เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 811 แรงกดดันที่มองไม่เห็น
ตอนที่ 811 แรงกดดันที่มองไม่เห็น
เฉิงเฉิงเห็นท่าทางแบบนี้ของหยางหยางแล้ว เขาก็รู้ว่าแปดส่วนเจ้าหมอนี่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนแล้ว
รอจนตอนที่เขายกข้าวมานั่งตรงข้ามหยางหยางแล้ว เขาก็พูดว่า “ดูท่าทางพออกพอใจของนายแล้วจะต้องโกงได้สำเร็จแน่นอนสินะ”
เสียงของเขาเบามาก นั่นก็เป็นเพราะว่านี่เป็นถึงเรื่องที่น่าไม่อายเรื่องหนึ่ง อีกทั้งพูดอย่างไร ‘ไฟในก็อย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า’
หยางหยางหัวเราะอารมณ์ดีพลางส่ายหน้า “no no no ……ฉันไม่ได้ดูเลยแม้แต่น้อย ทั้งหมดล้วนอาศัยสิ่งนี้” เขาเอ่ยแล้วก็ยื่นนิ้วชี้ไปที่ศีรษะเล็กๆของตัวเอง
“ถ้าหากว่าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ก็ดีที่สุด เพียงแต่ฉันยังอยากจะแนะนำนายว่าให้เช็ดสิ่งที่อยู่บนมือของนายพวกนั้นให้สะอาดเสียเถอะ มิเช่นนั้นไม่ช้าก็เร็วนายจะต้องเสียเปรียบ” เฉิงเฉิงยังคิดว่าควรบอกหยางหยางว่าถัดไปควรจะทำอย่างไร เหลือหลักฐานไว้บนมือสุดท้ายแล้วก็จะนำพาภัยเงียบมาให้
หยางหยางกลับมีสีหน้าไม่เห็นด้วย “ฉันล้วนพูดไปแล้วว่านี่เหลือเอาไว้เป็นไม้ตายสุดท้ายของฉัน ถ้าหากว่าตอนสอบเจออะไรที่ทำไม่ได้ขึ้นมาก็จะสามารถนำออกมาใช้ได้ พอแล้ว ท้องของฉันหิวจนร้องโครกครากแล้ว ไม่พูดเรื่องพวกนี้กับนายแล้ว กินข้าว”
หยางหยางเอ่ยจบก็หยิบตะเกียบและช้อน ตักขึ้นมาทานพร้อมกัน
“ทั้งสองท่านกำลังทานข้าวอยู่นี่เอง เป่หมิงซีหยาง ดูท่าทางการกินของนายแล้ว เปลี่ยนความเจ็บปวดให้เป็นปริมาณอาหารมื้อหนึ่งใช่หรือไม่” จ้าวจิ้งอี๋หัวเราะเหอะๆยกอาหารของตัวเองเดินเข้ามา เธอไม่เอ่ยถามอะไรแล้วก็นั่งลงบนที่นั่งด้านข้างในโต๊ะเดียวกันกับพวกเขา
การสอบวิชานี้ จ้าวจิ้งอี๋ก็ทำได้อย่างราบรื่น แม้ว่าจะมีคำถามสองสามข้อที่ยากไปเล็กน้อย แต่ว่าหลังจากผ่านการครุ่นคิดไปแล้วก็ยังสามารถหาคำตอบออกมาได้
รอจนการสอบเสร็จแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มหัวเราะ อาศัยคำถามพวกนี้ เป่หมิงซีหยางจะต้องทำไม่ได้อย่างแน่นอน ดูท่าว่าลูกน้องคนนี้นั้นตัวเองจะต้องรับเอาไว้แล้ว
เดิมหยางหยางอยากจะโต้เธอกลับสักสองประโยค ทำให้เธอโมโห แต่เมื่อฟังความหมายของคำพูดเธอ จะต้องคิดว่าตัวเองทำข้อสอบไม่ได้อย่างแน่นอน
เขาก้มหน้า กลอกตาไปมาอย่างชั่วร้าย อิอิ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็วางแผนซ้อนแผนเสียเลย
เขาแสร้งทำท่าทางไม่ยินดีออกมา จากนั้นก็พูดเสียงเบาประโยคหนึ่ง “เธอยุ่งอะไรด้วย”
