เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 732 รีบกลับบ้านมาดู
ตอนที่ 732 รีบกลับบ้านมาดู
“เฉิงเฉิง คิดถึงคุณย่าไหม” เมื่อรถหยุด เจียงฮุ่ยซินแทบรอไม่ไหวที่จะลงจากรถ และก้มลงกอดร่างเล็กของเฉิงเฉิงไว้แน่น
รอยยิ้มของเธอ เผยให้เห็นถึงความคิดถึงเฉิงเฉิงโดยปริยาย
“เฉิงเฉิงคิดถึงคิดถึงคุณทุกวันเลย แต่ก็มีการบ้านเยอะทุกวัน จนไม่มีเวลาไปเยี่ยมคุณย่า คุณย่าไม่โกรธผมใช่ไหม” มือเล็กๆของเฉิงเฉิงโอบกอดคุณย่าไว้แน่น
“เหอะๆ จะโกรธทำไมล่ะ หลานชายคนดีของฉันดูจะเติบโตไปมีอนาคตที่ดี ฉันก็ต้องดีใจเป็นที่สุดสิ ไหนๆมาให้คุณย่าดูซิว่าเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง”
เจียงฮุ่ยซินพูดจบ ก็ผลักตัวเฉิงเฉิงออกไปห่างเล็กน้อย แล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “อืม สูงขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย แล้วก็ยังหล่อเหมือนพ่อของเจ้า”
ในตอนนี้ หยางหยางก็ได้เหล่าจางประคองลงจากรถ เขาก็กระโดดไปที่ด้านข้างของคุณย่า “คุณย่า ผมไม่หล่อแล้วเหรอ” เขาแกล้งทำเป็นโกรธ
***
เจียงฮุ่ยซินอ้าแขนพาตัวของหยางหยางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดด้วยกัน “พวกเธอก็หล่อทั้งคู่ แต่เฉิงเฉิงหล่อเหมือนโม่ ส่วนหยางหยางหล่อเหมือนยันยัน เหอะๆ….”
“คุณย่า พวกเราเข้าไปคุยกันเถอะ” เฉิงเฉิงพาเจียงฮุ่ยซินเข้าไปในห้อง
“บ้านหลังนี้ดูดีหนิ พวกเธอย้ายเข้ามานานแล้วเหรอ โม่ได้วางแผนพาพวกเธอมาอยู่ที่นี่ สถานที่ที่พวกเธอเคยอยู่นั้นเล็กเกินไป” เจียงฮุ่ยซินเงยหน้ามองไปที่วิลล่า ถึงแม้ว่าไม่ได้ดูยิ่งใหญ่เหมือนกับบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิง แต่ก็จัดว่างานดีเลยทีเดียว
เมื่อเฉิงเฉิงได้ยิน คุณย่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์เข้าใจผิดว่านี่เป็นของขวัญจากคุณพ่อส่งให้แม่
“คุณย่า นี่เป็นบ้านของลุงหัวฟู” หยางหยางขัดจังหวะ
“ลุงหัวฟูเหรอ” เจียงฮุ่ยซินมองหยางหยางและเฉิงเฉิงด้วยใบหน้าที่มีความสงสัย
ทำไมลุงหัวฟูถึงได้โผล่มาอีก เรื่องของกู้ฮอนและหยินปู้ฝันเธอก็เคยได้ยินมา แต่สุดท้ายแล้วมันก็เหมือนยังไม่มีบทสรุป
“หยางหยางหมายถึงอาฉิงฮัว” เฉิงเฉิงพูดสรุปแบบสั้นๆในเรื่องที่แม่ย้ายมาดูแลป้าเฉียวเฉียว
เจียงฮุ่ยซินพยักหน้าและคิดได้ทันที เธอเดินตามเฉิงเฉิงเข้าไปในบ้าน
