เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 802 อย่านินทาคนอื่นลับหลัง
ตอนที่ 802 อย่านินทาคนอื่นลับหลัง
ไม่งั้น เขาจะโดนคนรอบข้างหัวเราะเยาะเอา มันมีผลกระทบอย่างมากต่อสภาพจิตใจของเด็ก
อีกอย่าง ให้เขาตั้งใจเรียน นอกจากนี้ยังสามารถปลูกฝังความสามารถในการคิดและนิสัยใจคอของเขาได้ มันช่วยเขาได้ในอนาคต
สำหรับเงื่อนไขของการเดิมพัน เป่หมิงโม่ก็คิดไว้เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้หยางหยางจะได้คะแนนไม่ถึงตามที่ตกลงกันไว้ ถึงเขาจะไม่ติดหนึ่งในสาม เขาก็ยังจะให้รางวัลหยางหยางอยู่ดี
*
เฉิงเฉิงพูดต่อ: “พ่อฮะ เมื่อกี้คุณแม่โทรมา แม่บอกว่าพรุ่งนี้เช้าจะพาผมกับหยางหยางไปเยี่ยมคุณยาย”
เป่หมิงโม่พยักหน้า: “โอเค แต่ว่าลูกต้องดูแลหยางหยางให้ดีๆ นะ อย่าให้น้องซนล่ะ”
***
เฉิงเฉิงพยักหน้า: “คุณพ่อวางใจเถอะครับ ผมจะไม่ให้หยางหยางซนหรอก”
“อื้ม นี่ก็ดึกแล้ว พวกลูกรีบนอนเถอะ” หลังจากเป่หมิงโม่พูดจบก็หันหลังกลับไปที่ห้องของตัวเอง
*
วันถัดมา กู้ฮอนตื่นตั้งแต่เช้า จิ่วจิ่วนั่งอยู่บนเตียงแล้วใช้มือเล็กๆ ขยี้ตาที่ยังพร่ามั่วอยู่
“หม่ามี๊ วันนี้ยังต้องไปทำงานเหยอ?”
กู้ฮอนจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเอง จากนั้นก็ยิ้มแล้วหันไปมองลูกสาวของตน: “ลูกรักตัวน้อยๆ วันนี้พวกเรากับพวกพี่ชายไปเยี่ยมคุณยายด้วยกันดีมั้ย?”
“ว้าว ดีจังเยย จิ่วจิ่วไม่ได้เจอพวกพี่ชายนานมากแล้ว” จิ่วจิ่วร่าเริงขึ้นมาทันที “หม่ามี๊ วันนี้หนูใส่ชุดอะไรดีอ่ะ?”
“หม่ามี๊เตรียมไว้ให้หนูตั้งนานแล้วตัวเล็ก หม่ามี๊เลือกตัวที่สวยที่สุดให้ใส่เลย” กู้ฮอนพูด พลางชี้ไปที่ตู้ข้างหัวเตียงของจิ่วจิ่ว
ผ่านไปสักพัก กู้ฮอนก็จูงมือจิ่วจิ่วลงมาที่ห้องรับแขกชั้นหนึ่ง
“ว้าว วันนี้จิ่วจิ่วสวยจังเลย” แอนนิที่กำลังทำความสะอาดห้องรับแขกอยู่ ก็เงยหน้าขึ้นมามองจิ่วจิ่วแล้วยิ้ม
ทันใดนั้นจิ่วจิ่วก็ทำสีหน้ามีความสุขมากๆ
กู้ฮอนมองไปรอบๆ : “แอนนิ เฉียวเฉียวสามีภรรยาคู่นั้นยังไม่ลงมาใช่มั้ย?”
แอนนิพยักหน้า จากนั้นก็หัวเราะ: “ใช่ แต่ว่าแบบนี้ก็ดี อย่างน้อยก็เงียบลงไปบ้าง”
“ห้ะ!แอนนิ ที่แท้ตอนฉันไม่อยู่ เธอก็แอบนินทาฉันใช่มั้ย” แอนนิเพิ่งพูดจบไม่นาน ก็ได้ยินเสียงลั่วเฉียวดังขึ้น
แอนนิมองไปที่ลั่วเฉียวที่เพิ่งลงมาจากลิฟต์ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยังไม่จาง: “รู้งี้ฉันไม่น่านินทาเธอลับหลังเลย แต่ก็ดี โดนจับได้แล้ว”
ลั่วเฉียวที่ถูกฉิงฮัวพยุงออกมาจากลิฟต์อย่างระมัดระวัง วันนี้เธอดูเหมือนอารมณ์ดี: “ฮี่ๆ นี่ที่เขาเรียกว่าอย่านินทาคนอื่นลับหลัง เอาแบบนี้ ฉันลงโทษให้เธอไปทำอาหารเช้ามา”
“เฉียวเฉียว เธอนี่รู้จักพูดจริงๆ มีวันไหนบ้างที่ไม่ใช่ฉันทำอาหารเช้า ไม่ใช่แค่นั้นวันนึงสามมื้อฉันก็เป็นคนทำทั้งหมด เอาแหละ ฉันไม่เถียงกับพวกเธอและ ฉันไปเตรียมอาหารเช้าก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวพวกเธอจะหิวกัน ฉิงฮัวยังไม่รีบมาจัดการอีก” แอนนิพูดจบ ก็หันหลังเดินเข้าห้องครัวไป
“กู้ฮอน วันนี้เธอมีแพลนอะไรมั้ย?” ลั่วเฉียวถูกฉิงฮัวพยุงให้นั่งลงบนโซฟา
“ฉันเตรียมตัวจะพาลูกๆ ไปเยี่ยมแม่ฉัน” กู้ฮอนพูด
ลั่วเฉียวมองจิ่วจิ่ว จากนั้นก็ถามอย่างระมัดระวัง: “จิ่วจิ่วก็ไปด้วยเหรอ?”
