เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 75 แสดงละครก็แสดงให้จบ1
ตอนที่ 75 แสดงละครก็แสดงให้จบ1
ภัตตาคารยังคงมีลูกค้าพลุกพล่าน ราวกับเป็น
เวลากลางวัน
กู้ฮอนตามหลังเหมิงโม่เข้าไป ด้วยนิสัยของ เป่ห มิงโม่แล้ว ไม่ว่าจะไปที่ไหน หากไม่มีห้องส่วนตัวจะไม่ ร่วมด้วยแต่ว่า กู้ฮอนกลับไม่สนใจเขา ร้องเรียกเขาให้ หยุด “ประธานคะ ถ้าอย่างไรเราไปนั่งที่ห้องโถงกัน เถอะ คึกคักดี”
อย่างแรก ห้องส่วนตัวอึดอัดเกินไป กินอะไรไม่ได้ บรรยากาศ ที่ห้องโถงคนมากมาย ถึงจะกินได้ เอร็ดอร่อย
อย่างที่สอง หลังจากผ่านเหตุการณ์เมื่อคืน ตอนนี้ เธอเป็นโรคกลัวการอยู่ใกล้เป่ยหมิงโม่ นั่งห้องโถงเธอ รู้สึกปลอดภัยมากกว่า อย่างน้อยเขาก็คงไม่สั่งให้เธอ กระโดดตึกอะไรแบบนั้น ทั้งห้องโถงยังอยู่ชั้นหนึ่ง กระโดดลงไปก็ไม่ตาย….
เป่ยหมิงโม่เลิกคิ้ว กวาดสายตาไปยังห้องโถงอัน จอแจ แล้วขมวดคิ้วโดยสัญชาตญาณ
เขาไม่ชอบสถานที่ผู้คนเยอะแยะ ยิ่งคนมากก็ยิ่ง สกปรกมาก
ครั้งนี้กู้ฮอนได้เรียนรู้จากประสบการณ์มาแล้ว จึง รีบเร่งเรียกพนักงานให้จัดหาที่นั่งในห้องโถง….
ในที่สุดก็ได้นั่งลงตรงที่นั่งติดหน้าต่าง
เธอสั่งหม้อไฟซุปเป็ดแมนดาริน กับผัดผักที่ราคา แพงกว่าท้องตลาดหลายสิบเท่าหนึ่งจาน
เมื่อหม้อไฟเป็ดแมนดารินมาเสิร์ฟ เขามองยังน้ำ ซุปแดงฉานไปด้วยพริกครึ่งหนึ่ง กับน้ำซุปใสอีกครึ่ง ด้วยสายตาเย็นชา
แล้วกวาดตามองไปยังผัดผักชุ่มน้ำมัน เม้มปาก เอ่ยเหน็บแนม-
“เธอตั้งใจจะกินซุปเผ็ดราดข้าว กับผัดผักแค่นั้น น่ะหรือ? กู้ฮอน เธอเกิดปีเถาะหรือไง?”
เธอเคี้ยวตุ้ย ๆ “กระต่ายไม่กินข้าวกับพริกหรอก
ค่ะ!”
จากนั้น อาหารที่เขาสั่งก็มายังโต๊ะทีละจาน.. ดวงตาของกู้ฮอนยิ่งขยายใหญ่ขึ้นทุกที ปากก็
พึมพำไปด้วย
..อุ้งเท้าวัวชั้นดี ปลานึ่งในสระหยก เป็ดทรง เครื่อง ปลิงทะเลชั้นดี ขาหมูสวรรค์ เห็ดต้นชารส เลิศ…”พูดมาถึงจานสุดท้าย แม่นางกู้ก็พูดต่อไปอีกไม่ ไหว ตาเหลือกในทันใด แทบจะน้ำลายฟูมปาก “ประธานคะ คุณจะกินล้างผลาญฉันหรือไง?”
เป่หมิงโม่ส่งเสียงอือออกมาอย่างเหยียดหยาม”ข้าวมื้อเดียวก็ล้างผลาญแล้ว กู้ฮอนเธอนี้ไม่มีอนาคต เอาเสียเลย”
กู้ฮอนได้ยิน ใบหน้าถึงกับไม่มีสีเลือด เจตนาของ ท่านประธานคือจะตั้งใจให้เธอเลี้ยงข้าวมื้อนี้จริง ๆ เหรอ?
..มีกันแค่สองคน ต้องกันเยอะขนาดนี้เลยเห รอคะ?”
ฮือ เธอเลี้ยงเขาแค่ซุปเผ็ดกับข้าวได้ไหมนี่? เขาอดทนมากกว่าทุกที่ “ฉันไม่ชอบกินแบบเหงา
ๆ”
“เหงา ๆ?” เธอเบิกตากว้าง มองไปยังผู้คนที่โต๊ะอื่น ๆ รอบห้องโถงที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย ที่นี่มีคน อย่างน้อยร้อยกว่าคนขึ้นไป ไม่เหงาสักหน่อย….
