เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 776 แตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน
- Home
- เดิมพันรักยัยตัวแสบ
- เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 776 แตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน
ตอนที่ 776 แตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน
โดยเฉพาะหลังจากนั้น การถือกำเนิดของลูกพวกเขา เหมือนกับว่าได้เติมเต็มความสมบูรณ์แบบในชีวิตและแต่งแต้มความงดงามมากขึ้นให้กับพวกเขา
ในที่สุดกู้ฮอนก็มีเรื่องที่จดจำไว้ในใจได้ เธอดึงมือของคุณแม่ “คุณแม่คะ หนูดูออกว่าในตอนนั้นคุณพ่อชอบคุณแม่มากจริงๆ แต่ทำไมบทสรุปในภายหลังของพวกคุณถึงได้แยกจากกัน กระทั่งภายใน 20 กว่าปีมานี้ เขาล้วนไม่มาหาคุณแม่เลยหรือคะ”
ลู่ลู่ถอนหายใจ ใบหน้าของเธอเผยสีหน้าผิดหวังออกมา พลางส่ายศีรษะเบาๆ “ที่จริงแล้วแม่ก็อยากรู้มากว่าเพราะอะไร แต่ก็ไม่อยากรู้ว่าทำไม บางทีนับตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว มีลูกกับเด็กๆอยู่เป็นเพื่อนข้างกายแม่ในทุกๆวัน แม่ก็รู้สึกว่าคำตอบทั้งหมดนั้นล้วนไม่สำคัญกับแม่แล้ว”
เอ่ยถึงตรงนี้ ลู่ลู่ก็มองไปที่ลูกสาว “ฮอน ลูกรู้หรือไม่ ตอนที่แม่อยู่ในโรงพยาบาล เคยเจอกับเขาสองครั้ง…..”
กู้ฮอนมองคุณแม่อย่างตะลึงเล็กน้อย “คุณแม่คะ คุณแม่หมายความว่าคุณพ่อของหนูเคยมาหาคุณแม่ ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณแม่ถึงไม่บอกหนูล่ะคะ”
ลู่ลู่ถอนหายใจ “เพราะว่าตอนนั้น แม่ยังรู้สึกโกรธเกลียดเขามาก ไม่อยากจะพบเขา และก็กลัวที่จะต้องพบเขา สาเหตุที่เล่าเรื่องทั้งหมดให้ลูกฟังในตอนนี้ก็เป็นเพราะว่าตอนนี้แม่ปลงตกได้แล้ว ในเมื่อสามารถไม่โกรธเกลียดหวีหรูเจี๋ยได้ ทำไมยังต้องไปโกรธเกลียดเขาอีกกัน”
กู้ฮอนลุกขึ้นยืน เดินอ้อมไปด้านหลังเก้าอี้รถเข็นแล้วเข็นเก้าอี้รถเข็นพาคุณแม่เคลื่อนไปข้างหน้าอีกครั้ง
*
เจียงฮุ่ยซินกลับไปถึงบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิง เธอกลับเข้าไปในห้องของตัวเองด้วยความโมโห
ตอนนั้นหยางหยางอยู่ในห้องนอน โล่ฮานกำลังตั้งใจตรวจการบ้านของหยางหยาง
หยางหยางนั่งอยู่ข้างๆโล่ฮาน ปากเล็กๆนั้นเล่าเรื่องราวของตัวเองตอนที่อยู่ที่โรงเรียนให้เขาฟังไม่หยุด
โดยเฉพาะเด็กสาวผมสีบลอนด์ที่มีชื่อว่าRebeccaคนนั้น เธอเป็นฝ่ายวิ่งมาหาหยางหยางในห้องเรียนแล้วมอบช็อคโกแลตรูปหัวใจให้กับเขากล่องหนึ่ง
เขาเอ่ยและก็หันตัวไปหยิบกระเป๋าหนังสือมาจากบนโต๊ะ เปิดซิปออก หยิบช็อคโกแลตกล่องนั้นออกมาโบกไปมาหน้าโล่ฮาน
โล่ฮานตรวจการบ้านของหยางหยางเสร็จแล้วก็หันไปเอ่ยกับหยางหยางว่า “อายุน้อยๆก็ควรจะใช้สมาธิกับการบ้านให้มากหน่อย เธอดูเฉิงเฉิง อายุเท่ากันกับเธอ เขากลายเป็น Genius Junior Class แล้ว พวกเธอสองพี่น้องยังห่างกันอีกมาก”