จ้าวจิ้งอี๋เห็นแล้วในใจก็มีความสุขเป็นอย่างมาก แต่บนใบหน้ายังคงมีท่าทางเป็นห่วงเป็นใยอย่างเห็นได้ชัด “เป่หมิงซีหยาง ที่จริงแล้วฉันก็เห็นใจนายมากนะ แต่ในฐานะที่ฉันเป็นลูกพี่ใหญ่ในอนาคตของนาย ฉันก็ไม่อาจที่จะไม่พูดกับนายสักสองประโยค เดิมนายก็ไม่ได้มีความสามารถมากมายขนาดนั้นอยู่แล้ว ทำไมจะต้องคุยโวโอ้อวดด้วย ตอนนี้เห็นแล้วสินะ การสอบไม่ใช่เรื่องง่ายดายอย่างที่คิด ต้องมีความรู้ความสามารถที่แท้จริงถึงจะได้ แน่นอนว่ามีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้ นั่นก็คือการโกง เพียงแต่ฉันคิดว่านายคงจะไม่มีความกล้าแบบนี้ เพราะถ้าหากว่าถูกจับได้ นั่นจะทำให้คะแนนทั้งหมดกลายเป็นโมฆะไป”
เฉิงเฉิงนั่งทานข้าวช้าๆอยู่ด้านข้างนั้นรู้สึกเป็นห่วงจ้าวจิ้งอี๋ขึ้นมาเล็กน้อยอย่างจริงใจ
คาดว่าถ้าเมื่อครู่เธอได้เห็นท่าทางของหยางหยางก่อนหน้านี้ อย่างนั้นแปดส่วนเธอก็คงจะหัวเราะไม่ออกแล้ว
*
หลังจากทานอาหารกลางวันแล้วก็พักผ่อนอีกเล็กน้อยถึงจะเริ่มต้นการสอบวิชาที่สอง
เช่นเดียวกัน หยางหยางตอบได้อย่างราบรื่นเช่นเดียวกับเมื่อเช้า จนถึงตอนท้ายเขาก็เริ่มแอบดีใจกับตัวเอง ดูท่าว่าการสอบปลายภาคในครั้งนี้ตัวเองมั่นใจเป็นอย่างมาก
ในที่สุดเสียงกระดิ่งในการสอบวิชาสุดท้ายที่รอคอยก็ดังขึ้น หยางหยางนั้นเก็บข้าวของของตัวเองอย่างเร่งรีบ เช็คว่า ‘ส่งข้อสอบ’ แล้วก็วิ่งออกจากห้องเรียนไปอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ได้รีบไปดูคะแนนและลำดับที่ของตัวเอง แต่กลับทำเรื่องอย่างการวิ่งไปหาเฉิงเฉิงแทน
เฉิงเฉิงในตอนนี้เพิ่งจะออกมาจากห้องเรียนก็เห็นหยางหยางยืนอยู่ที่หน้าประตู
***
วันนี้นายเตรียมตัวจะขอบคุณฉันอย่างไร “หยางหยางมีท่าทางอวดดี
“ฉันมีอะไรต้องขอบคุณนายด้วยหรือ ดูท่าทางอวดเก่งของนายแล้วจะต้องทำข้อสอบได้ไม่เลวเลย” เฉิงเฉิงพูดพลางก้มหน้าดูนาฬิกาข้อมือ เวลาก็ไม่เช้าแล้ว ควรจะกลับบ้านได้แล้ว
เขาไม่ได้สนใจท่าทางของหยางหยาง เดินออกไปยังทิศทางประตูใหญ่ของโรงเรียน
“เฮ้ๆ นายไปไหนกัน ไม่ไปดูลำดับที่กับฉันหรือ” หยางหยางตามเฉิงเฉิงอยู่ที่ด้านหลัง
ท่าทางไม่สะทกสะท้านของเฉิงเฉิงทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“มีอะไรน่าดูกัน นายมีความมั่นใจที่จะทำสำเร็จมากขนาดนั้นไหม ถ้าหากว่านายแพ้ขึ้นมาจะทำอย่างไร” เฉิงเฉิงคิดว่าตอนนี้ควรจะสาดน้ำเย็นใส่เขา
“พวกนายสองคนอยู่นี่เอง ทำให้ฉันต้องตามหาพวกนายอย่างยากลำบาก เป่หมิงซีหยาง ฉันนึกว่านายหนีไปแล้ว ไป พวกเราไปดูใบคะแนนกัน เป่หมิงซีเฉิง นายก็ไปกับพวกเราด้วย ไปเป็นพยานให้กับพวกเราพอดี” จ้าวจิ้งอี๋พูดพลางยื่นมือไปดึงเสื้อของพวกเขาสองคนเอาไว้
