เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 696 สอบถาม 2
ตอนที่ 696 สอบถาม 2
“พอแล้ว เรื่องอื่นไม่ต้องพูด สารภาพเรื่องนี้มาให้ชัดเจนก็พอ”
หวางซื่อเห็นว่าตอนนี้พวกเขานับว่ายังไม่ได้มีเจตนาร้ายกับตัวเอง เขาก็ผ่อนคลายเล็กน้อย หัวเราะยิ้มแย้มพลางเอ่ยว่า “พูดมาสักพักหนึ่งแล้ว คอจะเป็นผงแล้ว ให้ดื่มน้ำหน่อยได้ไหมครับ”
“เรื่องราวยังสารภาพไม่ชัดเจน คุณยังอยากจะดื่มน้ำ” ฉิงฮัวนั้นร้อนใจอยากจะทราบความเป็นมาของเรื่องราว จะยอมให้เขาดื่มน้ำได้อย่างไร
“นายไปเทน้ำให้เขา” เป่หมิงโม่ตำหนิฉิงฮัวให้หยุด
ฉิงฮัวจึงทำได้เพียงแค่ยื่นน้ำให้หวางซื่อแก้วหนึ่ง
หวางซื่อดื่มน้ำไปแก้วหนึ่งเต็มๆแล้วรู้สึกสบายคอไม่น้อย เขากระแอมไอแล้วเอ่ยต่อว่า “แรกเริ่มผมยังนึกว่าคนคนนั้นพูดล้อเล่น จะมีคนรู้ว่าลิฟต์โดยสารจะเสียเมื่อไรได้อย่างไรกัน แต่ว่าในวันนั้น ผมมาทำงานพอดี ก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมงานที่ประจำอยู่ที่โรงแรมแมนดารินโทรมาที่บริษัท บอกว่าเซนเซอร์ตรวจจับทางนั้นไม่มีแล้ว ต้องการให้ทางนี้ส่งไปหลายตัว ผมได้ยินก็อาสานำของจากบริษัทไปส่งให้”
“ตอนที่คุณนำของไปส่ง ได้รับโทรศัพท์หรือคำสั่งอะไรจากคนที่ให้เงินคุณคนนั้นหรือไม่”
หวางซื่อคิดแล้วก็พยักหน้าเอ่ยอย่างมั่นใจว่า “มี ตอนที่ผมกำลังจะไปถึงโรงแรมก็ได้รับโทรศัพท์แปลกหน้าสายหนึ่ง ผมรับแล้วก็ฟังออกว่าเป็นคนที่ให้เงินผมคนนั้นโทรมา เขาบอกว่าให้ผมเข้าไปที่ทางออกฉุกเฉินของโรงแรม ถึงทางออกฉุกเฉินแล้วที่นั่นมีของให้ผมไปเอาอยู่”
“เป็นกล่องที่มีโบว์ผูกอยู่กล่องหนึ่งใช่หรือไม่” ฉิงฮัวที่ได้ยินก็รีบเอ่ยถาม
หวางซื่อครุ่นคิด “ถูกต้อง ไม่ผิด ผมเปิดดูก็เห็นว่าเป็นเซนเซอร์ตรวจจับระดับชั้นแบบเดียวกับที่ผมนำมาไม่กี่ตัว”
เป่หมิงโม่ที่ได้ยินก็ตกตะลึง ไม่ต่างไปจากที่คาดเดาไว้เลยจริงๆ เฟยเอ๋อบอกว่านั่นเป็นของขวัญที่เพื่อนมอบให้กับเธอ แท้จริงแล้วก็คือเซนเซอร์ตรวจจับไม่กี่อันนี่เอง ดูท่าอุบัติเหตุของบิดาจะต้องเกี่ยวข้องกับเธออย่างแน่นอน
หวางซื่อพูดต่อว่า “ผมทำตามคำสั่งของชายหนุ่มคนนั้น นำกล่องที่บรรจุเซนเซอร์ตรวจจับไม่กี่อันพกไว้กับตัว จากนั้นก็ร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานที่มาก่อนหน้าคนนั้นซ่อมแซมลิฟต์โดยสาร”
“ตอนที่คุณซ่อมแซมลิฟต์โดยสาร ยังทำเรื่องอื่นๆอีกหรือไม่” ทนายโอวหยางนั้นบันทึกข้อมูลส่วนใหญ่ทั้งหมดเอาไว้แล้ว เรื่องราวก็ปะติดปะต่อได้เป็นรูปเป็นร่างเกือบหมดแล้วเช่นกัน
เพียงแต่ว่าเขายังต้องยืนยันฐานะของหวางซื่อ
เขาเป็นผู้เข้าร่วมในคดีนี้หรือว่าถูกคนใช้เป็นเครื่องมือในการยืมมือฆ่าคน
หวางซื่อพูดว่า “เพราะว่าผมเพียงแค่ทำตามที่เขาบอก ใช้เซนเซอร์ตรวจจับจากในกล่องแทนแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นอีก”
เป่หมิงโม่ฟังลำดับเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็พยักหน้า พลางเอ่ยว่า “เรื่องนี้พวกเราก็ทราบชัดเจนแล้วเช่นกัน ถึงเวลาขึ้นศาลพวกเราต้องการให้คุณมาเป็นพยานให้กับพวกเรา
หวางซื่อได้ยินก็ไม่เอ่ยต่อแล้ว เขาเอ่ยด้วยใบหน้าอมทุกข์ “เจ้านาย คุณกำลังแกล้งผมใช่หรือไม่”
