เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 733 พ่อไม่ได้เชิญผมมาเอง
ตอนที่ 733 พ่อไม่ได้เชิญผมมาเอง
ไม่น่าล่ะ เห็นไอ้ลุงฮัว เอาวัยหนุ่มของตัวเองมอบให้ตระกูลเป่หมิง จนถึงวันนี้ก็ยังหาภรรยาไม่ได้
พอดีกับที่ตอนนี้โดนปากกระบอกปืนจ่อ พวกเขาเลื่อนตำแหน่งและขึ้นเงินเดือนให้เขาอีก แถมยังให้บ้านเขาเป็น “สินสอด” ไม่ต้องพูดถึงว่ากล้ามั้ยเลย
เฉิงเฉิงมองดูเวลาผ่านนาทีแล้วนาทีเล่า ผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว เขาเป็นห่วงจิ่วจิ่วที่อยู่ข้างบน
นอกจากนี้พวกเขาจะต้องอยู่กินข้าวกลางวันที่นี่
“ฉันอยากขึ้นไปดูหน่อย” จู่ๆ หยางหยางก็พูดขึ้น
เจียงฮุ่ยซินมองหยางหยาง: “หยางหยางฉันว่าเธออย่าขึ้นไปเลย เธอกับเฉิงเฉิงอยู่ที่นี่กับคุณย่าเถอะดีมั้ย?” ที่จริงแล้วเธอก็เป็นห่วงน้องชายขึ้นลงบันไดจะเป็นอันตราย
แต่เฉิงเฉิงก็รู้ถึงความรอบคอบของเขาดี ต้องเป็นป้าแอนนิที่บอกให้จิ่วจิ่วซ่อนอยู่ข้างบนแน่ๆ
“คุณย่า วางใจเถอะครับ บ้านนี้มีลิฟต์ ถึงแม้ขาหยางหยางจะบาดเจ็บก็ไม่เป็นไรเลยครับ”
“โห ที่นี่ดีจัง ที่บ้านปู่ไม่ได้ติดลิฟต์ ลิฟต์อยู่ตรงไหนเหรอ ฉันจะไปลองขึ้นหน่อย” หยางหยางเริ่มคิดว่าเธอจะกระโดดขึ้นบันไดไปเลยดีมั้ย นี่อาจจะยากไปหน่อย แต่เพื่อที่จะได้เจอน้องสาวจึงได้ไปด้วย
***
แอนนิพาหยางหยางขึ้นมาข้างบนได้ไม่นาน เฉิงเฉิงก็ได้ยินเสียงรถยนต์จากด้านนอก
เขารู้ได้ว่าคุณแม่กลับมาแล้ว
ถึงแม้เขาจะไม่รู้เรื่องรถยนต์มากนัก อีกอย่างหยางหยางก็เคยบอกกับเขา ว่าเขาเป็น:คนโง่เรื่องรถยนต์
แต่ความช่างสังเกตของเขาก็เอามาใช้แทนได้ ในละแวกนี้ ถึงแม้จะมีคนที่ขับรถอยู่ไม่น้อย แต่ว่าในละแวกนี้นั้นเงียบมาก ในเวลานี้มีรถขับมาทางนี้ ถ้าหากไม่ใช่คุณแม่แล้วจะเป็นใครได้ล่ะ
“คุณแม่กลับมาแล้ว” เฉิงเฉิงพูดพลางกระโดดลงจากโซฟา แล้ววิ่งเหยาะๆ ที่ต้อนรับที่หน้าประตู
พอออกไปก็ถึงกับงง ตอนแรกคิดว่าจะมีแค่คุณแม่คนเดียว คิดไม่ถึงว่าคุณพ่อกับฉิงฮัวจะมาด้วย
“คุณพ่อ คุณแม่ นี่……”
เมื่อเห็นฉิงฮัวลงมาจากรถของคุณแม่ แถมเป่หมิงโม่ก็ตามลงมาด้วย และตามมาด้วยกู้ฮอน เธอก็เหมือนเด็กที่กระทำความผิด เอาแต่ก้มหน้าไม่พูดไม่จา
เป่หมิงโม่มองเฉิงเฉิง ช่วงนี้ไม่ได้เจอเขาเลย จึงเห็นว่าเขาเหมือนจะสูงขึ้นไม่น้อย
“คุณชายเฉิงเฉิง “ฉิงฮัวทักทายเฉิงเฉิง
เป่หมิงโม่ไม่ได้สนใจกู้ฮอน ที่จริงระหว่างทางเขาก็เอาแต่ทำสีหน้าเย็นชา ไม่ได้พูดกับเธอเลยแม้แต่คำเดียว
