เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 843 เตรียมปฏิบัติการ
ตอนที่ 843 เตรียมปฏิบัติการ
กู้ฮอนมองลูกๆทั้งสามคนแล้วก็ยิ้มบางๆ เอาชนะพวกเขาไม่ได้เลยจริงๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็คงต้องทำตามความต้องการของพวกเขาแล้ว
ในไม่ช้าเธอกับแอนนิก็ปูฟูกสองหลังไว้ที่พื้นและเตรียมผ้าห่มให้กับเด็กๆเรียบร้อย
เด็กทั้งสามคนก็อาบน้ำอย่างรวดเร็วเช่นกัน
นี่นับเป็นครั้งแรกที่สามพี่น้องได้นอนด้วยกัน มากน้อยอย่างไรก็ยังมีบรรยากาศน่าตื่นเต้นและแปลกใหม่อยู่บ้าง
เฉิงเฉิงและหยางหยางแยกกันนอนคนละข้าง จิ่วจิ่วนั้นนอนอยู่ตรงกลาง
เบลล่าเห็นเหตุการณ์แล้วก็ดูเหมือนว่าอยากจะเข้ามาร่วมสนุกด้วย
ในปากมันคาบเบาะนอนที่ฉิงฮัวเตรียมเอาไว้ให้อย่างเรียบง่ายเอาไว้ ค่อยๆลากไปถึงข้างกายหยางหยาง
“หม่ามี๊ จะนอนกับพวกเราไหมคะ” จิ่วจิ่วซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มแล้วเงยหน้ามองกู้ฮอน
กู้ฮอนยิ้มบางๆ พลางย่อตัวลง มองไปที่ลูกๆทั้งสามคน “หม่ามี๊ยังมีธุระต้องไปทำต่อ คงจะไม่ได้นอนกับพวกลูก พวกลูกก็นอนเถอะนะ”
เธอเอ่ยแล้วยืดตัวขึ้นเดินลงไปที่ชั้นล่างพร้อมกับแอนนิ
เมื่อเห็นพวกคุณแม่จากไปแล้ว เด็กทั้งสามคนก็ไม่มีอาการง่วงหงาวหาวนอนแต่อย่างใด บางทีอาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมหรือความรู้สึกแปลกใหม่
เพียงแต่หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว……
“เฉิงเฉิง นายหลับแล้วหรือ” หยางหยางเหลือบมองเบลล่าที่หมอบหลับปุ๋ยอยู่ข้างกายตัวเองแล้วก็หันหน้าหาเฉิงเฉิงที่ถูกคั่นโดยจิ่วจิ่ว พลางเอ่ยถาม
เฉิงเฉิงส่ายหน้า “ฉันนอนไม่หลับ”
“จิ่วจิ่วล่ะ”
เฉิงเฉิงและหยางหยางหันไปมองน้องสาวพร้อมกัน
เห็นเธอมีท่าทางง่วงเป็นอย่างมากแต่ก็ยังฝืนทำให้ตัวเองสดชื่น ตอบกลับว่า “หนูยังไม่นอน เพียงแต่รู้สึกว่าง่วงมากจริงๆ……”
เฉิงเฉิงตบหลังจิ่วจิ่วเบาๆ “ถ้าน้องง่วงแล้วก็นอนเถอะนะ”
จิ่วจิ่วพยักหน้า อ้าปากหาวแล้วหันศีรษะไป หลังจากนั้นไม่นานก็หลับไป
เมื่อเห็นน้องสาวหลับไปแล้ว หยางหยางก็เอ่ยเสียงเบากับเฉิงเฉิงว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่”
เฉิงเฉิงถอนหายใจเสียงเบา “ฉันเป็นห่วงคุณพ่อ ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง”
“ไม่อย่างนั้นพวกเราไปเยี่ยมคุณพ่อในวันพรุ่งนี้กัน” หยางหยางโพล่งออกมาโดยไม่ทันได้ไตร่ตรอง
“แต่พวกเราไม่รู้ว่าคุณพ่อถูกขังอยู่ที่ไหน”
“เฉิงเฉิง ปกตินายฉลาดมากไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้ถึงได้ซื่อบื้อขึ้นมาเสียล่ะ ไม่ใช่ว่ามีคุณลุงหัวฟูอยู่หรือ เขาจะต้องรู้อย่างแน่นอน พวกเราไปหาเขาก็ได้คำตอบแล้ว”