คราวนี้เป่หมิงซีเฉิงก็ไปไม่ได้แล้ว เขามองไปที่จ้าวจิ้งอี๋ เห็นว่าสีหน้าเธอในตอนนี้ดีมากเป็นพิเศษ คิดว่าเธอก็น่าจะสอบได้ไม่เลวเช่นกัน
เฉิงเฉิงนั้นเดาไม่ผิดเลย การสอบครั้งนี้ของจ้าวจิ้งอี๋นั้นทำได้ไม่เลวเลยจริงๆ
นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอให้ความสำคัญกับการสอบในครั้งนี้มากเป็นพิเศษ ปกติคะแนนการเรียนของเธอก็ไม่เลว แม้ว่าจะไม่ขยันทบทวนบทเรียนแต่ก็ยังได้คะแนนสอบที่ไม่เลว
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน เธอและหยางหยางพนันกันไว้ นั่นก็ไม่สามารถชะล่าใจได้
ขอเพียงแค่ตัวเองสามารถอยู่ในสามลำดับแรกได้ นั่นก็สามารถเพิ่มความยากให้กับหยางหยางได้หลายส่วน
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าหยางหยางอาจจะให้เฉิงเฉิงช่วยสอนบทเรียนให้ แต่อาศัยระดับความสามารถของเฉิงเฉิง คาดว่าก็ไม่สามารถที่จะสร้างภัยคุกคามอะไรให้เธอได้
“เฮ้ๆ ปล่อยมือนะ ฉันเดินเองได้” หยางหยางกระตุกแขนสะบัดมือของจ้าวจิ้งอี๋ที่จับมือของเขาอยู่ออกเบาๆ
ทั้งสามคนเดินมาถึงหน้าเครื่องตรวจสอบคะแนนที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้
“พวกเราจะดูของใครก่อนดี” จ้าวจิ้งอี๋พูดแล้วหันไปมองหยางหยาง
เห็นสีหน้าท่าทางของหยางหยางเงียบขรึมอย่างเห็นได้ชัด เธออดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะในใจ ยังจะแสร้งทำเป็นนิ่งอีก ถึงเวลาที่นายจะมีสีหน้าอมทุกข์แล้ว
หยางหยางพูดด้วยท่าทางใจกว้างเป็นอย่างมาก “อาสามของฉันเคยสอนว่าต้องให้สุภาพสตรีก่อน เห็นท่าทางของเธอแล้วน่าจะสอบได้ไม่แย่สินะ”
จ้างจิ้งอี๋พยักหน้าอย่างได้ใจ “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ปกติฉันก็เรียนดีอยู่แล้ว เพียงแต่ก่อนสอบฉันได้ทบทวนบทเรียน หัวข้อการสอบในครั้งนี้ฉันสามารถพูดได้ว่าทำได้หมด ไม่อาจพูดได้ว่าจะได้คะแนนเต็ม แต่ก็ขาดไปไม่เท่าไรหรอก เป่หมิงซีหยาง สามอันดับแรกทั้งชั้นปีจะต้องมีชื่อฉันอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน สำหรับนายน่ะหรือ……เหอะๆ รอดูโชคชะตาเถอะ”
เธอพูดแล้วก็ถอดบัตรประจำตัวนักเรียนที่แขวนอยู่บนคอออกมาวางลงบนเครื่องอ่านบัตรตรงเครื่องตรวจสอบ
ในไม่ช้าบนหน้าจอก็แสดงภาพคะแนนสอบของจ้าวจิ้งอี๋ออกมาว่าได้ 298
นัยน์ตาของทั้งสามคนมองไปยังหน้าจอแสดงผล
“เหอะๆ เป่หมิงซีหยางเห็นหรือเปล่า 298 คะแนน เป็นอย่างไร สูงมากใช่ไหมล่ะ” จ้าวจิ้งอี๋กดปุ่มตรวจสอบลำดับของคนทั้งโรงเรียนอย่างอิ่มอกอิ่มใจ
