เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 649 กังวลอยู่บ้างจริงๆ
ตอนที่ 649 กังวลอยู่บ้างจริงๆ
“โอเค เอาพวกนี้ไปตกก็พอที่จะเป็นอาหารมื้อใหญ่ให้พวกคุณแล้ว”ถังเทียนจื๋อยืนขึ้นพูด แล้วก็ปัดดินที่มือออก
เฉิงเฉิงเอาไส้เดือนกลับไปข้างๆกู้ฮอน เอาถุงที่ใส่ไส้เดือนในมือส่ายไปมาตรงหน้าเธอ“แม่ครับ พวกเราตกปลากันเถอะ”
กู้ฮอนมองไส้เดือนที่เลื้อยไปมาในถุง ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอรู้สึกต่อสิ่งมีชีวิตที่เลื้อยคลานแบบนี้ ไม่สามารถบรรยายออกมาได้
“ทำไม คุณกู้ คุณกลัวไส้เดือนเหรอ?”ถังเทียนจื๋อพูดไป ก็ไปที่แม่น้ำ ยื่นมือลงไปล้าง
กู้ฮอนส่ายหัว“ที่จริงไม่ใช่กลัวหรอกค่ะ แค่เห็นของแบบนี้แล้วรู้สึกไม่สบายตัวไปหมด”
“เหอะเหอะ ในเมื่อแบบนี้ งั้นผมก็จะสอนเฉิงเฉิงตกปลา”เขาพูด แล้วหันไปเรียกเฉิงเฉิงมาอยู่ข้างๆ
“หนูเอาไส้เดือนวางลงบนพื้นก่อน จากนั้นเอาตัวหนึ่งมาใส่ที่เบ็ด”ถังเทียนจื๋อเริ่มสอนเฉิงเฉิงว่าติดเหยื่อที่เบ็ดอย่างไร ตามด้วยสะบัดเบ็ดลงไปในแม่น้ำอย่างไร
พอเบ็ดโอเคแล้ว ถังเทียนจื๋อก็ให้เฉิงเฉิงนั่งลงที่หิน“ตอนนี้หนูต้องมองที่เบ็ดในแม่น้ำดีๆ รอปลามากินอาหาร เบ็ดจะขยับสองที ตอนนี้อย่าเพิ่งดึงขึ้น รอเบ็ดจมลงลึกๆแล้วค่อยรีบดึงขึ้น เข้าใจไหม?”
ถังเทียนจื๋อพูดชัดเจนดี ไม่แค่เฉิงเฉิง แม้แต่กู้ฮอนที่อยู่ข้างๆก็ยังเข้าใจ
“Noton คุณอธิบายชัดเจนขนาดนี้ ไม่ไปเป็นครูก็เสียดายที่มีความสามารถนะคะ”กู้ฮอนพูดขำๆ
ถังเทียนจื๋อโบกมือ“ที่จริงไม่ถือว่าสอนหรอกครับ แค่เอาประสบการณ์ตกปลาบอกเฉิงเฉิงเฉยๆ ผมยังมีทักษะการตกปลาอีกมากมายที่เหลืออยู่ พวกนี้จะเอาไปสอนใครลวกๆไม่ได้ เหอะเหอะ”พูดจบ เขาก็ยกมือขึ้น เอามือชี้ไปที่หัวตัวเอง
“โอเค พวกคุณค่อยๆตกปลาที่นี่ไปเถอะครับ ผมจะไปเอาถังมาให้พวกคุณ เดี๋ยวตกปลาได้จะได้เอามาใส่ถัง”
***
เป่หมิงโม่พาหยางหยางเข้าป่า ยิ่งเดินยิ่งลึก ยิ่งไปยิ่งไกล
ตอนที่อยู่ในค่ายเมื่อกี้ อุณหภูมิกำลังดี
แต่ว่าพอเข้ามาในป่าแล้ว ไม่นานก็รู้สึกที่นี่ชุ่มชื้น
รอบๆเขาคือสีเขียวล้วน ส่วนลำต้นของต้นไม้สีน้ำตาลเข้มปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำ
ต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาหลายปีมีกิ่งหักเป็นชั้นๆ ยากที่จะเห็นถูกพวกมันปกคลุมที่พื้น
เหยียบด้านบนที่รู้สึกเบาๆเหมือนกำลังเดินบนหิมะ หรือผ้าฝ้าย และยังส่งเสียง “คลิก คลิก”กับ“กรอบ กรอบ”ออกมา
เงยหน้ามองไปที่ท้องฟ้า ที่นี่มีต้นไม้แน่นหนา จบเกือบจะปิดคลุมท้องฟ้าสีฟ้าไปทั้งหมด
ทุกลมหายใจ ต่างรู้สึกถึงรสชาติของความชุ่มชื้นและแห้งแล้งผสมกันของที่นี่
