เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 624 ฉิงฮัวผู้ใสซื่อ
ตอนที่ 624 ฉิงฮัวผู้ใสซื่อ
เป่หมิงโม่หยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาอย่างไม่เร่งรีบ แล้วจิบชาไปหนึ่งคำ ดูสงบและผ่อนคลายอย่างชัดเจน
กู้ฮอนมองดูเขา เหมือนว่าความเยือกเย็นปกติบนตัวของเขาหายไปบ้าง
หลังจากดื่มชาเสร็จ เป่หมิงโม่เงยหน้าขึ้นมามองกู้ฮอน “เฉิง อยู่ที่กับเธอตรงนั้นชินไหม”
กู้ฮอนพยักหน้า “เฉิงเฉิงอยู่ที่นั่นสบายดีมาก ช่วงนี้ฉันค่อนข้างยุ่ง แอนนิดูแลแทนฉัน”
“ความคืบหน้าของคดีของผมเป็นอย่างไรบ้าง?” เป่หมิงโม่พูดแล้วก็จิบชาอีกรอบ
เมื่อถามถึงเรื่องนี้ กู้ฮอนสีหน้าเปลี่ยนดูไม่ดี เธอลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเบาๆ อย่างระมัดระวัง “มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับคดีนั้น ตอนนี้หยินปู้ฝันกำลังติดตามอยู่”
ตอนแรกคิดว่าหลังจากเป่หมิงโม่ได้ยินข่าวนี้แล้วจะโกรธมาก กู้ฮอนได้เตรียมใจไว้เรียบร้อย
คิดไม่ถึงว่าเมื่อเป่หมิงโม่วางถ้วยชาลง มุมปากจะเผยรอยยิ้มที่เยือกเย็นออกมา “หึ ตอนแรกให้เขารับผิดชอบคดีนี้ เขาคิดไม่ซื่อกับฉัน ตอนนี้เกิดปัญหาขึ้นเขาก็ต้องจบมันด้วยตัวเอง”
หากก่อนรับคดี หากเป่หมิงโม่ไม่พอใจผู้สมัคร เธอยังสามารถโต้แย้งกับเขาได้บ้างเล็กน้อย แต่ตอนนี้เหลือเพียงคำพูดที่เอาแต่พูด
ฉิงฮัวที่ยืนอยู่ด้านข้างขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามกู้ฮอนอย่างระมัดระวัง “คุณผู้หญิง หากเป็นเช่นนี้ แล้วคดีของเจ้านายมีความเป็นไปได้ที่จะชนะได้มากน้อยแค่ไหน?”
กู้ฮอนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจ บอกเร็วบอกช้ายังไงผลลัพธ์ก็เหมือนกัน
เมื่อเธอคิดถึงตรงนี้ พูดหนึ่งประโยคไปอย่างระมัดระวัง “จากการวิเคราะห์ของฉัน เป็นไปได้น้อยที่จะชนะ”
หลังจากเป่หมิงโม่ได้ฟังแล้ว นำถ้วยชาที่อยู่ในมือวางลงบนโต๊ะน้ำชา
เงียบ…
ทั่วทั้งห้องหนังสือเงียบมากอย่างชัดเจน
กู้ฮอนและฉิงฮัวเฝ้าดูปฏิกิริยาของเป่หมิงโม่อย่างประหม่า ฝ่ามือของพวกเขามีเหงื่อซึม
เป่หมิงโม่หยิบกาน้ำชา แล้วก็เทให้ตัวเอง
หลังจากนั้นก็ยกซดจนหมดเกลี้ยง
จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วกลับไปนั่งลงหลังโต๊ะทำงานใหม่
“ในเมื่อพวกเธอเตรียมพร้อมที่จะแพ้คดี งั้นก็ตามนี้ก็แล้วกัน ถึงเวลานั้นรอให้หยินปู้ฝันเตรียมจ่ายค่าชดเชย” เมื่อเป่หมิงโม่พูดจบ มือก็หยิบภาพออกแบบขึ้นมาดูต่อ
ก่อนที่เขาจะยังไม่พูดอะไร กู้ฮอนและฉิงฮัวทำได้เพียงอยู่ที่เดิม ฟังว่าเขาจะพูดอย่างอื่นไหม
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เขาเงยหน้าขึ้นมามองกู้ฮอน “ทำไมเธอยังไม่ไปอีก รออยู่ที่นี่ทำอะไร?”
