เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 571 ครั้งสุดท้าย
ตอนที่ 571 ครั้งสุดท้าย
เมืองที่กำลังจะกลับคืนความเงียบสงบ คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
ผู้คนและรถราไม่ขาดสาย สะท้อนให้เห็นชีวิตแสงสีเสียงอีกแบบหนึ่ง
รถRolls-Royce Phantomสีดำ ผ่านคนเดินมากมาย ขับเคลื่อนอยู่บนถนนที่มีแสงไฟสว่างไสว
“แม่ครับ เสียดายแม่ไม่ได้ดูTransformers มันเยี่ยมไปเลย โดยเฉพาะตอนสู้รบ เศษซาและผงดินที่สาดกระดอนขึ้น เหมือนจะโดนตัวเองยังไงอย่างงั้น ตูๆๆๆ……” หยางหยางพูดพร้อมทำท่าทางอย่างตื่นเต้น
ต่างจากหยางหยาง เฉิงเฉิงนั่งเงียบอยู่ข้างกู้ฮอน
ตั้งแต่กลับจากโรงหนัง เขาก็เห็นพ่อกับแม่ยืนเงียบๆที่หน้าประตูรอพวกเขาและหยางหยาง
ไม่เหมือนรอยิ้มตอนอยู่ที่สวนสนุก ตอนนี้เงียบลงไม่น้อย
ซึ่งนั่นทำให้เขาแอบขมวดคิ้ว
ฉิงฮัวจับรถนิ่มมาก ผ่านไปราวชั่วโมงหนึ่งรถค่อยๆขับไปถึงปานซาน จอดตรงหน้าวิลล่าที่ตอนแรกจะมอบให้กู้ฮอน
กู้ฮอนมองเด็กๆข้างกาย ดูท่าจะเล่นจนเหนื่อย ตอนนี้หลับสนิท
ดูพวกเขามีความสุข กู้ฮอนอดยิ้มเบาๆไม่ได้
กู้ฮอนอุ้มหยางหยาง เป่หมิงโม่อุ้มเฉิงเฉิงลงจากรถ
ฉิงฮัวรีบเปิดประตูพาพวกเขามาถึงชั้นสอง
เป่หมิงโม่และกู้ฮอนวางเด็กๆลงบนเตียงในห้องอย่างระมัดระวัง และปิดประตูเบาๆ
เมื่อพวกเขากลับมายังชั้นหนึ่ง เห็นฉิงฮัวจัดโต๊ะอาหารสี่เหลี่ยมทรงยาวในที่ว่างห้องโถงข้างโซฟาเรียบร้อยแล้ว
โต๊ะอาหารสองข้างมีเก้าอี้พนักพิงหลังสูงที่ทำจากไม้มะฮอกกานีแกะสลักลวดลายประณีตสวยงามวางอยู่
ผ้าคลุมสีขาวสะอาดคลุมทั่วโต๊ะ และผ้าทอสีเข้มปูจากอีกฝั่งจนถึงอีกฝั่งอย่างเรียบร้อย ทำให้เก้าอี้ทั้งสองเข้าชุดได้อย่างสวยงาม
ชุดจานขาวสะอาดวางอยู่สองด้าน เชิงเทียนงานฝีมือละเอียดอ่อนวางอยู่ตรงกลาง ด้านบนวางเทียนที่จุดแล้ว
สองด้านของเชิงเทียน ตามปลายทั้งสองด้านของผ้าปูโต๊ะ วางแก้วสีใสที่เรียงตามลำดับความสูงอยู่สามใบ ด้านในจุดเทียนสีแดง เทียนน้อยๆที่จุดอยู่ด้านใน
“เชิญนายและคุณหนูนั่งครับ”
เป่หมิงโม่และกู้ฮอนนั่งลง ตามคำต้อนรับของฉิงฮัว
เวลานี้ ดนตรีค่อยๆดังขึ้น
ไฟภายในห้องค่อยๆหรี่ลง เหลือเพียงแสงเทียนจากบนโต๊ะอาหาร ส่องไปทั่วห้อง
ทำให้ห้องโถงที่เงียบเหงามีชีวิตชีวาและอบอุ่นขึ้น
