เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 762 สถานที่เจ็บปวดใจ
ตอนที่ 762 สถานที่เจ็บปวดใจ
“สิ่งของเหล่านั้นไม่ใช่คนชนชั้นมนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราไปดูหรอกนะ ฉันดูก่อนว่าตรงไหนมันเหมาะสมกว่านี้” ขณะที่เธอพูดอยู่มือก็ได้ชี้ไปยังร้านจิวเวลรี่ที่อยู่ไม่ไกล ตรงนั้นก็คือร้านขายจิวเวลรี่ที่มีชื่อเสียงมาก ๆ แต่ที่ตรงนั้นก็จะมีการขายในราคาที่มั่วมาก ๆ ราคาถูกไปจนทำให้คนรู้สึกผิดสังเกต
กู้ฮอนคิดว่าที่ตรงนี้เป็นสถานที่ที่พวกเธอควรจะไป
เป่หมิงโม่เห็นกู้ฮอนชี้ไปตรงนั้น แม้ประตูก็ยังที่จะขี้เกียจซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ และยังมีตัวอักษรใหญ่ ๆ Jewelry World
“ที่นั่นมีของอะไรดี” พูดไป เขาก็ขยับมุมปาก แล้วก็แสดงสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ที่นี่จะเป็นที่ที่ชื่นชอบของเขาได้อย่างไร
กู้ฮอนมองแล้วไม่ค่อยจะชอบท่าทางของเป่หมิงโม่ เขาไม่ชอบที่นี่ ก็เหมือนกับว่าเขานั้นไม่ชอบและดูถูกตัวเธอตัวเองเช่นนั้น
“เพียงแต่คุณค่าในตัวเราดูมีความสง่างาม แม้ของปลอมจะใส่อยู่ที่บนเรือนร่าง คนอื่นก็ยังคิดว่าเป็นของจริง แต่หากมองกลับไป ถึงแม้นตัวจะใส่เครื่องเงินทองมากมาย คนอื่นก็ยังคิดว่าเป็นของปลอม”
เป่หมิงโม่ฟังคำพูดของกู้ฮอนก็รู้สึกน่าสนใจยิ่งนัก เขาก็เลยพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ประโยคนี้ของคุณจะหมายความว่าอะไรล่ะ ? หากจะพูดว่าคุณมีความสง่างาม หรือว่าไม่สง่างามล่ะ ?”
ประโยคนี้กลับทำให้กู้ฮอนเป็นใบ้เลยทีเดียว เธอคิดว่าตัวเองไม่ได้สูงส่งขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ต่ำต้อยขนาดนั้น
ในสมองหยุดไปสักครู่ แล้วก็พูดออกมาว่า “ฉันเป็นเพียงแค่คนธรรมดาใช่ชีวิตธรรมดาเท่านั้น ที่เลือกไปตรงนั้นก็เพราะว่าเงินของฉันมีเพียงพอต่อการใช้เท่านี้”
เป่หมิงโม่มองกู้ฮอนน่าจะประมาณหนึ่งนาที จนทำให้กู้ฮอนรู้สึกเบื่อหน่าย “นี่ คุณมองฉันแบบนี้ทำไม ?”
