เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 735 อยู่เป็นเพื่อนจิ่วจิ่ว
ตอนที่ 735 อยู่เป็นเพื่อนจิ่วจิ่ว
เป่หมิงโม่ยิ้มมุมปาก แล้วมองไปทางกู้ฮอนอีกครั้ง: “อ่อ? เมื่อกี้ฉันเห็นเธอทำท่าทีร้อนรน หรือว่าที่นี่มีสิ่งที่ฉันเห็นไม่ได้อยู่เหรอ?”
จิ่วจิ่วไม่ได้อยู่ที่นี่ กู้ฮอนหันขวับ: “ที่ฉันไม่อยากให้นายเห็นก็เป็นของพวกนี้แหละ นายไม่ชอบของเด็กเล่นพวกนี้ไม่ใช่เหรอ ใครจะรู้ว่าถ้านายเห็นจะพูดกัดอะไรพวกเราอีก”
ขณะนั้นเจียงฮุ่ยซินที่อยู่ข้างๆ ก็ช่วยกู้ฮอนพูด: “โม่ ดูสิ ทำเอากู้ฮอนตกใจหมดเลย ต่อไปต้องระวังหน่อยนะ”
เป่หมิงโม่มองกู้ฮอนแล้วชี้ให้ฉิงฮัวดู: “นายเห็นแล้วนะ ดูเหมือนเธอจะเตรียมพร้อมจะเป็นแม่คนแล้ว นายต้องพยายามหน่อยแล้ว อย่าให้พอถึงเวลาลูกออกมาแล้วไม่รู้ว่านายเป็นพ่อ”
ที่นี่ไม่มีอะไรให้ดู เป่หมิงโม่หันหลังกลับเข้าไปในลิฟต์อีกครั้ง
กู้ฮอนมองบนใส่เป่หมิงโม่: “นายคงจะไม่ไปดูที่ชั้นสองอีกนะ ชั้นนั้นมีแต่ห้องนอนของพวกเรา”
ไม่รู้ว่าวันนี้เป่หมิงโม่ประสาทกลับหรือว่าอะไร เอาแต่จี้กู้ฮอน ยิ่งเธอพูดว่าอย่าทำ เขายิ่งอยากจะทำ
“แน่นอนว่าพวกเราต้องดู พวกเธอผู้หญิงไม่กี่คนอยู่ที่นี่ ฉิงฮัวยิ่งต้องดูให้ดีๆ ว่าในห้องนั้นปลอดภัยหรือเปล่า ถ้าหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เจ้าของบ้านอย่างเขาคงจะลำบากแย่”
ที่จริงเขาก็แค่สงสัยล้วนๆ ยังจะโยนให้คนอื่นอีก
ฉิงฮัวจึงได้แต่พูดอย่างกระอักกระอ่วน: “คุณกู้ ผมว่าก็ควรจะตรวจดูสักหน่อย”
*
ตอนนี้เป่หมิงโม่เด็กน้อยขี้สงสัย ได้พาทุกคนลงมาที่ชั้นสอง
จิ่วจิ่วที่หายตัวไปจากชั้นสาม ก็ได้อยู่ในห้องนอนของลั่วเฉียวแล้ว
ตั้งแต่ที่แม่พาหยางหยางลงไปได้ไม่นาน เธอก็รู้สึกเบื่อ แต่บอกนึกถึงคำพูดแม่ที่บอกว่าคนข้างล่างน่ากลัวกว่าผีน้ำอีก จึงล้มเลิกที่จะลงไปข้างล่าง
แต่ว่าจะไปไหนดีล่ะ? จิ่วจิ่วถือขนมปังที่กินไปครึ่งนึงแล้วขมวดคิ้วคิดอยู่ครู่
***
จิ่วจิ่วคิดอยู่สักพัก สุดท้ายก็ตัดสินใจลงไปที่ชั้นสอง
พอมาถึงชั้นสอง ก็เห็นทางเดินและห้องที่อยู่สองฝั่ง เธอถือขนมปังไว้ในมือ พร้อมกับผลักประตูห้อง ดูว่าห้องไหนที่เปิดอยู่
แต่ที่ทำให้เธอผิดหวังก็คือ ทุกห้องได้ถูกล็อกเอาไว้ เพราะว่าตอนนี้เธอตัวเล็กมาก สูงไม่พอจับลูกบิดประตู