กู้ฮอนส่ายหน้า “ไม่มีอะไร เพียงแต่ไม่รู้ว่าคุณยังมีเรื่องอื่นที่ต้องการพูดกับพวกเราไหม แต่คุณวางใจได้ แม้ว่าคดีความนี้เราจะมองในแง่ร้ายที่สุดไว้ก่อน แต่เราก็จะต่อสู้เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของคุณ”
พูดแล้วเธอก็ลุกขึ้นมา “คุณเป่หมิง หากไม่มีธุระอื่น งั้นฉันขอตัวกลับก่อน วันมะรืนก็ถึงวันขึ้นศาล หากคุณไม่สนใจ เราสามารถยื่นเรื่องร้องขอให้คุณไม่ต้องไปศาลได้”
จากนั้นเธอก็หันตัวเดินไปที่ประตูห้องหนังสือ เปิดประตูออก
เธอหันมาบอกหนึ่งประโยค “ขอบคุณสำหรับน้ำชาของคุณเป่หมิง” จากนั้นเธอก็เดินออกจากบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิงโดยไม่หันกลับมามอง
***
ฉิงฮัวมองดูกู้ฮอนเดินออกจากห้องทำงาน แต่เจ้านายไม่ได้หลงเหลือความหมายใดๆ ไว้
หรือโกรธเพราะเมื่อครู่ที่คุณผู้หญิงให้เขาเตรียมใจยอมแพ้?
แต่ เจ้านายไม่ได้แสดงอาการโกรธออกมา แต่กลับสงบมากอย่างเห็นได้ชัดเจน
“เจ้านาย คุณผู้หญิงไปแล้วให้ผมขับรถไปส่งเธอไหม?” ฉิงฮัวถามเป่หมิงโม่อย่างระมัดระวัง
ผ่านไปสักพัก เป่หมิงโม่ก็พูดขึ้นว่า “นายไม่ต้องแล้ว ให้ลุงคุนไปส่งเธอ”
*
เมื่อกู้ฮอนเดินออกจากบ้านใหญ่ตระกูลเป่หมิง มีรถBMWสีแดงหนึ่งคันจอดอยู่ข้างหน้าไม่ไกลจากเธออย่างรวดเร็ว ลุงคุนลงจากรถ “คุณผู้หญิง ให้ผมส่งคุณกลับบ้านเถอะครับ”
กู้ฮอนพยักหน้า แล้วขึ้นรถ
*
เป่หมิงโม่ยังคงมองภาพออกแบบอย่างสงบ สำหรับคดีความของตัวเอง เขาให้ความสำคัญกับการประมูลครั้งนี้มากกว่า
แม้ว่าเจียงฮุ่ยซินจะกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองแล้ว แต่เมื่อเธอนึกถึงว่ากู้ฮอนอยู่ที่นั่นกับเป่หมิงโม่ ในใจก็รู้สึกไม่ได้อย่างชัดเจน
ในระหว่างนั้น เธอยังเรียกคนใช้คนสนิทของเธอไปดูสถานการณ์ กลับมาครั้งแรกบอกว่าไม่ได้ยินอะไร ครั้งที่สองก็ได้รู้ว่ากู้ฮอนได้ออกไปแล้ว
ครั้งนี้กู้ฮอนอยู่ที่เป่หมิงโม่ใช้เวลาไม่นาน ทำให้เธอรู้สึกประแปลกใจ แต่ก็ตรวจไม่พบอะไร จึงทำได้เพียงไม่สนใจ
คนที่เจียงฮุ่ยซินไม่อยากเจอมากกว่ากู้ฮอนก็คือเฟยเอ๋อ แต่หากจะจับหนูก็ต้องรู้วิธี เพราะเป่หมิงโม่ สำหรับเฟยเอ๋อเธอจึงทำได้เพียงแสร้งทำเป็นไม่เห็น
เป่หมิงโม่มองดูภาพออกแบบทั้งสองชิ้น หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนสักพัก ก็ตัดสินใจเสนอราคาตามแผนการออกแบบของนายหวี
เขาวางภาพออกแบบลงในถังรูปวาด แล้วส่งให้ฉิงฮัวที่อยู่ข้างๆ “พรุ่งนี้นายส่งสิ่งนี้ให้บริษัทเจียเม้า”
