เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 678 เวรกรรม 2
ตอนที่ 678 เวรกรรม 2
ทำให้พวกเธอน้อยใจแล้วจริงๆ”
“พวกเราเป็นเพื่อนรักกันนะ มีอะไรต้องเกรงใจ เธอให้พวกเรามาอยู่ มันก็ไม่ง่ายแล้ว” แอนนิดึงมือเธอมา
ลั่วเฉียวก็อยู่ข้างๆ ช่วยพูด: “ใช่แล้วๆ กู้ฮอนถ้าไม่ใช่ว่าเธอให้ฉันอยู่ ไม่นานฉันก็คงจะไม่มีบ้านให้กลับแล้ว เธอก็รู้ ท้องฉัน……” พูดถึงตรงนี้เธอก็ถอนหายใจเบาๆ
“เธอนี่ หาเรื่องเอง ฉิงฮัวอยากรับผิดชอบเธอ เธอก็ไม่ให้โอกาสเขา ไม่งั้นเธอก็คงไม่ต้องน่านั่งเสียใจอยู่ตรงนี้หรอก”
คำพูดของกู้ฮอนแทงใจดำเธอ
ลั่วเฉียวเป็นหญิงสาวผู้ขมขื่น เธอใช้สายตาน่าสงสารมองกู้ฮอน: “ฉันจะทำไงได้ล่ะ ทำผิดแล้ว หรือว่าจะต้องอยู่ให้เขาทำผิดอีกรอบล่ะ? พ่อของเด็กฉันเลือกไม่ได้แล้ว แต่ว่าสามีฉันก็พอมีสิทธิ์ที่จะเลือกนะ”
พูดถึงตรงนี้ หน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นมั่นใจเต็มที: “อาศัยความงามโดยกำเนิดของฉัน คางคกสามขานั้นหายาก ผู้ชายสองขาที่เต็มใจจะเป็นพ่อยังคงหาได้ง่ายกว่า”
กู้ฮอนมองบน ไม่รู้จะพูดยังไงกับเธอดี ยืนมือออกไปตีก้นเธอเบาๆ : “ หน่อย ดึกแล้วรีบเข้านอนเถอะ สิ่งสำคัญของคนท้องคือการพักผ่อน อีกอย่าง ตอนฉันไม่อยู่ อย่าพูดอะไรแบบนี้ให้เด็กๆ ฟังนะ ฉันไม่อยากให้เด็กๆ เหมือนกับเธอ”
ลั่วเฉียวหงุดหงิด: “โอเคๆ จะไม่พูดเรื่องพวกนี้ พูดได้อีกอย่างว่า ผู้หญิงสมัยใหม่แบบฉัน ทัศนคติแบบนี้ถึงเหมาะกับยุคนี้ต่างหาก ฉันไม่เหมือนกับคนเหมือนก่อน ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ ก็อยู่ๆ กันไปทั้งชีวิต กู้ฮอน เธอก็ควรจะคิดเรื่องของตัวเองดีๆ เด็กกำพร้าแม่แต่ละวันผ่านไปอย่างไม่ง่ายเลย ตอนนี้พวกเรายังพอช่วยเธอได้ ผ่านช่วงนี้ไป. ก็เหลือแต่เธอกับเฉิงเฉิงสองแม่ลูก เธอจะทำยังไง ดูเหมือนว่ารุ่นพี่ฉันกับเธอจะไม่มีโชคแล้ว แต่เธอก็จะยอมแพ้ให้กับชีวิตแบบนี้ไม่ได้นะ……”
พูดถึงตรงนี้ ตาของเธอก็เป็นประกาย: “โอ๊ะ ใช่แล้ว!” เธอเดินไปข้างๆ กู้ฮอนพร้อมทำท่าทีมีความลับ และเลศนัย
แล้วใช้แขนกระทุ้งเอวของเธอ: “นี่ กู้ฮอน เธอว่าพี่ชายฉันเป็นไง? รูปร่างดี ไม่นอกลู่นอกทาง”
***
ลั่วเฉียวพูดถึงตรงนี้ ก็มองกู้ฮอนอย่างมีเลศนัยสุดๆ : “เป็นไง หวั่นไหวมั้ย ให้ฉันโทรเรียกเขามามั้ย พวกเธอสองคนก็คุยๆ กัน? เขาเป็นครูของหยางหยางไม่ใช่เหรอ ฉันว่าเฉิงเฉิงก็ไม่ได้อะไรกับเขาด้วย”
“พอได้แล้วน่า เอาเรื่องของตัวเองให้รอดก่อนแล้วค่อยพูดเรื่องคนอื่น” พูดไปพูดมา กู้ฮอนก็หาว โบกมือให้เธอ “โอเคและ ไม่พูดกับเธอและ วันนี้ฉันเหนื่อยจริงๆ ฉันไปนอนก่อนนะ” พูดจบ เธอก็หันหลังเดินเข้าห้องนอนไป
ที่จริงวันนี้เธอก็เหนื่อยมามากแล้ว ตั้งแต่เช้าจนถึงเมื่อกี้ก็ไม่ได้หยุดเลย
แต่ว่าพอเธอนอนลงบนเตียง หันไปด้านข้าง ลูกน้อยก็หลับไปแล้ว
เด็กคนนี้เวลานอนถ้าไม่ดิ้น ก็เตะผ้าห่ม
เด็กคนนี้ กับหยางหยางตอนอายุเท่านี้ เหมือนกันเป๊ะเลย
ไม่รู้จริงๆ ว่าถ้าเธอโตไป จะซนเหมือนกับหยางหยางมั้ย
เพื่อกันไม่ให้จิ่วจิ่วนอนตกเตียง กู้ฮอนจึงจงใจย้ายเตียงให้ติดผนัง จากนั้นก็ให้จิ่วจิ่วนอนด้านใน ก็เป็นทางออกทางเดียว
ไม่นาน ขณะที่กู้ฮอนนอนลง ไม่รู้ว่าจิ่วจิ่วกำลังฝันถึงอะไร ได้ยินเธอละเมอพูดว่า: “ผีห้องน้ำ ฉันไม่กลัวนาย คืนหม่าหม๊าฉันมานะ!”