แต่พอเปรียบกับเมือง ที่อากาศมีฝุ่นละอองกับไอเสีย ที่นี่ก็ยังบริสุทธิ์มาก
ที่นี่ถึงจะเป็นรสชาติแห่งธรรมชาติที่แท้จริง
และสายลมที่พัดมาเป็นครั้งคราว นำกลิ่นเน่าเปื่อยที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนมาด้วย
ต้นไม้สั่นก็ส่งเสียงกรอบแกรบไปมา มีแค่เวลานี้ ถึงจะสามารถมองเห็นว่าด้านบนที่แท้ก็มีสีท้องฟ้าสีครามด้วย
เป่หมิงโม่เดินไปตรงหน้า มือของเขาหยิบใบไม้แห้งหนึ่งใบจากที่พื้นขึ้นมา น่าจะเรียวกว่ามือเล็กๆของหยางหยางไม่มากเท่าไหร่
เขาไม่หยุดใช้มันตีไปที่ต้นไม้ตรงหน้าเขา และกิ่งไม้ที่อยู่ใต้เท้า
ถึงแม้ถังเทียนจื๋อจะบอกว่าที่นี่ไม่มีสัตว์อันตราย แต่ว่าสำหรับเป่หมิงโม่แล้ว ที่อันตรายที่สุดในตอนนี้คือค่าย แต่ว่าน่าจะถือว่าปลอดภัยชั่วคราว
ส่วนเรื่องอื่น เขาก็ระมัดระวังมากขึ้น
หยางหยางตามเขาอยู่ด้านหลัง ตอนนี้เขาไม่มีท่าทีเดิมพันกับเจ้าเด็กนั่นอีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้เขาขมวดคิ้ว ประชันหน้ากับต้นไม้ที่มองไม่เห็นแม้แต่ด้านข้าง หันกลับไปมองด้านหลัง ไม่มีภาพของค่ายอีกต่อไป มีแต่ต้นไม้ที่เหมือนๆกัน
พวกเขาถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้แล้ว
หยางหยางรู้สึกว่ารอบนี้ เขาจะต้องแพ้แน่นอน คิดว่าต่อไปต้องวิ่งตามตูดเขาทั้งวัน โดยเฉพาะลูกชายของคนรวยหกนิ้วนั่น ก็ทำให้เขารู้สึกอับอายขายหน้า
เป่หมิงโม่ได้ยินด้านหลังไม่มีเสียงเท้าเดินตาม ก็ฟังดู หันไปเห็นหยางหยางหยุดลงไม่ไกลจากเขา
เขาขมวดคิ้วนิดๆ“หยาง คิดอะไรอยู่ รีบตามมาสิลูก ถ้าหายไปจากที่นี่ จะไม่มีใครหาเจอนะ”
โดนเป่หมิงโม่ดุแบบนี้ เมื่อกี้หยางหยางที่ดูซึมๆก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
รีบไปข้างหน้าอย่างไว และวิ่งเหยาะๆตามไป
ที่จริงนึกว่าหาอาหารในป่า น่าจะสนุกกว่านั่งรอตกปลาว่างๆเยอะเลย แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าจะน่าเบื่อเหมือนกัน
ช่างเถอะอย่างน้อยตัวเองก็ได้เคลื่อนไหว ดีกว่านั่งจดจ่ออยู่ข้างแม่น้ำมากละกัน
ไม่รู้แม่กับเฉิงเฉิงตกปลาได้ไหม ถึงตอนนั้นอย่ากลายเป็นว่าแม้แต่สองตัวก็ไม่ได้มา ไม่งั้นคืนนี้คงน่าขายหน้า
*
หยางหยางอยู่ในป่าเป็นห่วงกู้ฮอนกับเฉิงเฉิง
ส่วนพวกเขาก็เป็นห่วงเป่หมิงโม่กับหยางหยางที่นี่
กู้ฮอนก้มลงมองนาฬิกา จากที่พวกเขาออกไปตอนนี้ก็หนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว เขาหันกลับไปมองในป่า กังวลจริงๆว่าพวกเขาจะหลงทาง หรือว่าหยางหยางจะขาพลิกไหม ถูกแมลงหรือว่างูกัดหรือเปล่า เป่หมิงโม่เผชิญหน้ากับเหตุการณ์นี้คนเดียวจะช่วยเขาได้หรือไม่
