เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 845 ประกาศหาคู่แต่งงาน
ตอนที่ 845 ประกาศหาคู่แต่งงาน
เธอคลำหาอยู่นานสองนาน สุดท้ายก็หาหมอนมาได้ใบหนึ่ง จากนั้นก็โยนไปทางหยางหยาง
เพียงแต่ว่าหยางหยางยังอายุน้อย ตาไวมือเร็วรับหมอนเอาไว้ได้ “ฮิฮิ คุณป้าเฉียวเฉียว คุณป้าก็ออมแรงไว้หน่อยเถอะครับ นี่มันอันตรายเกินไปแล้วจริงๆ ข้าขอตัวไปก่อนแล้วนะ……”
หยางหยางพูดพลางเลียนแบบท่าทางของซุนหงอคงจากในโทรทัศน์ วิ่งอ้อมโซฟามุ่งหน้าไปยังบันไค
“หยางหยาง เธอจะไปไหน ไม่กินข้าวแล้วหรือเธอ” แอนนิรีบเรียกหยางหยางให้หยุด
จากนั้นก็ยิ้มให้กับลั่วเฉียว พลางเอ่ยว่า “ลั่วเฉียว เธอก็จริงๆเลยนะ มาทะเลาะตบตีอะไรกับเด็กกัน”
ลั่วเฉียวส่งเสียงหึเบาๆ “พูดแบบนี้ไม่ได้นะ ระหว่างพวกเราผู้หญิงไม่มาสนใจเรื่องพวกนี้หรอกนะ ต้องเทียบกันว่าใครเก่งกว่าด้อยกว่าออกมา”
“เอาเถอะ เอาเถอะ เธอก็เปลี่ยนความโกรธให้เป็นความหิวแล้วกัน ไป พวกเราไปทานข้าวกันเถอะ” แอนนิพูดพลางประคองลั่วเฉียวให้ลุกขึ้นจากโซฟา
“น้องสาว พี่ชายจะพาเธอไปทานข้าวนะ” เฉิงเฉิงยื่นมือออกไปจับมือเล็กของจิ่วจิ่วเอาไว้แล้วเดินตามไปห้องอาหาร
ผ่านความปั่นป่วนเหมือนกับละครเรื่องหนึ่งมาเมื่อครู่แล้ว จิ่วจิ่วก็ถูกหยางหยางทำให้หัวเราะอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย
*
หลังจากทานข้าวแล้ว จิ่วจิ่วก็ตามติดอยู่ข้างกายเฉิงเฉิงและหยางหยางเป็นเงา ไม่ยอมห่างแม้แต่ครึ่งก้าว
นับตั้งแต่ที่พวกเขามาถึงที่นี่ จิ่วจิ่วก็ไม่ได้ไปเดินวนอยู่รอบๆแอนนิทั้งวันอีกแล้ว กระทั่งตอนที่เฉิงเฉิงและหยางหยางทำธุระของตัวเอง ไม่มีเวลาว่างไปสนใจจิ่วจิ่ว แต่เธอก็ยังยินดีที่จะอยู่รอบตัวพวกเขา
ความอดทนของเด็กนั้นมีขีดจำกัด ช่วงเวลาหนึ่งนั้นจิ่วจิ่วรู้สึกทนไม่ไหวขึ้นมาบ้างแล้ว เธอไม่หวังว่าพี่ชายมาแล้วจะไม่สนใจตัวเอง เหมือนกับว่าตัวเองไม่เคยมีตัวตนมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น
เธอเดินมาถึงข้างโต๊ะเรียนหนังสือของเฉิงเฉิง เฉิงเฉิงในตอนนี้นั้นเริ่มทบทวนบทเรียนของเทอมหน้าแล้ว
“พี่เฉิงเฉิง เล่นกับหนูสักครู่หนึ่งเถอะนะ” เธอเอ่ยพลางยื่นมือเล็กๆออกไปดึงชายเสื้อของเฉิงเฉิง
เฉิงเฉิงวางหนังสือลง ยิ้มให้กับจิ่วจิ่วบางๆ “จิ่วจิ่วเด็กดี พี่ชายกำลังเรียนอยู่นะ อีกสักครู่จะไปเล่นกับน้องดีไหมคะ ไม่อย่างนั้นน้องก็ไปหาหยางหยางเถอะ ปกติเขาไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว น่าจะมีเวลาว่างมาเล่นกับน้องนะ”
