เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 698 หลีกเลี่ยง 2
ตอนที่ 698 หลีกเลี่ยง 2
ภายในใจของเธอ มักจะมีคราบสกปรกที่หนึ่งที่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ลบมันไม่ออก
เป่หมิงโม่มองเฟยเอ๋อทั้งแบบนี้ เป็นเวลานานโดยไม่พูดอะไร
ภายในห้องหนังสือนั้นเงียบไปช่วงเวลาหนึ่ง ได้ยินเพียงแค่เสียง “ติ๊กต็อก ติ๊กต็อก……” ที่ดังออกมาไม่หยุดจากเข็มวินาทีที่เดินอยู่ของนาฬิกาตั้งโต๊ะเรือนเก่าที่มีอายุมายาวนาน
“ตึง ตึง ตึง……” เสียงดังอันน่าเบื่อของนาฬิกาที่เคาะไปมาเป็นจุดสิ้นสุดความสงบเงียบภายในห้อง
เป่หมิงโม่หยิบบุหรี่ออกมาเข้าปาก จากนั้นก็หยิบไฟแช็คขึ้นมาจุดไฟให้บุหรี่
ในไม่ช้า ภายในห้องหนังสือก็ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นของควันบุหรี่
“เฟยเอ๋อ นับตั้งแต่ตอนที่พวกเราพบกันในครั้งนั้น คุณคิดว่าผมปฏิบัติกับคุณอย่างไร” เป่หมิงโม่พูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ เขาใช้นิ้วโป้งและนิ้วกลางคีบบุหรี่ ใช้นิ้วชี้เคาะเศษบุหรี่ให้ลงไปในที่ใส่เศษบุหรี่อย่างช่ำชองและเบามือ
ประโยคคำถามนี้ ดูเหมือนว่าจะทำให้เฟยเอ๋อไม่รู้ว่าจะต่อบทสนทนากับเขาอย่างไร
ถ้าหากสำหรับเพื่อนธรรมดา เป่หมิงโม่ปฏิบัติต่อเธอดีมาก ให้เธอกินและอาศัย ทั้งยังมีคนคอยให้บริการในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะ
แต่ถ้าหากในฐานะของคนรัก คู่หมั้นล่ะก็ เขากลับบกพร่อง ไม่ผ่านเกณฑ์ เรื่องที่เขายุ่งกับธุรกิจจึงทำให้ละเลยที่จะดูแลเธอนั้นปล่อยผ่านไป ไม่พูด
ความสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาดและยังยุ่งเหยิงระหว่างเขาและกู้ฮอน ทำให้เธอนั้นทนไม่ได้จริงๆ
บวกกับปัจจัยบางอย่างจากทางภายนอก ดังเช่น ตอนที่ท่านปู่เป่หมิงยังมีชีวิตอยู่นั้นมีความรู้สึกต่อต้านในตัวเธอเหมือนกับกู้ฮอน
ท่านนายเป่หมิงจริงๆแล้วก็ไม่ได้ชื่นชอบเธอ เพียงแต่ว่ากู้ฮอนปรากฏตัวอีกครั้ง ทำให้ท่านนายเป่หมิงไม่อาจจะไม่ปล่อยวางอคติที่มีต่อเธอ แล้วเปลี่ยนเป็นพันธมิตรเพื่อต่อสู้
สำหรับเฉิงเฉิงหรือหยางหยาง ลูกชายของหญิงคนก่อน คนแรกยิ่งไม่ต้องพูดถึง เฉิงเฉิงยังนับว่าเก็บงำอยู่บ้าง ในใจไม่พอใจก็ไม่ได้แสดงออกมา
ส่วนหยางหยางนั้นไม่เหมือนกัน ความรู้สึกยินดีจะแสดงออกมาบนใบหน้า มีอะไรก็พูดออกมา กระทั่งท่านนายเป่หมิงเขายังไม่เล่นด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเฟยเอ๋อ
เฟยเอ๋อไม่ตอบคำถามของเป่หมิงโม่ แต่เบนสายตาที่หลบเลี่ยงเป่หมิงโม่เมื่อครู่กลับมามองเขาอีกครั้ง
***
ใบหน้าของเฟยเอ๋อปรากฏรอยยิ้มบางๆออกมา
ในเวลาเดียวกันนั้น เธอก็โยนคำถามเดียวกันให้กับเป่หมิงโม่ “คุณคิดว่าที่พวกเราอยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้ คุณปฏิบัติกับฉันอย่างไรคะ”
เป่หมิงโม่เลิกคิ้วเบาๆ สูบุหรี่เฮือกหนึ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าเฟยเอ๋อจะถามตัวเองกลับมาด้วยคำถามนี้
เขาพ่นกลุ่มควันสีฟ้าอ่อนเบาบางออกมายาวๆ มองแววตาของเฟยเอ๋อ เก็บบรรยากาศเย็นยะเยือกที่สามารถเสียดแทงเข้าไปในกระดูกก่อนหน้านี้กลับมา
นัยน์ตาสีดำลึกซึ้งทำให้ผู้คนเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“ผมยอมรับว่าปกติล้วนยุ่งกับการทำงาน ละเลยที่จะเป็นห่วงและดูแลคุณในยามปกติ”
เสียงของเป่หมิงโม่เอ่ยออกมา จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาแห่งความเงียบงันระหว่างทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง
