เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 799 นายกับบ่าว
ตอนที่ 799 นายกับบ่าว
แอนนิมองกู้ฮอนอย่างซาบซึ้ง แล้วยื่นมือออกไปจับมือเธอ: “ที่จริงแล้วเธอก็ช่วยฉันมาเยอะเหมือนกัน ตอนนี้ฉันยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี เขาบอกกันว่าเริ่มแรกมันยากหน่อย ตอนนี้ฉันก็เป็นกังวลว่าฉันควรจะทำอะไร”
กู้ฮอนคิดอยู่แป๊บนึงจากนั้นก็พูดขึ้น: “ฉันคิดว่าเธอเปิดร้านอาหารก็ได้นะ อาหารที่เธอทำพวกเราเคยกินกันหมด รสชาตินั้นดีมากๆ ฉันคิดว่าถ้าเธอเปิดร้านอาหารนะ ต้องมีลูกค้ามาไม่ขาดสายเลย”
แอนนิทำสีหน้าเป็นกังวล: “ที่จริงฉันก็เคยคิด แต่ว่าพูดก็ง่ายนะ สถานที่ ห้อง ค่าเช่า รสชาติ สิ่งที่ต้องคิดนั้นมีเยอะมากๆ เลย ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่พูดถึงห้องนี่ก็เป็นปัญหาที่ใหญ่แล้ว”
“ฉันคิดออกที่ที่เหมาะสมกับเธออยู่ที่นึง ก็คืออาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทGTที่กำลังก่อสร้างอยู่ไงล่ะ ที่ตรงนั้นจะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมือง และส่วนรอบๆ ก็จะพัฒนาย่านธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นอีกด้วย เรื่องจำนวนลูกค้าคงไม่เป็นปัญหา” กู้ฮอนคิดถึงที่ตรงนั้นได้ทันที เพราะว่ามันเป็นการออกแบบของเป่หมิงโม่ แถมเธอกับพ่อบุตรธรรมต่างเห็นด้วยกับการออกแบบในครั้งนี้ แถมยังเชื่อว่าหลังจากนี้มันจะพัฒนาขึ้น
แอนนิขมวดคิ้ว: “กู้ฮอน ที่ที่เธอเลือกฉันเชื่อว่ามันต้องดีแน่ๆ แต่เธอก็รู้ดีนี่ว่าตอนนี้ฉัน มีเงินอยู่ในมือไม่เยอะ ที่หรูแบบนั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าต้องเช่าสถานที่ให้พอที่จะเปิดร้านอาหาร แค่เช่าไม่กี่ตารางเมตรก็กลัวว่าจะไม่พอเลย”
กู้ฮอนยิ้มแล้วตบไปที่ไหล่ของแอนนิ: “เรื่องนี้เธอวางใจเถอะ ตึกนั้นเป็นของบริษัทพ่อบุญธรรมฉันเอง แถมคนที่รับผิดชอบการก่อสร้างเธอก็คงจะนึกไม่ถึง เขาก็คือฉิงฮัว ฉันสามารถเบิกทางให้เธอให้เธอได้เลือกหน้าร้านมุมดีๆ ก่อนใครเพื่อน อีกอย่างระหว่างพวกเราเหนี่ย ยังต้องคิดเรื่องค่าเช่ากันอีกเหรอ? เป็นไง เป็นทางเลือกที่ดีใช่มั้ยล่ะ”
แอนนิที่ทำหน้าบูดๆ ก็เปลี่ยนเป็นมีประกายในทันใด เธอรู้สึกขอบคุณและกำมือของกู้ฮอนไว้แน่น
***
“นี่ๆๆ …… พวกเธอสองคนมาทำอะไรที่นี่เหนี่ย คนที่ไม่รู้เรื่องคงจะเข้าใจผิดกันแล้ว” เสียงที่คมชัดและไพเราะ ดังขึ้นมาจากที่อยู่ไม่ไกล
ไม่ต้องมอง นั่นคงเป็นลั่วเฉียวแน่ๆ
“เฉียวเฉียว ยัยคนนี้นี่ไม่ยอมนอน ดึกดื่นป่านนี้ออกมาทำอะไร?” กู้ฮอนหันไปจ้องเธอ
เห็นว่าไม่ใช่แค่ลั่วเฉียวที่มา แม้แต่ฉิงฮัวก็ตามเธอมาด้วยเช่นกัน
“กิ๊วๆ ไทเฮาลั่วโชคดีจังเลยนะคะ” แอนนิพูดแซวขึ้นมาอย่างไว