หยางหยางวางมือทั้งสองข้างไว้ที่หน้าอกด้วยท่าทางไม่ยอมรับเป็นอย่างมาก “ครูโล่ เขาก็คือเขา ผมก็คือผม ถ้าหากว่าผมกับเขาเหมือนกันล่ะก็ อย่างนั้นยังจะเป็นผมอยู่หรือ”
“อ่อ ที่เธอพูดก็มีปรัชญามากจริงๆ” โล่ฮานมองหยางหยางยิ้มๆ พลางเอ่ยว่า “เพียงแต่ว่า ครูยังอยากจะแนะนำเธอสักหน่อยว่า ตั้งใจเล่าเรียน แม้ว่าจะไม่ต้องเหมือนกับเฉิงเฉิงแบบนั้น แต่ก็ต้องพูดถึงได้ หลังจากนั้นเส้นทางคงจะไม่ราบรื่นแบบนี้ เธอเป็นเด็กฉลาดคนหนึ่ง ตอนนี้การบ้านสำหรับเธอนั้นถือว่าง่ายไปหน่อย แต่เธออย่าเพิ่งภาคภูมิใจในตนเอง เหนือคนยังมีคน เข้าใจหรือไม่”
“ไอ้โย ครูโล่ ทำไมครูถึงได้พูดแต่ละอย่างๆเหมือนกับครูของผมเลย ครูก็วางใจเถอะครับ ผมจะควบคุมตัวเองให้ดี” หยางหยางถูกโล่ฮานพูดจนรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง
***
ในเวลานั้นเอง พวกเขาก็ได้ยินเสียงปิดประตูดังลั่นดังมาจากระเบียงทางเดิน
หยางหยางและโล่ฮานสบตากัน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
หยางหยางลุกขึ้นยืน “ครูโล่ ครูรอผมอยู่ที่นี่ก่อน ผมจะไปดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ คุณย่ายังไม่กลับมา คนรับใช้พวกนี้เกิดต่อต้านอะไรขึ้นมาใช่หรือไม่”
หยางหยางเดินออกไปนอกห้องตัวเองทั้งที่ขาไม่สะดวกเท่าไร
แต่ก็เห็นว่าระเบียงทางเดินไม่มีใครสักคนเดียว
เขาพยายามก้าวไปด้านหน้าเบาๆ เพราะว่าเสียงนั้นเกิดขึ้นภายในห้องนอน
เขาลองฟังที่ห้องของเฉิงเฉิงก่อน ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร จากห้องก็เป็นห้องของคุณพ่อ ยังคงไม่มีเสียงอะไรเช่นเคย
ฟังติดต่อกันไปหลายห้องแล้วก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ
จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงของกระจกแตกดังออกมาจากห้องของคุณย่า
แปดส่วนต้องเป็นคนรับใช้คนหนึ่งทำของของคุณย่าแตกโดยไม่ทันระวัง
เขาเร่งฝีเท้าไปยังหน้าประตูห้องของเจียงฮุ่ยซินอย่างรวดเร็ว ใบหูแนบชิดกับบานประตู
แต่ก็ได้ยินเพียงว่าด้านในมีเสียงพูด พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้วว่าเป็นคุณย่าที่พูดอยู่
หยางหยางรู้สึกว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำแปลกๆ ทั้งเสียงปิดประตูและเสียงกระจกแตก
ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นที่เกิดมาพร้อมกับเด็กๆนั้นทำให้เขาแนบหูกับประตูฟังต่อไป
“ลู่ลู่ ตอนเธอป่วย ฉันปฏิบัติกับเธออย่างหวังดี ทั้งยังส่งของบำรุงไปให้เธอ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้อยากจะให้เธอมารับมือหวีหรูเจี๋ยด้วยกันกับฉัน เธอกลับเฝ้าดูอย่างนิ่งดูดาย…..”