ผ่านไปสักพักก็ยังไม่เห็นว่าฉิงฮัวจะรับมันไป เป่หมิงโม่หันไปมอง เห็นเพียงฉิงฮัวก้มหน้าขมวดคิ้วคิดเรื่องต่างๆ
ฉิงฮัวเป็นคนที่เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวมาโดยตลอด วันนี้เขาก้มหน้าคิดเรื่องต่างๆ ส่วนน้อยที่เป่หมิงโม่จะเห็นแบบนี้
“นี่ นายเป็นอะไร คิดอะไรอยู่?” เป่หมิงโม่ใช้กระดาษวาดภาพแตะเขา
“อ้อ เจ้านาย เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?” ฉิงฮัวรีบดึงสติกลับมา
“ฉันบอกว่าให้นายนำภาพออกแบบนี้ ส่งไปให้คนที่รับผิดชอบเรื่องเสนอราคาของบริษัทเจียเม้านายเหม่อลอยคิดอะไรอยู่?” เป่หมิงโม่มองฉิงฮัว
แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเป่หมิงโม่จะเป็นเจ้านายและลูกน้อง แต่พวกขาก็เหมือนเพื่อนกัน
“เจ้านาย ผมมีหนึ่งเรื่องที่ไม่เข้าใจ” ฉิงฮัวพูดอย่างลังเล
เมื่อเป่หมิงโม่ได้ฟังเขาพูดอย่างนี้ กลับรู้สึกทึ่งเช่นกัน “นายคิดอะไรไม่ออก ไหนพูดกับฉันสิ”
ฉิงฮัวคิดอย่างสักพัก จากนั้นก็พูดติดขัด “เจ้านาย เรื่องเป็นแบบนี้…” ดังนั้น เขาจึงพูดซ้ำถึงเรื่องที่กู้ฮอนได้พูดกับเขาเมื่อตอนอยู่หน้าประตูร้านไอศกรีม
“เจ้านาย สิ่งที่คุณผู้หญิงพูด ตกลงหมายถึงอะไรกันแน่?” ฉิงฮัวมองเป่หมิงโม่ ใบหน้าแสดงอาการงงงวย
เมื่อเป่หมิงโม่ได้ฟัง ก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง มุมปากของเขาก็ยกขึ้นเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ มองฉิงฮัวแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ต้องโทษฉัน ที่ให้นายติดตามฉันตลอดทั้งวัน เผชิญแต่กับสิ่งที่เป็นการตลาด สำหรับเรื่องอื่นสอนนายน้อยมากเกินไป ดังนั้นนายจึงรู้น้อยมากเกี่ยวกับเรื่องของความรักของลูกๆ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปข้างกายของฉิงฮัว เอื้อมมือไปตบไหล่ของฉิงฮัวเบาๆ “เรื่องที่นายก่อไว้วันนั้น วันนี้นายจะเป็นพ่อคนแล้ว”
***
จะเป็นพ่อคนแล้ว…
ประโยคนี้เหมือนฟ้าผ่า ที่ดังก้องขึ้นมาในหัวของฉิงฮัว
ใบหน้าของเขาหม่นหมองทันที
“เจ้า เจ้านาย เมื่อกี้คุณบอกว่าผมจะเป็นพ่อคนแล้ว? เป็นไปไม่ได้ ผมกับคุณลั่วก็แค่คืนเดียว” ฉิงฮัวใบหน้าแดง ปากพูดอย่างติดขัด
เป่หมิงโม่มองดูท่าทางของฉิงฮัว ช่างน่าสนใจจริงๆ “คืนเดียวนายยังรู้สึกไม่เกินไปเหรอ นายดูเฉิงเฉิงและหยางหยางสิ ก็คืนเดียวเหมือนกัน” วินาทีนี้หน้าผากของฉิงฮัวมีเหงื่อซึมออกมา “เจ้านาย ผมควรทำอย่างไรดี?”