ในเดือนนี้ อากาศอบอุ่นมาก แต่ร่างกายและเนื้อไขมันของกู้ฮอนยังแน่นอยู่เลย
เป่หมิงโม่ไม่ได้พูดอะไร แล้วยื่นมือไปดึงกู้ฮอนแล้วเดินพาไปยังร้าน“Jewelry World”ที่กู้ฮอนนั้นชี้เมื่อสักครู่นี้
ซึ่งเหนือความคาดหมายของกู้ฮอนอยู่บ้าง เธอคิดว่าด้วยนิสัยของเป่หมิงโม่คงจะไม่เข้ามาดูร้านเล็ก ๆ แบบนี้หรอก
ตอนที่เธอเลือกชี้ร้านนี้ ก็เพราะว่าเธอไม่อยากจะไปร้านจิวเวลรี่ที่มีชื่อเสียง
ที่ตรงนั้นมีของมากมายเต็มตา แต่ตัวเองก็รู้สึกอายที่ไม่มีเงินขนาดนั้น และไม่อาจจะรับของที่เป่หมิงโม่จะมอบให้เขาได้
สิ่งที่เขามอบให้คงไม่ง่ายเลยที่จะตอบแทน นั่นคือการชดใช้ด้วยเลือดเนื้อเท่านั้น เธออยากจะมีชีวิตอยู่อีกสักหลายปี
สองคนเข้าไปยังร้าน เหมือนกันยืนอยู่ท้องทะเลแห่งร้านขายจิวเวลรี่ ทุก ๆ ร้านค้าจะมีสินค้าจิวเวลรี่มากมายก่ายกอง
ในที่ตรงนั้นก็เหมือนกับจิวเวลรี่ ที่มากมายจนไม่อาจจะมองเห็นพื้นด้านล่างได้
คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ก็นำของมาเข้า ในมือแต่ละคนก็เต็มไปด้วยกระเป๋าสีดำ
เป่หมิงโม่นับว่ามาที่นี่ครั้งแรก เขาขมวดคิ้ว ซึ่งไม่อาจจะรับได้กับสภาพแวดล้อมที่แออัดเช่นนี้ และยังมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ก้มหน้าไปมองกู้ฮอน เพียงเห็นแต่เธอที่ใช้เรือนร่างที่เล็ก ๆ เดินเข้าไปในที่คนเยอะแยะมากมาย
***
พวกเขาก็ได้ไปหยุดตรงที่ร้านที่ค่อนข้างใหญ่หน่อย จะบอกได้ว่าร้านนี้เป็นร้านที่ขายดีที่สุดในแถบนี้เลยทีเดียว
กู้ฮอนลุยเข้าไป แล้วก็เลือกของอยู่ที่ตรงนั้น
เหลือเพียงแค่เป่หมิงโม่ที่ยืนอยู่ข้างนอกราวกับป้ายโฆษณา
แต่ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่า เขาก็มีความงดงามอยู่เช่นนี้ ในเวลาไม่กี่นาที คนรอบกายของเขาก็เริ่มเยอะมากขึ้น
หลายคนที่มาก็เพราะว่าเมื่อหลายวันนี้ ทีวีได้ออกอากาศเกี่ยวกับตระกูลเป่หมิงและGTที่ได้ทำสัญญาร่วมกัน ก็เลยทำให้คนอื่นรู้จัก
เป่หมิงโม่เสมือนกับสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าเขาจะยินยอมหรือไม่ ก็มีคนมากมายเดินเข้ามาหาเขาเพื่อถ่ายรูป
ร้านนี้มีผู้คนมากมายเข้าออก กู้ฮอนก็เลยไม่มีอารมณ์ที่จะไปดูเรื่องอื่น ๆ
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง กู้ฮอนก็เดินหิ้วถุงเล็ก ๆ ออกมาจากร้าน
ตอนที่เธอเห็นเป่หมิงโม่ถูกผู้คนมากมายล้อมอยู่ เขาก็ขมวดคิ้ว แล้วก็มองไปมายังตัวเอง ซึ่งเต็มไปด้วยความเอือมและไม่มีใครมาช่วยเขาเลย ทำให้กู้ฮอนรู้สึกอยากหัวเราะออกมา
