เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 618 การแลกเปลี่ยน
ตอนที่ 618 การแลกเปลี่ยน
หลังจากที่ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว เขาเข้าไปทางด้านข้างของอาคารหมายเลขที่เขียนไว้
หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ผู้คนในบริษัทบันเทิงแห่งใหม่กลายเป็นคนที่น่ากลัว ระมัดระวังทั้งในและนอก
หลังจากทนายหวังเปิดประตูเข้าไป เสี่ยวเช่นที่เคยต้อนรับกู้ฮอนก็ออกมาต้อนรับ “ไม่ทราบว่ามาหาใครคะ?”
ขณะพูด คนที่นั่งอยู่นั้นก็หันมามองดูคนที่มาเยือน
“เธอไม่จำเป็นต้องถาม ฉันแค่อยากจะเจอบรรณาธิการของพวกเธอ ฉันมีของที่น่าสนใจอยู่” ทนายหวังพูดเสียงเข้ม
เสี่ยวเช่นกวาดสายตามองขึ้นมองลงผู้มาเยือน “คุณรออยู่ที่นี่สักครู่” พูดจบ จากนั้นก็มองไปที่ซานหุ่น
ซานหุ่นพยักหน้า พาคนสองคนเดินไปที่ด้านหลังทนายหวัง บังทางเดินเขาไว้
เสี่ยวเช่นเข้าไปในห้องของบรรณาธิการไม่นานก็ออกมา แล้วพูดกับทนายหวัง “เชิญ บรรณาธิการอยากพบคุณ”
ทนายหวังเดินเข้าห้องบรรณาธิการไปอย่างใจเย็น ด้านหลังเขาก็มีพวกซานหุ่นที่เดินตามมาด้วยสามคน
บรรณาธิการเหล่าเฉียนนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานอย่างใจเย็น “นายมาจากไหน มาหาฉันเพื่ออะไร?”
ทนายหวังยิ้มอ่อน “ฉันแค่อยากคุยกับนายสองคน คนอื่นฉันไม่อยากเห็น”
“พวกนายไปทำงานขอตัวเองไป ที่นี่ฉันอยู่ได้” เหล่าเฉียนพูดกับซานหุ่น
ไม่นาน ห้องทำงานของบรรณาธิการก็เหลือแค่เหล่าเฉียนกับทนายหวังสองคน
“ตอนนี้นายบอกฉันได้แล้วใช่มั้ยว่านายเป็นใคร ได้ยินมาว่าในมือนายมีของที่ฉันต้องการอยู่ เอาออกมาดูหน่อยดีมั้ย” เห็นว่าเหล่าเฉียนที่คุยโทรศัพท์กับเจ้านายนั้นจะเสียงนอบน้อม
แต่เมื่ออยู่ในสนามแห่งนี้ เขาเบ่งได้แค่ไหน เขาก็เบ่งเท่านั้น
ทนายหวังยิ้มเยาะ “ฉันเป็นใคร นายไม่มีความจำเป็นต้องถาม ฉันแค่จะให้นายฟังอะไรหน่อย”
พูดพลางหยิบของชิ้นนั้นออกมาจากกระเป๋า เครื่องบันทึกเสียงที่บันทึกเรื่องเมื่อคืนไว้
วางไว้บนโต๊ะ
เหล่าเฉียนมองดูเครื่องบันทึกเสียง “นี่นายหมายความว่าอะไร?”
ทนายหวังไม่ได้พูดอะไร แค่เสียบหูฟังแล้วยื่นให้เขา จากนั้นก็กดปุ่มเริ่มเล่น
เหล่าเฉียนใส่หูฟัง เขาขมวดคิ้วแล้วฟังเนื้อหาในนั้นอย่างตั้งใจ
ขณะที่กำลังฟัง ก็พลางเงยหน้ามองทนายหวัง
หลังจากผ่านไปไม่นานเขาก็ถอดหูฟังออก และถามอย่างระมัดระวัง “พวกนี้นายเอามาได้ยังไง นายเป็นอะไรกับเป่หมิงโม่?”