“คุณย่านั่งลงก่อน” เฉิงเฉิงกล่าวทักทาย ราวกับว่าเป็นเจ้าบ้านตัวน้อยอย่างใดอย่างนั้น
“นี่คือป้าเฉียวเฉียว เธอกับอาฉิงฮัวเป็น……” เฉิงเฉิงยังพูดไม่ทันจบ ลั่วเฉียวก็ขยิบตาเพื่อหยุดเขา
ในความเป็นจริงแล้วก่อนที่เจียงฮุ่ยซินจะมาเคยได้ฟังเฉิงเฉิงพูดมาก่อนแล้ว เธอยิ้มและพยักหน้าให้เธอ
จากนั้นเฉิงเฉิงก็ชี้ไปยังแอนนิ “คุณย่า นี่คือคุณน้าแอนนิ เป็นเพื่อนของแม่ที่เมืองซาบาห์ ปกติแล้วเธอจะเป็นคนทำอาหารให้พวกเรากิน ฝีมือของเธอไม่มีที่ติ”
เมื่อหยางหยางได้ยิน ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที “คุณน้าแอนนิ วันนี้คุณเตรียมจะทำของอร่อยอะไรให้พวกเรากินล่ะ”
แอนนิยิ้มอย่างมีเลศนัย “ถึงเวลาเธอก็รู้เอง ตอนนี้เป็นความลับ”
ข่าวที่คุณย่าและหยางหยางมา ตอนที่เฉิงเฉิงออกมารอพวกเขา ได้โทรศัพท์ไปบอกกับแม่แล้ว
เนื่องจากเจียงฮุ่ยซินไม่คุ้นเคยกับแอนนิและลั่วเฉียว ดังนั้นจึงพูดคุยกันเพียงสั้นๆไม่กี่ประโยค
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลั่วเฉียว เจียงฮุ่ยซินกลับพูดถึงฉิงฮัวในแง่ดีต่อหน้าเธออยู่ไม่น้อย
สิ่งนี้ทำให้ลั่วเฉียวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ฉิงฮัวของเธอเป็นเพียงผู้ติดตามคนหนึ่งของเป่หมิงโม่ แต่คิดไม่ถึงว่าความสัมพันธ์ของเขาและตระกูลเป่หมิงจะมีความใกล้ชิดกันมากกว่าที่เธอคิด ถึงกับไม่เห็นว่าเขาเป็นคนนอก
เมื่อเป็นแบบนี้ พวกเธอจึงต้องสรรหาเรื่องมาพูดคุยกัน เฉิงเฉิงรอให้แม่ของเขากลับมาโดยเร็ว
*
เมื่อกู้ฮอนได้ยินว่าเจียงฮุ่ยซินจะพาหยางหยางไปที่วิลล่าของฉิงฮัว ก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่เล็กน้อย
ไม่ได้กลัวสิ่งอื่นใด แต่กังวลว่าเด็กน้อยจะถูกค้นพบ
หยินปู้ฝันได้เห็นท่าทีที่เหม่อลอยของกู้ฮอนในตอนเช้า
เขาเดินไปยังโต๊ะทำงานของกู้ฮอน และยื่นแก้วกาแฟที่อยู่ในมือออกไป “กู้ฮอน ผมเห็นเมื่อเช้านี้ท่าทางคุณดูไม่ค่อยดี มีเรื่องอะไรรึเปล่า ถ้ายังไงก็บอกกับผม ดูว่าผมจะช่วยคุณได้ไหม”
กู้ฮอนหันหน้ามาและยิ้มให้กับเขา “จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไรหรอก แค่เรื่องเล็กน้อย วันนี้ท่านนายเป่หมิงคิดถึงเฉิงเฉิงขึ้นมา เธอจึงได้พาหยางหยางไปที่ลั่วเฉียว”
หยินปู้ฝันขมวดคิ้วเล็กน้อย “อย่างนั้นจิ่วจิ่วก็คง…..”
