เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่196นัดบอดครั้งที่121
ตอนที่196นัดบอดครั้งที่121
ตอนที่196 นัดบอดครั้งที่12 1
“ผมไม่อยากจากที่นี่ไป ไม่อยากจากปู่ ย่า ไม่อยากจาก พ่อ ไม่อยากจากเพื่อนของผม “เฉิงเฉิงยิ่งพูด เสียงก็ยิ่งเบา ลงเรื่อย ๆ
“เพื่อนเหรอ” เป้หมิงโม่ เลิกคิ้วอย่างไม่แยแส นึกถึงเมื่อ คืนก่อนที่เห็นหนังสือการ์ตูนบนหัวเตียงลูกชาย คิ้วยังคง ขมวดเข้าหากันแน่น “กู้หยางหยาง”
เฉิงเฉิงตกตะลึง เบิกตาโพลง “พ่อรู้จักหยางหยางได้ยัง
ไง”
เป้ หมิงมู่ ห่มในลำคอ”ไอ้คนที่มันให้หนังสือการ์ตูน ปัญญาอ่อนแกเนี่ยเหรอ”
เฉิงเฉิงจ้องมองสีหน้าท่าทางของพ่อ ตาไม่กระพริบ พยัก หน้าอย่างเงียบๆ คิดว่าพ่อคงจะเห็นตอนหยางหยางให้ หนังสือการ์ตูน [Pleasant Goat and Big Big Wolf] เล่ม นั้นกับเขา
“เป่ยหมิงซีเฉิง ถ้ายังอาลัยอาวรณ์เพื่อนอยู่ งานเลี้ยงก่อนที่ จะเดินทาง ผันจะยอมผ่อนผันให้เขามาร่วมงานได้ “เป่หมิง ไม่พูดพลางลุกขึ้นยืน “แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่า หลังจากที่แกเดินทางไปต่างประเทศแล้ว แกต้องตัดขาดความ สัมพันธ์กับเพื่อนทุกคนที่นี่ แกเป็นทายาทรุ่นต่อไปของตระ กูลเปหมิง ฉันไม่อยากให้แกคบเพื่อนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวพว นั้น”
เฉิงเฉิงใบหน้าขาวซีด หัวใจบีบรัดแน่น ไม่กล้าแม้แต่จะ
หายใจ
“พ่อ….” เฉิงเฉิงอยากอ้าปากโต้เถียงพ่อ อยากบอกพ่อ เสียงดังๆว่าหยางหยางไม่ใช่เพื่อนที่ไม่ได้เรื่องได้ราว หยาง หยางก็เป็นลูกของพ่อคนหนึ่ง
“ไม่ต้องปรึกษาอะไร แค่ยอมผ่อนผันให้ครั้งเดียวเท่านั้น “เป้หมิงโม่ตัดบทอย่างเย็นชา แล้วคว้าเสื้อคลุมบนพนัก เก้าอี้ เดินจากไปอย่างสง่างาม
เฉิงเฉิง เม้มริมฝีปาก ใบหน้าสับสนขึ้นเรื่อยๆ จ้องมอง ด้านหลังของพ่อเขม็ง เขาพึมพำกับตัวเองอย่างท้อแท้ว่า”ฉัน ไม่อยากไปต่างประเทศ ฉันไม่อยากไปจากที่นี่ ฉันอยากอยู่ กับแม่กับน้องที่นี่”
ยามพลบค่ำ ลมเย็นพัดโชยเบาๆ
ภายในภัตตาคารร้านอาหารฉงชิ่ง ด้านหน้าประตู คลา คล้ำไปด้วยผู้คน
กู้ฮอนนั่งอย่างเหงาๆ ลงที่หน้าโต๊ะตัวเดิมของเมื่อคืนวันก่อน มองผู้ชายสวมชุดสูทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เอาเถอะ นี่คือนัดบอดครั้งที่12 แล้ว
คืนนี้ ผู้ชายคนนี้ได้ยินมาว่าเป็นโบรกเกอร์ของบริษัทด้าน การบันเทิง อายุ 27 การงานมั่นคง พ่อแม่เสียชีวิตแล้ว
สวัสดีครับ คุณกู้ ผมชื่อหลิวเจ๋อเฉิง ปัจจุบันเป็น โบรกเกอร์ของบริษัทบันเทิงเฉิงเทียน ผมกับหลิวชุ่ยเป็น เพื่อนกันสมัยเรียนมัธยม ตอนที่เธอแนะนำคุณกับผมนั้น ใน ใจผมคิดว่าจะลองดู “หลิวเจ๋อเฉิงเป็นคนตาเล็กหยี หน้าตา ตลกนิดหน่อย” เมื่อสักครู่ได้ยินคุณกู้พูดว่า อยากได้สามีที่ ซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง รวมทั้งรักในครอบครัวและรักลูก อันนี้มัน ตรงกับทัศนคติของผมเลย”
กู้ฮอนเงยหน้าขึ้นมามอง มือที่ถือตะเกียบค้างอยู่อย่างนั้น รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆหลิวเจ๋อเฉิงพูดออกมาแบบนั้น