“นี่ ฉันซื้อเสร็จแล้ว พวกเราไปกันเถอะ” กู้ฮอนได้มองไปยังเป่หมิงโม่ หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจเขาเลย และก็ได้เดินออกไปจากประตูใหญ่ที่ผ่านผู้คนมากมาย
เป่หมิงโม่เห็นกู้ฮอนเดินออกไป เขาก็เลยเริ่มที่จะพยายามออกจากกลุ่มที่คนมาล้อมรอบเขาแล้วก็เดินออกไป
กู้ฮอนออกมาประมาณห้าหกนาที จึงจะเห็นเป่หมิงโม่ออกมาด้วยสภาพที่อิดโรย
เธอนั้นปิดปากตัวเองไม่ให้พูดอะไรที่มันสนุกปากออกมา แต่เธอก็บิดเอวเหมือนเสี้ยวพระจันทร์กลับถูกเป่หมิงโม่เห็นเข้าแล้ว
เขาเดินมาใกล้กู้ฮอน แล้วก็ก้มหน้าพูดกับเธอว่า “มันน่าหัวเราะขนาดนั้นเลยหรือ ? ” พอพูดไปเขาก็ยังไม่ลืมที่จะจัดการกับเสื้อของตัวเอง
“ไม่มีอะไร คุณไม่ใช่เคยมาที่นี่ครั้งแรกหรือนะ ทำให้คุณลำบากใจจริง ๆ แต่นี่แหละคือชีวิตของคนธรรมดาไงล่ะ เอาล่ะ พวกเราไปเลือกเสื้อกันเถอะ ” กู้ฮอนหัวเราะด้วยความสะใจ แล้วก็เอาถุงที่ตัวเองที่ใส่ของยื่นให้กับเขา “คุณดูด้วยนี้สิ ไม่แพ้ร้านดัง ๆ เลย”
เป่หมิงโม่ไม่มีความสนใจในสิ่งพวกนี้ ก็เลยพากู้ฮอนเข้าไปในห้างหมายเลขหนึ่ง
เขาได้พากู้ฮอนเดินไปเดินมาจนถึงร้านแห่งหนึ่ง ก้าวเดินของเขาก็หยุดลง
กู้ฮอนเงยหน้าขึ้นไปยังหน้า ทันใดนั้นก็อึ้งมาก ๆ เป็นที่นี่ เป่หมิงโม่ได้ดึงชุดแสงจันทร์ของเธอยกให้เฟยเอ๋อ
เหตุการณ์นั้น จนถึงวันนี้กู้ฮอนก็ยังจำได้ไม่ลืมเลือน
ร่างกายของเธอก็รู้สึกตกใจและสั่น
“ทำไมคุณไม่เข้าไป ?” เป่หมิงโม่เห็นกู้ฮอนที่ยืนอยู่ไม่ไปไหน
รอยยิ้มบนใบหน้าหายไป สายตาก็ได้แต่มองกระจก ตรงนั้นเป็นที่ที่เธอและลั่วเฉียวเห็นชุดแสงจันทร์เป็นครั้งแรก
เป่หมิงโม่ก็รู้สึกคิดถึงเหตุการณ์ตอนนั้นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ทันใดนั้นเขารู้สึกมีความรู้สึกที่ไม่ถูกต้องนัก
หากตอนนั้นเป็นเขาในตอนนี้ แน่นอนว่าจะไม่ทำเรื่องที่มันเกินเลยออกมาอย่างแน่นอน
ซึ่งช่วงตอนนั้นเป็นการทำร้ายจิตใจของกู้ฮอนเป็นอย่างมาก
“คุณพาฉันมาที่นี่ คือให้มาเลือกชุดที่เป็นทางการ?” กู้ฮอนในใจก็มีน้ำตาไหลหยดลงมา เธอได้ประสบพบเจอกับความอับอาย และยังคนที่ทำแบบนี้คนแรกก็คือเป่หมิงโม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอนั้นไม่ลืมไปตลอดชีวิต
เป่หมิงโม่พยักหน้า “ฉันรู้ ที่นี่เป็นสถานที่ที่สร้างความเสียใจให้คุณ ดังนั้นฉันรู้สึกว่า ที่นี่สมควรเป็นสถานที่ที่รักษาแผลในใจคุณดีที่สุด”
กู้ฮอนหันหน้าไปแล้วพูดกับเป่หมิงโม่ว่า “จะรักษายังไง ? หรือจะบอกว่าเหมือนเมื่อก่อน ซื้อตัวที่เหมือนเดิมเลยใช่ไหมล่ะ ?”
