เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 592 ข่าวร้าย
ตอนที่ 592 ข่าวร้าย
เป่หมิงยี่เฟิงขับรถออกมาจากบ้านพัก เสียบหูฟังเรียบร้อยแล้วก็ต่อสายโทรศัพท์
“หึๆ คุณชายเป่หมิงมีธุระอะไรหรือ” ชายหนุ่มผู้สวมหมวกเบสบอลอยู่ที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งในตอนนี้ เขาเพิ่งจะจะเหวี่ยงไม้กอล์ฟออกไปก็เห็นเพียงแค่ลูกกอล์ฟสีขาวเล็กลอยขึ้นมา จากนั้นก็ตกลงสู่พื้นดินข้างธงเล็กๆธงหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล
“วันนี้คุณไปหาคุณพ่อของผมใช่ไหม ผมบอกไปแล้วไม่ใช่หรือว่า ผมจะเป็นคนจัดการแก้ไขเรื่องของคุณพ่อเอง พวกคุณมีอะไรก็มาทางผมสิ อย่ามารบกวนคุณพ่อผม” เป่หมิงยี่เฟิงโมโหเป็นอย่างมาก
***
ชายหนุ่มผู้สวมหมวกเบสบอลมีท่าทางใจเย็นและสงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด เขายกไม้ขึ้นพาดบ่า ค่อยเดินไปทางธงเล็กธงนั้น “คุณชายเป่หมิง คำพูดเมื่อสักครู่ของคุณ ผมสามารถเข้าใจว่า พวกเราได้ไปหาเรื่องรบกวนคุณพ่อของคุณใช่หรือไม่ แบบนี้ได้ไหม ถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ ผมสามารถรับผิดชอบบอกกับคุณเลยว่า ตอนนี้พวกเราไม่มีเวลาทำอะไรแบบนั้น”
เป่หมิงยี่เฟิงคิ้วขมวด “พวกคุณไม่ได้มาหาเรื่องเขา แล้วทำไมใบหน้าของเขาถึงได้ฟกช้ำดำเขียวเป็นจ้ำๆแบบนั้นกัน”
ชายหนุ่มผู้สวมหมวกเบสบอลยักไหล่ “เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้แล้ว บางทีคุณพ่อคุณอาจจะหกล้ม บางทีก็ไม่แน่ว่าคุณพ่อคุณอาจจะไปล่วงเกินคนอื่น คุณชายเป่หมิง ถ้าหากว่าพวกเราทำเรื่องพวกนี้คงจะไม่ลงมือเบาแบบนี้หรอก เท่านี้แหละ ถ้าคุณไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมวางโทรศัพท์แล้วนะ”
เป่หมิงยี่เฟิงไม่ได้รับคำตอบที่ตัวเองต้องการก็ปิดโทรศัพท์มือถือไปเลย
ชายหนุ่มผู้สวมหมวกเบสบอลเดินไปถึงหน้าลูกกอล์ฟ ธงถูกลูกกอล์ฟชนปลิวไปแล้ว เผยให้เห็นหลุมเล็กๆหลุมหนึ่ง เขาทำท่าทางกะระยะแล้วก็ยกไม้กอล์ฟขึ้นมาแตะเข้ากับลูกกอล์ฟเบาๆ
ลูกกอล์ฟลูกนั้นกลิ้งไปทางหลุมเล็กๆหลุมนั้นอย่างเชื่อฟัง แต่ว่าตอนที่ใกล้จะถึง ลูกกอล์ฟกลับหยุดเสียอย่างนั้น
ชายหนุ่มผู้สวมหมวกเบสบอลขมวดคิ้วนิดๆ
เป่หมิงยี่เฟิงขับรถไปตามถนนตรอกซอกซอยอย่างไร้จุดหมาย เขาคิ้วขมวดเป็นปมตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เพราะยังเดาไม่ออกว่าใครที่เป็นคนมาจัดการบิดาของตัวเอง
สุดท้ายก็ขับรถกลับไปยังที่พักของตัวเอง
*
แอนนิเริ่มเตรียมทำอาหารเย็น เฉิงเฉิงกำลังเล่นเป็นเพื่อนกับจิ่วจิ่วอยู่ในห้องรับแขก
ตอนนี้เองที่โทรศัพท์ของเฉิงเฉิงดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นหยางหยางที่โทรมา
เขาเพิ่งจะกดรับโทรศัพท์ ยังไม่ทันจะเปิดปากก็ได้ยินเสียงโมโหปนร้อนใจของหยางหยางดังขึ้นมาจากอีกฝั่งของโทรศัพท์ “คุณแม่กลับมาหรือยัง พรุ่งนี้พ่อนกสมควรตายกับยายอัปลักษณ์นั่นจะแต่งงานกันแล้วนะ!”