หยางหยางพูด เลิกผ้าห่มออกจากตัวแล้วเดินมาหยุดอยู่ข้างกายเฉิงเฉิงเบาๆ “พรุ่งนี้พวกเราโทรศัพท์ไปหาคุณลุงหัวฟู ให้เขาพาพวกเราไปเยี่ยมคุณพ่อก็ได้แล้ว เพียงแต่ว่าเรื่องนี้พวกเราจะต้องเก็บเป็นความลับ ไม่สามารถให้คุณแม่รู้ได้ ยังต้องให้คุณป้าแอนนิกับคุณป้าเฉียวเฉียวปิดเป็นความลับด้วย”
“อย่างนั้นจิ่วจิ่วจะทำอย่างไร” เฉิงเฉิงพูด มองไปทางน้องสาวที่หลับสนิทไปแล้ว
ตอนนี้คุณพ่อยังไม่รู้ถึงการคงอยู่ของน้องสาวเลย
“น้องสาวก็ให้คุณป้าแอนนิช่วยดูแลไปก่อนสักพัก พวกเราออกไปแค่ครึ่งวันก็กลับมาแล้ว นายคิดว่าเป็นอย่างไร”
เฉิงเฉิงคิดแล้วสุดท้ายก็พยักหน้า “โอเค เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ตอนนี้เวลาก็ดึกแล้ว พวกเราควรจะนอนได้แล้ว พรุ่งนี้รอคุณแม่ไปทำงานแล้ว พวกเราค่อยเริ่มปฏิบัติการ นายก็อย่านอนขี้เซาอยู่บนเตียงจนทำให้เรื่องล่าช้าเสียล่ะ”
หยางหยางเห็นว่าเฉิงเฉิงพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของตัวเองแล้ว “นายวางใจเถอะ ฉันไม่นอนขี้เซาไม่ยอมตื่นหรอกน่ะ”
*
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากกู้ฮอนทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นมาที่ห้องใต้หลังคาเบาๆ เห็นว่าเด็กๆยังคงหลับสนิทอยู่
***
หลังจากกู้ฮอนหมุนตัวลงไปที่ชั้นล่างแล้ว หยางหยางก็ลืมตาขึ้นมาในทันที
เขากลิ้งตัวออกมาจากผ้าห่ม
“ชู่ อย่าส่งเสียงไป” หยางหยางเอ่ยเสียงเบาใส่เบลล่าที่กระพริบตาพริบๆมองตัวเอง
เบลล่าสะบัดห่างไปมา แสดงให้เห็นว่าฟังเข้าใจแล้ว
หยางหยางหันหน้าไปมองจิ่วจิ่วที่อยู่ข้างไกล เธอยังคงนอนหลับปุ๋ยอยู่
เขาเดินไปที่ข้างกายของเฉิงเฉิงเบาๆ “เฮ้ นายตื่นหรือยัง ถึงเวลาแล้ว พวกเราควรจะออกเดินทางได้แล้วนะ”
ที่จริงเฉิงเฉิงก็ตื่นตั้งนานแล้ว “อย่าเพิ่งวู่วาม รอดูลาดเลาก่อน นายก็เสียงเบาหน่อย อย่าเสียงดังปลุกให้น้องสาวตื่น”
เขาเอ่ย พลางกลิ้งตัวออกมาจากผ้าห่มอย่างเงียบๆ สวมเสื้อผ้าอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็เดินไปที่ข้างหน้าต่างบานเล็กๆ
ก็เห็นว่าที่ชั้นล่าง คุณแม่เพิ่งจะเดินออกมาจากตัวบ้าน
ด้านหลังเธอยังมีแอนนิตามมาด้วย หลังจากพวกเธอหยุดอยู่ที่ด้านล่างชั่วครู่ กู้ฮอนก็ขับรถออกไป
เฉิงเฉิงหันกลับมาเรียกหยางหยาง ทั้งสองคนเดินลงไปที่ชั้นล่างอย่างเงียบเชียบ
ในห้องรับแขกไม่มีใครอยู่สักคนเดียว ตอนนั้นเองที่แอนนิเดินเข้ามาจากด้านนอก
“เฉิงเฉิง หยางหยาง ทำไมพวกเธอถึงตื่นเช้ากันล่ะ ไม่นอนนานกว่านี้อีกหน่อยหรือ”