ที่เขาถามแบบนี้ ก็เพราะว่าวันนี้เขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมด จากปากคนอื่น
ในใจเขารู้ดีว่าเป่หมิงโม่เป็นคนจำพวกนี้ ไม่ใช่คนที่พวกเขากล้าไปแตะ แต่ว่าเจ้าของไม่ใช่แค่ไม่ฟัง เขายังทำเรื่องไม่ดีอีก หัวแข็งอยากจะไปฟัดกับเสือ
วันนี้มีคนโผล่มา แถมยังไม่เขาฟังเสียงที่ถูกบันทึกไว้เมื่อคืนอีก เป็นมิตรหรือว่าศัตรูตอนนี้เขาก็ยากที่จะมองออก
***
ทนายหวังยิ้มและยังคงไม่ตอบคำถามของเขา
“นายไม่ต้องสนใจว่าฉันเอามันมาได้ยังไง และฉันก็ไม่สนใจว่าใครคือเป่หมิงโม่ ฉันแค่รู้ของสิ่งนี่มีความสำคัญกับนายมาก”
เหล่าเฉียนพยักหน้า “เพื่อน ในเมื่อนายไม่อยากบอก ฉันก็จะไม่เค้นถามนายแล้ว พูดมา ของสิ่งนี้ราคาเท่าไหร่?”
ทนายหวังยิ้มมุมปาก ชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว
เหล่าเฉียนพยักหน้า “สามหมื่นเหรียญ ถือว่าโอเค” พูดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเรียกให้เสี่ยวเช่นเตรียมเงินไว้
แต่เขาไม่คิดว่า ขณะเดียวกันนั้น ทนายหวังก็หยิบมันกลับไปอีกครั้ง
“นี่นายหมายความว่าไง?” เหล่าเฉียนทำหน้างงๆ
ทนายหวังพูดไปยิ้มไป “บรรณาธิการเฉียนดูถูกกันเกินไปหน่อยแล้วมั้ง ที่ฉันต้องการไม่ใช่สามหมื่น แต่เป็นสามแสน”
“สามแสน!นี่นายล้อกันเล่นเหรอ” เหล่าเฉียนผิดคาด
“หึหึ คดีนี้รู้กันทั่วเมืองA ค่าตอบแทนสามล้านก็ไม่ใช่น้อยๆ นะ ฉันต้องการแค่สิบเปอร์เซ็นต์เอง พูดอีกอย่าง ไฟล์เสียงเมื่อกี้นายก็ได้ยินแล้ว ถ้าหากฉันเอาสิ่งนี่กลับไป แม้แต่แดงเดียวพวกนายก็จะไม่ได้ ไม่พูด ถึงตอนนั้นพวกนายจะต้องชดใช้เท่าไหร่ก็ไม่สามารถประเมินค่าได้เลย” ทนายหวังพูดจบ ก็ลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไป
“นี่ อย่า อย่า……พรรคพวกทำไมนายถึงได้ใจเย็นแบบนี้นะ ฉันแค่ล้อนายเล่นเฉยๆ สามแสนไม่ถือว่าแพง” เหล่าเฉียนพูดจบ ก็ยกหูโทรศัพท์ทันที “เสี่ยวเช่น เตรียมเงินสามแสนเข้ามาตอนนี้เลย”
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสี่ยวเช่นก็ยกกระเป๋าเล็กๆ มาใบนึง เธอเอากระเป๋าวางลงบนโต๊ะ “บรรณาธิการ เตรียมเงินเรียบร้อยแล้วค่ะ”
ทนายหวังยื่นมือไปเปิดกระเป๋า หยิบมันออกมา แล้วนับแบบลวกๆ จากนั้นก็พยักหน้า
หลังจากนั้นก็มอบเครื่องบันทึกเสียงให้เหล่าเฉียน
เหล่าเฉียนถือเครื่องบันทึกเสียงแล้วยิ้มไปทางทนายหวัง “ฉันจะรู้ได้ไงว่านี่ไม่ได้มีอยู่แค่อันเดียว แถมนายได้ก๊อบปี้ไว้หรือเปล่า?”