มันก็จริง ฉิงฮัวที่อยู่ข้างกายเธอคอยพยุงเธออย่างระมัดระวัง มันก็เป็นท่าที่ทำให้ลั่วเฉียวดูสูงส่งจริงๆ แหละ
ลั่วเฉียวไม่เกรงใจ มองไปที่สองคนนั้น: “นังบ่าวสองคนนี้บังอาจนัก เห็นฉันแล้วยังไม่รีบลุกขึ้นมาคำนับอีก”
พูดพลาง หันไปมองฉิงฮัวที่อยู่ด้านข้าง: “เจ้า ลากบ่าวสองคนนี้ไปให้รางวัล ‘โบย’ นาง”
สีหน้าของฉิงฮัวเปลี่ยนไปเล็กน้อย สามสาวเล่นกัน ดันลากเขาเข้าไปด้วย
อะไรนะ “เจ้า” งั้นเหรอ นั่นไม่ใช่ขันทีหรอกเหรอ? ตอนนี้เป็นสามีภรรยากันแล้ว แกล้งสามีแบบนี้ มีผลดีอะไรกับเธอเหนี่ย
กู้ฮอนกับแอนนิเห็นที่หน้าที่เปลี่ยนไปของฉิงฮัว ก็กลั้นขำไม่อยู่จึงหัวเราะออกมา: “เฉียวเฉียว เธอไปคว้าสามีของเธอเข้าบ้านมาได้แล้ว ถ้าเขาเป็นขันที แล้วเด็กที่อยู่ในท้องเธอมาจากไหนล่ะ”
ลั่วเฉียวไม่สนใจ เธอยิ้มฮี่ๆ “ทำไมเหรอ ใครบอกว่าไม่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างนายกับขันทีล่ะ ฉือสี่กับหลีเหลียนอิงก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ”
ฉิงฮัวแอบถอนหายใจ หมดกัน หลังจากนั้นความสัมพันธ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายระหว่างสามีภรรยาก็จะกลายเป็นการผิดประเวณีระหว่างนายกับบ่าวแล้วสิ
กู้ฮอนกับแอนนิหัวเราะจนตัวงอ เมื่อกี้ในใจของทั้งสองเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ในระยะเวลาสั้นๆ ก็ลืมเรื่องรบกวนใจไปหมดเลย
หลังจากผู้หญิงสามคนหัวเราะคิกคักอยู่พักหนึ่ง ลั่วเฉียวก็พูดขึ้น: “พวกเธอไม่หลับไม่นอน วิ่งลงมาอยู่ข้างล่างทำอะไรกัน? ”
กู้ฮอนกับแอนนิหยุดขำ:” แอนนิกำลังคิดถึงอนาคตของเธอ”
“แอนนิ ทำไมเธอถึงไม่อยากอยู่กับพวกฉันแล้วเหรอ? ” ลั่วเฉียวรู้สึกผิดคาด ถึงแม้เธอจะรู้จักแอนนิช้ากว่า แต่พอรู้จักกันมานาน ก็กลายเป็นพี่น้องที่แสนดีที่คุยกันได้ทุกเรื่อง
แอนนิยิ้มอ่อนๆ : “ไม่ใช่ไม่อยากอยู่กับพวกเธอ ฉันไม่ควรกินฟรีอยู่ฟรี ฉันอยากจะทำอะไรบ้าง หาเงินนิดหน่อย มาโปะค่าใช้จ่ายในบ้าน พวกเราผู้ใหญ่แถมยังมีเด็กอีกสองคน ทุกวันนี้เงินก็เหมือนน้ำไหล”
ลั่วเฉียวได้ยินก็ปัดมือ: “เห้อ ฉันก็นึกว่าเรื่องใหญ่อะไร แอนนิเธอวางใจอยู่เถอะ เรื่องเงินไม่ต้องกังวล” พูดพลาง ยกมือขึ้นไปตบบ่าฉิงฮัวที่อยู่ด้านข้าง: “มีสามีฉันอยู่ ไม่ให้พวกเธอหิวหรอก ยังมีกู้ฮอนก็มีเงินเดือนของเธอเอาออกมาใช้ได้ แต่นี้ก็พอแล้ว”
แอนนิส่ายหัว: “แบบนั้นไม่ได้ กู้ฮอนรับเงินแล้ว ฉันยังอยู่ที่นี่ไม่ได้ เมื่อกี้กู้ฮอนช่วยฉันคิดไว้แล้ว ให้ฉันเปิดร้านอาหาร”
ลั่วเฉียวเห็นแอนนิแน่วแน่ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อแล้ว เธอหันไปพูดกับฉิงฮัว: “ที่รัก ตระกูลเป่หมิงของพวกนายมีที่ดีๆ บ้างมั้ย หาให้แอนนิหน่อย”