คำถามนี้ ทำให้เป่หมิงโม่รู้สึกตลก “นายถามฉันควรทำอย่างไร คนเกี่ยวข้องไม่ใช่ฉัน”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เป่หมิงโม่มองฉิงฮัวอย่างเคร่งขรึม “ในเมื่อนายมีลูกกับลั่วเฉียวแล้ว งั้นก็รับผิดชอบในฐานะผู้ชาย ให้เธอคลอดลูกออกมา และแต่งงานกับเธอ”
ในความเป็นจริง เป่หมิงโม่ไม่อยากใช้วิธีเดียวกัน ที่ให้กู้ฮอนแต่งเข้ามาที่ตระกูลเป่หมิง แต่เมื่อเทียบกับกู้ฮอนแล้ว เฟยเอ๋อเคยเสียรูปลักษณ์เพื่อเขา สิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ให้ความสำคัญมากที่สุดคือรูปลักษณ์
ฉิงฮัวแสดงท่าทีที่ลำบากใจอีกครั้ง “เจ้านาย ที่จริงหลังจากนั้นนั้นแล้วผมกับคุณลั่ว ผมติดต่อเธอบ่อยๆ แต่เธอคอยหลบหน้าผม อีกอย่าง เธอเป็นถึงดารา ผมเป็นเพียงแค่ผู้ติดตาม
คำพูดนี้เป่หมิงโม่ไม่ชอบฟัง “ผู้ติดตามแล้วยังไง ความจริงความสามารถของนายในตอนนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้รับผิดชอบแผนกอื่นเลย หากเป็นเพราะเรื่องสถานะที่ต่างกันของพวกนายแล้ว จัดการง่ายมาก พรุ่งนี้ฉันสามารถย้ายให้นายไปอยู่ในแผนกที่นายต้องการให้นายเป็นหัวหน้าแผนกหรือผู้จัดการแผนก แต่หากเพราะเธอคอยหลบหน้านาย ฉันก็ไม่สามารถมัดเธอไว้ตรงหน้านายได้ ต้องขึ้นอยู่กับการกระทำของนายแล้ว”
เป่หมิงโม่ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “นายติดตามฉันมาหลายปี ฉันก็คิดกับนายเป็นพี่น้อง ต่อไปนายก็ไม่ต้องติดตามฉันทั้งวัน หากฉันมีเรื่องที่ต้องจัดการ ค่อยเรียกนาย”
เมื่อฉิงฮัวได้ฟัง ก็รีบพูดทันที “เจ้านาย ฉิงฮัวจะติดตามคุณไปจนวันตาย ไม่ออกจากเจ้านายแม้แต่ครึ่งก้าว”
เป่หมิงโม่มองสายตาที่แน่วแน่ของฉิงฮัว พยักหน้า แล้วเขาก็ชกหมดเข้าที่ไหล่ของเขา “ฉันให้นายได้มีเวลาไปจีบลั่วเฉียว แล้วรักษาความสุขที่นายควรจะมีเข้าใจไหม”
ฉิงฮัวกำลังจะพูดบางอย่าง เป่หมิงโม่ก็ชี้เขา ด้วยใบหน้าที่จริงจัง “อย่าบอกว่านายทำไม่ได้ ให้นายตามจีบลั่วเฉียวก็เป็นหน้าที่ที่ฉันมอบหมายให้นาย ต้องสำเร็จ ห้ามล้มเหลวเด็ดขาด”
ฉิงฮัวทำได้เพียงพยักหน้า “ขอบคุณเจ้านาย”
เป่หมิงโม่โบกมือให้เขา พอแล้ว นายไปพักผ่อนเถอะ ไปคิดดูดีๆ ว่าจะจีบเธอยังไง อะไรที่ควรจ่ายก็จ่าย อะไรที่ควรโรแมนติกก็ไปโรแมนติก ค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาคิดที่ฉัน นายไปจีบอย่างกล้าหาญเถอะ”