เฉิงเฉิงคิ้วขมวดเล็กน้อย มองจิ่วจิ่วที่อยู่ข้างกาย แล้วเอ่ยกับเธออย่างเอ็นดูอ่อนโยน “น้องสาว พี่ไปรับโทรศัพท์สักครู่ น้องเล่นอยู่ตรงนี้คนเดียวก่อนได้ไหม”
จิ่วจิ่วจ้องมองเฉิงเฉิงด้วยนัยน์ตากลมโต “พี่ชาย ใครโทรมาหรือคะ”
“พี่ชายตัวกลมโทรมาน่ะ เขาโทรหาพี่เพราะมีเรื่องเล็กน้อย” เฉิงเฉิงพูดพลางเดินออกจากห้องรับแขก เข้าไปในห้องนอนของกู้ฮอน
เฉิงเฉิงพูดกับหยางหยางว่า “คุณแม่ยังไม่กลับมา เมื่อครู่นี้นายพูดว่าอะไรนะ คุณพ่อจะแต่งงานพรุ่งนี้แล้วหรือ”
หยางหยางนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง สีหน้าท่าทางร้อนรน แม้ว่าเขาจะเกลียดพ่อนกสมควรตาย แต่ตอนนี้มีคนจะมาแทนที่ของคุณแม่ เรื่องนี้เร่งด่วนนะ
นับว่าเฉิงเฉิงยังสงบนิ่ง เขาเอ่ยกับหยางหยางว่า “นายได้ยินข่าวนี้มาจากที่ไหน”
“เมื่อจะกี้ฉันกำลังจะลงไปดื่มน้ำที่ชั้นล่าง ก็ได้ยินคุณย่าพูดเรื่องนี้กับลุงสาม ดูเหมือนว่าสถานที่จัดจะอยู่ที่สวนส่วนตัว เฮ้อ สวนส่วนตัวที่ว่านั่นอยู่ที่ไหนกันแน่นะ” หยางหยางไม่รู้จักสถานที่นี้มาก่อนเลย
มิน่าล่ะ สวนส่วนตัวแห่งนี้ แม้ว่าจะอยู่ใกล้กับโรงแรมแมนดารินมาก แต่เฉิงเฉิงที่โตมาขนาดนี้แล้วก็เคยไปเพียงแค่ครั้งเดียว เพราะถูกเป่หมิงโม่ปิดเอาไว้ไม่ยอมให้คนในตระกูลเป่หมิงเข้าไป
เฉิงเฉิงพูดว่า “สถานที่นี้ฉันก็เคยไปแค่ครั้งเดียว ดูเหมือนว่าน้อยมากที่คุณพ่อจะพาคนเข้าไป”
หยางหยางรู้สึกประหลาดใจ ครั้งที่แล้วที่ห้องใต้ดินของคุณป้าฟางก็เต็มไปด้วยของเล่น ครั้งนี้ก็เป็นสวนที่ไม่เคยพาคนเข้าไปเลย
คิดไม่ถึงเลยว่าพ่อนกสมควรตายจะมีสถานที่ลึกลับมากมายขนาดนี้
หยางหยางคิ้วขมวด “จะบอกเรื่องนี้กับคุณแม่ไหม ถ้าเธอรู้ว่าพ่อนกสมควรตายจะแต่งงานแล้ว เธอจะรู้สึกอย่างไรกันนะ ถึงเวลานั้นพวกเราก็จะมีแม่อัปลักษณ์เพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง”
เทียบกับหยางหยาง เฉิงเฉิงยังคงสงบนิ่งกว่ามาก เขาบอกกับหยางหยางว่าจะวางโทรศัพท์ก่อน ไม่ต้องรีบร้อน รอเขาคิดหาวิธีการก่อน
***
เฉิงเฉิงเดินออกมาจากห้องนอนด้วยจิตใจที่กระสับกระส่าย
ตอนนี้แอนนิเตรียมอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธออุ้มจิ่วจิ่วอยู่ พอเห็นท่าทางแบบนี้ของเฉิงเฉิงแล้ว “เฉิงเฉิง เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”