ที่จริงฉิงฮัวก็อยากจะช่วยแอนนิ แต่ตัวเขาไม่มีอำนาจนี้ จะตัดสินใจอะไรก็ต้องได้รับการอนุมัติจากเป่หมิงโม่ก่อน
“เฉียวเฉียว เธออย่าไปรบกวนฉิงฮัวเลย เธอคิดว่าเขาเป็นเจ้าของเหรอ ที่จะพูดอะไรก็ได้ เขาก็แค่ทำงานให้เป่หมิงโม่” กู้ฮอนพูด
***
ฉิงฮัวพยักหน้า: “คุณกู้ ถึงแม้ผมจะตัดสินใจไม่ได้ แต่ผมก็สามารถช่วยแอนนิพูดกับเจ้านายให้ ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่”
กู้ฮอนปัดมือ: “เรื่องนี้นายไม่ต้องกังวลหรอก เดี๋ยวฉันคุยกับเขาเอง”
“ใช่ๆ ทำไมถึงได้ลืมไพ่ตายใบนี้ไปนะ แค่เธอบอกเขาสักคำ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่ทำ ถ้าหากเขาไม่ฟังจริงๆ งั้นพวกเราก็ ‘ออกคำสั่ง’ รับเฉิงเฉิงกับหยางหยางกลับมา ให้เขาอยู่ที่บ้านตระกูลเป่หมิงคนเดียว เป็นคนแก่ขี้เหงา” ลั่วเฉียวพูดพลางหัวเราะฮ่าๆ จากนั้นก็หันหน้าไปพูดกับฉิงฮัวอีกครั้ง และพูดราวกับข่มขู่: “เรื่องนี้ไม่ใช่แค่กู้ฮอน นายก็ด้วย หลังจากนี้ถ้าหากนายไม่เชื่อฟังละก็ ผลลัพธ์นายก็คิดเอาเองแล้วกัน ฉันจะถีบนายไปอยู่บ้านตระกูลเป่หมิง ให้พวกนายสองคนเป็นคนแก่ขี้เหงา”
ฉิงฮัวไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น เขาพยักหน้ารัวๆ : “เธอวางใจเถอะ ฉันจะไม่ทิ้งเธอแน่นอน”
ลั่วเฉียวพยักหน้าอย่างพอใจ: “อืม ต้องแบบนี้สิ โอเค ตอนนี้แสดงความดีของนายหน่อย ไปเอาน้ำร้อนมาให้ฉันแก้วนึง”
เห็นเงาร่างสูงของฉิงฮัวเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป กู้ฮอนก็ยิ้มให้ลั่วเฉียว: “ฉิงฮัวเขาเป็นคนดี เธอก็อย่าไปแกล้งเขามากล่ะ”
ขณะนั้นแอนนิก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วพูดกับกู้ฮอน: “เรื่องของฉันพูดจบแล้ว ยังไม่ได้พูดเรื่องของเธอเลย ดึกๆ ดื่นๆ ไม่ยอมนอนลงมาทำอะไรตรงนี้?”
ลั่วเฉียวตาลุกวาว: “ช่วงนี้พวกฉันเห็นเธอให้เฉิงเฉิงไปอยู่ที่บ้านตระกูลเป่หมิง แถมยังไปเป็นผู้ช่วยของเป่หมิงโม่ นี่เธอเตรียมตัวจะกลับไปคืนดีกับเขาแล้วใช่มั้ยเหนี่ย”
พอได้ยิน หน้าของกู้ฮอนก็เริ่มแดงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็เก็บอาการได้ทันที: “เฉียวเฉียว ถ้าเธอพูดมั่วซั่วอีกละก็เดี๋ยวฉันตบปากแตกเลย ในหัวฉันตอนนี้มีเรื่องเยอะมากพอแล้ว ยังจะไปคิดถึงเรื่องนั้นได้ยังไง”
“กู้ฮอน พวกเราเป็นเพื่อนกันมาหลายปีแล้ว คงจะให้เธอเอาแต่คอยแก้ปัญหาให้พวกเราไม่ได้ แถมพวกเราก็ยังช่วยเธอทำอะไรไม่ได้ มันทำให้พวกเรารู้สึกไม่ค่อยดีนะ”
แอนนิพูด ลั่วเฉียวก็อยู่ข้างๆ พยักหน้าเห็นด้วย: “ใช่แล้ว มีเรื่องอะไรก็บอกพวกเรามาเถอะ”
กู้ฮอนมองที่พวกเธอ จากนั้นก็ถอนหายใจ: “วันนี้หลังจากที่ฉันไปเยี่ยมแม่ ฉันก็ได้เจอพ่อของฉัน”
“พ่อของเธอ? นั่นก็น่าจะเป็นเรื่องดีนี่ ทำไมเธอถึงยังทำหน้ามุ่ยอยู่ล่ะ? ไม่น่าล่ะพวกเราเห็นเธออารมณ์ไม่ดีหลังจากกลับมาในวันนี้” มันทำให้พวกเธอรู้สึกแปลกใจ