ฉิงฮัวหยิบไวน์แดงที่เป่หมิงโม่สะสมไว้มา ค่อยๆรินลงแก้วที่อยู่ตรงหน้าของทั้งสอง เสร็จแล้ววางขวดไวน์ลงบนโต๊ะ
หลังจากนั้น เสิร์ฟสเต๊กเนื้อที่เพิ่งทำเสร็จมา
หลังจากนั้นกุมหน้าเล็กน้อยให้เป่หมิงโม่และกู้ฮอน “เชิญนายและคุณหนูรับประทานครับ ผมขอตัวก่อน”
พูดจบ เขาก็หันหลังไปจากห้องโถงและปิดประตูแน่น
กู้ฮอนก้มหน้าดูสเต๊กเนื้อที่ฉิงฮัวทำ นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีฝีมือดีแบบนี้ สีสเต๊กกำลังดี คู่กับผงพริกไทยที่โรยอยู่สเต๊ก กลิ่นเนื้อย่างหอมที่ลอยฟุ้ง
รอบสเต๊ก ยังตกแต่งด้วยมะเขือเทศเชอรี่ กะหล่ำม่วงซอยและบร็อคเคอลี่ดอกเล็กๆ แค่สีสันก็ทำให้ดูน่าชื่นชมแล้ว
***
เป่หมิงโม่หมุนแก้วไวน์ เงยหน้ามองคนตรงข้ามโต๊ะ แม้จะอยู่ใกล้ แต่กลับเหมือนแสนไกล
มีเรื่องมากมายที่จะบอกเธอ แต่กลับพูดอะไรไม่ออกเลย
เงียบอยู่พักหนึ่งเขาก็เอ่ยปาก น้ำเสียงไม่เย็นชาเหมือนก่อน มีแต่ความเสียดายและทำตัวไม่ถูก “กู้ฮอน นี่เป็นมื้อสุดท้ายที่เราร่วมโต๊ะแล้ว อีกสองชั่วโมง สัญญาระหว่างเราก็จะหมดแล้ว หรือเธออาจจะอยากให้มันผ่านไปเดี๋ยวนี้ก็ได้ นึกย้อนกลับไปที่ผ่านๆมา ยังไงผมก็ต้องขอบคุณคุณ ที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีบ้าน”
พูดจบ เขายกแก้วไวน์ น้ำสีแดงเข้มที่น่าดึงดูดในแก้วนั้น ดูใสและสะอาดปานนั้น
แล้วค่อยๆหมุนแก้วสองสามที ยกแก้วเข้าใกล้จมูก กลิ่นองุ่นหอมกรุ่นเข้าถึงทรวงอก
เงยหน้าดื่มไวน์ในแก้วจนหมด แต่กลับหลงเหลือความขมอยู่ในปาก
กู้ฮอนก็ยกแก้วตาม “ไม่ว่าแต่ก่อนคุณเป็นยังไง อย่างน้อยวันนี้คุณก็ทำหน้าที่พ่อได้เป็นอย่างดี ฉันต้องขอบคุณเด็กๆแทนคุณ แต่ในฐานะที่ฉันเป็นแม่พวกเขา ยังคงหวังว่าต่อจากนี้ คุณจะดีกับเด็กๆ ฉันไม่อยากให้ชีวิตวัยเด็กของพวกเขาเหมือนเราแต่ก่อน”
พูดจบ เธอก็ดื่มไวน์จนหมดแก้ว
กู้ฮอนพูดถูก เธอและเป่หมิงโม่มีชีวิตวัยเด็กที่ไม่อยากที่จะนึกถึงมันเหมือนกัน เพียงแต่ความทรงจำนั้นฝังแน่นอยู่ในใจเป่หมิงโม่
เธอไม่อยากให้หยางหยางและเฉิงเฉิงมีอดีตที่ไม่อยากย้อนกลับเหมือนพ่อของพวกเขา
แก้วเปล่าสองแก้ววางลงบนโต๊ะ
เป่หมิงโม่ยกขวดไวน์ขึ้นรินไวน์ลงทั้งสองแก้วเพิ่มอีก
เป่หมิงโม่ยกแก้วไวน์ขึ้นอีกรอบ คำพูดของกู้ฮอน เขาจดจำไว้ทุกคำ
แต่ ณ ตอนนี้เขาไม่พูดอะไร แล้วจะให้พูดอะไร จะพูดว่าแล้วพบกันใหม่หรือว่าไม่พบกันอีก?