เฉิงเฉิงส่ายหน้า เขาไม่รู้ว่าจะสามารถบอกเรื่องนี้กับแอนนิได้หรือไม่
ในเวลานั้นเองที่เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
แอนนิอุ้มจิ่วจิ่วไปเปิดประตู
จิ่วจิ่วเอ่ยเสียงเบาที่ข้างหูแอนนิว่า “คุณป้าแอนนิ คุณแม่บอกว่าถ้ามีคนมาเคาะประตู ต้องดูก่อนว่าเป็นใคร ไม่ใช่คนไม่ดีถึงจะเปิดประตูได้นะ”
แอนนิใช้นิ้วไล้ไปตามสันจมูกเล็ก “ฮ่า เจ้าเด็กคนนี้ ตอนอยู่ที่บ้านของคุณป้าแอนนิทำไมถึงไม่พูดแบบนี้บ้างกันนะ ตอนนี้อยู่บ้านคุณแม่ เราถึงได้ระมัดระวังขึ้นมา พวกเรามาดูดีกว่าว่าใครกันที่มา”
แอนนิพูดพลางมองผ่านตาแมว เห็นด้านนอกมีคนอยู่สองคน คนที่อยู่ด้านหน้านั้นไม่รู้จัก แต่คนที่อยู่ด้านหลังนั้นทำให้เธอตกใจสะดุ้งจนต้องสูดลมหายใจเย็น
“คุณป้าแอนนิ ให้หนูดูหน่อย……” จิ่วจิ่วบิดร่างกลับมา เอนไปดูบ้าง แต่ว่าเธอเกือบจะร้องไห้ออกมา “ปีศาจสุขามาแล้ว คุณป้าแอนนิ หนูอยากเข้าห้องน้ำ…….”
ตอนนี้แอนนิก็นึกขึ้นมาได้ในทันทีว่า ไม่สามารถให้เป่หมิงโม่เห็นจิ่วจิ่วได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดเรื่องวุ่นวายขนานใหญ่ได้
เธอมองเฉิงเฉิงที่อยู่ยืนมึนงงอยู่ด้านข้างตัวเอง “ป้าพาน้องสาวไปห้องน้ำก่อน เราอย่าให้คุณพ่อเรารู้นะว่าพวกเราอยู่ที่นี่ ได้ยินไหมจ๊ะ”
แม้ว่าเฉิงเฉิงจะสับสนมึนงงอยู่บ้าง แต่เขาก็เข้าใจว่า ไม่อาจจะให้คุณพ่อรู้ว่าน้องสาวอยู่ที่นี่ เขาพยักหน้า “คุณป้าแอนนิวางใจเถอะครับ”
รอจนแอนนิพวกเธอเข้าไปแอบในห้องน้ำแล้ว เฉิงเฉิงถึงจะเปิดประตู เห็นเพียงแค่ฉิงฮัวยืนอยู่ด้านหน้า ด้านหลังถึงจะเป็นเป่หมิงโม่
ฉิงฮัวพยักศีรษะให้กับเฉิงเฉิง “คุณชายน้อยเฉิงเฉิง”
เฉิงเฉิงตะโกนเรียกคนที่อยู่ด้านหลังฉิงฮัวอย่างว่าง่าย “คุณพ่อ”
สีหน้าเป่หมิงโม่ยังคงดูไม่ได้เช่นเคย
แม้ว่านี่จะเป็นห้องของกู้ฮอน แต่เป่หมิงโม่ไม่ถือว่าตัวเองเป็นคนนอก ตรงเข้าไปในห้องรับแขกทันที
จากนั้นก็ก้าวไปนั่งบนโซฟา เขามองไปรอบด้านชั่วครู่ เหมือนกับกำลังหาอะไรอยู่
ฉิงฮัวยืนอยู่ข้างกายเขา
“แม่ของลูกล่ะ” เป่หมิงโม่ถามเฉิงเฉิง
เฉิงเฉิงก็เดินตามมาอยู่ข้างกายเป่หมิงโม่ “คุณแม่ไปสอบแล้วครับ”
เป่หมิงโม่คิ้วขมวดเล็กๆ “สอบหรือ”
ตอนนี้เอง ฉิงฮัวก็มีปฏิกิริยาที่ไวมาก เขาโค้งตัวลงมากระซิบข้างหูเป่หมิงโม่ว่า “คาดว่าวันนี้คุณผู้หญิงคงจะไปเข้าร่วมการสอบใบอนุญาตเพื่อเป็นทนายความครับ”