เรื่องของพ่อของตัวเอง กู้ฮอนไม่เคยพูดให้แอนนิหรือว่าลั่วเฉียวฟังเลย แม้แต่เป่หมิงโม่เธอก็ไม่เคยพูดให้ฟัง
“หลังจากที่ฉันหายตัวไปเขาก็ทิ้งแม่ฉัน จนไม่มีที่ไปตั้งแต่นั้นมา ฉันไม่รู้ว่าที่เขาโผล่มาครั้งนี้เขามีเป้าหมายอะไร พูดตามตรง ฉันก็ไม่อยากจะรู้ เพราะว่าเขาทำร้ายแม่ฉันมากเกินไป” อารมณ์ของกู้ฮอนดิ่งลงมาก
แอนนิและลั่วเฉียวมองเธออย่างเห็นอกเห็นใจ สำหรับพวกเธอสองคนแล้ว ลั่วเฉียวดีสุด ครอบครัวเธอมีทั้งพ่อและแม่และถือได้ว่าเป็นครอบครัวที่กลมเกลียว
ในสายตาของพวกเธอ กู้ฮอนกับแม่เคยใช้ชีวิตยังไงมาพวกเธอนึกภาพไม่ออกเลย
“กู้ฮอน ฉันว่าเธอควรไปถามเขานะ อย่างน้อยก็เคยเป็นครอบครัวเดียวกัน บางทีเขาอาจทิ้งเธอไปเพราะความยากลำบากของตัวเขาเอง” ลั่วเฉียวพูดอย่างเป็นห่วง
***
คำแนะนำที่ลั่วเฉียวพูดกู้ฮอนก็ไม่ใช่ไม่เคยคิด แต่ตัวเธอเองก็ไม่สามารถรับมันได้
“เรื่องนี้ฉันว่าฉันต้องคิดอีกหน่อย แต่ฉันก็กังวลว่าเขาจะไปหาแม่ฉัน อาการป่วยของแม่เพิ่งจะดีขึ้น ถ้าหากเขาดึงดันจะไปหาแม่ละก็ กลัวว่าเธอจะรับเรื่องนี้ไม่ไหว”
ปัญหาที่กองอยู่ตรงหน้าทำเอาทั้งสามปวดหัว ใช่แล้ว โรงพยาบาลเป็นที่สาธารณะ จะกันไม่ให้คนอื่นเข้าไปก็คงจะไม่ได้
“เอางี้มั้ยให้แม่เธอไปอยู่กับเป่หมิงโม่ ท่านนายเป่หมิงรู้จักกับแม่ของเธอไม่ใช่เหรอ? น่าจะไม่มีปัญหานะ” ลั่วเฉียวแสดงความคิดเห็น
พอกู้ฮอนได้ยิน ก็คัดค้านทันที จะให้แม่ไปอยู่กับเจียงฮุ่ยซินได้ยังไง ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอวางแผนอะไรกับแม่และป้าหรูเจี๋ย แบบนี้มันก็เหมือนยื่นแกะเข้าปากเสือชัดๆ
ถึงแม้เธอจะคิดแบบนี้ แต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ ยังไงฉิงฮัวก็อยู่ที่นี่ เขาก็ยังถือว่าเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเป่หมิงโม่ กับตระกูลเป่หมิงก็เช่นกัน ถ้าหากเขารู้ แล้วไปหลุดปากให้เป่หมิงโม่ฟัง คนอย่างเป่หมิงโม่ก็เลือดร้อน ถ้าหากไปเค้นถามเจียงฮุ่ยซินละก็ ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
เธอรีบส่ายหน้า: “วิธีนี้ไม่ดี ฉันไม่อยากรบกวนพวกเขา อีกอย่างฉันกับเป่หมิงโม่ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
กู้ฮอนคัดค้าน ทำเอาทั้งห้องนั่งเล่นเงียบไปอีกครั้ง
ทันใดนั้น ก็มีเสียงเข้มๆ ดังขึ้นมา: “ฉันมีอยู่วิธีนึงไม่รู้ว่าจะใช้ได้มั้ย”
พวกกู้ฮอนหันไปดู เป็นเสียงของฉิงฮัวที่ถือแก้วน้ำร้อนเดินเข้ามา
เขาวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะชา จากนั้นก็พูดกับกู้ฮอน: “คุณกู้ เอางี้มั้ยครับ ให้ผมส่งคนไปเฝ้าหน้าห้องผู้ป่วยแม่คุณ นอกจากหมอ คนอื่นก็ไม่สามารถเข้าไปได้?”