ทนายหวังก็หัวเราะ “ของสิ่งนี้ให้พวกนายแล้ว แถมรู้เนื้อหาด้านใน ให้สิ่งนี้กับทนายของพวกนาย พวกเขาคงจะรู้ได้ว่าต่อไปต้องทำยังไง ถึงแม้ฉันจะมีไฟล์สำรอง พอถึงเวลานั้นก็จะกลายเป็นของปลอมไป”
เหล่าเฉียนพยักหน้า “นายพูดถึงขนาดนี้แล้ว งั้นฉันก็ไม่สงสัยอะไรแล้ว”
พูดถึงตรงนี้ เขาก็ลุกขึ้น “เสี่ยวเช่น ส่งแขกท่านนี้ด้วย”
ทนายหวังหยิบกระเป๋า แล้วหันหลังเดินตามเสี่ยวเช่นออกมาจากบริษัทบันเทิงแห่งใหม่
หลังจากที่เหล่าเฉียนส่งทนายหวัง เขาก็รีบปิดประตูห้องทำงาน แถมยังล็อกไว้ด้วย
เขาล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเจ้าของ “เจ้าของ รายงานข่าวดีเรื่องหนึ่งเรื่องที่หลุดออกไปเมื่อคืน วันนี้ผมเอากลับมาได้แล้วครับ” จากนั้นก็เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อีกรอบ
ชายสวมหมวกเบสบอลฟังจบก็พยักหน้า “เป็นอย่างนี้นี่เอง นายก็รีบเอาสิ่งนั้นไปทำลายทิ้งซะ จากนั้นก็ทำตามที่ฉันวางแผนไว้ก็โอเคแล้ว”
เหล่าเฉียนพยักหน้า
*
ทนายหวังออกมาจากอาคารสำนักงาน ก็เรียกแท็กซี่
ตอนที่เขาขึ้นรถ ก็ถอดหมวกและแว่นตาทิ้งลงถังขยะข้างทาง
เงินก็ได้เอาเข้าบัญชีธนาคารของตัวเองไปแล้ว
ขณะที่ออกมาจากธนาคาร ก็มองไปที่เมฆบนท้องฟ้า จากนั้นบนหน้าเขาก็มีรอยยิ้มออกมา
“หึหึ กู้ฮอน ทำหลักฐานหาย ฉันจะคอยดูว่ายังจะทำอะไรได้อีก หยินปู้ฝัน ว่าความคดีนี้แพ้ ทำได้แค่โทษเธอที่เอาแต่อยู่ฝั่งนางนั่น! “
***
ทนายหวังกลับไปที่สำนักงาน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขากลับไปที่นั่งของตน แล้วจัดของอย่าลวกๆ จากนั้นก็เดินไปหากู้ฮอน
แล้วก็ยิ้มแบบปลอมๆ “คุณกู้ พวกเรามาคุยกันเรื่องคดีของคุณเป่หมิงกันเถอะ ฉันยอมรับว่าแต่ก่อนฉันทำตัวไม่ค่อยดีกับเธอ นั่นก็เพราะว่าคดีนี้นั้นสำคัญมาก ได้โปรดให้อภัยด้วย”
กู้ฮอนส่ายหน้าแล้วมองไปที่ทนายหวัง พูดตามตรงเป็นหยินปู้ฝันที่จัดให้พวกเขามาทำงานร่วมกัน จากที่เห็นเขาเมื่อวาน เธอก็ยังคงไม่อยากจะร่วมงานกับเขา
แต่เขาถึงกับยอมอ่อนก่อน งั้นก็ไม่สร้างความลำบากใจให้เขาแล้วกัน
“พวกเราไปคุยกันที่ห้องประชุมเถอะ” เธอพูดพลาง เก็บของที่อยู่บนโต๊ะ
“ใช่แล้ว เธอเอาเครื่องบันทึกเสียงนั้นไปด้วย ฉันยังไม่ได้ฟังเนื้อหาด้านในเลย” ทนายหวังรีบพูดเสริมประโยคนี้
ขณะที่พวกเขาเดินผ่านห้องทำงานของหยินปู้ฝัน ทนายหวังก็จงใจเคาะประตูของเขา
หลังจากได้รับการขานรับ เขาก็ค่อยๆ เปิดประตูแล้วพูดกับหยินปู้ฝัน “ทนายหยิน ผมกับคุณกู้ตอนนี้จะไปที่ห้องประชุมหารือเรื่องคดีของคุณเป่หมิง คุณจะมาฟังด้วยกันมั้ยครับ ถือโอกาสแนะนำพวกเราไปด้วยเลย”
หยินปู้ฝันได้ยิน ก็วางงานในมือลง แล้วเงยหน้าพูดกับทนายหวัง “ได้ พวกนายไปกันก่อน เดี๋ยวฉันตามไป”
ไม่นาน ทั้งสามก็ได้มานั่งล้อมวงกันที่ห้องประชุม
ทนายหวังก็ได้รายงานสิ่งที่ตนหาได้เมื่อวานนี้ จากนั้นก็ยังจงใจพูดถึง บริษัทบันเทิงใหม่และพนักงานที่ฟ้องคุณเป่หมิง มันจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จะชนะหรือความล้มเหลวก็จะมุ่งเน้นไปที่สิ่งนี้ด้วย
