เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 804 เป่หมิงเอ้อมาแล้ว
ตอนที่ 804 เป่หมิงเอ้อมาแล้ว
โดยเฉพาะเรื่องที่เธอเคยใช้มีดแทงเป่หมิงโม่ ทำให้ลู่ลู่ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
สำหรับเป่หมิงโม่ในวัยหนุ่ม เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด สภาพร่างกายยังดี แต่สภาพจิตใจนั้นสาหัสมาก
ดังนั้นต่อมาพวกเขาสองแม่ลูกจึงเป็นคนแปลกหน้ากัน
หลังจากกู้ฮอนเปิดฝากล่องแล้ว ข้างในเห็นเพียงของที่ถูกผ้าสักหลาดห่อหุ้มไว้
มันยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกลึกลับน่าค้นหา ว่าสิ่งที่อยู่ข้างในคืออะไร
กู้ฮอนสัมผัสผ้าสักหลาดอย่างเบามือ ก็รู้สึกได้ว่ามีของบางสิ่งอยู่ข้างใน ดูเหมือนจะแข็งๆ
เธอค่อยๆ เปิดผ้าสักหลาดออก ในที่สุดสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเธอนั้นทำให้เธอแอบประหลาดใจ
ข้างในมีสองมือวางอยู่ เป็นมือจำลอง ยิ่งไปกว่านั้น สองมือนี้แตกต่างจากมือของหวีหรูเจี๋ยที่สวมใส่อยู่ตอนนี้ เมื่อสัมผัสเบาๆ จะรู้สึกถึงความยืดหยุ่น นอกจากนี้เมื่อเธอขยับเบาๆ รู้สึกเหมือนสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวได้
หยางหยางยืนอยู่ข้างกายกู้ฮอน หลังจากที่เขาได้เห็นมือเทียมที่อยู่ตรงข้าม กลับไม่ได้แสดงอาการกลัวแต่อย่างใด สายตากลับจ้องมองไปตรงๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะมีคุณแม่อยู่ ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นของขวัญที่คุณพ่อส่งให้คุณย่า เขาจึงไม่สามารถเอื้อมมือไปแตะเล่นได้
สำหรับของขวัญชิ้นนี้ที่เป่หมิงโม่มอบให้คุณแม่ กู้ฮอนก็แอบปลื้มใจแทนหวีหรูเจี๋ย และยังแอบโล่งใจที่น้ำแข็งพันปีก็ละลายในที่สุด
เธอหยิบกล่องอย่างระมัดระวัง เดินไปตรงหน้าของหวีหรูเจี๋ย: “หวีหรูเจี๋ยคุณดูนี่สิ”
เมื่อครู่หวีหรูเจี๋ยมองไม่ชัดเจนว่าข้างในคืออะไร จนกระทั่งกู้ฮอนได้นำของสิ่งนั้นมาตรงหน้าของตัวเอง เธอถึงจะเห็นของที่อยู่ข้างในได้อย่างใกล้ชิด
เมื่อได้เห็นน้ำตาของเธอก็หลั่งไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้
แม้แต่ลู่ลู่ที่อยู่ข้างๆ เมื่อได้เห็น ในใจก็กระตุกเล็กน้อย
โม้จิ่งเฉิงเดินไปข้างกายของหวีหรูเจี๋ย หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง แล้วเช็ดน้ำตาให้เธอเบาๆ : “หรูเจี๋ย คุณต้องดีใจถึงจะถูก เฝ้ารอมานานหลายปี ในที่สุดก็ถึงวันที่โม่เด็กคนนี้จะยอมรับแม่คนนี้สักที”
สำหรับหวีหรูเจี๋ย ตอนนี้เธอไม่เพียงแค่น้ำตาไหล ตอนนี้เธอตื้นตันใจจนไม่สามทรถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
โม้จิ่งเฉินใช้มือหยิบมือเทียมข้างหนึ่งออกมาจากกล่องอย่างระมัดระวัง ยื่นมันไปตรงหน้าของหวีหรูเจี๋ย: “หรูเจี๋ย คุณสัมผัสดู มันไม่ต่างจากมือจริงเลย ยิ่งไปกว่านั้นข้อต่อของนิ้วมือยังสามารถเคลื่อนไหวได้” พูดแล้วเขาก็นำมือเทียมแนบกับหน้าของหวีหรูเจี๋ยเบาๆ หลังจากใบหน้าของหวีหรูเจี๋ยสัมผัสได้ ซึ่งมันไม่ต่างอะไรกับผิวหนังเลย