เขาเดินไปข้างหน้าเฉิงเฉิง ยื่นมือออกไป ลูบหัวน้อยๆ ด้วยความรู้สึกของคนเป็นพ่อ: “ หนูอยู่ที่นี่ชินหรือเปล่า? ”
“คุณพ่อ หนูอยู่ที่นี่สบายดี ที่นี่มีคุณแม่อยู่ แล้วก็ป้าแอนนิกับป้าเฉียวเฉียว พวกเขาดูแลหนูดีมากๆ ” เฉิงเฉิงพยักหน้ารัวๆ
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้ว: “อ่อ อย่างนั้นเหรอ? แม่ของลูกยุ่งแบบนี้ยังดูแลลูกได้ดี ไม่ง่ายเลยจริงๆ ”
คำพูดนี้เหมือนจงใจพูดแทงใจดำกู้ฮอน
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน กู้ฮอนจะต้องตอกกลับไปแน่ๆ แต่ว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกผิด เป่หมิงเอ้ออยากจะพูดอะไรก็ให้พูดไปเถอะ
ตอนนี้ไม่เหมาะที่จะถามอะไร ได้แต่พูดว่า: “คุณพ่อ คุณแม่ อาฉิงฮัวพวกเราข้างไปข้างในกันเถอะ คุณย่าก็อยู่ด้านในนะ”
ทั้งสี่เข้าไปในบ้าน มาถึงห้องนั่งเล่น
“ป้าซิน” เป่หมิงโม่ทักทายเจียงฮุ่ยซิน
“ท่านนายเป่หมิง” ฉิงฮัวก็ทักทายด้วย
“ป้าซิน……” กู้ฮอนก็พูดเสียงเบา
เจียงฮุ่ยซินเห็นพวกเขามา ก็ผิดคาดเล็กน้อย ทำแค่ยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้ารับ: “นี่พวกเธอนัดกันมาเหรอ? ”
เป่หมิงโม่มาถึงที่นี่ ก็นับว่าไม่เกรงใจแล้ว เขานั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามเจียงฮุ่ยซิน: “ ไม่ได้เชิญผมมาเอง” ขณะพูดเขาก็เหลือบมองกู้ฮอน
ถึงแม้ฉิงฮัวจะรู้ว่าเรื่องอะไร แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดอะไรมาก
แต่พอเขามองเห็นลั่วเฉียว เธอนั่งอยู่บนโซฟาข้างๆ เจียงฮุ่ยซิน
เธอในตอนนี้ไม่ค่อยเหมือนเธอที่เขาเจอเมื่อครั้งก่อนเลย
เธอใส่ชุดคลุมท้องสีชมพู ท้องก็ใหญ่ขึ้นมาก เธอไม่ได้มองไปที่ฉิงฮัวเลย ราวกับในบ้านนี้ไม่มีเขาอยู่อย่างนั้น
ฉิงฮัวเงอะๆ งะๆ อยากจะเดินเข้าไป แต่ก็กลัวเล็กน้อย จึงทำได้แต่ค่อยๆ เดินไปนั่งลงบนโซฟาด้านหลังเจ้านาย ตัวที่ใกล้ที่นั่งของลั่วเฉียว
แล้วพูดกับเธอเสียงเบา: “เธอ เธอสบายดีใช่มั้ย”
ลั่วเฉียวจึงทำหน้าบึ้งแล้วหันไปมองเขา: “ ฉันเป็นยังไงนายก็เห็น อะไรที่เรียกว่าสบายหรือไม่สบาย”
ประโยคนี้ทำเอาฉิงฮัวพูดอะไรไม่ออก ทำได้แค่หน้าแดงคอตกเหี่ยวเฉาราวกับซากไม้
***
เป่หมิงโม่มองฉิงฮัวอย่างเป็นกังวลเล็กน้อย ขายขี้หน้าจริงๆ
เจียงฮุ่ยซินเห็นท่าทางของกู้ฮอน จึงยิ้มให้เธอเบาๆ : “กู้ฮอน มาข้างๆ ป้ามา ยืนเหม่ออะไร หรือว่าโม่แกล้งเธอ?”