เป่หมิงโม่ถึงได้นึกขึ้นมาได้
หลายวันมานี้มีเรื่องราวมากมายให้จัดการ เกือบจะลืมไปแล้วว่ากู้ฮอนทำงานอยู่ที่สำนักงานกฎหมายทนายความของหยินปู้ฝัน
การสอบใบอนุญาตทนายความเป็นเป้าหมายของเธอ
ตอนนี้เองที่ กลิ่นหอมของอาหารลอยออกมาจากในห้องอาหาร
“ทำไม แม่ของลูกไม่อยู่ อาหารนี้……” เป่หมิงโม่พูด มองลูกชายตัวเองด้วยนัยน์ตาเย็นชาผิดปกติ
เฉิงเฉิงยังเล็ก ทำกับข้าวไม่ได้ เหลือเพียงแค่กู้ฮอนแล้ว เธอกลับมาแล้วชัดๆ ทำไมจะต้องให้ลูกโกหกตัวเองด้วย
เฉิงเฉิงถูกเป่หมิงโม่จ้องมอง ร่างเล็กๆนั้นก็สั่นระริก ในใจแอบตะโกนว่าท่าไม่ดี แต่ว่าตอนนี้ไม่มีหนทางอื่นแล้ว
ในเวลาเดียวกัน หลังจากแอนนิอุ้มจิ่วจิ่วเข้าไปแอบอยู่ในห้องน้ำแล้ว ก็คิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองทำอาหารไว้บนโต๊ะ ถ้าหากว่าเฉิงเฉิงหลุดปากพูดออกไปล่ะก็…….
ผลลัพธ์สุดท้ายนั้นคงเลวร้ายอย่างคาดไม่ถึง
***
แอนนิวางจิ่วจิ่วไว้บนโถส้วม ทำท่าทางจุ๊ๆไม่ให้ส่งเสียง จากนั้นก็ใช้เสียงที่มีแค่พวกเธอสองคนได้ยินพูดกับจิ่วจิ่วว่า “คุณป้าแอนนิออกไปช่วยชีวิตพี่เฉิงเฉิงก่อน หนูแอบอยู่ที่นี่อย่าส่งเสียงอะไรนะคะ ไม่อย่างนั้นปีศาจสุขาจะมาจับตัวจิ่วจิ่วไปนะ”
นัยน์ตาโตของจิ่วจิ่วเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พยักหน้าอย่างแรง
แอนนิยิ้มบางๆให้เธอ “ป้าแอนนิจะพาพี่เฉิงเฉิงกลับมาอย่างปลอดภัย” เอ่ยจบเธอก็กดชักโครกครั้งหนึ่ง
เฉิงเฉิงที่กำลังกลุ้มใจว่าจะรับมือกับคุณพ่ออย่างไรในตอนนั้น
“ซ่า…….” เสียงกดน้ำชักโครกดังออกมาจากห้องน้ำ
เป่หมิงโม่คิ้วขมวดเล็กน้อย หันศีรษะกลับไปยังทิศทางของห้องน้ำ
เห็นเพียงแค่ประตูถูกเปิดออก แอนนิก็เดินออกมาจากข้างใน
เธอเหมือนกับว่าจะยังไม่เห็นว่าในห้องมีคนเพิ่มขึ้นมาอีกสองคน หันกลับไปปิดประตูเอ่ยกับเฉิงเฉิงว่า “เฉิงเฉิง กู้ฮอนจะกลับมาเมื่อไหร่ ไม่อย่างนั้นเราก็โทรศัพท์ไปถามเธอสักหน่อย บอกเธอว่าอาหารทำเสร็จหมดแล้วนะ”
ประโยคนี้เป็นการบอกใบ้ให้เฉิงเฉิงรีบแจ้งให้กู้ฮอนรู้
เฉิงเฉิงเข้าใจความหมายของแอนนิในทันที เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พลางหมุนตัวกลับไปยังห้องนอนของกู้ฮอน
แอนนิปิดประตูเสร็จก็หันหน้ากลับมา เห็นเป่หมิงโม่ที่นั่งอยู่และฉิงฮัวที่ยืนอยู่ข้างกายเขาในห้องรับแขก
เธอก็แสร้งทำท่าทางตกตะลึง “อ๊ะ พวกคุณมาแล้ว”