เฉิงเฉิงเหลือบมองหยางหยาง จากนั้นก็พูดกับแอนนิว่า “วันนี้ผมกับหยางหยางมีธุระต้องออกไปข้างนอก ขอร้องให้คุณป้าแอนนิไม่บอกกับคุณแม่ได้ไหมครับ”
แอนนิมองเฉิงเฉิงอย่างสงสัย “พวกเธอจะทำอะไร ยังต้องปิดบังคุณแม่ของเธอด้วยหรือ”
เฉิงเฉิงลังเลอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้ว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับคุณป้าแอนนิหรือไม่
หยางหยางเห็นท่าทางแบบนี้ของเฉิงเฉิงแล้วก็รู้สึกรำคาญขึ้นมาบ้าง “ไอ้หยา คุณป้าแอนนิก็ไม่ใช่คนนอก ยังจะมีอะไรต้องปิดบังเธอกัน”
หยางหยางพูดแล้วก็เอ่ยกับแอนนิว่า “เป็นแบบนี้ครับ ผมกับเฉิงเฉิงจะไปเยี่ยมคุณพ่อสักหน่อย แต่ก็กลัวว่าถ้าคุณแม่รู้แล้วจะไม่สบายใจ ดังนั้นจึงคิดจะแอบไปอย่างเงียบๆครับ”
แอนนิเข้าใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าเป่หมิงโม่จะเป็นอย่างไร แต่ในใจของเด็กๆก็ยังคงเป็นห่วงเขามาก
“พวกเธอยังเด็ก รู้ไหมว่าจะไปอย่างไร”
“พวกเราเตรียมไปหาคุณลุงฉิงฮัวครับ เขารู้ว่าคุณพ่ออยู่ที่ไหน คุณป้าแอนนิวางใจได้ครับ พวกเราไปแค่ครึ่งวันเดี๋ยวก็กลับมา”
แอนนิพยักหน้า “โอเค ในเมื่อพวกเธอตัดสินใจแล้ว อย่างนั้นก็รีบไปรีบกลับล่ะ”
เฉิงเฉิงพยักหน้า “ขอบคุณครับคุณป้าแอนนิ ยังคงต้องรบกวนคุณให้ช่วยดูแลน้องสาวแทนพวกเราสักครู่หนึ่งด้วยได้ไหมครับ”
แอนนิมองเฉิงเฉิง พลางยิ้มบางๆแล้วพยักหน้าให้
*
ฉิงฮัวนั้นมาถึงห้องทำงานตั้งแต่เช้า ในเวลานั้นกู้ฮอนยังมาไม่ถึง
เขากำลังจัดการเอกสารต่างๆที่จำเป็นต้องใช้วันนี้ ในตอนนี้เขาอยู่ในฐานะผู้สนับสนุนกู้ฮอนที่เป็นผู้ถูกเลือกของเป่หมิงโม่
เขารู้ว่าความสามารถของกู้ฮอนมีจำกัด ดังนั้นหลายเรื่องยังต้องให้เขาช่วยเธอจัดเตรียมและจัดการเสียก่อน
ตอนนี้เองที่เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา “ไม่ทราบว่าคุณต้องการพูดกับใครครับ”
“คุณลุงฉิงฮัว ผมเองครับ เฉิงเฉิง”
ฉิงฮัวชะงักไปชั่วครู่ “คุณชายเฉิงเฉิง มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”
“คุณลุงฉิงฮัว ผมกับหยางหยางอยากไปเยี่ยมคุณพ่อ แต่ไม่รู้ว่าคุณพ่ออยู่ที่ไหนในตอนนี้ คุณสามารถพาพวกเราไปเยี่ยมคุณพ่อได้ไหมครับ คุณลุงไม่ต้องลำบากใจไป พวกเราไปเพียงแค่ครึ่งวันก็กลับมาแล้ว ใช่แล้ว เรื่องนี้ยังต้องขอให้คุณลุงอย่าบอกกับคุณแม่ได้ไหมครับ”
คิ้วของฉิงฮัวขมวดเล็กน้อย เขาเข้าใจจิตใจของเฉิงเฉิง เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ “ได้ครับ พวกคุณรอข่าวจากผมก่อน”
*
หยางหยางยืนอยู่ข้างกายเฉิงเฉิง “คุณลุงหัวฟูว่าอย่างไรบ้าง”