โม้จิ่งเฉิงหยิบคู่มือการใช้งานออกมาจากกล่อง: “อวัยวะเทียม Myoelectric..” เขาดูอย่างตั้งใจ
หากไม่ดูจะไม่รู้เลย ว่ามือเทียมนี้จะมีความสามารถที่มากมาย สมองสามารถสั่งงานให้ทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ เช่นการถือของ
หลังจากเขาอ่านคู่มือเสร็จแล้ว ก็พูดกับหวีหรูเจี๋ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม: “มือเทียมที่โม่ส่งมาให้ มีมันแล้ว คุณก็เหมือนคนปกติทั่วไป เด็กคนนี้แม้ปากจะไม่พูด แต่ในใจก็ยังเป็นห่วงคุณอยู่เสมอ”
***
มือเทียมที่เป่หมิงโม่ส่งให้เธอ ทันใดนั้นก็ได้ทำให้สิ่งที่คิดว่าอยู่ไกลทำให้ใกล้เข้ามาทันที
สำหรับการใช้งานของสองมือนั้น ในวันถัดไป ได้มีคุณหมอเข้ามาในห้องผู้ป่วยของหวีหรูเจี๋ย ช่วยเธอใส่มือเทียม และยังได้สอนวิธีใช้กับเธอด้วย
กู้ฮอนพาเด็กๆ มาอยู่เป็นเพื่อนคนสูงวัยทั้งสองท่าน จนกระทั่งแสงอาทิตย์ใกล้ลับฟ้าถึงจะพาพวกเขากลับ
ลู่ลู่และหวีหรูเจี๋ยชื่นชอบเด็กสามคนนี้เป็นอย่างมาก เพียงแต่หยางหยางในตอนนี้ไม่ได้ซนเหมือนแต่ก่อนแล้ว
ขณะที่กู้ฮอนกำลังจะพาเด็กๆ กลับบ้าน ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังมาจากห้องของหวีหรูเจี๋ย
“พวกคุณรอก่อน เดี๋ยวผมจะออกไปดู” หลังจากโม้จิ่งเฉิงพูดจบก็เดินออกไป ไม่นานก็ได้ยินเสียงเขาพูดว่า: “โม่ คุณมาแล้ว”
เมื่อกู้ฮอนได้ยิน ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะนี้คนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องก็ได้ยินด้วย
ที่แท้เป่หมิงโม่ก็มาถึงโรงพยาบาลแล้ว!
ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี จิ่วจิ่วอยู่ในห้องของคุณแม่ หากเขาเข้ามาแล้วเห็นเธอ ไม่รู้จะมีปฏิกิริยาอย่างไร
กู้ฮอนพูดกับคุณแม่อย่างประหม่าว่า: “คุณแม่ ฉันขอร้องคุณหนึ่งเรื่อง เดี๋ยวหากเป่หมิงโม่เข้ามาแล้วเจอจิ่วจิ่ว คุณไม่ต้องพูดอะไร ฉันพูดอะไรคุณก็อย่าค้านได้ไหม? หลังจากรอให้เป่หมิงโม่ออกไปแล้ว แล้วฉันจะอธิบายให้คุณฟัง”
ลู่ลู่มองลูกสาวที่ท่าทางเหมือนกำลังจะเผชิญหน้ากับศัตรูตัวร้าย แม้ในใจจะสงสัย ก่อนหน้านั้นพวกเขาก็เคยพบกัน ลูกสาวก็ปกติดี ทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนความคิด
ในเมื่อลูกสาวพูดเช่นนี้ เธอจึงทำได้เพียงพยักหน้า
สำหรับคนอื่นๆ กู้ฮอนไม่ต้องอธิบายอะไรให้พวกเขาแล้ว
เวลานี้ ก็ได้ยินเสียงของเป่หมิงโม่ดังมาจากห้องข้างนอก บนทางเดินที่เงียบสงบ แม้จะพูดเสียงเบา แต่ก็สามารถได้ยินเสียงได้ชัดเจน: “ผมมาดูว่าฮอนได้นำมือเทียมส่งมาให้หรือยัง นี่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้บริษัทของเรา ยังไม่ได้วางตลาด ดังนั้นผมมา…”
เมื่อกู้ฮอนได้ฟัง คิ้วขมวดเล็กน้อย แอบด่าในใจ: นายเป่หมิงเอ้อ มาถึงที่นี่เพื่อจะมาดูว่าได้นำของมาส่งถึงมือคุณป้าหวีหรูเจี๋ยหรือยัง หรือว่าฉันพาเด็กๆ จากตระกูลเป่หมิงมาตั้งไกลถึงที่นี่ จะทำของคุณหายงั้นเหรอ ยิ่งไปกว่านั้น คุณส่งผลิตภัณฑ์ใหม่มาทำไม? ไม่ใช่เพราะจะให้แม่ของคุณมาเป็นหนูทดลอง