ขอแค่จับลูกบิดประตูถึงแล้วหมุนมันเบาๆ ประตูก็คงเปิดออกแล้ว
ตอนที่เธอกำลังจะถอดใจ แล้วกลับขึ้นชั้นสามไปหาที่นอน เธอก็เดินผ่านห้องของลั่วเฉียวพอดี
เธอได้ยินเสียงจากด้านใน เธอจึงใช้มือเล็กๆ ตบไปที่ประตู
กู้ฮอนส่งลั่วเฉียวกลับมาพักผ่อน ที่จริงแล้วเธอก็ไม่ได้รู้สึกง่วง เธอแค่อยากจะปลีกตัว ไม่อยากเจอฉิงฮัว
เธอนอนดูทีวีอยู่บนเตียงคนเดียว ตอนกลางวันกินข้าวอยู่ข้างล่าง เธอก็ไม่ได้หิว
เธอเปิดที่ตุนของกิน ข้างในมีขนมพร้อม มีแม้กระทั่งข้าวกล่องสำเร็จรูปและเกี๊ยวสำเร็จรูป
ตอนที่เธอดูทีวีจนรู้สึกเบื่อ ก็รู้สึกว่าท้องเริ่มหิว เธอหยิบข้าวกล่องสำเร็จรูปออกมา
ขณะที่เทน้ำที่ต้มจนเดือดลงไป ก็ได้ยินเสียงจากนอกประตูห้องของตน
เธอคิดว่ากู้ฮอนเอาอาหารขึ้นมาให้เธอ
แต่พอเปิดประตูออกดู กลับเป็นจิ่วจิ่วยืนอยู่หน้าประตู: “ป้าเฉียวเฉียว อยู่ข้างบนน่าเบื่อมากๆ หนูอยากจะมาเล่นกับป้าที่นี่”
ลั่วเฉียวอยู่คนเดียวก็เบื่อ จิ่วจิ่วมาพอดีเลยเล่นเป็นเพื่อนเธอ: “เอาสิ รีบเข้ามาเถอะ”
เธอให้จิ่วจิ่วเข้ามา: “เจ้าตัวน้อย หนูกินแค่นี้อิ่มเหรอ? ที่นี่มีของกินเยอะแยะเลย หนูอยากกินอะไรก็หยิบได้เลยนะ”
ขนมมากมายกองอยู่ข้างหน้าจิ่วจิ่ว เธอเอามือขึ้นมาแล้วกัดไปที่มือตัวเองเบาๆ ไม่ว่าอันไหนก็อยากจะลองกินดู แต่ว่าสุดท้ายก็ทนไว้
“ป้าเฉียวเฉียว มะม๊าบอกว่า ไม่ให้จิ่วจิ่วกินขนมเยอะไป”
“หา คิดไม่ถึงว่าหนูจะเก่งแบบนี้ ไม่กินขนมก็ดีเหมือนกัน งั้นเดี๋ยวป้าจะทำเกี๊ยวให้กินนะ ลวกน้ำร้อนแป๊บเดียว ก็กินได้แล้ว” ลั่วเฉียวพูดพลาง ทำให้จิ่วจิ่ว
จิ่วจิ่วทิ้งขนมปังในมือ แล้วก็ปีนขึ้นเตียงของลั่วเฉียว หยิบรีโมตทีวีขึ้นมา หาดูว่ามีช่องในฉายการ์ตูนอยู่บ้าง
ขณะนั้น ลั่วเฉียวก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังออกมาจากด้านนอก เธอเดินไปแง้มประตูดู ก็เห็นว่าเป่หมิงโม่เดินนำหน้ามา ด้านหลังมีฉิงฮัวและกู้ฮอนเดินตามมา
ทำไมพวกเขาไม่อยู่ข้างล่างดีๆ จะเดินมาทำบ้าอะไรตรงนี้
เธอนึกขึ้นมาได้ทันทีว่าจิ่วจิ่วอยู่ในห้องของเธอ ถ้าหากโดนเป่หมิงโม่จับได้ ก็ซวยแน่ๆ
เธอค่อยๆ ปิดประตูลง แล้วพูดกับจิ่วจิ่ว: “ตัวเล็ก หนูรีบซ่อนเร็ว แม่ของหนูพวกเขามากันแล้ว!”