เฉิงเฉิงเก็บโทรศัพท์มือถือ “เขาให้พวกเรารอข่าวจากเขาก่อน”
*
เมื่อฉิงฮัวเก็บโทรศัพท์มือถือแล้ว ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกแล้วกู้ฮอนก็เดินเข้ามา
***
กู้ฮอนเห็นว่าฉิงฮัวอยู่ด้านในแล้ว ทั้งยังเห็นด้วยว่าโต๊ะของตัวเองที่เมื่อวานค่อนข้างโล่ง มาวันนี้กลับเหมือนกับโต๊ะตัวนั้นของเป่หมิงโม่แล้ว ที่มีเอกสารวางอยู่ไม่น้อย
นี่น่าจะเป็นงานทั้งหมดที่เธอต้องทำในวันนี้สินะ
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ เมื่อฉิงฮัวชี้นิ้วไปที่โต๊ะของเธอแล้วเอ่ยว่า “คุณผู้หญิง นี่เป็นเอกสารที่ผมจัดเตรียมเอาไว้ จำเป็นต้องผ่านตาคุณก่อน หลังจากลงนามแล้วก็จะดำเนินการได้”
ใบหน้าของกู้ฮอนเผยแววไม่เห็นด้วยออกมา
เดิมเธอคิดว่าตัวเองเป็นแค่ประธานบริษัทชั่วคราวเท่านั้น ก็เหมือนกับหุ่นเชิด หุ่นไล่กาหรือไม่ก็ที่รองกระถางต้นไม้อันหนึ่งเท่านั้น วางเอาไว้ตรงนั้นเฉยๆ อะไรก็ไม่ต้องทำ จากนั้นก็จะมีคนใต้บังคับบัญชาช่วยทำทุกอย่างให้กับตัวเองอย่างเรียบร้อยเอง
ฉิงฮัวมองออกถึงสีหน้าลำบากใจที่กู้ฮอนแสดงออกมาอย่างชัดเจน เขาเข้าใจว่ากู้ฮอนกังวลอะไร
ที่จริงแล้วตอนนี้สิ่งที่เขาเป็นห่วงไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองได้ยินว่าเจ้านายมอบตำแหน่งประธานบริษัทนี้ให้กับกู้ฮอนในตอนแรกอีกแล้ว
เพียงแต่ สิ่งที่เขาเชื่อมั่นเพียงอย่างเดียวก็คือ เจ้านายจะต้องมองคนไม่ผิดอย่างแน่นอน
“คุณผู้หญิง คุณไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร ในเมื่อเจ้านายให้คุณนั่งในตำแหน่งประธานแล้ว ก็อธิบายได้อย่างชัดเจนว่าเขาเชื่อมั่นในความสามารถของคุณมาก เพียงแต่คุณอาจจะยังไม่ค้นพบถึงความสามารถของตัวเองเท่านั้นเอง
ฉิงฮัวเอ่ยถึงตรงนี้แล้วก็ก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง พลางเอ่ยว่า “คุณผู้หญิง คุณอ่านเอกสารพวกนี้ไปคร่าวๆสักรอบก่อน ถ้าหากว่าไม่แน่ใจ รอผมกลับมาช่วยคุณดูนะครับ ตอนนี้ผมยังมีธุระเล็กน้อยจำเป็นต้องออกไปข้างนอกสักครึ่งวัน”
กู้ฮอนเห็นว่าเรื่องดำเนินมาจนถึงตอนนี้แล้วก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก ทำได้เพียงแค่พยักหน้า “ก็ได้ ฉันจะอ่านก่อนก็แล้วกัน”
*
หลังฉิงฮัวขับรถออกมาจากบริษัทเป่หมิง เลี้ยวไปที่มุมถนนมุมหนึ่งแล้วก็หยุดรถที่ริมถนน
“คุณชายเฉิงเฉิง ให้ผมรอพวกคุณที่ไหนครับ”
เฉิงเฉิงและหยางหยางเพิ่งจะทานอาหารเช้าเสร็จนั้นก็กำลังนั่งรอโทรศัพท์จากฉิงฮัวอย่างร้อนใจในห้องรับแขก
ในตอนนั้นแอนนิก็ขึ้นไปอยู่เป็นเพื่อนจิ่วจิ่วที่ชั้นบนแล้ว