กู้ฮอนพยักหน้า: “ใช่แล้ว ตอนที่แม่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างก็ดี แม่คิดถึงหลานๆ แล้ว ฉันเลยจะพาไปด้วยกัน”
ลั่วเฉียวพยักหน้า ฉิงฮัวที่อยู่ด้านข้าง ก็ไม่เหมาะที่จะถามอะไร
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ กู้ฮอนก็พาจิ่วจิ่วขึ้นรถ
เธอไม่ได้ทำตามที่คิดไว้เมื่อวาน ว่าจะไปรับเฉิงเฉิงกับหยางหยางก่อน แล้วค่อยกลับมารับจิ่วจิ่ว
เพราะเธอคิดว่า วิธีนี้ยุ่งยากไป ถ้าหากไม่อยากให้เป่หมิงโม่เจอละก็ ก็ให้จิ่วจิ่วรออยู่ในรถก็โอเคแล้ว จากนั้นก็ให้เฉิงเฉิงกับหยางหยางออกมา แล้วพวกเราแม่กับลูกทั้งสามก็จะได้ไปพร้อมกัน
กู้ฮอนตั้งใจเตรียมคาร์ซีทไว้ให้จิ่วจิ่ว ที่เบาะหลัง
หลังจากรัดเข็มขัดให้จิ่วจิ่วแล้ว ก็โบกมือให้แอนนิกับลั่วเฉียว: “พวกเธอเข้าบ้านเถอะ พวกฉันไปและ”
***
กู้ฮอนขับรถพาจิ่วจิ่วไปทางบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิง
เฉิงเฉิงกับหยางหยางก็ตื่นแต่เช้าเหมือนกัน
“เฉิงเฉิง หยางหยาง วันนี้เป็นวันหยุดทำไมไม่นอนต่ออีกหน่อยล่ะ?” เจียงฮุ่ยซินที่ออกไปเดินเล่นกับคนรับใช้เพิ่งกลับเข้ามาจากด้านนอก ก็เห็นพี่น้องสองคนใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยเดินลงมาจากชั้นบน
หยางหยางไม่ได้พูดอะไร เฉิงเฉิงก็เอ่ยปากพูด: “คุณย่า พวกผมนัดกับคุณแม่ไว้แล้ว ว่าวันนี้แม่จะพาเราไปหาคุณยาย”
เจียงฮุ่ยซินพยักหน้า ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง: “ที่แท้พวกหนูก็ไปเยี่ยมคุณยาย ย่ากับคุณยายหนูก็ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว วันนี้ย่าก็ไม่มีธุระ งั้นพวกเรากินข้าวเสร็จก็ออกไปด้วยกันดีมั้ย”
เฉิงเฉิงกับหยางหยางก็กระวนกระวายทันที ไม่ใช่เพราะว่าอย่างอื่น แต่วันนี้แม่พาน้องสาวมาด้วย ถ้าหากถูกคุณย่าจับได้ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่มันก็เป็นเรื่องที่คุณแม่ไม่อยากให้เกิดขึ้น
ควรทำยังไงดีเหนี่ย ต้องคิดหาวิธีไม่ให้คุณย่าไปกับพวกเรา แถมต้องฟังขึ้นด้วย
นี่เป็นเรื่องยากสำหรับพี่น้องสองคนนี้แล้ว พวกเขามองไปที่นาฬิกาบนกำแพง มันก็เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจากเวลาที่นัดไว้แล้ว เวลาก็ยิ่งกระชั้นชิดเข้ามาทุกที
สุดท้ายหยางหยางก็ทนไม่ไหวจึงเอ่ยปากพูด และก็แถมไปด้วยรอยยิ้มที่ช่วงนี้นานๆ จะมีที: “คุณย่า วันนี้ให้ผมกับเฉิงเฉิงแล้วก็แม่ไปกันเถอะฮะ ปกติแล้วพวกเราต้องไปโรงเรียนไม่มีเวลาไปเยี่ยมคุณยาย ตอนนี้มีเวลาแล้วอยากจะคุยกับคุณยายเยอะๆ คุณย่ารอตอนที่พวกเราไปโรงเรียนค่อยแวะไปเยี่ยมคุณยายได้มั้ย อีกอย่างผมอยากกินปีกไก่ น่องไก่และเนื้อตุ๋นที่คุณย่าทำกับมือ คุณย่าอยู่บ้านทำให้พวกผม รอพวกผมกลับมาถึงก็ได้กินพอดี แบบนี้ได้มั้ยฮะ?”