เธอเม้มปาก ไม่พูดอะไรออกมา
สงสัยตอนเด็กจะกินข้าวคนเดียวอยู่บ่อย ๆ คน เดียวชามเดียว ก็เลยอดรู้สึกเหงาไม่ได้
ดังนั้นภายหลัง เขาก็เลยสั่งให้คนใช้ต้องจัด อาหารเต็มโต๊ะทุกครั้ง เวลากินข้าวคนเดี่ยวจะได้ดู ครึกครื้นขึ้นมาหน่อย
“พิลึกคน” กู้ฮอนมองเขาอย่างเคือง ๆ พลางพึมพำ หลังจากอาหารถูกนำมาเสิร์ฟแล้ว โต๊ะก็แทบแน่น
ออกมาไปหมด
กู้ฮอนเหงื่อซึมไปทั้งหลัง เธอเหมือนจะเห็นตัวเลข บัญชีสะสมในบัตรธนาคารของเธอดิ่งลงทันที
คืนนี้ นับว่าเธอได้กินมื้ออาหารกับเป่หมิงโม่อย่าง ปกติสุขเสียที แต่ไม่นึกว่ากินเพียงแค่ครั้งเดียวถึงกับ ทำให้เธอต้องกลับไปตั้งตัวกันใหม่เลย
“ไหนบอกว่าหิวไม่ใช่เหรอ เริ่มกินเถอะ”เขา เคยชินกับการออกคำสั่ง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
กู้ฮอนสูดหายใจลึก แล้วถอนหายใจออก
เอาเถอะ ในเมื่อเธอเป็นคนเลี้ยง เธอก็กินให้ พอแล้วกัน…..
ไม่นึกว่า เพิ่งจะหยิบตะเกียบขึ้นมา ก็ได้ยินเสียง อ่อนหวานดังขึ้นมาในอากาศ
“ว้าย พี่เป้หมิงพี่ก็อยู่ด้วยเหรอคะ…”
เสียงแบบนี้ แม้ต้องกลายเป็นเถ้าถ่าน กู้ฮอนก็ยัง สามารถจดจำได้
เธอขมวดคิ้วโดยสัญชาตญาณ เดิมก็อารมณ์ไม่ ค่อยดีเท่าไหร่อยู่แล้ว กลับยิ่งดิ่งลงไปอีก
“บังเอิญจังเลยนะคะวันนี้ ไม่นึกว่าจะมาพบพี่เป่ห มิงที่นี่ รังเกียจให้เราร่วมรับประทานด้วยหรือเปล่าคะ? ฮี ๆ ๆ” กู้อันขี้พูดพลางเดินมาหา
ข้างกายเธอยังมีชายหนุ่มหน้าตาอ่อนโยนอยู่ด้วย
กู้ฮอนมองยังชายหนุ่มผู้อ่อนโยนคนนั้น นิ้วมือสั่น เทาเป่หมิงโม่เลิกคิ้วขึ้นโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
กู้อันมั่นใจว่าเป่ยหมิงโม่จะไม่ทำให้เธอเสียหน้า ในเมื่อเขามาจากตระกูลสูงใหญ่ ทั้งได้รับการดูแลและ สั่งสอนมาอย่างดี
ว่าแล้วกู้อันขีก็ตรงไปนั่งยังฝั่งด้านขวาของเป่หมิง โม่ ยิ้มแย้มอย่างร่าเริง
กู้ฮอนนั่งอยู่ฝั่งซ้ายของเป่หมิงโม่
ใบหน้าของเธอเครียดขึ้น มือที่ถือตะเกียบก็ยิ่งจับ แน่นขึ้นเช่นเดียวกัน
ในใจพลางคิดว่า ทำไมถึงมีคนไม่รู้จักยางอาย อย่างกู้อันขีด้วยนะ?
ตลอดมากู้อันขี ก็ได้ขึ้นมามีหน้ามีตา โดยอาศัย การทำตัวไร้ยางอายมาตลอด “ฮี ๆ พี่เป่หมิง พวกพี่มี กันแค่สองคน คงจะกินอาหารเต็มโต๊ะอย่างนี้ไม่หมด หรอกค่ะ อย่างไรให้พวกเราช่วยจัดการอาหารที่ เหลือไหมคะ?”เธอพูดพลาง ชายหนุ่มผู้อ่อนโยนที่อยู่ ข้างเธอเมื่อครู่ ก็นั่งลงตรงข้างที่นั่งเธอเช่นเดียวกัน” ประธานเหมิง สวัสดีครับ ผมคือเพื่อนของ กู้อันขี, ซุน จุนฮาว”
ชายผู้อ่อนโยนแนะนำตัวเองอย่างมีมารยาท จ้อ งมองเป่หมิงโม่อย่างชื่นชม จากนั้นเมื่อเห็นกู้ฮอน แวว ตาก็ชะงักลงครู่หนึ่งแล้วไม่พูดอะไรอีก”พี่เป่หมิง ตอนนี้จุนฮาว เขาเป็นหัวหน้าที่ปรึกษาทางวิศวกรรมของ กลุ่มธุรกิจกู้เราน่ะค่ะ ฉันกับเขามาคุยเรื่องงานกัน ไม่มี อะไรอื่น” กู้อันขีหัวเราะอธิบาย
กู้ฮอนได้ยินแล้ว กลับรู้สึกรังเกียจเหลือเกิน
ชายที่ชื่อเป่ยหมิงโม่คนนี้ นอกจากหญิงสาวที่ ชื่อSosoคนนั้นแล้ว เกรงว่าใครก็คงไม่มีโอกาสละมั้ง? กู้อันขี้ชักจะคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปหน่อยกู้อันปี ทำตัวเป็นเจ้าภาพ ตรงคว้าตะเกียบขึ้นมา แล้วกุลีกุจอ คีบอาหารใส่ชามของเหมิงโม่ ขณะเดียวกันก็ยิ้มแย้ม ประจบ “พี่เป้หมิง มาค่ะ ฉันจะคีบกระดูกสันหลังให้พี่ เอง ร้านนี้ฉันมาบ่อย รสชาติไม่เลวเลย”