“เฉิงเฉิง นายว่าคุณลุงหัวฟูจะถูกคุณแม่ใช้ให้ไปทำงานหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะ พวกเราจะทำอย่างไรกันดี” สายตาของหยางหยางจ้องมองอยู่ที่นาฬิกาบนผนังตลอด เขารอจนใกล้จะหมดความอดทนแล้ว
เฉิงเฉิงนั้นกลับมีท่าทางสงบนิ่งเป็นอย่างมาก “นายอดทนรอดูเหตุการณ์ไปก่อน แม้ว่าที่คุณแม่จะมีเรื่องให้เขาต้องทำ เขาก็จะโทรศัพท์มาหาฉันสายหนึ่ง รออีกสักพักก่อน”
คิดไม่ถึงเลยว่าเฉิงเฉิงเพิ่งจะเอ่ยจบ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นมา
เฉิงเฉิงส่งสายตาให้กับหยางหยาง จากนั้นก็รับโทรศัพท์ “คุณลุงฉิงฮัว ที่บริษัทมีเรื่องให้ทำมากมายใช่ไหมครับ ไม่อย่างนั้นพวกเราค่อยนัดเวลากันคราวหน้าอีกทีก็ได้ครับ”
“ไม่ต้องครับ ตอนนี้ผมขับรถออกมาแล้ว พวกคุณเตรียมตัวให้พร้อม ผมจะขับรถไปรอพวกคุณที่ปากทางเข้าชุมชนครับ”
*
ตอนที่ฉิงฮัวขับรถกลับมาถึงปากทางเข้าชุมชนนั้น เฉิงเฉิงกับหยางหยางก็มารออยู่ที่นี่แล้ว
“คุณลุงหัวฟู ความเร็วในการขับรถของคุณนั้นห่างชั้นกับคุณพ่อมาก ระยะทางแค่นี้ยังใช้เวลาขับนานขนาดนี้” หยางหยางเข้าไปนั่งในรถแล้วก็เริ่มบ่น
ฉิงฮัวนั้นมีอาการกระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด ที่จริงแล้วความเร็วในการขับรถของเขาก็ไม่ได้ช้า เพียงแต่ว่าตอนนี้เป็นถึงช่วงเวลาเร่งด่วนไปทำงาน ถนนเส้นที่ขับมาจึงติดขัดอยู่บ้างเท่านั้นเอง
เฉิงเฉิงที่นั่งอยู่ที่เบาะด้านหลังเอ่ยว่า “คุณลุงฉิงฮัว ไม่ต้องสนใจเขาครับ พวกเราไปเยี่ยมคุณพ่อกันเถอะ”
ฉิงฮัวพยักหน้า เขาขับรถไปมุ่งหน้าไปยังสถานีตำรวจที่ใช้คุมขังเป่หมิงโม่ชั่วคราว
*
นับตั้งแต่เป่หมิงโม่ถูกนายตำรวจพากลับมาที่สถานีตำรวจแล้วก็นิ่งเงียบมาตลอด
เพียงแต่ในฐานะที่เขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในเมือง A ทางตำรวจจึงยังค่อนข้างเกรงใจเขา
***
แม้ว่าทางตำรวจจะมีหลักฐานชัดเจนแล้ว แต่เป่หมิงโม่ไม่ยอมรับผิด ดังนั้นจึงไม่สามารถปฏิบัติต่อเขาเหมือนกับนักโทษคนอื่นๆได้
เขาไม่ได้ถูกคุมขังในอยู่ในคุกชั่วคราว แต่พักอยู่ในห้องพักผ่อนของนายตำรวจคนหนึ่ง
ที่นี่มีเครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์…….เหมือนกันกับห้องพักสแตนดาร์ดในโรงแรมห้องหนึ่ง
เพียงแต่บริเวณหน้าประตูห้องเขา จะมีนายตำรวจเข้าเวรอยู่ที่นี่ตลอด 24 ชั่วโมง
หลังจากที่ผ่านการพูดคุยกับเขาเรื่องคดีความไปแล้ว ก็พบว่าคดีนี้ค่อนข้างจะตึงมือจริงๆ
เพราะทางตำรวจมีหลักฐานเป็นของกลางและคลิปวิดีโอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนไม่เป็นผลดีต่อเขา