หยางหยางพูดจบก็ยังจงใจอ้อนอีก
เจียงฮุ่ยซินมองหยางหยางแล้วยิ้ม: “โอเค หนูพูดถึงขนาดนี้แล้ว งั้นย่าไม่ไปกับพวกหนูแล้ว อยู่บ้านทำของอร่อยๆ ให้พวกหนูกิน แต่ว่าพวกหนูต้องพูดถึงย่าให้คุณยายฟังนะ บอกคุณยายว่าไว้ย่ามีเวลาว่างจะเข้าไปเยี่ยม”
วันนี้ เจียงฮุ่ยซินดูอารมณ์ดีมากๆ ตอบรับปากอย่างมีความสุข
เฉิงเฉิงกับหยางหยางจึงแอบถอนหายใจได้
“เอาแหละ หลานย่าทั้งสองกินไปกินข้าวเช้าเถอะ อีกแป๊บแม่หนูก็จะมารับแล้ว” เจียงฮุ่ยซินพูดจบ ก็กวักมือเรียกสาวใช้ ออกคำสั่งกับเธอไปสองสามคำแล้วก็เดินมาที่โต๊ะทานอาหารและนั่งลง
บนโต๊ะอาหาร มีกับข้าววางเรียงเต็มโต๊ะ แต่ว่าก็ยังไม่เห็นเงาของเป่หมิงโม่
เฉิงเฉิงกับหยางหยางจึงยังไม่จับตะเกียบ
เจียงฮุ่ยซินมองพวกเขาอย่างสงสัย: “ทำไมพวกหนูไม่ทานล่ะ?”
“คุณพ่อยังไม่ลงมาทานข้าว” เฉิงเฉิงพูดเบาๆ ตั้งแต่เด็กเขาก็รู้กฎของเป่หมิงโม่ ต้องรอให้เจ้าของบ้านมาก่อนถึงจะเริ่มกินได้
แต่ก่อนเป็นคุณปู่ ตอนนี้เป็นคุณพ่อ
เจียงฮุ่ยซินพูดพลางหัวเราะ: “พ่อของพวกหนูออกไปตั้งแต่เช้าแล้วจ่ะ เขายังเตรียมของบางอย่างให้พวกหนูเอาไปเยี่ยมคุณยายด้วย”
พูดพลาง ชี้ไปทางห้องนั่งเล่น
พอรู้ว่าคุณพ่อออกไปแล้ว พี่น้องสองคนก็ไม่รอแล้ว จึงหยิบตะเกียบขึ้นมาก้มหน้าก้มตากิน
ไม่นาน รถของกู้ฮอนก็ค่อยๆ ขับเข้ามาในบ้านใหญ่ตระกูลเป่หมิง
เธอเลื่อนหน้าต่างขึ้น แล้วเปิดช่องเล็กๆ ไว้แค่นั้น แบบนี้คนด้านนอกก็จะมองไม่เห็นจิ่วจิ่ว แถมพอเธอไปแล้ว ในรถก็ยังมีอากาศหายใจ
จากนั้นเธอก็หันหลัง พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: “ลูกรัก แม่ไปรับพวกพี่ๆ ก่อนนะ หนูเป็นเด็กดีนั่งรออยู่ในรถก่อนนะ”
***
จิ่วจิ่วพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง: “หม่ามี๊ รีบกลับมานะ”
กู้ฮอนพยักหน้ารับ: “เดี๋ยวหม่ามี๊กลับมา”
พูดจบเธอก็ปิดประตูรถแล้วเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น
“ป้าซิน หนูมารับเด็กๆ แล้วค่ะ” พอเข้ามาในห้องรับแขก ก็ไม่เห็นใครเลย
แต่ว่าหลังจากเธอพูดจบไม่นาน เฉิงเฉิงกับหยางหยางก็เดินออกมาจากห้องทานอาหาร
ด้านหลังพวกเขา เจียงฮุ่ยซินก็ตามออกมาด้วย: “หลานรัก พวกหนูกินอิ่มกันหรือยังจ้ะ?”