คำพูดหมื่นแสนอยู่ในของเหลวสีแดงหมด เขาเงยหน้าหมดแก้ว……
กู้ฮอนมองเป่หมิงโม่ เธอรู้ว่าเขา ณ ตอนนี้ไม่มีความสุขเลย มีความเศร้าปะปนด้วย
แต่เธอก็นึกถึงเรื่องที่ตนกำลังจะสูญเสียลูกอีกคนไป ในฐานะคนเป็นแม่เธอรู้สึกเจ็บปวดมาก จากนั้นเธอก็ยกแก้วที่อยู่ตรงหน้า เงยหน้าหมดแก้ว
เหล้าก็เหมือนยาพิษ แต่ก็เป็นยาที่ทำให้คนลืมความเจ็บปวดนี้ได้ชั่วคราว
ไวน์ลงท้องไปสองแก้ว เป่หมิงโม่วางแก้วลงค่อยๆลุกขึ้นเดินไปหากู้ฮอน ยื่นมือออกมา “กู้ฮอน จะเต้นรำกับผมได้ไหม?”
กู้ฮอนพยักหน้า ค่อยๆยื่นมือวางลงบนมือของเป่หมิงโม่ที่ยื่นมา
อาหารมื้อสุดท้าย แก้วสุดท้ายที่ดื่มด้วยกัน เต้นครั้งสุดท้าย……
ไม่ได้เต้นรำกับกู้ฮอนนานมากแล้วจริงๆ นึกๆแล้วก็เป็นเรื่องที่ผ่านมานานมากแล้ว
มือที่จับกันของพวกเขา เป่หมิงโม่ค่อยๆสวมแขนลงบนเอวของกู้ฮอน รู้สึกได้เลยว่าตัวเธอแอบสั่นเล็กน้อย
ทั้งสองเต้นรำกับเสียงดนตรีที่ผ่อนคลายอยู่แบบนั้น
ภายใต้แสงเทียนที่พลิ้วไหว บนแก้มอันขาวใสของกู้ฮอน เริ่มกลายเป็นสีแดง ทำให้ยิ่งดูงดงามขึ้น
เป่หมิงโม่ก้มหน้า ใช้แรงสูดดมกลิ่นหอมที่ฟุ้งออกมาจากตัวกู้ฮอน
ในสายตาอันเย็นชารับรู้ได้ถึงความอบอุ่น เขาจะเก็บภาพความทรงจำคนตรงหน้าไว้ลึกๆในใจ
***
เป่หมิงโม่พากู้ฮอนเต้นรำอยู่ในห้องโถง ในสายตาพวกเขา นอกจากคนตรงหน้าตัวเองแล้ว ทุกสิ่งอย่างรอบกายกำลังหมุนไม่หยุด
เพลงแล้วเพลงเล่า
หลังจากนั้น มือทั้งสองของกู้ฮอนค่อยๆยกขึ้นพาดบนคอของเป่หมิงโม่ เอนหัวพิงลงบนอกเขา ฟังเสียงหัวใจที่หนักแน่นและมีพลังของเขา
เป่หมิงโม่ก็ใช้สองมือสวมกอดเอวกู้ฮอนอย่างแน่น ค่อยๆวางคางลงบนหัวกู้ฮอน สูดดมกลิ่นหอมของผมเธอ
พวกเขาทั้งสองเหมือนใจตรงกัน ไม่พูดการจากลา ไม่พูดลาก่อน ไม่พูดอะไรอีกเลย เวลา ณ ตอนนี้เหมือนจะเดินช้าลงเช่นกัน
เท้าของพวกเขาค่อยๆช้าลง พวกเขาไม่เต้นรำต่อ หยุดอยู่ในภาพนั้น
กอดกันแน่น……
ณ ตอนนี้ ฝูงดาวระยิบระยับนอกวิลล่า พระจันทร์ที่ส่องเจิดจ้า นกที่บินกลับเข้ารัง รอบข้างเงียบสงบ มีแต่เมืองที่อยู่ห่างไม่ไกลข้างหน้าที่ยังคงชีวิตชีวาอยู่
ใต้เสียงเทียนที่พลิ้วไหว ทั้งสองล้มลงบนโซฟาอันกว้าง
เสียงดนตรียังคงดังต่อเนื่อง กู้ฮอนนอนบนโซฟา หมดเรี่ยวแรง
เธออาจจะล้าเกินไป หรืออาจเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ เธอค่อยๆหลับตาลง ขยับริมฝีปากอันแดงสด เสียงหายใจค่อยที่ปะปนไปด้วยกลิ่นหอมไวน์อ่อนๆ ค่อยๆเป่าลงบนหน้าหล่อเหลาที่คับอยู่บนตัวของตน