พูดพลางรีบเปิดประตูตู้เสื้อผ้า แล้วชี้ให้จิ่วจิ่วเข้าไป
ทันใดนั้นจิ่วจิ่วก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เธอกระโดดลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว แล้วรีบเข้าไปในตู้เสื้อผ้า ยังดี ที่ตู้นี้ใหญ่และกว้าง และเสื้อผ้าของลั่วเฉียวไม่ค่อยเยอะ ยังมีที่ว่างเหลือเยอะ
รอให้จิ่วจิ่วเข้าไปแล้ว ลั่วเฉียวก็เอาเสื้อผ้ายัดเข้าไป แบบนี้ถึงจะเปิดประตูตู้เสื้อผ้า ก็จะเห็นแค่เสื้อผ้ากองไว้
“ตัวเล็ก หนูอยู่ข้างในก่อนนะ อย่าส่งเสียงล่ะ” สุดท้ายลั่วเฉียวก็ไม่ลืมที่จะพูดกับเธอ
จากนั้นจึงปิดประตูลงเบาๆ
เป่หมิงโม่ทำหน้าสงสัยและอยากตรวจสอบ เดินเปิดประตูดูทั่วทุกห้อง
มาถึงสุดท้าย คือห้องของลั่วเฉียว เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด
“เจ้านาย ห้องของเธอคงไม่ต้องดูหรอกมั้ง ตอนนี้เธอคงพักผ่อนอยู่” ฉิงฮัวไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของลั่วเฉียว
พอเสียงของเขาหยุดลง ก็ได้ยินเสียงทีวีลอดผ่านห้องของลั่วเฉียวออกมา
***
“ดูเหมือนจะไม่ได้เพลียเลยนะ” เป่หมิงโม่ยิ้มอ่อน
ดูไปตั้งหลายห้อง กู้ฮอนก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของจิ่วจิ่ว
ตอนนี้เป็นไปได้มากว่าอยู่ในห้องของลั่วเฉียว หรือบางทีลั่วเฉียวเบื่อๆ จึงพาจิ่วจิ่วมาเล่นด้วย
ได้ยินเสียงทีวีดังออกมาจากในห้อง ใจของเธอก็หล่นไปถึงตาตุ่ม
“บางทีเฉียวเฉียวอาจจะเปิดทีวีดูแล้วหลับไปก็ได้ เป็นไปได้ เธอมักจะเป็นแบบนี้” กู้ฮอนรีบอธิบาย
แต่กู้ฮอนยิ่งอธิบาย ยิ่งทำให้เป่หมิงโม่อยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
ถึงแม้เขาจะไม่รู้ชัดว่ามันเป็นยังไงกันแน่ แต่เขาก็แน่ใจอยู่หน่อยๆ ว่าต้องมีบางอย่างที่ไม่อยากให้เขารู้
เขายืนอยู่หน้าห้องของลั่วเฉียว และไม่มีทีท่าว่าจะไป
เจียงฮุ่ยซินทนไม่ไหว มีใครที่ไหนไปยืนรออยู่หน้าห้องนอนของคนอื่น
“โม่ ป้าว่าเราลงไปกันเถอะ ป้าเริ่มเหนื่อยแล้ว” เธออยากจะใช้ข้ออ้างนี้ให้เขาลงไป
“เฉิง หยาง พวกลูกพาคุณย่าลงไปก่อนนะ” แต่เป่หมิงโม่กลับให้ลูกๆ พาท่านนายเป่หมิงลงไปก่อน