เพียงแต่เมื่อสิ้นสุดประโยค หยางหยางก็โต้กลับมาจากอีกมุมหนึ่งของห้อง “นายรู้ได้อย่างไรว่าฉันไม่มีอะไรทำ”
***
สามารถทำให้หยางหยางพูดออกมาได้ว่ามีเรื่องให้ทำนั้นทำให้เฉิงเฉิงตกตะลึงอยู่บ้าง
เขาลุกขึ้นจากที่นั่งของตตัวเอง ยื่นมือไปจับมือของน้องสาวแล้วเดินไปหาหยางหยาง เขาอยากจะดูว่าหยางหยางทำอะไรอยู่กันแน่
เห็นเพียงแค่เขาพิมพ์ตัวหนังสืออยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว บางครั้งก็เงยหน้าขึ้นมากลอกตามองบน เหมือนกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่
รอจนพวกเขาเดินมาถึงข้างกายหยางหยางแล้ว เฉิงเฉิงก็มองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ชั่วขณะนั้นบนหน้าผากของเขาก็มีเส้นเอ็นปูดขึ้นมาหลายเส้น
เมื่อเห็นว่าเว็บไซต์ที่แสดงผลอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของหยางหยางก็คือเว็บหาคู่ที่มีชื่อเสียงภายในประเทศเว็บไซต์หนึ่ง
ส่วนหยางหยางนั้นกำลังแก้ไขตัวอักษรในนั้นอยู่
เขาอยู่ห่างจากหยางหยางไกลเล็กน้อย จึงไม่สามารถอ่านบทความทั้งหมดนั้นได้ แต่ก็สามารถมองเห็นบางส่วนเช่น “ต้องการหาชายหนุ่มที่สุขภาพแข็งแรง หน้าตาดูดีมาเป็นคู่คนหนึ่ง……” ประเภทนี้
“หยางหยาง นายกำลังทำอะไร” เฉิงเฉิงรู้สึกได้ในทันทีว่า แปดส่วน เจ้าหมอนี่กำลังสร้างเรื่องอีกแล้ว
หยางหยางไม่ตอบอะไร หลังจากที่พิมพ์ตัวอักษรอย่างรวดเร็วแล้วก็ใช้เมาส์คลิกปุ่ม ‘ส่ง’ บนหน้าเว็บไซต์
หน้าเว็บไซต์เปลี่ยนไป มีคำว่า “อัพโหลดข้อมูลสำเร็จ” ปรากฏขึ้นมาในทันที
ในตอนนี้ หยางหยางถึงจะพยักหน้ามองหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างพออกพอใจ จากนั้นก็ปรบมือแล้วกระโดดลงมาจากที่นั่งของตัวเอง “ฮิฮิ ในที่สุดก็สำเร็จแล้ว”
จากนั้นก็เอ่ยกับเฉิงเฉิงว่า “นายลองดูสิว่ายังมีตรงไหนที่ไม่เหมาะสมหรือไม่”
เฉิงเฉิงเดินไปถึงหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าเย็นเยียบ เห็นว่าบนเว็บไซต์มีรูปภาพของคุณแม่แสดงอยู่รูปหนึ่ง ด้านล่างยังมีตัวอักษรเล็กๆอยู่หลายบรรทัด
หลังจากดูหน้าเว็บไซต์ทั้งหมดแล้ว เฉิงเฉิงก็เกือบจะอดรนทนไม่ได้ที่จะบ้องหูเขาไปสักทีจริงๆ
เขาชี้ไปที่หน้าจอพลางเอ่ยถามว่า “นายอธิบายให้ฉันฟังหน่อยสิว่า นายกำลังทำอะไร!”
หยางหยางนั้นกลับพูดด้วยสีหน้าท่าทางไม่สนใจ “นายไม่รู้หนังสือหรือไงกัน แน่นอนว่าเป็นการประกาศหาคู่แต่งงาน”
เฉิงเฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ค่อยๆเอ่ยว่า “ประกาศหาคู่แต่งงาน….”