กู้ฮอนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเจียงฮุ่ยซิน กู้ฮอนเม้มปากแล้วก็เดินไปเข้าข้างๆ เธอ
“เธอนั่งลงก่อน แล้วพูดมาสรุปแล้วมันเกิดเรื่องอะไร?” เจียงฮุ่ยซินยื่นมือไปจับกู้ฮอนให้นั่งลงที่ข้างตน
“เธอบอกเรื่องงามๆ เมื่อกี้ให้ป้าซินฟังซ่ะสิ” เป่หมิงโม่มองฉิงฮัวกับกู้ฮอนทั้งสองคน น่าปวดหัวจริงๆ
กู้ฮอนอ้ำๆ อึ้งๆ แล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้เจียงฮุ่ยซินฟัง
“เห้อ……กู้ฮอน ถึงเธอจะรีบมาเจอฉันก็เถอะ แต่ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ เธอดูสิ ดีที่ตำรวจพบเธอเร็ว ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ลูกเธอทั้งสองคนจะทำยังไง แล้วแม่เธอจะทำยังไง?” เจียงฮุ่ยซินฟังแล้วก็ช่วยเธอซับเหงื่อ
หลังจากที่ลั่วเฉียวกับเฉิงเฉิงได้ฟังก็ดูกระวนกระวาย โดยเฉพาะเฉิงเฉิง เขาเสียใจเล็กน้อยที่รีบโทรหาแม่เกินไป
ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ควรจะจัดการเรื่องด้วยตัวเองได้ อีกอย่างยังมีป้าแอนนิกับป้าเฉียวเฉียวอยู่ด้วย
เขาทำหน้าเหมือนมีความผิดแล้วเดินไปหากู้ฮอน ยื่นมือออกไปจับมือเธอ: “แม่ฮะ เป็นความผิดของผมเอง……”
กู้ฮอนคว้าลูกชายเข้ามากอดแนบอก: “ไม่ใช่ความผิดของลูก เป็นแม่ที่รีบร้อนเกินไป แม่สัญญาว่าต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
เธอพูดพลาง มองไปรอบๆ มาถึงได้สักพักแล้ว แต่ทำไมยังไม่เห็นเงาของหยางหยางกับแอนนิเลย
“แอนนิกับหยางหยางล่ะ?” เธอถาม
“หยางหยางกับแอนนิพวกเธอสองคนขึ้นข้างบนไปแล้ว” ลั่วเฉียวตอบ เธออยู่ที่นี่ตามมารยาทและก็ขึ้นข้างบนด้วยตัวเองคงไม่ดี แต่อยู่ตรงนี้ ต้องมานั่งทนให้ฉิงฮัวจ้อง
พูดถึงตรงนี้ เธอก็จับไปที่ขอบโซฟา ค่อยๆ พยุงร่างหนักๆ ของตัวเองขึ้น: “อืม ฉันเหนื่อยแล้ว พวกเธอนั่งคุยกันอยู่ที่นี่แหละ ฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อน”
เป่หมิงโม่ส่งซิกให้ฉิงฮัว เขานี่มันท่อนไม้จริงๆ เห็นลั่วเฉียวลุกขึ้นอย่างลำบาก ยังไม่ไปช่วยพยุงเธออีก ถึงแม้ลั่วเฉียวไม่อยากคุยกับเขา แต่โอกาสก็ต้องหาด้วยตัวเองสิ
ฉิงฮัวก็เข้าใจทันที เขารีบเดินเข้าไปข้างๆ ลั่วเฉียว: “ฉันพยุงเธอขึ้นไปนะ” พูดพลางยื่นมือไปทางเธอ
ลั่วเฉียวเบี่ยงตัวออกเล็กน้อย ทำหน้าบึ้งมองฉิงฮัว: “ไม่ต้อง นายอยู่ที่นี่เถอะ เดี๋ยวฉันให้เฉิงเฉิงพาขึ้นไป”
เธอพูดพลาง รีบกวักมือเรียกเฉิงเฉิง
“เฉิงเฉิงยังเด็กอยู่จะดูแลเธอได้ยังไง ให้ฉันไปเถอะ จะได้ไปเรียกแอนนิกับหยางหยางลงมาด้วย” กู้ฮอนพูดพลางรีบลุกขึ้นยืน
เธอรู้ว่าแอนนิกับหยางหยางคงเอาจิ่วจิ่วไปแอบไว้ เธอไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่ จึงอยากจะขึ้นไปดู แต่แค่ยังหาเหตุผลที่จะขึ้นไปไม่ได้
พอดีกับที่ลั่วเฉียวจะขึ้นไปพอดีจึงได้มีโอกาส
พวกเธอทั้งสองเดินขึ้นลิฟต์ที่ชั้นหนึ่งไปอย่างช้าๆ เมื่อประตูลิฟต์ปิดจนสนิท กู้ฮอนก็ถอนหายใจเฮือกยาวๆ
“กู้ฮอน เธอก็จริงๆ เลย ฉันเข้าใจว่าเธอกลัวจิ่วจิ่วจะโดนจับได้ แต่ก็ไม่ควรจะขับรถเร็วแล้วฝ่าไฟแดงมามั้ย หรือว่าเธอไม่เชื่อใจพวกฉันกลัวว่าจะซ่อนจิ่วจิ่วได้ไม่ดีใช่มั้ย ที่นี่ไม่เหมือนบ้านเธอหลังนั้นนะ เล็กจนแทบยัดคนเข้าไปไม่ได้ เรื่องจิ่วจิ่ว นั้นชิวๆ ” พอเข้าลิฟต์มาลั่วเฉียวก็เริ่มบ่นกู้ฮอน
“เอาน่าๆ ฉันรู้แล้ว คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตำรวจจะเรียกเป่หมิงโม่มา ตอนอยู่ตรงนั้นเขาก็บ่นฉันไปรอบนึงแล้ว”
***
มาถึงชั้นสอง กู้ฮอนก็ไปส่งลั่วเฉียวกลับไปที่ห้องนอนของเธอ “เธอพักผ่อนก่อน แอนนิเอาเด็กไปซ่อนไว้ที่ไหน?”