ฉิงฮัวพยักศีรษะให้กับแอนนิ
เป่หมิงโม่ยังคงมองเธอคิ้วขมวด “คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
แอนนิเดินมาถึงห้องรับแขกด้วยท่าทางผิดหวัง “ฉันไม่อยู่ที่นี่ แล้วจะอยู่ทำอะไรที่นั่นกัน งานไม่มีแล้ว บ้านก็ไม่มีแล้ว……”
ฉิงฮัวที่ได้ยินก็ใช่ จึงอดพูดขึ้นมาประโยคหนึ่งไม่ได้ว่า “ใช่แล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งเลี้ยงลูกนั้นไม่ง่ายเลย”
เมื่อเอ่ยถึงลูก เป่หมิงโม่ก็คิดถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์ในครั้งนั้นขึ้นมากะทันหัน เสียงของเด็กผู้หญิงนั้นทำให้เขารู้สึกว่าน่าสนใจและพิเศษเป็นอย่างมาก
เพียงแต่เขารู้สึกว่าไม่เห็นเจ้าเด็กนั่นที่นี่ ดังนั้นจึงถามกับแอนนิว่า “ลูกสาวของคุณล่ะ มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน”
*
เฉิงเฉิงแอบหลบอยู่ในห้องนอนของคุณแม่แล้วก็รีบโทรศัพท์หากู้ฮอนอย่างรวดเร็ว
ในตอนนั้นกู้ฮอนนั่งอยู่บนรถของหยินปู้ฝัน กำลังกลับบ้าน
วันนี้สองวิชาที่สอบไปถือว่าราบรื่น ดังนั้นอารมณ์ของเธอนับว่าไม่เลว
ขณะเดียวกันเสียงโทรศัพท์เธอดังขึ้น ก้มหน้ามองก็เห็นว่าเป็นเฉิงเฉิงที่โทรศัพท์มา
เธอรีบรับโทรศัพท์ “ฮัลโหล ลูกรัก คิดถึงแม่ใช่ไหมคะ แม่อยู่บนรถของพ่อปู้ฝัน ใกล้จะถึงบ้านแล้ว”
เฉิงเฉิงที่อยู่ในห้องนอนเอ่ยตอบด้วยเสียงที่เบามาก เกรงว่าคุณพ่อที่อยู่ด้านนอกจะได้ยิน “คุณแม่ครับ คุณพ่อมาแล้ว”
เดิมกู้ฮอนนั้นอารมณ์ดีมาก พอได้ยินใจก็ตึงเครียด สีหน้าก็เปลี่ยนไป ลูกรักตัวน้อยอยู่ในบ้าน ถ้าหากว่าถูกพบล่ะก็……
หน้าผากเธอมีเหงื่อเย็นๆผุดขึ้นมา เธอยืดตัวตรง “คุณพ่อของลูกเจอน้องไหม”
เฉิงเฉิงส่ายหน้า “ตอนนี้ยังไม่พบครับ คุณป้าแอนนิรับมือกับคุณพ่ออยู่ด้านนอก”
กู้ฮอนได้ยินว่าแอนนิกำลังรับมืออยู่กับเป่หมิงโม่ ในใจก็สงบลงไม่น้อย “ลูกรัก พวกเราใกล้จะถึงบ้านแล้ว ตอนนี้ลูกออกไปอยู่กับป้าแอนนิก่อน เธอรู้ว่าควรจะทำอย่างไร จำไว้ว่า จะต้องมีท่าทางเป็นปกตินะ อย่าเผยพิรุธอะไรออกไป”
เฉิงเฉิงพยักหน้าแรง “คุณแม่ วางใจเถอะครับ” เอ่ยจบ เขาก็เก็บโทรศัพท์
หลังจากสูดลมหายใจลึก ตั้งสติให้มั่นแล้วก็เดินออกไปจากห้องนอน
กู้ฮอนก็วางโทรศัพท์
หยินปู้ฝันกำลังขับรถ เนื้อหาในบทสนทนานั้นได้ยินมาบ้าง “ทำไมหรือ เป่หมิงโม่ไปบ้านเธอหรือ”
กู้ฮอนพยักหน้า