ตอนนี้ ทุกอณูบนตัวเขากำลังถูกผู้หญิงคนนี้ดึงดูดอยู่
พักหนึ่ง เขาก็ค่อยๆก้มลง ปิดปากสีแดงของเธอแน่
กู้ฮอนไม่ได้รู้สึกแปลก และไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด
อาจเพราะเธอเตรียมใจแล้วแต่แรก หรืออาจเพราะเธอกำลังเสียดาย
เหมือนสตอกโฮล์มผลกระทบ :ผู้ถูกทำร้ายเริ่มมีความรู้สึกต่อผู้ร้าย กลายเป็นความรู้สึกดีที่มีต่อผู้ร้าย อยากเพิ่งพิง……
คนเราก็แบบนี้แหละ ตอนที่มีพร้อม มักไม่รักษา และไม่รู้จักที่จะรักษาไว้ จะเบื่อจะรำคาญด้วยซ้ำ แต่เมื่อเสียไป จะเริ่มเสียดาย เสียใจภายหลัง ความดีในอดีตจะยิ่งปรากฎชัดขึ้น
บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นบนเนิน เป็นวิลล่าที่เป่หมิงโม่ทุ่มเทและให้ความสนใจ ‘เย่โม่ฮอนหวี’ แม้จะไม่ได้รับความยอมรับจากเจ้าของของมัน
แต่คืนที่อบอุ่นนี้ คนที่ดีไซน์มันและเจ้าของที่ไม่ยอมรับมันกลายเป็นหนึ่งเดียว
นี่อาจจะเป็นวิธีการบอกลา บอกลาตนในอดีต บอกลาความทรงจำที่น่าจดจำที่ผ่านมา
กู้ฮอนค่อยๆลืมตาขึ้น พร้อมกับวันใหม่ที่ต้อนรับเธอ แต่สิ่งที่พบเจอคือเพดานที่มีสีสันสวยงาม
เธอยังคงจำดินเนอร์ใต้แสงเทียนเมื่อคืนได้ การเต้นที่นานหลายเพลงนั่น แม้กระทั่ง……
“หู้……” เธอเหมือนดำขึ้นจากน้ำทะเลลึกได้ ถอนหายใจยาวๆ
ดึงผ้านวมที่ห่มบนตัวของตนออก ลุกขึ้นนั่ง หันมองโต๊ะอาหารที่อยู่ห่างไม่ไกลนั่น เทียนที่ถูกจุดจนหมดบนเชิงเทียนอันหรูหรา เหลือเพียงคราบน้ำตาสีแดง
บนโต๊ะกาแฟ มีซองจดหมายสีน้ำตาลวางอยู่
***
กู้ฮอนตื่นเช้ามา ก็เห็นซองจดหมายสีน้ำตาลที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟ
ก้มหยิบมันขึ้นมา ค่อยๆดึงจดหมายที่เป่หมิงโม่เขียนออกมา :
กู้ฮอน ตอนนี้สัญญาระหว่างเราได้สิ้นสุดกันแล้ว ขอบคุณที่ทำผมรู้สึกเหมือนมีครอบครัว จากนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาหาผมอีก ผมก็จะไม่ไปรบกวนชีวิตของคุณอีก
ส่วนข้อตกลงในสัญญา ผมจะคืนลูกคนหนึ่งให้กับคุณ ส่วนจะเป็นเฉิงเฉิง หรือหยางหยางนั้น ให้คุณและพวกเขาเป็นคนตัดสิน
ในซองมีบัตรใบหนึ่ง ผมรุ้ว่าคุณจะไม่ยอมรับไว้ แต่มันเป็นเงินเลี้ยงดูที่ผมจะให้ลูก ในฐานะพ่อคนหนึ่งสิ่งที่ผมทำได้คงมีเท่านี้
หลังจากนี้มีปัญหาอะไร ถ้าคุณต้องการ ให้มาหาฉิงฮัวเขาจะช่วยคุณอย่างสุดความสามารถ