“ว้าว อยู่ในลำดับที่สองของทั้งชั้นปี! นายก็เตรียมตัวเป็นผู้ติดตามของฉันเถอะ แต่ว่านายวางใจได้ ฉันที่เป็นลูกพี่ใหญ่ของนายจะไม่รังแกนายหรอก เพียงแค่ให้นายถือกระเป๋านักเรียนแทนฉัน ซื้ออาหารเช้าอาหารกลางวันอะไรพวกนี้แทนฉันเท่านั้นเอง ล้วนเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ”
เธอในตอนนี้นั้นยิ้มแย้มเบิกบาน เหมือนกับว่ากำชัยชนะเอาไว้ในมือแล้วอย่างไรอย่างนั้น
เฉิงเฉิงเห็นแล้วก็แอบเป็นกังวลแทนหยางหยางอยู่บ้าง
***
หยางหยางเหลือบมองหน้าจอแสดงผลครั้งหนึ่ง “มีอะไรน่าอัศจรรย์กัน ก็แค่ลำดับที่สองของชั้นปีไม่ใช่หรือ”
แม้ว่าปากเขาจะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็แอบขนลุกเบาๆ เขาก็เข้าใจว่าสามลำดับแรกของชั้นปีไม่ใช่ว่าทำได้ง่ายๆ ก่อนหน้านี้จ้าวจิ้งอี๋ไม่เคยทำได้มาก่อน สามลำดับแรกนี้ล้วนถูกคนอื่นๆในชั้นปีครอบครองเอาไว้ ตอนนี้เธอขึ้นมาแล้ว สามคนนี้ก็จำเป็นต้องไปอยู่ในลำดับอื่นๆ ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นล่ะก็ ตัวเองก็ยุ่งยากแล้วจริงๆ
แม้ว่าหัวข้อการสอบครั้งนี้เขาจะตอบได้ทั้งหมด แต่ว่าที่สำคัญคือถูกหรือผิดนั้นไม่มีความมั่นใจอะไรเลย
หรือว่าครั้งนี้เขาจะต้องเป็นผู้ติดตามของเธอจริงๆเสียแล้ว…..
ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้น หวูเสี่ยวเอ๋อจะมองตัวเองอย่างไร Rebeccaจะมองตัวเองอย่างไร
ภาพลักษณ์แสนมีเกียรติที่สร้างขึ้นมาอย่างไม่ง่ายต้องมาถูกทำลายเสียแล้ว
รู้สึกเสียใจในภายหลังอยู่บ้างจริงๆต่อการมุทะลุในตอนนั้น ทำไมถึงได้พนันเรื่องนี้กับจ้าวจิ้งอี๋กัน ไม่ใช่มีคำพูดว่า ‘ลูกผู้ชาย 10ปี ล้างแค้นยังไม่สาย’ หรือ ไม่ต้องพูดสิบปี กระทั่งครึ่งปีก็ยังอดทนไม่ไหวแล้ว
“เฮ้ เป่หมิงซีหยาง ฉันดูเสร็จแล้ว ตอนนี้ถึงตานายแล้ว อย่าบอกฉันเชียวนะว่าตอนนี้นายไม่กล้าดูแล้ว ได้ ในเมื่อนายไม่กล้าให้พวกเราดู อย่างนั้นฉันก็ไม่ฝืนใจนาย ความกล้าน้อยนิดขนาดนี้ยังจะอยากเป็นลูกพี่ใหญ่ของคนอื่น ช่างน่าขายหน้าจริงๆ”
คำประชดของจ้าวจิ้งอี๋ก็เหมือนกับเข็มเล่มหนึ่งทิ่มลงมาบนใจของหยางหยาง
ที่จริงแล้วตัวเองไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวอะไร
“เฮ้ ลูกพี่ใหญ่ คุณก็มาดูคะแนนที่นี่ด้วย คุณสอบเป็นอย่างไรบ้าง ให้ผมดูหน่อย” ตอนนี้เองที่หวูเสี่ยวเอ๋อวิ่งมาจากที่ไกลๆ เขามาถึงข้างกายหยางหยางแล้วตบลงบนไหล่เขาเบาๆ
“นายยังเรียกเขาว่าลูกพี่ใหญ่หรือ หลังจากนี้นายกับเขาล้วนต้องเปลี่ยนคำ เรียกฉันว่าลูกพี่ใหญ่แล้ว” จ้าวจิ้งอี๋นั้นปฏิบัติกับคนอย่างไม่ไหวหน้าแล้ว