***
สิ่งที่กู้ฮอนพูดออกมาเป่หมิงโม่ไม่อาจจะพูดกลับไปได้เลย
เขาได้ทำการครุ่นคิดสักครู่ แล้วก็พูดออกมาอย่างช้า ๆ “หากมันได้แล้วล่ะก็ ฉันหวังว่าจะมาที่นี่เพื่อตอบแทนคุณบ่อย ๆ นะ”
ประโยคนี้ทำให้กู้ฮอนได้มองเขาแรง ๆ ไปหนึ่งที นั่นคือความเจ็บปวดอย่างหนึ่ง และเป็นความช้ำใจ และยังจะต้องแสดงถึงรอยยิ้มที่ปลอมออกมา
“หรือว่าผู้หญิงทุกคนที่ทำร้ายคุณจะต้องมีคำสัญญา ? ซูยิ่งหวั่นก็แบบนี้ เฟยเอ๋อก็แบบนี้ แล้วรอบนี้ก็จะเป็นฉันหรือ ? แล้วหลังจากฉันจะเป็นใครล่ะ?” คำพูดของกู้ฮอนเหมือนกับแสงกะพริบระยิบระยับ ได้ทิ่มแทงไปยังจิตใจของเป่หมิงโม่
สายตาของเป่หมิงโม่ก็ยิ่งแข็งทื่อมากยิ่งขึ้น ผิดเลย เขาทำร้ายกู้ฮอนมาตลอด ขณะที่เขาทำร้ายเธอนั้น เขาก็พบความจริงของใจของตัวเอง
กู้ฮอนมองไปยังเป่หมิงโม่ สายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา ซึ่งเป็นน้ำตาแห่งความเจ็บปวดใจที่เก็บอยู่ในใจอันนานแสนนาน
สุดท้าย เธอก็ได้ค่อน ๆ หันกลับไป มือที่หิ้วถุงหิ้วก็ตกลงบนพื้น
อย่างช้า ๆ เดินออกไปอย่างช้า ๆ
สิ่งที่เธอเหลือไว้ก็คือเป่หมิงโม่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหนเลย
เธอได้เอามือไปเช็ดน้ำตาของตัวเอง เดิมทีคิดว่าจะลืมเรื่องราวทั้งหมด ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายพบว่าเธอไม่อาจจะลืมได้เลย
***
กู้ฮอนได้เรียกรถแท็กซี่ที่กำลังจะผ่านไป เธอได้เข้าไปในรถ “พาฉันไปที่ปิ่นฮอนเป่หยวนขอบคุณ”
ตอนที่เธอเปิดประตูห้อง เวลาก็เที่ยงแล้ว แอนนิและเด็กน้อยสองคนกำลังเพิ่งจะกินข้าวเสร็จ คิดว่าคนหนึ่งจะไปจดทะเบียน เธอกลับครั้งนี้ก็กลายเป็นผู้ดูแลจริง ๆ แล้ว
พวกเขาไม่ได้เหลืออาหารไว้ให้กับกู้ฮอนและลั่วเฉียว
และอีกคนหนึ่ง เป่หมิงโม่อยู่ก็คงไม่ให้เธอหิวหรอก
“กู้ฮอน คุณทำไมกลับมาแล้วล่ะ ? ไม่ได้ไปเลือกเสื้อผ้าสำหรับงานเต้นรำคืนนี้หรือ ? ” แอนนิถามด้วยความตกใจ เธอกลับมาอย่างว่างเปล่า
“หม่ามี๊ ทำไมร้องไห้ล่ะ หรือว่ามีคนมารังแก ?” จิ่วจิ่ววิ่งเข้ามาหาข้าง ๆ กู้ฮอน มือทั้งสองกอดขาของกู้ฮอนไว้อย่างแน่ เงยหน้าขึ้นมามองเธอ