***
กู้ฮอนนั่งบนหินข้างแม่น้ำ สองมือกอดอกไว้
เธอกำลังคิดเพ้อเจ้อว่าเป่หมิงโม่กับหยางหยางอยู่ในป่า จะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอะไรขึ้นหรือไม่
ในป่าลึกนั้น หยางหยางตามหลังเป่หมิงโม่สนิท เขาทั้งสองเข้าไปในป่าลึกอีกพักหนึ่ง
ตอนนี้หยางหยางเริ่มไร้ชีวิตชีวามากขึ้น เขาเริ่มผิดหวังแล้ว
ไม่รู้ว่าไอ้พ่อนกนี่กำลังทำอะไรอยู่ เวลาผ่านไปเกือบจะทั้งวันอยู่แล้ว
ยื่นสองมือไปมอง ยังคงว่างเปล่า เขาอยากกลับไปแล้ว แต่ว่าพอมองต้นไม้ที่ไร้ขอบเขตแบบนี้ ก็ทำลายความคิดอีกครั้ง เขาไม่อยากหลงทางที่นี่
ตอนที่หยางหยางจะยอมแพ้นั้น เหมือนว่าเป่หมิงโม่จะเจออะไรเข้า ค่อยๆย่อตัวลง
เอาใบไม้แห้งในมือวางข้างๆ จากนั้นก็หยิบถุงในกระเป๋าออกมา
เขาหยิบก้านเล็กๆข้างตัว ค่อยๆกิ่งไม้ตรงหน้าเปิดออกเบาๆ เห็นเห็ดสีขาวปรากฏออกมา
หยางหยางเห็น ทันใดนั้นก็มีชีวิตชีวา ในที่สุดก็ได้เก็บบ้างแล้ว ตอนที่กำลังดีใจนั้น ก็นึกถึงสองพ่อลูกคนรวยนั่นจะโชคดีแบบตัวเองหรือไม่
อาจจะเพิ่งเห็ดพวกนี้ ก็จะได้รับน้อง
คิดถึงตรงนี้ เขาก็รีบเข้าไป
นั่งยองๆข้างเห็ด แต่ผละสายตาไป ก็มองเห็นเห็ดขาวๆอยู่ไม่ไกล แล้วก็ยังมีสีแดงด้วย ด้านบนยังมีเห็ดหูหนูสีขาวที่ซ่อนอยู่ใต้กิ่งไม้
“เห็ดพวกนั้นสวยจัง น่าจะอร่อย”เขาพูดแล้วจะยื่นมือไปเด็ด
แต่ว่าคิดไม่ถึง เป่หมิงโม่ใช้กิ่งไม้ในมือตีมือเล็กๆของเขา เจ็บจนหยางหยางเบะปาก เห็นชัดๆว่าหาของกินได้ ทำไมต้องห้ามเขา
เป่หมิงโม่มองหยางหยาง จากนั้นเอากิ่งไม้ชี้ไปที่เห็ดสีแดง“นั่นเป็นเห็ดพิษ กินแล้วตายได้”
พูดไป ก็หยิบอัลบั้มรูปจากกระเป๋า ส่งให้หยางหยาง“ลูกแค่ไปเด็ดตามด้านบนนี้บอกไว้ อันอื่นไม่ต้องแตะเข้าใจไหม”
พูดแล้วก็จ้องหยางหยาง
หยางหยางตัวสั่น คาดไม่ถึงว่าเห็ดจะมีมากมาย
เขาเอาภาพนั้นไปดู เปรียบเทียบกับเห็ดที่เขาจะเด็ดเมื่อครู่ ด้านล่างเขียนแนะนำทำให้เขาตกใจ มันเรียกว่าเห็ดเกล็ดดาว ถึงแม้จะเน้นว่ากินได้ แต่ว่าเงื่อนไขไปทำอาหารค่อนข้างเข้มงวด ทำไม่ดีก็เป็นพิษได้
ดูเหมือนว่าเห็ดในป่าไม่ใช่ว่าจะกินได้หมด
ดังนั้นพ่อเขาเลยปฏิบัติตามรูปนั้น แยกแยะเห็ดอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เด็ดใส่ถุง
เป่หมิงโม่ก็ยังไม่วางใจอยู่ เขารู้ว่าหยางหยางทำอะไรไม่ค่อยใส่ใจ
ดังนั้นจึงยืนมองหยางหยางอยู่ข้างๆ ป้องกันเขาเอาเห็ดอื่นใส่ลงไป
ครึ่งชั่วโมงกว่าถัดมา
“โอเค เด็ดแค่เท่านี้ก็พอกินแล้ว”เป่หมิงโม่มองว่ามีครึ่งถึงแล้ว
หยางหยางถือถุงยืนขึ้น จากนั้นส่งให้เป่หมิงโม่“พ่อครับ เท่านี้พอเรากินไหม?”