หลิวเจ๋อเฉิง เกาศีรษะแกรกๆ หัวเราะห์ ๆ ดวงตาหรี่เล็ก เหมือนรอยเย็บ แทบจะมองไม่เห็นเลยทีเดียว “พ่อแม่ผมเสีย ไปตั้งแต่ผมยังเด็ก ปู่ย่าเป็นคนเลี้ยงดูผมจนโต ดังนั้นจึงโหย หาความอบอุ่นจากครอบครัวเป็นพิเศษ ผมจึงหวังว่าจะหา ภรรยาที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่มี ความลับต่อกัน สำหรับผมนั้นคุณกู้เรียกได้ว่าเป็นรักแรกพบ เลยก็ว่าได้”
หล่อนเกือบจะสำลักอาหาร กู้ฮอนกระแอมในคอ แล้วตอบตามมารยาทว่า “ฉันรู้สึกขอบคุณความรักที่คุณหลิวมี ให้จริงๆ แต่ฉันคิดว่าพวกเราสองคนยังต้องใช้เวลาศึกษาก และกันก่อนนะคะ”
“ฮ่า ฮ่า อันนี้แน่นอนครับ หวังว่าจะไม่ทำให้คุณตกใจ “หลิวเจ๋อเฉิงพยักหน้า ยิ้มจนตาแทบปิด” ถ้าอย่างนั้นพวก เราก็อย่าคิดอะไรมาก งั้นคุณเรียกผมว่า เฉิงเจ๋อก็ได้ ผม เรียกคุณว่าฮอนดีมั้ย”
กู้ฮอนพยายามเก็บอาการกลัวจนแล้วเรียกชื่อ เขาเสียงแข็งว่า “เฉิงเจ๋อ”
“ที ๆ ฮอน”หลิวเจ๋อเฉิงเกาศีรษะเขินๆ “ปกติคุณชอบทาน อาหารอะไร ส่วนผมชอบทานเผ็ด ภัตตาคารฉงชิ่งผมเองก็ เคยมาทานกับพวกศิลปินอยู่บ้าง
ทางนี้ ที่อาคารของบริษัท
เป้ เพิ่งจะเสร็จจากการประชุมที่แสนยาวนาน ก็ เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว
“ท่านประธานครับ พรุ่งนี้จะเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ของโครงการหยิงแล้วนะครับ คำตอบล่าสุดของทางตระกูล กู้คือ เรื่องที่คุณกู้ฮอนลาออกเป็นเพราะเหตุผลส่วนตัว ดังนั้น ยี่เฟิงจึงนำทีมเข้าร่วมแข่งขันแทน
กู้ฮอน สองคำนี้ดังสะท้อนเข้าไปในหูของโม่ใบหน้าที่เรียบเฉยของเขา ค่อยๆแข็งกระด้างขึ้นมา
ชื่อนี้ เหมือนเขาไม่ได้ยินมาพักใหญ่
นับตั้งแต่วันนั้นที่เขาเข้าโรงพยาบาล จนถึงปัจจุบัน อัน จริงแล้วแค่ยี่สิบกว่าวันเท่านั้นหรือ
เขากลับรู้สึกว่า เหมือนเวลาผ่านมานานหลายปี
สายตาลึกล้ำชำเลืองมองไปที่โทรศัพท์มือถือ ที่อยู่บนโต้ ทำงาน สิ่งนี้เหมือนจะกลายเป็นความเคยชินของเขาในช่วง หลายวันมานี้แล้ว
เหมือนกำลังรอสายจากใครบางคนโทรเข้ามา แต่ก็กลับ
ไม่มี
หล่อนเป็นใคร
ไม่มีหล่อน ชีวิตเขาก็มีความสุขดีไม่ใช่เหรอ
ด้วยนิสัยหยิ่งทระนงของเขา นอกเสียจากว่าหล่อนจะก้ม หัวให้ มิฉะนั้นเขาไม่มีทางยอมไปหาหล่อนก่อนเด็ดขาด
เนินหน้าผากเริ่มปวดตุบๆ ขึ้นมา เขาขมวดคิ้วตาม สัญชาตญาณ “ผลงานของยี่เฟิง ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ และยัง ใกล้เคียงกับภาพของโครงการหยิงที่ออกแบบไว้ในใจ แต่
ว่าทำไมเขาถึงยอมช่วยตระกูลกู้
กู้ฮอน ผู้หญิงคนนั้น ลาออกแล้วไม่ใช่เหรอ สะบัดก้นแล้วก็ทิ้งซากไว้ให้คนอื่นมาเก็บ นี้เป็นนิสัยของหล่อน
ก็เหมือนตอนที่เขาอยู่โรงพยาบาล หล่อนจากไปไม่เคย
แยแส
แล้วทำไมยี่เฟิง ถึงยังยอมช่วยเหลือตระกูลกู้อีก
หวังเหรินพยักหน้าตาม “ผมเองก็สงสัย ด้วยความ สามารถของยี่เฟิง เขาสามารถเข้าร่วมแข่งขันเองได้อย่าง สบาย ไม่จำเป็นต้องยอมเป็นหุ่นเชิดให้ตระกูลกู้”