***
ฉิงฮัวถลึงตาใส่ “ไม่อนุญาตให้คุณพูดจาแบบนี้ต่อหน้าเจ้านายผม คุณรู้หรือไม่ว่าอุบัติเหตุที่โรงแรมในครั้งนั้นมีคนตายด้วย ถ้าหากให้พูดกันอย่างจริงจังเรื่องนี้คุณก็หนีความรับผิดชอบไม่พ้นหรอก”
หวางซื่อที่ได้ยินก็เกือบจะร้องไห้แล้ว “ผมก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะร้ายแรงขนาดนี้นะครับ ถ้าหากรู้ต่อให้คนคนนั้นใช้มีดจ่อคอผม ผมก็ไม่ยอมทำหรอกครับ”
ฉิงฮัวมองเขาพลางยิ้มเย็น “คุณไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะร้ายแรงขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นคุณหนีทำไมกัน”
“ผมหนีก็เพราะได้ยินว่าช่วงนั้นตำรวจกำลังเก็บกวาดสื่อลามกและการพนัน ผมกลัวว่าจะโยงมาถึงผม ถึงได้หนีกลับไปบ้านเกิด สุดท้ายอ่านหนังสือพิมพ์ถึงรู้เรื่องลิฟต์โดยสารที่โรงแรม แต่ผมคิดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นเพราะของที่ผมนำไปส่งไม่กี่ชิ้น
เป่หมิงโม่มองท่าทางเคียดแค้นชิงชังของหวางซื่อ “เอาเถอะๆ ในเมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความกันแล้ว ผมเพียงแค่ให้คุณเป็นพยานเท่านั้นเอง คุณมองท่านนั้น”
เขาเอ่ยแล้วก็ชี้ไปทางทนายโอวหยาง “เขาเป็นทนายความของผม เขารับผิดชอบคดีความนี้ ถึงเวลาเขาจะช่วยคุณล้างมลทิน”
หวางซื่อที่ได้ยินนัยน์ตาก็มีประกายแห่งความหวังพาดผ่าน รีบหันใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มไปทางทนายโอวหยาง “ทนายโอวหยาง ชีวิตน้อยๆของผมอยู่ในกำมือของคุณแล้วนะครับ”
“แน่นอนๆ ผมจะต้องบอกทุกอย่างที่ผมรู้ออกมาอย่างแน่นอน”
เป่หมิงโม่เอ่ยกับฉิงฮัวว่า “พอแล้ว นายพาเขาออกไปเถอะ หาสถานที่ให้เขาอาศัยด้วย”
ฉิงฮัวพาหวางซื่อออกไป
ทนายโอวหยางเก็บบันทึกขึ้นมา เอ่ยกับเป่หมิงโม่ว่า “ประธานเป่หมิง ตอนนี้นับว่ามีพยานสำคัญแล้ว เพียงแต่ว่ายังจำเป็นต้องหาคนอีกคนหนึ่งให้พบ”
“คุณพูดถึงคนให้เงินกับหวางซื่อ ทั้งคนที่โทรศัพท์บอกให้เขาย้ายที่กล่องใส่เซนเซอร์ตรวจจับใช่ไหม ผมจะคิดหาวิธีดู เพียงแต่ว่าเขาอาจจะยากอยู่บ้าง” แท้จริงแล้วเป่หมิงโม่ก็คิดถึงเขาแล้ว แต่ว่าคนคนนี้หวางซื่อก็ไม่รู้จัก จะไปหาได้อย่างไรกัน
*
ฉิงฮัวจัดการหาสถานที่พักให้กับหวางซื่อแล้วก็มารับเป่หมิงโม่กลับไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิง
ตอนที่พวกเขากลับมา พวกเจียงฮุ่ยซินทานอาหารเสร็จแล้ว หยางหยางก็กลับไปอยู่ในห้องนอนของตัวเอง
ในห้องโถงเหลือเพียงแค่เจียงฮุ่ยซินและเฟยเอ๋อที่ดูโทรทัศน์อยู่
“โม่ กลับมาแล้วหรือ ทานข้าวมาหรือยัง” เจียงฮุ่ยซินยังคงเอ่ยถามด้วยใบหน้าเมตตา
“ตอบท่านนายเป่หมิงครับ ผมกับเจ้านายทานมาจากข้างนอกแล้วครับ” ฉิงฮัวเอ่ยตอบ
เป่หมิงโม่ไม่ได้พูดอะไรก็เดินตรงไปยังห้องหนังสือของตัวเอง ฉิงฮัวก็รีบตามไป
เจียงฮุ่ยซินเห็นพวกเขาไปแล้วก็หันหน้ามาพูดกับเฟยเอ๋อ “วันนี้อารมณ์ของพวกเขาดูเหมือนว่าจะผิดปกติอยู่บ้าง เธอไปห้องครัวจัดเตรียมชาโสมแก่ไปส่งให้เขาเถอะ”
เฟยเอ๋อพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
เป่หมิงโม่กับฉิงฮัวเข้าไปในห้องหนังสือแล้ว ฉิงฮัวก็หมุนตัวกลับมาปิดประตูห้องหนังสือ
“เจ้านาย ดูเหมือนว่าคุณเฟยเอ๋อจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นะครับ ควรจะจัดการอย่างไรดีครับ” ฉิงฮัวเดินไปถึงข้างกายเป่หมิงโม่