จิ่วจิ่วที่ยืนอยู่ข้างกายเฉิงเฉิงถามหยางหยางอย่างอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยว่า “พี่หยางหยาง ประกาศหาคู่แต่งงานคืออะไรหรือคะ”
หยางหยางหัวเราะฮ่าๆ พลางอธิบายให้จิ่วจิ่วฟังว่า “ประกาศหาคู่แต่งงานก็คือพวกเราจะเลือกสามีให้กับคุณแม่คนหนึ่ง และก็เลือกคุณพ่อคนใหม่ให้กับพวกเราคนหนึ่ง”
“ปึก…..”
เฉิงเฉิงในตอนนี้นั้นสุดที่อดรนทนได้แล้วจริง เขาไม่อยากได้คุณพ่อคนใหม่อะไรนั่น ยิ่งไม่อยากให้คุณแม่หาสามีคนใหม่ด้วย เขารู้สึกว่าคุณพ่อของตัวเองดีมากอยู่แล้ว
หมัดหนึ่งของเขาต่อยลงที่หัวไหล่ของหยางหยาง
หยางหยางที่ไม่ได้ตั้งรับก็ถูกเขาต่อยจนถอยร่นไปหลายเมตรจนเกือบจะล้มลง
ตอนนี้เองที่หยางหยางสีหน้าเปลี่ยน ดวงตาเขาเบิกโต “เป่หมิงซีเฉิง นายทำอะไรของนายกัน”
“ฉันทำอะไรหรือ ฉันก็จะสั่งสอนนายเหมือนพี่ชายคนหนึ่งน่ะสิ!” เขาเดินไปทางหยางหยางอย่างโมโห
นี่ทำให้จิ่วจิ่วตกใจค้างไปแล้ว เธอไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เดิมพี่ชายสองคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำไมถึงได้ชกต่อยกัน
“พี่ชาย…..หม่ามี๊บอกว่าการทะเลาะกันเป็นเด็กไม่ดี หม่ามี๊ไม่ชอบเด็กที่ชกต่อยกัน……” จิ่วจิ่วก็ไม่อยากเห็นพวกเขาเป็นแบบนี้
เธอพูดพลางวิ่งไปถึงข้างกายเฉิงเฉิง มือเล็กๆออกแรงดึงปกคอเสื้อของเฉิงเฉิงเอาไว้
แม้ว่าเฉิงเฉิงจะโกรธมาก แต่เมื่อเผชิญหน้ากับจิ่วจิ่ว เขาก็ไม่สามารถระบายความโกรธลงที่เธอได้
เขาหยุดฝีเท้า แต่ยังคงถลึงตามองหยางหยาง พลางเอ่ยถาม “นายหมายความว่าอย่างไร อยากให้ครอบครัวนี้บ้านแตกสาแหรกขาดใช่หรือไม่! ฉันจะบอกนายให้นะว่ามีฉัน เป่หมิงซีเฉิงอยู่ จะไม่ยอมอนุญาตให้นายทำอะไรไร้สาระอย่างแน่นอน!”
***
หยางหยางถูกชกอย่างไม่มีเหตุผลไปหมัดหนึ่งก็เริ่มโมโหจนขนพอง
เขาถลึงตามองเฉิงเฉิงพลางเอ่ยว่า “พวกเราถือว่าเป็นครอบครัวด้วยหรือ นายเกิดมาก็ไม่มีแม่ ฉันเกิดมาก็ไม่มีพ่อ ฉันหวังดีหาคุณพ่อให้พวกเราแล้วจะทำไมกัน ตอนแรกที่พ่อปู้ฝันจะขอคุณแม่แต่งงาน นายไปอยู่ที่ไหนกัน ไม่ใช่ว่าเห็นด้วยหรือ ทำไมพอถึงตอนนี้ นายถึงได้ใช้อำนาจบาตรใหญ่ออกมาเสียล่ะ บอกว่าไม่เอาก็ไม่เอา ฉันจะบอกนายให้นะว่า ฉันจะประกาศหาคู่แต่งงานให้คุณแม่ หาคุณพ่อให้ฉันกับน้องสาว สำหรับนายจะเอาก็เอา ไม่เอาก็ตามใจนาย!”
เขาพูดพลางเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าเฉิงเฉิงด้วยความโกรธ ยื่นมือดึงจิ่วจิ่วมาข้างตัวเอง “น้องสาว พวกเราไม่ต้องสนใจเขา เขาไม่อยากได้คุณพ่อ แต่พวกเราอยากได้ ไป พี่จะพาเราไปเล่นข้างนอก”
จิ่วจิ่วถูกสถานการณ์เมื่อครู่ทำให้มึนงงสับสน เธอไม่เคยเห็นพี่ชายทั้งสองคนทะเลาะกันใหญ่โตแบบนี้มาก่อน
เพียงแต่เธอก็เชื่อฟังคำสั่งเดินตามหยางหยางลงไปด้านล่างเป็นอย่างมาก
เฉิงเฉิงเห็นพวกเขาไปแล้ว หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ความโกรธของเขาก็ลดลงเล็กน้อย
เขาเริ่มเสียใจต่อการกระทำเมื่อครู่นี้
ที่จริงแล้ว การที่หยางหยางทำแบบนี้เพราะหวังดีต่อทุกคน ทุกวันต้องเห็นคุณแม่ออกไปทำงานแต่เช้ากลับบ้านมาก็ดึกคนเดียว ไม่ใช่เพื่อเลี้ยงพวกเขาสามคนพี่น้องหรอกหรือ
แม้ว่าหยางหยางจะอยู่ที่บ้านตระกูลเป่หมิงกับคุณพ่อ แต่ว่าเขาเป็นห่วงคุณแม่มาตลอดไม่ใช่หรือ
แม้ว่าวิธีการแบบนี้ของเขาจะต้องมีการปรึกษาหารือกันในภายหลัง แต่ถึงอย่างไรก็เป็นถึงการคิดทบทวนไปมาอย่างหนักหน่วงของเขานะ
เพียงแต่ เมื่อคิดถึงตรงนี้ ก็นึกถึงคุณพ่อที่ตอนนี้ถูกกักขังเอาไว้ในสถานีตำรวจขึ้นมา
ในใจของเฉิงเฉิงก็รู้สึกเป็นทุกข์ขึ้นมา
*
“หยางหยาง นายเป็นอะไรไป ไม่ขยับตะเกียบสักหน่อยเลยด้วย นี่ไม่ใช่สไตล์ของเธอนิ เธอดูสิ ป้าทำอาหารอร่อยตั้งมากมายเลยนะ” แอนนิมองหยางหยางที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตัวเอง
เห็นใบหน้าเล็กๆนั้นตึงเครียด แตกต่างจากเขาในยามปกติราวกับเป็นคนละคน
มองไปทางเฉิงเฉิง ก็เห็นว่าอารมณ์ของเขาก็ไม่ได้ดีสักเท่าไร เหมือนกับมีเรื่องในใจอย่างไรอย่างนั้น
อีกอย่าง ปกติแล้วเฉิงเฉิงกับหยางหยางนั้นมักจะนั่งอยู่ด้วยกัน แต่วันนี้ระหว่างพวกเขากลับห่างกันสองที่นั่ง
ราวกับว่าจงใจอยู่ห่างจากฝ่ายตรงข้ามอย่างไรอย่างนั้น
“เฉิงเฉิง หยางหยาง ทะเลาะกันอีกแล้วใช่ไหม พวกเธอสองคนเป็นพี่น้องแท้ๆนะ ไม่สามารถทำแบบนี้ได้ พวกเธอจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้องสาวรู้หรือไม่” แอนนิพูดพลางคีบอาหารใส่ชามให้พวกเขาแต่ละคน
ตอนนี้เองที่จิ่วจิ่วเอ่ยปากพูดขึ้นมา “คุณป้าแอนนิ เป็นแบบนี้ค่ะ พี่หยางหยางจะหาคุณพ่อให้กับพวกเรา แต่พี่เฉิงเฉิงไม่ยอมให้พี่เขาทำแบบนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงทะเลาะกันขึ้นมาค่ะ”
“หาคุณพ่อหรือ” ลั่วเฉียวได้ยินแล้วก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
จิ่วจิ่วพยักหน้า พลางเอ่ยต่อว่า “ดูเหมือนว่าพี่ชายหยางหยางจะเขียนประกาศหาคุณพ่อให้พวกเราบนเว็บไซต์”
