงโม่พูดจบ หันหลังถือเกี๊ยวแล้วเดินออกไป
“หัวขโมย โจรท้องถิ่น” กู้ฮอนโกรธและด่าว่าไป หลังจากนั้นรีบหันกลับไปดูเกี๊ยวหม้อนั้นของเธอ
เธอกำลังโกรธเป่หมิงโม่อยู่ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เธอเหมือนได้กลิ่นไหม้ๆ
“ว้าย แย่แล้ว……….” กู้ฮอนเห็นน้ำในกระทะแห้งนานมากแล้ว รีบปิดไฟ ปิดฝากระทะออก มีกลิ่นไหม้ออกมา
“ไอ้เฮยถู่คนนี้มาเมื่อไหร่ไม่เคยมีเรื่องดีๆเลย” กู้ฮอนหน้าบึ้งเอาเกี๊ยวที่ไหม้ไปครึ่งหนึ่งใส่ลงในจาน เกี๊ยวไหม้ๆนี้เหมาะให้เฮยถู่กิน
กู้ฮอนคิดว่าน่าจะดี แต่ตอนที่ยกเกี๊ยวไปที่ห้องอาหารก็ตะลึงทันที
เห็นแค่เฉิงเฉิงกับหยางหยางห่อผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆไว้ นั่งอยู่บนเก้าอี้ ในถ้วยของพวกเขามีเกี๊ยวอยู่สองสามชิ้น กำลังทานอย่างอร่อย
เป่หมิงโม่นั่งตรงข้างพวกเขา ตรงหน้าของเขามีจานน้ำส้มสายชูขนาดเล็กหนึ่งจาน
เขากำลังถือตะเกียบ แล้วคีบเกี๊ยวในจานที่เหลืออยู่หนึ่งชิ้น จิ้มน้ำส้มสายชูเล็กน้อย ต่อหน้ากู้ฮอน ใส่เข้าไปในปาก
จากนั้นดึงกระดาษเช็ดปากออกจากช่องใส่กระดาษ เช็ดปากเล็กน้อยแล้วโยนมันลงในถังขยะใต้โต๊ะ
ลุกขึ้น เดินไปตรงหน้ากู้ฮอนอย่างสบายใจ ก้มดูเกี๊ยวไหม้ๆในจาน
ยกคิ้วหนึ่งข้าง “คุณไม่เคยคิดหรือว่าลูกๆจะทนหิวเหมือนคุณไม่ไหว โชคดีที่ฉันกับลูกๆก็ทานเกือบจะอิ่มแล้ว ถ้าทานจานนี้……” เป่หมิงโม้ส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำอีก หันหลังแล้วเดินออกจากห้องอาหาร
กู้ฮอนโกรธมากวางจานลงบนโต๊ะ “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณมารบกวนอยู่ข้างๆ เกี๊ยวจานนี้จะกลายเป็นเช่นนี้หรือ”
“แม่ ตรงนี้ยังีอีกสองชิ้นให้แม่ทาน” เฉิงเฉิงดันถ้วยน้อยๆของเขาไปให้กู้ฮอน
“ของฉันด้วย ของฉันมีหนึ่งชิ้นครึ่ง…..” ในปากหยางหยางยังเคี้ยวอยู่อีกครึ่งหนึ่ง ขยับปากพึมพำแล้วดันของตัวเองให้กู้ฮอนด้วยเช่นกัน
กู้ฮอนรีบเก็บอารมณ์โกรธที่มีต่อเป่หมิงโม่ ยิ้มให้ลูกๆ “ลูกๆน่ารักที่สุด ดีกว่าพ่อของพวกคุณเยอะเลย”
***
พูดอยู่กู้ฮอนก็ดึงเก้าอี้ออกมา นั่งลงด้วยความโกรธ คืนถ้วยของลูกๆให้พวกเขา “ลูกรักพวกคุณรีบทานเร็ว วันนี้คงจะหิวมากใช่ไหม นี่ยังมีเกี๊ยวที่พึ่งออกจากหม้อ”
กู้ฮอนพูดจบ มองดูเกี๊ยวที่ไหม้ตัวเองก็ทานไม่ลงเช่นกัน
แต่พอเธอหวนคิด ใช้ตะเกียบพลิกด้านที่ไหม้ลง “แค่ให้ลูกๆทานด้านที่ไม่ไหม้กับไส้ข้างในก็ได้นี่”
พูดอยู่เธอก็คีบมาหนึ่งชิ้นไว้ในถ้วย สาธิตให้ลูกๆดู
หยางหยางทานในถ้วยของตัวเองหมดอย่างรวดเร็ว จากนั้นหยิบมาอีกสองชิ้นใส่ในถ้วย
เวลานี้เฉิงเฉิงก็ทานหมดแล้วเช่นกัน เตรียมจะคีบเกี๊ยวอีก
กู้ฮอนมองแล้วก็โมโหทันที “ดูสิพ่อของพวกคุณแย่แค่ไหน ปากก็พูดว่าอย่าให้พวกเธอต้องทนหิว แต่ตัวเองกลับทานอิ่มก่อน ปล่อยให้พวกเธอทนหิวอยู่ตรงนี้”
เฉิงเฉิงพูดเบาๆว่า “แม่ แม่เข้าใจพ่อผิดแล้ว…….”
“ฉันเข้าใจเขาผิด เฉิงเฉิงลูกรัก ฉันรู้ว่าคุณโตข้างกายเขา แต่ก็ไม่จำเป็นต้องปกป้องเขา” กู้ฮอนยืนยันว่าเป่หมิงโม่เป็นคนแบบนี้