“อา ฉันรู้ว่าเธอฉวยโอกาสขึ้นมาส่งฉันเพื่อจะไปดูเด็ก ฉันคิดว่าพวกเขาคงอยู่ที่ห้องใต้หลังคาชั้นสาม เธอรีบไปดูเถอะ วันนี้ตอนเที่ยงพวกเขาจะมากินข้าวเที่ยงที่นี่ จิ่วจิ่วคงจะหิวมาทั้งบ่ายแล้ว” ลั่วเฉียวใช้มือคางนึงเท้าเอวไว้ ตอนนี้เธอยืนแค่สักพัก ก็เหนื่อยแล้ว
กู้ฮอนยื่นมือไปพยุงลั่วเฉียว: “ฉันไปส่งเธอก่อน เห็นเธอสภาพนี้ ลำบากแอนนิแล้วจริงๆ ต้องดูแลเด็กน้อย แถมยังต้องดูแลเด็กโตอีก”
“ฮี่ฮี่ ใครให้เธอพักอยู่ที่นี่ล่ะ อยู่ที่นี่ก็ต้องคอยบริการฉัน” แบบนี้ลั่วเฉียวเริ่มพออกพอใจ
กู้ฮอนมองบนใส่: “จ้า พรุ่งนี้ฉันจะพาพวกเขากลับบ้านฉัน เธอก็อยู่ที่นี่คนเดียวไป”
ลั่วเฉียวได้ฟังก็ไม่กล้าเอาแต่ใจ ใช้สายตาน่าสงสารมองกู้ฮอน: “กู้ฮอน ไม่กล้าแล้วจ้า”
หลังจากที่กู้ฮอนไปส่งลั่วเฉียวเข้าห้องพักผ่อน เธอจึงรีบขึ้นไปที่ชั้นสาม ก็เห็นหยางหยางกับแอนนิอยู่ด้านใน จิ่วจิ่วกำลังนั่งไขว้ขาบนผ้าปูโต๊ะปิกนิกขนาดใหญ่
ตอนนี้เธอกำลังหิว ดีที่ตอนที่แอนนิพาหยางหยางขึ้นมาได้เอาของกินขึ้นมาด้วย
เธอกำลังหยิบขนมปังโฮลวีทอยู่ ด้านบนมีแยมสีแดงทาไว้
ข้างๆ เธอมีกลิ่นหอมของนมและพุทราแดง
ของพวกนี้เป็นของที่เตรียมไว้ในห้องของลั่วเฉียว ตอนนี้ลั่วเฉียวท้องอยู่ บางทีก็อยากกินอะไรสักอย่าง เธอขี้เกียจลงไปหา จึงเตรียมของเอาไว้ในกล่องเสบียงในห้องนอน
“เด็กน้อย……” กู้ฮอนเห็นจิ่วจิ่ว ไม่ว่าตัวเองจะมีเรื่องไม่สบายใจแค่ไหน ก็ลบล้างได้หมด
“แม่จ๋า แม่กลับมาได้ยังไง?” ในปากจิ่วจิ่วยังเคี้ยวขนมปังอยู่ พลางพูดเสียงอู้อี้ ข้างปากเธอมีก็แยมเลอะอยู่
กู้ฮอนเดินเข้าไป แล้วล้วงหยิบกระดาษทิชชูออกมาเช็ดปากของเธอ
“แม่คิดถึงเด็กน้อยของแม่แล้วยังไงล่ะ”