ดูแล้วเขาตั้งใจเอาจริง
กู้ฮอนขมวดคิ้ว จากนั้นก็บอกกับลูกทั้งสอง: “พวกลูกพาคุณย่าลงไปก่อนนะ ต้องดูแลคุณย่าดีๆ นะเข้าใจมั้ย พวกแม่ดูป้าเฉียวเฉียวเสร็จแล้วจะตามลงไป”
เฉิงเฉิงกับหยางหยางพยักหน้า: “คุณย่า พวกเราลงไปกับเถอะฮะ”
พอเห็นพวกเจียงฮุ่ยซินไปแล้ว กู้ฮอนก็หัวเสียเคาะประตูห้องลั่วเฉียวเบาๆ
ไม่นาน ประตูก็เปิดออก
ลั่วเฉียวใส่ชุดนอนยืนอยู่หน้าประตู เธอมองเป่หมิงโม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอไม่ได้ทำดีกับเขาอย่างที่ฉิงฮัวหรือกู้ฮอนทำ
“ประธานเป่หมิงไม่ทราบว่าคุณมาหาทำอะไรที่นี่?” เธอยืนกอดอก
เป่หมิงโม่ยิ้มอ่อน: “ที่จริงก็ไม่มีอะไร ฉิงฮัวเป็นห่วงว่าพวกเธออยู่ที่นี่ปลอดภัยดีมั้ย มาดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”
ลั่วเฉียวก็ยังคงยืนขวางประตูไว้ ไม่มีท่าทีจะถอย: “อ่อ? ไม่ทราบว่าเป็นความประสงค์ของประธานเป่หมิง หรือว่าความประสงค์ของเขา?”
พูดพลางจ้องฉิงฮัวเขม็ง
ฉิงฮัวราวกับหนูที่เจอแมว เขาถอยกลับไปหลบด้านหลัง
เป่หมิงโม่มองผ่านลั่วเฉียว ไปเห็นอาหารที่อุ่นไว้สองที่วางอยู่บนโต๊ะตรงกับประตู
“ไม่คิดเลยว่าเธอจะกินเยอะแบบนี้ อาหารสองที่เธอกินหมดเหรอ? ถ้าเธอหิวทำไมไม่ลงไปกินข้าวกับพวกเราล่ะ” เป่หมิงโม่สายตาร้ายกาจจริงๆ
กู้ฮอนเดาออกแปดสิบเปอร์เซ็นต์ จิ่วจิ่วคงจะมาที่ห้องนี้ แล้วลั่วเฉียวก็เตรียมของกินให้เธอ
ถ้าพลาดขึ้นมาซวยแน่ๆ
แต่ลั่วเฉียวไม่ได้กระวนกระวายเหมือนกันกู้ฮอน เธอหันกลับไปหยิบข้าวกล่องสำเร็จรูปมาและยื่นให้เป่หมิงโม่ดู: “ประธานเป่หมิงดูสิ นี่มีอะไรบ้าง จะกินอิ่มได้ยังไง ถ้าหากฉันลงไปกินข้าวกับพวกคุณ ฉันก็กลัวว่าอาหารบางอย่างอาจจะไม่เป็นปัญหากับผู้ใหญ่อย่างเราๆ แต่อาจจะมีผลกระทบต่อเด็กในท้องน่ะสิ”
ที่ลั่วเฉียวพูดก็ไม่ใช่ไม่มีเหตุผลไปซะทีเดียว
เป่หมิงโม่พยักหน้า: “ถึงขนาดนี้แล้ว งั้นผมก็ไม่รบกวนเวลาทานอาหารแล้ว” พูดพลางหันหลังแล้วเดินไป
ลั่วเฉียวแกล้ง: “ประธานเป่หมิง มาถึงนี่แล้ว งั้นมากินสักหน่อยมั้ยล่ะ?”