“ใช้ประกาศหาคุณพ่อหรือ” ลั่วเฉียวครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่แล้วก็เข้าใจได้ขึ้นมาในทันที
เธอหัวเราะพรืดเสียงเบา “จิ่วจิ่ว สิ่งที่เธอพูดถึงน่าจะเป็นลงประกาศหาคู่ให้กับคุณแม่ของเธอบนเว็บไซต์สินะ”
เธอเอ่ยพลางหันไปมองหยางหยาง “ใช้ได้นินา เธอเนี่ย รู้จักหาคู่ให้กับคุณแม่ของเธอแล้วด้วย สำหรับเรื่องนี้ ฉันให้การสนับสนุนเธอนะ คุณแม่ของพวกเธอลำบากเลี้ยงพวกเธอมาจนโตหลายปีแล้ว ไม่มีใครมาดูแลเธอสักคน ตอนนี้ก็ควรจะหาคนมาช่วยเธอสักหน่อยแล้ว”
“ลั่วเฉียว แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ฉันเห็นว่าฮอนดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้นะ ถึงตอนนั้นหาคนมาให้แล้ว แต่เธอไม่ยอมรับจะทำอย่างไร พวกเราควรจะพูดคุยกับเธอก่อนหรือไม่”
***
เทียบกับลั่วเฉียวแล้ว แอนนิเข้าใจจิตใจกู้ฮอนมากกว่า
กู้ฮอนใช้ชีวิตโสดมานานขนาดนี้ ทางหนึ่งก็เพื่อลูก ไม่อยากให้ลูกๆเสียเปรียบหลังจากที่ตัวเองแต่งงานใหม่
แม้ว่าในภายหลัง เธอจะพบกับหยินปู้ฝัน แม้ว่าเขาจะปฏิบัติกับเด็กๆดีมาก กระทั่งในภายหลังก็เกือบจะแต่งงานกันแล้วจริงๆ
แต่การปรากฏตัวของเป่หมิงโม่ กลับทำให้พวกเขาต้องแยกจากกันเสียอย่างนั้น
นับแต่ตั้งนั้นเป็นต้นมา กู้ฮอนก็ไม่มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อีกแล้ว
เพราะเธอรับรู้ได้อย่างเลือนรางว่า เป่หมิงโม่จะไม่ปล่อยเธอไป บางทีเธออาจจะแต่งงานกับคนคนหนึ่งในวันใดวันหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าจะสูญเสียลูกทั้งสองคนไปตลอดกาล
เรื่องราวเหล่านี้ ลั่วเฉียวจะไปรู้ได้อย่างไร เมื่อก่อนเธอไปมาไร้ร่องรอย น้อยมากที่จะสามารถนั่งพูดคุยความในใจกับกู้ฮอนได้อย่างอดทน
แม้ว่าจะมี แต่นั่นก็เป็นกู้ฮอนที่ช่วยเธอแก้ปัญหาเสียส่วนใหญ่
“อย่างนั้นจะทำอย่างไร อีกสักพักฮอนก็จะกลับมาแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเราปิดบังเธอไปก่อนก็แล้วกัน ถึงเวลานั้นถ้าหากมีคนที่พวกเราถูกใจแล้ว ก็ค่อยๆแนะนำให้เธอเป็นอย่างไร ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเป่หมิงโม่นู่น ได้ยินว่าคู่หมั้นของเขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ถ้าหากว่าสามารถอยู่ด้วยกันกับเป่หมิงโม่ได้สองคนจะดีที่สุด โดยเฉพาะลูกก็ล้วนเป็นพวกเขาที่ให้กำเนิดออกมาเอง ไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า เขาจะไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย พวกเราไม่อาจมองฮอน ยึดติดกับคนคนเดียว ไม่ปล่อยวาง อีกทั้งเธอในตอนนี้ก็ยังเยาว์วัย เด็กๆก็ยังเล็กขนาดนี้”