กู้ฮอนพยักหน้า “ฉันก็กังวลเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าเฉิงเฉิงจะจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“กู้ฮอน ผมคิดว่าคุณควรจะกลับไปดูสักหน่อย หากมีอะไรผิดพลาด พวกเขาอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้ ท่านนายเป่หมิงกับแม่ของคุณเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เมื่อถึงเวลาคุณควรจะพูดกับพวกเขาให้มีน้ำหนักสักหน่อย อย่างนี้ไหม ผมว่าวันนี้ไม่ได้มีเรื่องอะไร คุณก็กลับไปดูก่อน หากว่าไม่มีเรื่องอะไรก็ค่อยกลับมาก็ยังไม่สาย ไม่เช่นนั้นหากทำงานด้วยความฟุ้งซ่านแบบนี้ สุดท้ายก็จะเสียหายทั้งสองอย่าง คุณคิดว่าอย่างไร”
***
กู้ฮอนมองไปที่หยินปู้ฝันด้วยความลำบากใจ “คุณดูสิ ทุกครั้งล้วนแต่เป็นเพราะเรื่องของฉันที่ต้องกระทบกับงานปกติ…..”
หยินปู้ฝันยิ้มเล็กน้อย “ไม่เห็นเป็นไร ใครกันที่จะไม่มีเรื่องอะไรเลย โดยเฉพาะคนแบบคุณ ที่ต้องเผชิญหน้ากับตระกูลเป่หมิง ก็ยากพอสำหรับคุณแล้ว คุณไปจัดการเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อยด้วยความสบายใจ แบบนี้ก็สามารถกลับมามีสมาธิในการทำงานได้”
“ขอบคุณสำหรับความเอื้ออาทรและความเข้าใจ แล้วฉันจะรีบกลับมา” กู้ฮอนพูดจบและรีบเก็บข้าวของของตัวเอง หันหลังเดินออกจากประตูไป
“ตอนขับรถกลับขับช้าๆล่ะ เชื่อมั่นในความสามารถของเฉิงเฉิงและแอนนิ” หยินปู้ฝันก็ไม่ลืมที่จะพูดเตือนสติเธอในตอนท้าย
ระหว่างทาง กู้ฮอนเต็มไปด้วยความกังวล แม้ว่าหยินปู้ฝันจะเตือนสติเธอแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถที่จะคาดการณ์ใดๆได้
ในตอนนี้ ก็ได้เหมือนเสียงรถตำรวจดังขึ้นด้านหลังรถของตัวเอง
เธอคิดว่ารถตำรวจจะต้องให้เธอหลีกทาง ดังนั้นไม่ได้ลดความเร็ว เพียงแต่แค่เปลี่ยนเลน
ในเวลาที่รู้ว่ารถตำรวจมาเคียงข้างเธอ หน้าต่างก็ถูกลดลง ตำรวจคนหนึ่งก็โบกมือส่งสัญญาณให้เธอหยุดรถ
กู้ฮอนไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ก็ปฏิบัติตามอย่างเชื่อฟัง พารถเข้าจอดข้างทาง
รถตำรวจหยุดลงตรงด้านหน้าเธอ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนลงมาทำการทักทายเธอ
*
ขณะนี้ เป่หมิงโม่ได้ยืนอยู่ที่หน้าต่างห้องทำงานของตัวเอง มองลงไปดูเมืองที่อยู่ด้านล่าง
ในเดือนนี้ กู้ฮอนจะใช้เวลาไปเยี่ยมหยางหยางทุกวัน แต่เธอกลับกลัวมากที่จะต้องพบเจอกับเขา รีบร้อนมา และเมื่อเขากลับมาก็รีบที่จะออกไปก่อน