แต่ไม่นานเธอก็เปลี่ยนใจ ซึ่งอาศัยจากประสบการณ์ที่อยู่กับเป่หมิงโม่มาหลายปี 80%เป็นเพียงข้ออ้างของเขา แม้ความสัมพันธ์จะปล่อยวางลงบ้างแล้ว แต่ก็ขาดการติดต่อกันเป็นเวลานานแล้ว
มีคำพูดมากมาย ความเป็นห่วงมากมายที่ไม่สามารถแสดงออกมาได้ง่ายๆ
ตามมาด้วยเสียงของโม้จิ่งเฉิง: “หลังจากที่แม่ของคุณได้เห็นมือเทียมคู่นั้นแล้วเธอชอบมันมาก และตื้นตันใจจนน้ำตาไหล ผมคิดว่าในใจของเธอ ทั้งรู้สึกตื้นตันใจและรู้สึกผิดต่อคุณในเวลาเดียวกัน โม่ พวกคุณล้วนเป็นผู้ชาย ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณในตอนนี้ดี ผมไม่ได้ยืนข้างหวีหรูเจี๋ยแล้วจะพูดอะไรกับคุณ เพียงแค่อยากพูดกับคูณว่า: ความเป็นพ่อลูกไม่มีการเกลียดข้ามคืน นับประสาอะไรกับความเป็นแม่ลูก หลายปีมานี้เธอได้รับผลที่เกิดจากความผิดพลาดในอดีตแล้ว ตอนนี้เธอก็หวังอยากจะให้มีคนในครอบครัวอยู่เคียงข้าง”
***
เป่หมิงโม่เข้าใจความหมายของโม้จิ่งเฉิง ก็เหมือนกับสิ่งที่กู้ฮอนคิดไว้ว่า: แม้ว่าในใจของเขาในตอนนี้จะปล่อยวางลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังทำใจไม่ได้
“คุณโม้ คำพูดของคุณผมจะนำกลับไปคิดทบทวนอย่างดี ใช่ผมเห็นรถของฮอนยังอยู่ที่นี่ เธอกับเด็กๆ ยังไม่ออกไปใช่ไหม?”
ประโยคนี้ทำให้ใจของกู้ฮอนจุกอยู่ตรงคอ คิดไม่ถึงว่านายเป่หมิงเอ้อนี้จะสายตาดีขนาดนี้ มาแล้วก็ยังมิวายตรวจเช็กลานจอดรถของโรงพยาบาล
เอาแล้วไง แม้ว่าพ่อบุญธรรมจะบอกว่าตัวเองออกไปแล้วก็คงไม่ได้แล้ว
“ใช่ พวกเรากำลังคุยเล่นกันในห้องของแม่ของเธอ ในเมื่อคุณมาแล้ว ก็เข้ามาพูดคุยร่วมกับพวกเรากัน” โม้จิ่งเฉิงก็เสี่ยงเช่นกัน เขาคิดว่าแม้ว่าโม่เป่หมิงจะไม่ต่อต้านแม่ของเธอแล้ว แต่อย่างไรก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นหลังจากที่เขาได้เชื้อเชิญแล้ว เขาตอบปฏิเสธ
กู้ฮอนค่อยๆ เดินไปที่ประตูห้องผู้ป่วย กลั้นหายใจแล้วฟังคำตอบของเป่หมิงโม่
เป็นไปตามที่โม้จิ่งเฉิงคาดไว้ มุมปากของเป่หมิงโม่กระตุกเล็กน้อย: “คุณโม้ ผมยังไม่สะดวกที่จะไปรบกวนตอนนี้ ระหว่างทำธุระผ่านมาทางนี้ จึงแวะมาดูสถานการณ์ ในเมื่อพวกเขายังอยู่ที่นี่ คุณช่วยบอกกับพวกเธอ เดี๋ยวออกจากโรงพยาบาลแล้วให้พวกเธอตรงไปที่บ้านเก่า คุณป้าซินได้ทำอาหารรอพวกเขาไว้แล้ว” หลังจากพูดจบ เป่หมิงโม่ก็หมุนตัวเดินไปทางลิฟต์แล้ว
หลังจากรอให้โม้จิ่งเฉิงผลักประตูเข้ามาแล้ว กู้ฮอนถึงจะถอนหายใจออกมายาวๆ
สัญญาณฉุกเฉินดับลงแล้ว เสี่ยงจริงๆ
“ฮอน เธอมาตรงนี้ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย” เวลานี้ ลู่ลู่เรียกลูกสาวมาข้างๆ ตัวเอง
ฮอนรู้ว่าแม่จะถามอะไร แต่เพราะพวกเด็กๆ ยังอยู่ที่นี่ มีหลายเรื่องที่เธอไม่ต้องการให้พวกเขารู้ อย่างน้อยก็รอให้พวกเขาโตขึ้นอีกหน่อย ค่อยพูดกับพวกเขา
“แม่ ฉันรู้ว่าคุณอยากถามอะไร แต่ไว้ฉันจะเล่าให้คุณในครั้งหน้าที่มาได้ไหม?”