หยางหยางที่ได้ยินก็รู้สึกมึนงงสับสน ลู่ลู่ ไม่ใช่ชื่อของคุณยายหรอกหรือ ทำไมฟังดูแล้วคุณย่ารู้สึกไม่พอใจคุณยายอยู่บ้างกัน
“ลู่ลู่ หวีหรูเจี๋ย พวกเธอสองคนล้วนเป็นตัวซวยของฉัน เจียงฮุ่ยซินตลอดชีวิต เดิมคิดว่าตอนแรกสามารถใช้ประโยชน์จากการทำลูกหายไปทำให้พวกเธอไม่ถูกกัน แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าวันตอนนี้เธอกลับไม่ตำหนิเรื่องในอดีตแล้ว ดีๆๆ ฉันจะไม่ยอมวางมือในเรื่องนี้ง่ายๆแบบนี้หรอก!”
หยางหยางที่แอบฟังอยู่ด้านนอกนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเหงื่อซึมทั่วร่าง ที่แท้แล้วท่าทางเมตตาและอ่อนโยนของคุณย่าล้วนเป็นสิ่งที่เสแสร้งแกล้งทำขึ้นมา สำหรับคุณยายก็แสร้งทำออกมา ถ้าอย่างนั้นที่ทำดีกับคุณแม่และตัวเองนั้นเป็นความจริงหรือไม่
เขาเดินเสียงเบาออกมาจากหน้าประตูของเจียงฮุ่ยซินอย่างระมัดระวังแล้วกลับมายังห้องของตัวเอง
“หยางหยาง เธอเป็นอะไรไป ออกไปแค่ครู่เดียว ทำไมสีหน้าถึงได้เปลี่ยนเป็นแบบนี้กัน” โล่ฮานมองสีหน้าของหยางหยางอย่างแปลกใจเล็กน้อย นี่มันแตกต่างจากคนที่พูดกับเขาเมื่อสักครู่นี้ราวกับเป็นคนละคน
หยางหยางไม่ได้ตอบอะไร นั่งอยู่ที่ขอบเตียงคนเดียว เขาไม่รู้ว่าสามารถบอกเรื่องนี้กับโล่ฮานได้หรือไม่
แม้ว่าเขาจะเป็นพี่ชายของคุณป้าเฉียวเฉียว แต่อย่างไรเขาก็เป็นถึงคุณครูที่คุณพ่อเชิญมา
“ครูโล่ ผมรู้สึกเหนื่อยแล้ว วันนี้ก็พอแค่นี้เถอะครับ”
โล่ฮานเห็นว่าหยางหยางไม่ยอมเอ่ยพูดอะไร จึงทำได้เพียงแค่เก็บข้าวของของตัวเอง “หยางหยาง ตอนนี้เธอยังเล็ก ถ้าหากมีบางเรื่องที่รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถแก้ได้ จะต้องพูดกับผู้ใหญ่เข้าใจไหม ไม่บอกกับครูก็ไม่เป็นไร เธอสามารถพูดกับคุณแม่หรือว่าคุณย่าได้ บางทีพวกเธออาจจะช่วยเธอแก้ไขปัญหาได้”
เขาเอ่ยพลางเดินไปหยุดที่ด้านหน้าหยางหยาง ยื่นมือออกมาลูบศีรษะเล็กของเขาเบาๆ “โอเค ครูจะกลับแล้ว ช่วงหลายวันนี้ครูยังมีธุระเรื่องอื่น ไม่สามารถมาสอนพิเศษให้กับเธอได้ เธออย่าหย่อนยานเชียว รอครูกลับมาแล้วจะทดสอบเธอนะ”
โล่ฮานก้มหน้ายิ้มให้กับหยางหยาง จากนั้นก็เปิดประตูเดินออกไป
โล่ฮานไปแล้ว ทั้งห้องก็เงียบขึ้นมาก แต่ใบหูของหยางหยาง ตั้งแต่ต้นจนจบยังคงมีเสียงของคุณย่าที่เอ่ยประโยคนั้นภายในห้องดังก้องอยู่
***
“หยางหยาง หลานเป็นอะไรไป”
มื้อเย็น บนโต๊ะมีอาหารที่หยางหยางชอบกินมากวางอยู่ แต่หยางหยางในตอนนี้กลับมองไปที่สิ่งเหล่านี้โดยไม่มีความอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย
เป่หมิงโม่ไม่ได้กลับมาทานอาหารที่บ้านเช่นเคย นี่ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยจนเห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
แต่วันนี้สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดก็คือคุณย่าที่นั่งอยู่ตรงข้าม
มองท่าทีเมตตาและอ่อนโยนที่เธอมีให้ตัวเองแล้ว หยางหยางก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นระริก
เขาไม่ได้ตอบคำถามของเจียงฮุ่ยซิน แต่วางตะเกียบลงแล้วกระโดดลงจากเก้าอี้ไปเสียอย่างนั้น
เจียงฮุ่ยซินรู้สึกได้ว่าหยางหยางแปลกไปเล็กน้อย ก่อนเธอออกไปเขายังมีท่าทางปกติเป็นอย่างมาก แต่นับจากที่ตัวเองกลับมาแล้วก็ราวกับว่าเปลี่ยนเป็นคนละคน
หยางหยางกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองคนเดียว เขาเปิดไฟ ไม่ได้ดูโทรทัศน์ และไม่ได้เล่นเกมส์เช่นกัน
แต่ร่างเล็กๆนั้นล้มตัวลงบนที่นอนอย่างแรง คางของเขาอยู่ใต้ผืนผ้าห่ม นัยน์ตาแหลมคมคู่นั้นทอประกายแสง เขามองออกไปยังท้องฟ้าที่มืดสนิทนอกหน้าต่างด้านหน้า
ท่ามกลางความมืดมิด ยังมีดวงดาวมากมายที่ส่องสว่างทอประกายจับกลุ่มกันจนเป็นกลุ่มดาวที่ไม่เหมือนกัน
สำหรับความรู้เกี่ยวกับกลุ่มดาว ล้วนเป็นโล่ฮานที่สอนให้เขา หยางหยางมักจะชอบมองท้องฟ้าในช่วงเวลาที่เบื่อหน่าย บางครั้งก็ใช้กล้องส่องทางไกลคุณภาพสูงที่วางอยู่บนชั้นข้างหน้าต่างส่องมองดวงจันทร์
“แก๊กๆ”
พร้อมกับเสียงเปิดปิดที่ชัดเจนดังขึ้นมา ชั่วขณะทั่วทั้งห้องก็สว่างขึ้นมา
เจียงฮุ่ยซินยกถาดอาหารเดินเข้ามา เธอวางถาดอาหารบนโต๊ะอ่านหนังสือ กลิ่นหอมของข้าวสวยและอาหารลอยอบอวลไปเต็มห้อง
เธอยิ้มนั่งอยู่ที่ขอบเตียง ตบไปที่ก้นของหยางหยางเบาๆ “หยางหยาง วันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ ทำไมเย็นวันนี้หลานไม่ชิมอาหารที่หลานชอบเลยสักคำล่ะ โกรธที่ย่าไม่พาเธอออกไปด้วยใช่หรือไม่ ถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ ย่ารับปากหลานว่ารอขาของหลานหายดีแล้ว จะพาหลานกับเฉิงเฉิงไปเที่ยวเล่นที่สวนสนุกวันหนึ่งดีหรือไม่ รีบลุกขึ้นมากินข้าวเถอะ เดี๋ยวข้าวจะเย็นแล้ว”
คำพูดของเจียงฮุ่ยซินเพิ่งจบลง หยางหยางก็พลิกร่างเล็กๆ กระโดดลงจากเตียงเดินไปถึงหน้าโต๊ะอ่านหนังสือ ดึงเก้าอี้ออกมานั่ง ยกชามข้าวขึ้นมาแล้วเริ่มก้มหน้าก้มตาทานข้าว
เจียงฮุ่ยซินหันหน้าไปมองเงาร่างเล็กๆของหยางหยาง หลังจากห้านาทีผ่านไปก็ลุกขึ้นเดินมาข้างกายหยางหยาง “หยางหยาง หลานทานข้าวอย่างเชื่อฟังนะ อีกสักครู่ย่าจะให้คนรับใช้มาเก็บกวาด”
เธอเอ่ยจบก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องนอนของหยางหยาง ปิดประตูให้เรียบร้อย
หยางหยางเหลือบมองประตูครู่หนึ่ง จากนั้นก็กระโดดลงจากเก้าอี้เดินมาถึงหน้าประตู ฟังดูความเคลื่อนไหวทางด้านนอก ยืนยันแล้วว่าคุณย่าจากไปแล้ว
เขาก็กลับมายังที่นั่ง เปิดโน้ตบุ๊คที่อยู่บนโต๊ะ ออนไลน์เข้าสู่ระบบ QQ
ที่นี่เขาเพิ่มเพื่อนนักเรียนเข้าไปไม่น้อย รวมถึงหมายเลขของเฉิงเฉิงด้วย
เมื่อเขาออนไลน์แล้ว บริเวณแถบช่องเพื่อนก็เริ่มมีสัญญาณเตือน ‘ติ๊ดๆ’ ตรงรูปโปรไฟล์หลายสิบกว่าคนต่อเนื่องกันเป็นระลอก
หนึ่งในนั้นมีเด็กสาวผมบลอนด์ที่มีชีวิตชีวามากที่สุดคนหนึ่ง หยางหยางดูแล้วก็รู้ว่าเป็นRebeccaที่ส่งข้อความมาให้เขา
หลังจากหยางหยางกลับไปที่โรงเรียน เธอก็รู้ข่าวอย่างรวดเร็ว ทั้งยังขอเบอร์โทรศัพท์กับหมายเลข QQ ของเขาไป
เมื่อกดเปิดรูปโปรไฟล์ของRebeccaช่องข้อความก็เด้งขึ้นมาในทันที หยางหยางที่รัก วันนี้ฉันรู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นเธอที่โรงเรียน เพื่อเป็นการขอบคุณนายที่ช่วยนำว่าวกลับมาให้ฉัน อาทิตย์นี้ฉันขอเชิญนายไปดูภาพยนตร์ด้วยกันกับฉันอย่างจริงใจ ไม่รู้ว่านายจะมีธุระอะไรหรือไม่
ใบหน้าเคร่งขรึมของหยางหยางเผยรอยยิ้มออกมาในชั่วขณะ Rebeccaเป็นสไตล์ที่เขาชื่นชอบ บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าตัวเองใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่ยังเล็กก็ได้ จึงมีความรู้สึกดีๆกับเด็กสาวผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าไปโดยธรรมชาติ กลับกันสำหรับเด็กสาวชาวจีนอย่างจ้าวจิ้งอี๋ยิ่งรู้สึกว่าไม่มีความน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
***
หยางหยางวางตะเกียบลง ตอบกลับข้อความของเธออย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขาก็เห็นว่าเฉิงเฉิงออนไลน์เข้าสู่ระบบพอดี เขากดรูปโปรไฟล์ของเฉิงเฉิง “นายอยู่ไหม”
แล้วก็ได้รับคำตอบจากเฉิงเฉิงกลับมาอย่างเร็วว่า “ฉันอยู่ นายมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
หยางหยางทานข้าวคำหนึ่ง จากนั้นก็ลงมือพิมพ์ตัวอักษร “วันนี้พบความลับระหว่างคุณย่าและคุณยายเรื่องหนึ่ง ดูเหมือนว่าคุณย่าจะไม่ชอบคุณยายมาก”
เฉิงเฉิงหยุดนิ่งไปชั่วขณะ บนหน้าจอปรากฏตัวอักษรเด้งขึ้นมาประโยคหนึ่ง “นายรู้ได้อย่างไร”
หยางหยางทานข้าวอีกคำหนึ่ง จากนั้นก็พิมพ์เรื่องราวที่เขาไปแอบฟังหน้าประตูห้องคุณย่าในช่วงบ่ายวันนี้ลงไป
เขาเพิ่งจะส่งข้อความออกไปก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากนอกประตู แปดส่วนเป็นคนรับใช้ที่คุณย่าให้มาแล้ว