บางครั้งเขาก็ตั้งใจจะรีบกลับให้เร็ว เพื่อที่จะพบหน้าเธอสักครั้ง แต่เธอเหมือนจะรู้ได้ล่วงหน้า มักจะก้าวออกไปก่อนหนึ่งก้าวเสมอ
ในเวลานี้ เสียงโทรศัพท์ของสำนักงานก็ดังขึ้น
ฉิงฮัวรับโทรศัพท์ “อืม อืม ใช่ถูกต้อง” เขาวางสายโทรศัพท์ เดินไปพูดข้างๆเป่หมิงโม่ “เจ้านาย รถของคุณหนูถูกจับเพราะความเร็วเกินกำหนดและฝ่าไฟแดง ตำรวจตรวจสอบพบข้อมูลของรถคันนั้นเป็นชื่อของคุณ ดังนั้นจึงโทรมาแจ้งให้ทราบ ผมได้ให้คนไปจัดการแล้ว”
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้มีแต่ก่อเรื่องจริงๆ
ไม่ต้องแล้ว คุณเรียกคนที่ให้ไปจัดการกลับมา ผมจะไปดูด้วยตัวเอง” เขาพูดจบก็หันเดินออกจากห้องทำงานไป
ฉิงฮัวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อบอกกับคนที่ส่งให้ไปจัดการว่าไม่ต้องทำแล้ว จากนั้นก็คอยไปติดตามเจ้านายอย่างใกล้ชิด
*
กู้ฮอนอยู่ในสำนักงานตำรวจ เธอก้มหน้าก้มตาด้วยความสิ้นหวัง เหมือนนักเรียนที่ทำความผิดร้ายแรงมา และกำลังรอที่จะถูกผู้ปกครองดุ
ตอนนี้ในใจของเธอสงบลงแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำความผิดที่ใหญ่ขนาดนี้ตั้งแต่ขับรถมา
ในวันปกติเธอขับรถไปเรื่อยๆ และมักจะถูกรถสามล้อแซงด้วยซ้ำ วันนี้ทำไมถึงได้ผิดพลาด
โชคยังดีที่ถนนเส้นนั้นมีรถไม่เยอะ และเธอก็ยังโชคดีที่คนขับรถด้านข้างเห็นว่าเป็นรถหรู จึงมีสติที่จะชะลอความเร็วเพื่อไม่ให้รถเกิดอุบัติเหตุ
“เธออยู่ที่ไหน” กู้ฮอนได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังออกมาจากด้านนอกของสำนักงานตำรวจ เธอคิดว่าเธอหลอนไปเอง
แต่เมื่อก้มศีรษะลง ก็มองเห็นรองเท้าหนังที่ทำมาจากหนังลูกวัวสีดำสนิทเงางามของประเทศอิตาลี ร่างกายก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อย
เธอถูกห้อมล้อมไปด้วยลมหายใจที่เยือกเย็น
เธอไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้านั้น ได้แต่ก้มหน้ามองดูตัวเองด้วยความไม่สบอารมณ์ในความไม่เอาถ่านของตนเองด้วยสายตาที่เย็นชา
“คุณนอนหลับ หรือรู้สึกว่าอยู่ที่นี่สบายกว่าอยู่ข้างนอกหรือไง” เมื่อเป่หมิงโม่เห็นว่ากู้ฮอนไม่ขยับ เขาขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง
เสียงแบบนั้นทำให้หัวใจเล็กๆของกู้ฮอนสั่นเทา และบีบรัดแน่นอีกครั้ง ทำให้เธอรู้สึกเริ่มหายใจไม่ออก
ในที่สุด เธอก็ถูกมือใหญ่ที่มีกำลัง ดึงขึ้นมาจากที่นั่ง
***
ร่างของกู้ฮอน เหมือนกับต้นไม้กู้ ที่ถูกดึงขึ้นมา
เธอยังคงก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตาที่เย็นชาคู่นั้น
เธอไม่รู้ว่าตัวเองทำไมถึงถูกแบกขึ้นมา