เฟยเอ๋อคิดไม่ถึงว่า คำตอบของเป่หมิงโม่ที่มอบให้เธอกลับเป็นคำตอบลวกๆขอไปทีแบบนี้
สำหรับเรื่องกำแพงล่องหนที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาเพราะกู้ฮอนนั้น เขากลับไม่เอ่ยพูดสักคำ
ไม่รู้จริงๆว่า เขาไม่รู้จริงๆ หรือว่าเขาจงใจหลีกเลี่ยงปัญหาที่เปราะบางมากกันแน่
ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความรู้สึกพ่ายแพ้เป็นอย่างมาก เธอยิ้มเศร้าๆ “โม่ คุณไม่รู้สึกหรือว่า คำตอบที่คุณให้กับฉันนั้นช่างเรียบง่ายและลวกๆขอไปทีหรือคะ คุณยุ่งกับการทำงาน ฉันไม่เคยรู้สึกถือโทษเลยแม้แต่น้อย แต่แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ คุณก็ยังไม่ตัดขาดการติดต่อกับกู้ฮอนไม่ใช่หรือคะ งานยุ่ง แต่ว่าคุณสามารถพาเด็กๆไปเที่ยวเล่นที่ภูเขา เข้าร่วมกิจกรรมตั้งแค้มป์ด้วยตัวเองกับเธอได้ และเช่นเดียวกันกับ เพราะเธอป่วย คุณก็สามารถวางงานในมือไปอยู่ข้างกายเธอ ดูแลเธอ คุณคิดว่าแบบนี้ยุติธรรมกับฉันหรือไม่คะ”
คำพูดของเฟยเอ๋อทำให้เป่หมิงโม่พูดไม่ออกไปชั่วขณะ
เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากสูบบุหรี่ไปอีกเฮือกหนึ่งแล้ว กดลดมือลง ขยี้ก้นบุหรี่ในที่วางเศษบุหรี่เพื่อดับไฟ
“เฟยเอ๋อ คุณจะถือโทษโกรธผมอย่างไรก็ได้ แต่ว่าอย่าลากกู้ฮอนเข้ามาเกี่ยวข้องระหว่างพวกเรา เธอเป็นมารดาผู้ในกำเนิดเด็กๆ ผมคิดว่าทำเรื่องเหล่านี้เพื่อเธอก็ไม่ผิดอะไร สำหรับเรื่องที่คุณบอกว่าผมวางงานในมือแล้วพาหยางหยางไปเข้าร่วมกิจกรรมตั้งแค้มป์ ผมเชื่อว่าคุณรู้สถานการณ์ในตอนนั้นชัดเจนยิ่งกว่า ถ้าหากว่าผมไม่ไป จะให้เป่หมิงยันหรือว่าคุณครูโล่ฮานของเขาไปอย่างนั้นหรือ”
เฟยเอ๋อนิ่งเงียบ แน่นอนว่าเธอทราบชัดเจนว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นในห้องอาหาร
“ตั้งแต่เล็กหยางหยางก็ไม่เคยได้ใช้ชีวิตอยู่ข้างกายผม ระหว่างพวกเราบิดาและลูกชายนั้นไม่ได้เหมือนกับเฉิงเฉิงที่เข้าใจกันแบบนั้น อะไรก็ล้วนจำเป็นต้องเริ่มต้นสร้างกันใหม่ สำหรับเรื่องที่คุณบอกว่ากู้ฮอนป่วย สถานการณ์ในตอนนั้นคุณเข้าใจมากน้อยเท่าไรกัน เธอพาลูกวิ่งไปบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยดินโคลนท่ามกลางสายฝน เพื่อไม่ให้เฉิงเฉิงเปียกฝน เธอใช้เสื้อผ้าและร่างกายของตัวเองบังเขาเอาไว้ ถึงได้หนาวจนจับไข้”
เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เป่หมิงโม่ก็สูดลมหายใจยาว
เขาพยายามปรับสภาพอารมณ์ของตัวเองที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้ตอนที่ตัวเองเอ่ยพูดต่อแล้วทำให้บรรยากาศสงบเงียบเปลี่ยนเป็นตึงเครียดขึ้นมา
เฟยเอ๋อฟังคำอธิบายเป็นพรวนของเป่หมิงโม่จนจบแล้ว เธอก็ดูเหมือนว่าจะมีความรู้สึกบางอย่าง
“โม่ คุณพูดคำหนึ่งก็เรียก “กู้ฮอน” ทำให้ฉันที่ฟังนั้นรู้สึกหนาวเหน็บหัวใจจริงๆ ฉันไม่ได้บอกว่าคุณไม่สามารถทุ่มเทให้กับเธอและลูก เพราะว่าเด็กก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณ แต่ฉันคิดว่าที่คุณไม่เข้าใจก็คือ ระหว่างคุณกับเธอ นอกจากลูกแล้วก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันอีก คุณไม่จำเป็นต้องทุ่มเทเพื่อเธอมากขนาดนี้ คุณก็มีชีวิตของคุณ เธอก็มีชีวิตของเธอ เมื่อครู่ตอนที่คุณอธิบายให้ฉันฟังนั้น ฉันรู้สึกว่าฟังไม่ขึ้นเลยแม้แต่น้อย ยกตัวอย่างเช่นเธอบังฝนให้กับลูก นั้นเป็นความรับผิดชอบของเธอผู้เป็นมารดา อาศัยอะไรให้คุณมารับผิดชอบให้เธอ!”