หยินปู้ฝันตั้งหน้าตั้งตาบันทึกลงไปในโน้ตบุ๊กของตน พอฟังทนายหวังพูดจบ เขาก็พยักหน้า จากนั้นก็พูดกับกู้ฮอน “เมื่อวานเธอได้หลักฐานมาไม่ใช่เหรอ เอาออกมาดูหน่อย”
กู้ฮอนพยักหน้า “เมื่อวานฉันได้แทรกแซงเข้าไปในบริษัทบันเทิงใหม่ และได้หลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับคดีมาจากคนในนั้น”
เธอพูดพลาง หยิบเครื่องบันทึกเสียงออกมาจากกระเป๋า แล้ววางมันลงบนโต๊ะ มองไปที่หยินปู้ฝันแล้วพูดต่อ ” ที่อัดเสียงไว้ในนี้คือเสียงที่เขาพูดออกมาจากปากด้วยตัวเอง ในความจริงแล้ว บริษัทบันเทิงแห่งใหม่นี้ไม่เคยมีสถานะใด ๆ ในวงการ คดีของคุณเป่หมิงในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการที่ฝ่ายต่างๆ วางแผนไว้โดยจงใจหาโอกาสที่จะผลักดันบริษัทไปสู่จุดสูงสุด”
หยินปู้ฝันฟังถึงตรงนี้ ก็ขมวดคิ้ว “แน่นอนว่ามีอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอพูดต่อสิ ว่าสืบอะไรมาได้อีก? ”
กู้ฮอนพยักหน้า “ไม่ใช่แค่นั้น เขายังยืนยันด้วยปากของตัวเองว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องไม่เคยมีอยู่ ตั้งแต่แรกแล้ว”
ทนายหวังที่อยู่ด้านข้าง มองกู้ฮอนที่กำลังกระตือรือร้น ในใจเขาก็แอบหัวเราะเยาะ ตอนนี้พูดเอาๆ อีกเดี๋ยวจะคอยดูว่าเธอจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง
“อืม หลักฐานที่เธอหามาได้มันก็สำคัญจริงๆ แหละ มีสิ่งนี้ เราต้องชนะคดีแน่นอน” หยินปู้ฝันพูดจบ ก็มองไปทางกู้ฮอน “เพื่อคดีนี้เธอต้องได้รับอันตราย ลำบากเธอแล้วจริงๆ พอคดีสิ้นสุด พวกเราจะชมเชยเธอแน่ๆ ”
กู้ฮอนยิ้มอ่อน “เรื่องนั้นไม่ต้องก็ได้ค่ะ เพื่อที่จะได้เป็นทนาย ขุดคุ้ยคดีเพื่อที่จะได้รู้ความจริง อันตรายแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มค่าค่ะ”
ขณะนั้นทนายหวังก็เปิดปากพูด “ทนายหยิน กว่าคุณกู้จะได้หลักฐานชิ้นนี้มาไม่ง่ายเลย พวกเรามาเปิดฟังกันหน่อยดีมั้ย”
***
กู้ฮอนพยักหน้า จากนั้นก็เดินออกจากห้องประชุมไป ไม่นานก็ถือลำโพงเข้ามา
หลังจากเสียบปลั๊กลำโพง เธอก็เชื่อมกับเครื่องบันทึกเสียง
ขณะที่เธอกดเล่น ภายในห้องประชุมก็เงียบลง
ทนายหวังจ้องไปที่เครื่องบันทึกเสียงนั้นอย่างตื่นเต้น
“กึก……ติ๊ด…….”
ลำโพงก็มีเสียงแหลมๆ ดังออกมา. หยินปู้ฝันกับกู้ฮอนขมวดคิ้ว
เธอรีบปิดเครื่องเล่นทันที ใบหน้าก็มีสีหน้าตกใจ
หยินปู้ฝันมองไปที่กู้ฮอน “ไม่ต้องรีบร้อน ดูก่อนว่าสรุปแล้วมันเป็นอะไรกันแน่ เป็นเพราะเสียบปลั๊กไม่ดีหรือเปล่า”
กู้ฮอนเชื่อมเครื่องบันทึกเสียงกับลำโพงอีกครั้ง แล้วลองเปิดดูใหม่
รอบนี้ไม่มีเสียงแหลมๆ แล้ว แต่ว่าผ่านไปสองนาทีก็ไม่มีเสียงอะไรดังขึ้นมา
ขณะเดียวกัน ทุกคนก็ได้กลิ่นพลาสติกกำลังไหม้
หยินปู้ฝันถอดสายเชื่อมกับเครื่องบันทึกเสียงออก ขณะที่ถ่านด้านในหลุดออกมา
จากนั้นก็ยกขึ้นดม จากนั้นก็ทำอะไรไม่ถูกแล้วส่ายหน้าให้กู้ฮอน “ดูเหมือนว่าจะโดนเผาจนพังไปแล้ว”