หวูเสี่ยวเอ๋อที่ได้ยินก็มึนงงสับสน
ไม่เพียงแต่เท่านี้ Rebeccaก็ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน ตอนแรกที่พนันกันเธอก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
เธอเห็นหยางหยางแล้วก็เอ่ยถามประโยคแรกว่า “หยางหยาง สรุปว่าการพนันระหว่างนายกับเธอใครเป็นผู้ชนะกัน”
คำถามทำให้หยางหยางงงงวยพูดอะไรไม่ออก
“ตอนนี้เขาไม่กล้าให้พวกเราได้รู้ ฉันสอบได้อันดับที่สองของทั้งชั้นปี ดูท่าการอยู่ในสามลำดับแรกของเขานั้นมีไม่มากแล้ว” จ้าวจิ่งอี้ลงมีดอีกฉับหนึ่ง
หยางหยางมองคนที่อยู่ข้างกายตัวเอง จากนั้นก็ไม่สนใจอะไรแล้ว “ก็แค่ดูคะแนนของฉันไม่ใช่หรือไงกัน มีอะไรวิเศษกัน” หยางหยางพูด เขาวางบัตรของตัวเองลงบนเครื่องอ่านบัตร
ในไม่ช้าคะแนนก็ปรากฏออกมา
นัยน์ตาห้าคู่ล้วนมองไปทางหน้าจอแสดงผล
“295 คะแนน! ลูกพี่ใหญ่ ขาดแค่ 5 คะแนนก็จะได้คะแนนเต็มแล้ว ลูกพี่เก่งมากเลย” หวูเสี่ยวเอ๋อเห็นคะแนนแล้วก็อดไม่ได้ที่จะชมเชยประโยคหนึ่ง
จ้าวจิ้งอี๋เห็นคะแนนนี้แล้ว ในใจของเธอก็สงบลงในที่สุด จากนั้นก็เอ่ยอย่างเย่อหยิ่งว่า “295 มีอะไรวิเศษกัน ฉันสอบได้ 298 คะแนน อันดับสองของทั้งชั้นปี เป่หมิงซีหยาง ระหว่างพวกเราห่างกัน 3 คะแนน ถ้าหากว่าตรงกลางมีคนเข้ามาเบียดสักคนหนึ่ง นายก็จบแล้ว”
ในใจหยางหยางก็เข้าใจ ความแตกต่างของ 3 คะแนน พูดว่ามากก็ไม่มาก น้อยก็ไม่น้อย แม้ว่าจะห่างกัน 1 คะแนน ก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้เช่นกัน
เฉิงเฉิงนั้นมองน้องชายตัวเองอย่างเห็นอกเห็นใจครั้งหนึ่ง ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่อธิษฐานให้ตัวเองแล้ว
“มีอะไรให้ภูมิใจกัน ยังไม่ดูผลลัพธ์ในตอนท้าย ฉันก็ยังไม่แพ้” หยางหยางในตอนนี้ร้อนใจแล้ว เขาพูดแล้วก็รีบกดปุ่มดูลำดับรายชื่อ
“อันดับสามของทั้งชั้นปี! อิอิ จ้าวจิ้งอี๋ ฉันจะดูว่าเธอจะทำอย่างไร!”
***
สถานการณ์ในตอนนี้สามารถพูดได้ว่าเป็นเหตุการณ์ผกผันครั้งใหญ่อันน่าตกตะลึง
ใครจะไปคิดว่าภายใต้ความแตกต่างกัน 3 คะแนนนี้ หยางหยางยังจะสามารถได้คะแนนที่อยู่ในลำดับที่สามของทั้งชั้นปีอีก
ถ้าหากว่าเป็น Genius Junior Class ที่เฉิงเฉิงอยู่แล้วล่ะก็ แม้ว่าจะเป็น 1 คะแนน ก็จะกลายเป็นความแตกต่างที่ห่างชั้นกันมากได้
หยางหยางเดิมนั้นจิตใจหดหู่หม่นหมองเล็กน้อย กระทั่งเตรียมใจแล้วว่าจะเรียกจ้าวจิ้งอี๋ต่อหน้าผู้คนมากมายว่า ‘ลูกพี่ใหญ่’
แต่แบบนี้ดูเหมือนกับว่าจะคว้าฟางที่เป็นความหวังสุดท้ายได้อย่างไรอย่างนั้น