ลู่ลู่ก็เข้าใจความหมายของลูกสาว เธอพยักหน้า: “ก็ได้ เวลาก็ไม่เช้าแล้วเธอพาเด็กๆ ไปหาคุณป้าซินเถอะ”
กู้ฮอนพยักหน้าแล้วพูดกับเด็กทั้งสามคนว่า: “ลูกรักเราจะกลับบ้านกันแล้ว พวกหนูบอกลาคุณย่าและคุณยายหน่อย”
เฉิงเฉิงและหยางหยางโบกมือให้หวีหรูเจี๋ยและลู่ลู่: “คุณย่า คุณยายพวกเรากลับกันก่อนนะ รอให้ปิดเทอมหน้าค่อยมาเยี่ยมพวกคุณใหม่”
“ดี ดี เฉิงเฉิง หยางหยางพวกหนูต้องตั้งใจเรียนนะ เป็นแบบอย่างที่ดีให้น้องสาว”
กู้ฮอนเหลือบมองจิ่วจิ่ว: “ทารกน้อย ทำไมหนูไม่บอกลาคุณย่า และคุณยายล่ะ?”
จิ่วจิ่วกัดนิ้วมือแล้วพูดว่า: “คุณแม่ จิ่วจิ่วยังไม่อยากกลับ ยังอยากเล่นกับคุณย่า และคุณยาย”
กู้ฮอนย่อตัวลงแล้วยิ้มบางๆ ให้จิ่วจิ่ว: “ตอนนี้เวลาไม่เช้าแล้ว คุณย่าและคุณยายยังคงป่วย พวกท่านจำเป็นต้องพักผ่อน ไว้ครั้งหน้าแม่ค่อยพาพวกหนูมาเยี่ยมดีไหม?”
จิ่วจิ่วพยักหน้า จากนั้นก็โบกมือให้คนสูงวัยทั้งสอง: “จิ่วจิ่วกลับบ้านแล้ว คุณย่าและคุณยายต้องรักษาสุขภาพให้ดีๆ นะ”
“ได้ เราฟังจิ่วจิ่ว จะรักษาสุขภาพให้ดี ถึงตอนนั้นค่อยเล่นกับหนูดีไหม หลังจากกลับบ้านแล้วต้องเชื่อฟังคุณแม่ มิฉะนั้นเราจะไม่ชอบหนูแล้ว”
จิ่วจิ่วพยักหน้าอย่างหนัก
กู้ฮอนพาเด็กๆ ออกจากโรงพยาบาลแล้ว กลับมาที่รถใหม่อีกรอบ ตอนนั้นเป่หมิงโม่พูดไว้แล้ว หลังจากพวกเขาแม่ลูกออกมาแล้วให้ตรงกลับไปที่บ้านเก่าตระกูลเป่หมิง แต่บนรถยังมีจิ่วจิ่ว ควรทำอย่างไรดี
***
ในที่สุดกู้ฮอนก็ได้ตัดสินใจอย่างปลอดภัย หลังจากที่พาจิ่วจิ่วกลับไปหาลั่วเฉียวแล้ว ค่อยพาเด็กๆ กลับไปที่บ้านเก่าตระกูลเป่หมิง
หลังจากรอเธอขับรถกลับมาถึงบ้านเก่าตระกูลเป่หมิงแล้ว ดวงไฟก็เพิ่งสว่าง
บนโต๊ะอาหาร เฉิงเฉิงและหยางหยางก็ก้มหน้าก้มตาทานอาหาร ตลอดทั้งวันในโรงพยาบาล บางทีอาจเป็นสภาพแวดล้อม พวกเขาไม่ค่อยทานอะไร
ตอนนี้ถึงบ้านแล้ว ตรงหน้าเป็นอาหารอันโอชะทั้งโต๊ะ ความตระกะของพวกเขาทนต่อไปไม่ได้อีกต่อไป หยิบตะเกียบและช้อนขึ้นมา ก็กินอย่างมูมมาม
“หลานทั้งสองของฉัน พวกหนูกินช้าๆ หน่อย ไม่มีใครมาแย่ง ฮ่าๆ” เจียงซินพูดแล้ว เลื่อนจานไปตรงหน้าของเฉิงเฉิงและหยางหยาง
“ฮอน ร่างกายของแม่เธอพักฟื้นเป็นยังไงบ้างแล้ว?” เจียงฮุ่ยซินหันมาถามกู้ฮอนอีกครั้ง