กู้ฮอนอดทนความรู้สึกไม่ดีในใจ แสร้างทำเป็นแข็งแกร่ง แล้วก็ก้มลงไปกอดจิ่วจิ่ว “ลูกเอ๋ย หม่ามี๊ไม่ได้ร้องไห้ ข้างนอกลมโกรกมาก ทรายมันเข้าตาน่ะ”
“อ๋อ ให้หนูมาเป่าทรายออกไปดีไหม ?” จิ่วจิ่วพูดเสร็จก็เป่าไปที่ตาของกู้ฮอน
“ดีแล้ว ดีแล้ว ทรายนั้นออกไปหมดแล้ว ขอบใจลูกนะจ๊ะ มา มาให้แม่หอมหน่อย อื้มมม”
กู้ฮอนได้นำจิ่วจิ่ววางบนพื้น “ไปเล่นกับพี่ชายก่อนนะ”
เฉิงเฉิงเห็นแม่มีสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก แต่เขารู้ว่าเกี่ยวกับเรื่องของพ่อแน่นอน แต่ตัวเองก็ไม่อยากจะไปถาม
หรืออาจจะมีเพียงแต่คุณน้าแอนนิที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน เขาก็เลยยื่นมือออกมากวักเรียกจิ่วจิ่ว “พี่ชายจะพาเราไปเล่นข้างบนนะ”
รอเด็ก ๆ ขึ้นไปข้างบนเสร็จแล้ว แอนนิก็เลยถามต่อ “กู้ฮอน เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”
กู้ฮอนมองแอนนิ “ฉันไม่อยากจะเข้าร่วมงานเต้นรำคืนนี้แล้ว”
แอนนิตกใจแล้วมองไปยังเธอ “นี่เพราะไร ? คุณทะเลาะกับเป่หมิงโม่อีกแล้ว ?”
กู้ฮอนไม่รู้จะพูดยังไงกับแอนนิดี เธอก็ได้เพียงแต่ส่ายหัว แล้วก็หันตัวกลับไปนั่งยังบนโซฟา
แอนนิก็เดินตามไป แล้วก็นั่งข้าง ๆ เธอ “กู้ฮอน พวกเราเป็นเพื่อนกันมานาน หรือว่ามีเรื่องพวกนี้แล้วไม่พูดกับฉันหรือ ? ”
***
กู้ฮอนก็ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับเทพธิดาแห่งแสงจันทร์ให้แอนนิฟัง
แอนนิมองกู้ฮอน และตั้งใจฟังมากมาย แล้วเธอก็ได้พูดเรื่องตอนเช้าที่เกิดขึ้น
ขณะรอเรื่องราวทั้งหมดพูดจบแล้ว กู้ฮอนถอนหายใจแล้วพูดว่า “ฉันก็ไม่ใช่อยากจะไปทำตามใจตัวเองหรือไปอาละวาดใส่ใครหรอกนะ แต่ตอนที่ฉันได้เห็นร้าน ฉันก็รู้สึกไม่ดีและเห็นภาพสถานการณ์ในวันนั้น เลยคิดว่าที่เขาพาไป ก็คือการทำให้ฉันอับอาย”
แอนนิฟังกู้ฮอนอธิบาย แล้วก็ยื่นมือไปตบไหล่ของเธอเบา ๆ “กู้ฮอน เรื่องราวที่คุณพบมามากมาย ฉันก็รู้สึกลำบากเหมือนกันนะ แต่สุดท้ายเรื่องราวเหล่านั้นก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ผ่านไปนานขนาดนี้ คุณยังไม่อาจจะลืมอีกห