“ขอบคุณสำหรับความหวังดี ถ้าจะให้อยู่ต่อ ก็ให้ฉิงฮัวอยู่เป็นเพื่อนก็โอเคแล้วครับ” เป่หมิงโม่พูดพลาง คว้ามือกู้ฮอน แล้วเดินไปทางลิฟต์
“เจ้านาย……” ฉิงฮัวเห็นได้ชัดว่าเจ้านายไม่ให้เขาตามไปด้วย
ต่อหน้าเจ้านายกับลั่วเฉียว เขายืนอยู่ตรงกลางทำอะไรไม่ถูก
กู้ฮอนโดนเป่หมิงโม่ลากขึ้นลิฟต์ พอประตูปิดลงกู้ฮอนก็ถามขึ้น: “เป่หมิงโม่ นี่มันหมายความว่าไง?”
***
เป่หมิงโม่สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยิ้มอ่อน: “ฉันแค่หาโอกาสให้พวกเขาได้อยู่สองต่อสอง เธอคิดว่าฉันมีนิสัยแปลกๆ ชอบดูห้องนอนของคนอื่นไปทั่วหรือไงกัน?”
กู้ฮอนมองขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
แต่ว่าในใจคิด: “หรือว่านิสัยนายไม่แปลกเลย?”
แต่เธอก็ยังกังวลเรื่องของเจ้าตัวเล็กอยู่ ช่างเถอะ เรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ทำได้แต่ยอมรับชะตากรรมแล้ว
“ลงมากันแล้วเหรอ หือ? ฉิงฮัวไปไหนแล้วล่ะ?” เจียงฮุ่ยซินเห็นเป่หมิงโม่กับกู้ฮอนลงมากันแค่สองคน จึงสงสัยอย่างช่วยไม่ได้
“ผมให้ฉิงฮัวอยู่เป็นเพื่อนลั่วเฉียวแล้ว” เป่หมิงโม่ก้มหน้าดูนาฬิกาข้อมือ แล้วก็จัดแจงเสื้อนอกของตน
“ป้าซิน ตอนบ่ายผมยังมีธุระ คงต้องขอตัวก่อน เดี๋ยวพอฉิงฮัวลงมาก็ให้เขากลับไปเองแล้วกัน” เป่หมิงโม่รู้ว่า ฉิงฮัวคงจะโดนไล่ลงมาแน่ๆ
ขณะนั้นเจียงฮุ่ยซินก็ลุกขึ้นยืน: “ถ้างั้น ฉันก็กลับแล้วเหมือนกัน” เธอพูดพลาง จับมือเล็กๆ ของเฉิงเฉิง: “เฉิงเฉิง ต่อไปก็ไปเยี่ยมย่าบ่อยๆ นะ”
เฉิงเฉิงพยักหน้าแรงๆ
“ทำไมทุกคนจะกลับกันแล้วล่ะ? ฉันเตรียมหั่นผลไม้มาเสิร์ฟแล้วเนี่ย” แอนนิเดินออกมาจากห้องอาหาร ถือถาดแก้ว ด้านในมีผลไม้หลากหลายสี
หยางหยางเห็นว่ามีของกิน เขาจึงไม่สนว่าจะกลับหรือไม่กลับ แล้วรีบกระโดดเข้าหาแอนนิ
แอนนิยิ้มอ่อนแล้วยื่นซ้อมให้เขา: “กินเก่งจริงๆ นะ เมื่อกี้ก็เพิ่งจะกินข้าวเที่ยงไปยังไม่อิ่มอีกเหรอ”