เมื่อเขาพูดสิ่งเหล่านี้จบ ไขว้มือไว้ข้างหลังแล้วยืนอยู่ตรงหน้าต่างของห้องหนังสือ แหงนหน้ามองดวงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้าสีคราม ก็อดคิดถึงกู้ฮอนไม่ได้
มันเป็นสิ่งที่เขาให้ฉิงฮัวไปทำให้ลั่วเฉียวในสิ่งที่เขาควรทำให้กับกู้ฮอน
*
เวลานี้ กู้ฮอนก็ถูกลุงคุนส่งมาถึงหน้าซอยเล็กๆ ของบ้านเธอ
หลังจากเธอกล่าวขอบคุณลุงคุนแล้ว ลุงคุนก็ขับรถออกไป
เดินเข้าไปในซอยเพียงคนเดียว อดไม่ได้ที่จะแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีเข้ม แต่อารมณ์ของกลับหนักอึ้งเล็กน้อย
เธอกำลังกังวลว่าหยินปู้ฝันยังมีความหวังเพียงเล็กน้อยอยู่ไหม หากคดีพลิกเป็นชนะ แต่สิ่งที่เธอกังวลกลับเป็นฉิงฮัวจะไปหาลั่วเฉียวรึเปล่า แล้วลั่วเฉียวจะเอาเด็กออกหรือไม่
เรื่องนี้ก่อนวันขึ้นศาลหนึ่งวัน หยินปู้ฝันได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อเปลี่ยนทนายความ
เนื่องจากสถานการณ์ค่อนข้างพิเศษ ศาลจึงได้อนุมัติคำร้องขอของเขาอย่างรวดเร็ว
เช้าตรู่ กู้ฮอนมาถึงที่ทำงาน ก็ตรงไปที่ห้องทำงานของหยินปู้ฝัน
หลังจากนั้น ทนายหวังมาที่สำนักงานกฎหมายด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ตอนที่เขามาถึงที่นั่งของตัวเอง พบว่าเอกสารคดีของเป่หมิงโม่ตอนแรกที่วางอยู่บนโต๊ะทั้งหมดได้หายไปแล้ว
แม้ว่าคดีนี้จะไม่สามารถชนะได้อีกต่อไป แต่เขาก็ต้องทำอะไรบางอย่าง
หลังจากค้นหาอยู่พักหนึ่ง เขาได้กวักมือเรียกคุณป้าที่กำลังทำความสะอาดอยู่ “ป้าเห็นเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของผมไหม?”
คุณป้าแม่บ้านส่ายหน้า
หากเอกสารหายไปจากบนโต๊ะของเขา เรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็กได้ หลักฐานสำคัญขั้นต้นได้หายไป สามารถให้กู้ฮอนใส่ไว้ในกระเป๋าได้ ซึ่งแตกต่างจากเอกสาร ตัวเองไม่สามารถใช้ความสัมพันธ์ได้
หากเป่หมิงโม่รู้เข้า คาดว่าเขาคงไม่มีทางตั้งหลักได้ในเมืองA
เรื่องนี้ต้องรีบบอกกับหยินปู้ฝันทันที
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็เดินไปที่ห้องทำงานของหยินปู้ฝันด้วยสีหน้าตื่นตระหนก