หลังจากที่ถูกผลักเข้าไปในรถ เป่หมิงโม่ก็หันหน้าไปมองผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า และอดไม่ได้ที่จะยื่นมือมากุมขมับตัวเองอย่างปวดหัวสุดๆ
“คุณจะขับรถเร็วอะไรขนาดนี้ โชคยังดีที่ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ไม่อย่างนั้นเด็กทั้งสองคนก็ไม่มีแม่แล้ว พวกเขาจะเป็นอย่างไร คุณรู้ไหม”
“ฉัน…….” กู้ฮอนรู้ดีว่ามันผิด
“ทำไมคุณถึง คุณบอกมาว่าคิดอยากจะทำอะไรทำไมถึงขับรถเร็วขนาดนี้ หรือว่าทำงานจนเหนื่อยเลยคิดอยากจะระบายอารมณ์เหรอ เรื่องง่ายเนอะ พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปที่ที่หนึ่งเพื่อให้คุณระบายอารมณ์”
กู้ฮอนทำปากเว้าและพูดพึมพำ “ฉันไม่ได้โรคจิตเหมือนอย่างคุณนะ ฉันจะรีบกลับ เฉิงเฉิงอยู่บ้าน….…”
เมื่อเป่หมิงโม่ได้ยินเฉิงเฉิง อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว และท่าทีของเขาเริ่มประหม่าเล็กน้อย แม้ว่าปกติแล้วเขาจะดูเหมือนไม่ได้สนใจเด็กๆ แต่ใจในก็ยังมีพวกเขาอยู่ในใจอย่างเต็มเปี่ยม
“เฉิงเฉิงทำไมเหรอ ได้รับบาดเจ็บเหรอ”
กู้ฮอนส่ายหน้า “ป้าซินคิดถึงเฉิงเฉิง และร่างกายของหยางหยางก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว ดังนั้นจึงพาเขาไปที่ฉิงฮัวด้วย”
เป่หมิงโม่ก็ได้ผ่อนคลายและวางใจลงได้ “จริงๆแล้วเป็นชั่วโมงที่ยาวนานมาก จำเป็นต้องทำอย่างกับเหยียบหางแมวไหม”
กู้ฮอนส่ายหัวรับมือเบาๆ และแอบคิดกับตัวเองว่า “ทำไมจะไม่มี หรือว่าป้าซินจะพบตัวของเด็กน้อยแล้วเอาไปซ่อนเสียเอง อย่างนั้นคงจะเป็นเรื่องใหญ่แล้ว กลัวว่าเป่หมิงเอ้อก็คงจะนั่งอยู่ไม่เป็นสุข
“ฉิงฮัว”
“เจ้านาย มีอะไรต้องกำชับ”
“คุณขับรถของเธอ พาพวกเราไปที่บ้านของคุณ” เป่หมิงโม่พูดจบพลางดึงประตูคนขับลง
ฉิงฮัวพยักหน้า
รถสองคันขับออกจากสถานีตำรวจ และมุ่งหน้าไปที่ปิ่นฮอนเป่หยวน
*
แม้ว่าหยางหยางจะมีอาการบาดเจ็บที่ขา แต่ก็ยังคงอยู่ไม่นิ่ง ขาข้างหนึ่งกระโดดและวิ่งไปรอบๆ แอนนิกลัวว่าเขาอาจจะเกิดอุบัติเหตุเข้า จึงติดตามเขาอยู่ข้างหลังอย่างใกล้ชิดเหมือนพี่เลี้ยงเด็ก
เจียงฮุ่ยซินมองไปที่บ้านด้วยรอยยิ้ม พยักหน้าอย่างไม่หยุด และพูดกับลั่วเฉียวว่า “คุณนี่ตาถึงจริงๆ สามารถหาผู้ชายที่ดีอย่างฉิงฮัวได้”
ลั่วเฉียวรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อยพร้อมมีรอยยิ้มบนใบหน้า
ในใจกลับคิดว่า ดูจากภายนอกแล้วหญิงชราของตระกูลเป่หมิงมาเพื่อมาหาเฉิงเฉิง คงจะไม่ได้แอบมาหาลุงไอ้ฮัวคนนั้นใช่ไหม