กู้ฮอนได้ฟัง เด็กคนนี้ละเมอ สนุกจริงๆ ยังจะฝันถึงเป่หมิงโม่กับตัวเองด้วย
ฟังออกว่าลูกรักฝันว่า จะเอาตนออกมาจาก มือสกปรกของเป่หมิงโม่ เป็นเด็กดีจริงๆ แม้จะหลับแล้วก็ยังคงปกป้องตน
กู้ฮอนยิ้มมุมปาก เป็นเด็กนี่ดีจริงๆ ปัญหาอะไรก็ไม่ต้องไปคิดถึง
เธออยากฟังว่าต่อไปลูกน้อยจะพูดอะไรต่อ เธอหันตะแคงมา ก็เห็นจิ่วจิ่วที่นอนหันหลังให้เธอพลิกตัวมา พร้อมกับขาที่ตามมาด้วย
ขาเตะพาดลงบนตัวของกู้ฮอน
แรงของเด็กคนนี้ไม่ใช่เบาๆ เลย เตะจนกู้ฮอนขมวดคิ้วเล็กน้อย
ขณะนั้น เธอไม่ได้แค่นึกถึงตอนที่ตนยังเด็ก
และก็ยังนึกถึงตัวเองเมื่อตอนนั้น ที่อยู่กับหยูฟืน
ตอนนั้น เธอรู้ว่าตัวเองจะแกล้งน้องสาวกู้อันขีไม่ได้ ต้องคอยปกป้องเธอตลอดเวลา
คิดไม่ถึงจริงๆ โชคชะตาของตนถูกหวีหรูเจี๋ยขีดเขียนไว้แล้ว
แต่ว่าตัวเธอยังข้องใจเล็กน้อย แม่กับหล่อนเป็นเพื่อนรักกันแท้ๆ แต่ทำไมหล่อนถึงทำฉันหายล่ะ ระหว่างพวกแม่ๆ จะมีปัญหาอะไรกันงั้นเหรอ? ถึงได้ลงมือกับเธอที่ยังเป็นทารก
เธออยากจะโทรหาโม้จิ่งเฉิงผู้เป็นพ่อจริงๆ
เพราะว่าโม้จิ่งเฉิงรู้จักกับหวีหรูเจี๋ยก่อนเป่หมิงโม่ บางทีเขาอาจจะรู้อะไรบ้างก็ได้
เพราะว่า คำถามเดียวกันนี้ที่โรงพยาบาลเธอถามแม่แล้ว แต่เธอก็ไม่พูด
ไม่รู้ว่าเธอไม่รู้เรื่องที่ผ่านมา หรือว่าเธอแค่ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว
แต่ว่า เธอก็นึกได้อีกว่า ถึงพ่อบุญธรรมจะรู้เรื่องราวทั้งหมด แล้วยังไงล่ะ?
ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเธอกับหวีหรูเจี๋ยและพ่อบุญธรรมถึงแม้จะไม่ถึงขั้นสนิทกันมากมาย แต่ก็สามารถได้ว่าราวกับเป็นญาติกันแล้ว
หรือต้องถึงกับว่าจากนี้จะไม่ติดต่อกันแล้ว? แถมจากที่ตัวเธอได้รู้จักกับเธอมาระยะนึง ก็รู้สึกว่าเธอไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้นได้
ถ้าหากไม่ใช่หวีหรูเจี๋ยล่ะ งั้นจะเป็นใครได้?
คุณแม่ตอนนั้น ก็เป็นแค่นักร้องชื่อดังตัวเล็กๆคนนึง
หรือว่าในช่วงนั้น วงการบันเทิงจะเป็นเหมือนกับตอนนี้ อยากไปถึงจุดสูงสุดโดยไม่เลือกวิธีการ?