เป่หมิงโม่รับถุงมาดูน้ำหนัก น่าจะครึ่งกิโลกรัมได้
เขาขมวดคิ้ว เห็ดพวกนี้มีน้ำเยอะ พอทำเสร็จก็คงเหลือแค่ครึ่งหนึ่ง
“พวกนี้ไม่พอสำหรับพวกเรากิน ดูเหมือนว่าต้องหาอย่างอื่นกินด้วย”เป่หมิงโม่พูด เอาเชือกรัดปากถุงถือไว้ในมือ
หันไปก็เตรียมหาอย่างอื่นต่อในป่า นอกจากเห็ดแล้ว ผลไม้ป่าก็น่าจะไม่น้อย
***
ตอนมาเขาเห็นแค่นิดเดียว แค่ทั้งหมดมันน้อยเกินไป ไม่แปลกหรอกที่จะเลือกดีๆ
ในตอนนี้ ที่ห่างไม่ไกลจากพวกเขามีเสียง“กรอบแกรบ กรอบแกรบ……”
เป่หมิงโม่ระวังทันที เขาที่ทำมือให้หยางหยางอย่าขยับ
ตอนนี้หยางหยางก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว แต่ว่าเขาไม่สนใจว่าเกิดอะไร
คิดว่าเสียงขยับนี้น่าจะเป็นแค่ลมพัดต้นไม้
เห็นท่าทางพ่อซีเรียส และยังทำมือไม่ให้เขาขยับ ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นจริงๆ จิตใจก็กังวลตามไปด้วย
เสียงเคลื่อนไหวด้านหน้ายังมีต่อ เป่หมิงโม่ค่อยๆก้มเอว หยิบกิ่งไม้ที่เพิ่งวางบนพื้นมาไว้ในมือเบาๆ เผื่อจู่ๆมีสัตว์ร้ายปรากฏออกมา ก็จะสามารถป้องกันตัวได้
ในฐานะพ่อ ไม่ว่าเจออันตรายแค่ไหน เขาต่างยืนตรงหน้าลูก ช่วยพวกเขาแก้ไขปัญหาต่างๆที่ไม่สะดวก
“กุ๊กกุ๊ก……”เห็นแค่ด้านหลังกิ่งไม้ตรงหน้าเขาไม่ไกล มีสัตว์เล็กๆออกมา
ดูเหมือนจะเป็นนก แต่ว่าหัวของเขาทั้งบนหัวและท้ายทอยจะมีขนสีน้ำตาลขาว ที่ตัวก็ยังเป็นจนสีน้ำตาลปกคลุมลายขวางสีดำ ส่วนหางก็ยาวกว่านกปกติทั่วไป
หยางหยางเห็น ตาก็เป็นประกาย ถ้าหากจับเจ้านี่ได้ นอกจากเห็ดแล้ว ก็ยังจะได้กินเนื้ออีก
เป่หมิงโม่นึกออกแล้ว สัตว์ป่านั้นก็คือไก่ฟ้าคอแหวน
เขาเอากิ่งไม้ในมือวางลงอย่างนิ่งๆ จากนั้นก็ลูบกระเป๋ากางเกงเบาๆเอาหนังยางที่พยาบาลใช้สูบเลือดออกมา
นี่ก็เป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ถังเทียนจื๋อให้ไว้ด้านในอาวุธ
แค่หลายคนไม่สังเกตของนี้ และไม่รู้ว่าใช้ยังไง อย่างทิ้งไปข้างๆ
มีแค่เป่หมิงโม่ที่พอเขาตัดสินใจไปหาของกินในป่า ก็เลยเอาเรื่องนี้ไว้ในหัว เขาคิดว่าสิ่งนี้จะต้องมีประโยชน์แน่นอน
อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ตอนนี้ได้ใช้แล้ว จะจับมันได้ไหม ก็ต้องดูหนังยางเส้นนี้