เฉิงเฉิงหันกลับไปมองเจียงฮุ่ยซิน: “คุณย่า พวกเรากินอิ่มแล้วฮะ”
เจียงฮุ่ยซินยิ้มแล้วทักทายกู้ฮอน: “กู้ฮอนมาแล้วเหรอ วันนี้ที่จริงอยากจะไปเยี่ยมแม่ของหนูพร้อมกับพวกหนูแต่ว่าเฉิงเฉิงกับหยางหยางอยากจะใช้เวลากับคุณยาย แถมพวกเขายังอยากกินเนื้อตุ๋นที่ฉันทำ เพราะงั้นฉันจึงไม่ไปแล้ว แต่ว่าถึงฉันจะไม่ได้ไป แต่ว่าฉันก็ฝากของเอาไปให้แม่เธอด้วยนะ”
พูดพลาง เรียกสาวใช้ที่ก่อนหน้านี้ให้ไปเตรียมยาชั้นดีกับอาหารเสริมออกมา
กู้ฮอนเห็นของเยอะแยะ ก็พูดอย่างเกรงใจ: “ป้าซิน มาครั้งนึง ก็ทำให้ป้าซินต้องเสียเงินครั้งนึง หนูกับแม่เกรงใจ แบบนี้หลังจากนี้คงจะมาที่นี่ไม่ได้แล้ว”
“นี่ไม่ใช่มิตรภาพระหว่างฉันกับแม่ของเธอหรอกเหรอ แถมของพวกนี้ฉันก็กินไม่หมด เอาไว้ที่นี่ก็มีแต่จะเสียของ โอเค ฉันสัญญารอบนี้เป็นรอบสุดท้ายแล้วโอเคมั้ย” เจียงฮุ่ยซินพูดจบก็ส่งสายตาให้สาวใช้
สาวใช้ก็ถือของแล้วเดินไปทางประตู
กู้ฮอนรีบตามไป เธอไม่อยากให้คนตระกูลเป่หมิงรู้ว่าบนรถยังมีเด็กอยู่อีกคน
เธอรีบเดินไป แล้วรีบเข้าไปเปิดท้ายรถ: “ของเอาวางไว้ตรงนี้เถอะ”
ไม่นานของก็วางเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็มีสาวใช้อีกคนถือกล่องสองใบที่ปิดมิดชิดเดินมาทางนี้
ขณะนั้นเจียงฮุ่ยซินก็เดินออกมาส่งเด็กๆ : “นี่เป็นของที่เป่หมิงโม่ฝากให้แม่เธอ เขาสั่งมาว่าต้องให้ถึงมือ”
กู้ฮอนมองอยู่ครู่ มันคือกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส ข้างในใส่อะไรไว้ดูไม่ออกจริงๆ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเดา ต้องรีบพาเด็กๆ ออกจากบ้านตระกูลเป่หมิงนั่นสำคัญกว่า
“เด็กๆ ขึ้นรถ” กู้ฮอนเปิดประตูด้านหน้า แล้วให้หยางหยางขึ้นไปนั่งด้านหน้า จากนั้นก็เปิดประตูด้านหลังอีกฝั่งแล้วให้เฉิงเฉิงขึ้นไปนั่ง
เด็กทั้งสองขึ้นรถจากนั้นก็เห็นจิ่วจิ่วกำลังนั่งอยู่บนคาร์ซีท
เป็นเฉิงเฉิงที่ระวัง เขารีบทำท่าทางให้หยางหยางกับจิ่วจิ่วอย่าพูด
“ป้าซิน งั้นพวกเราไปก่อนนะคะ ต้องขอบคุณแทนแม่หนูอีกครั้งด้วยค่ะ” พูดจบกู้ฮอนก็ขึ้นรถ
เจียงฮุ่ยซินยิ้มแล้วโบกมือให้กู้ฮอน: “ไม่ต้องเกรงใจหรอกจ้า”
จากนั้นก็พูดกับหยางหยางที่เห็นผ่านกระจกรถ: “อยู่กับคุณยายพวกหนูต้องเป็นเด็กดีนะ”
หลังจากที่รถขับออกจากบ้านใหญ่ตระกูลเป่หมิงโดยสวัสดิภาพ คนบนรถก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
ขณะนั้นเฉิงเฉิงกับหยางหยางก็หันไปหาจิ่วจิ่ว พี่น้องทั้งสามคนไม่ได้เจอกันมาระยะนึงแล้ว
เฉิงเฉิงยังดี อย่างน้อยแต่ก่อนก็ยังได้เจอจิ่วจิ่วทุกวัน แต่หยางหยางไม่ใช่ น้อยมากที่จะได้เจอเธอ
ไม่นาน พวกเขาที่อยู่บนรถก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน