เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 1112 งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่
บทที่ 1112 งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่
ความเหนื่อยล้าทั้งวันยิ่งหนักขึ้น
ฉากในห้องโถงถูกเป่ยหมิงโม่ ซึ่งเพิ่งกลับมาจากด้านนอกเห็นแล้ว
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ หัวใจของเขาก็กังวลไม่น้อยไปกว่ากู้ฮอน
“อย่าโทษตัวเองมากเกินไป อย่ารู้สึกผิดต่อเธอเลย ฉันรู้ฉันเข้าใจ” เขากล่าวและมือก็วางบนไหล่ของเธอเบาๆ หวังว่าจะทำให้เธอสบายใจบ้าง
กู้ฮอนรู้สึกเสียใจจริงๆ “ฉันเป็นแม่แค่ในนามเหรอ วันๆก็วิ่งเต้นแต่เรื่องของตัวเอง และไม่สนใจเด็กสามคนนี้”
“เรื่องบางเรื่องเราก็ไม่สามารถควบคุมได้ คุณมีธุรกิจของตัวเองนั่นเป็นเรื่องดีเด็กๆจะค่อยๆเข้าใจ คุณต้องให้เวลากับตัวเองและพวกเขาด้วย” เป่หมิงโม่ไม่ได้ใช้โอกาสนี้ต่อว่าเธอ แต่กลับให้กำลังใจเธอด้วยใจจริง
คำพูดเหล่านี้ทำให้กู้ฮอนที่กำลังผิดหวัง ทันใดนั้นก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
นี่ไม่ใช่นิสัยปกติของเขานี่ โดยเฉพาะเรื่องที่ตัวเองทำหนังสือ สามารถรู้สึกได้ว่าเขามีการคัดค้านเล็กน้อยด้วยซ้ำ
“คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่ หรือว่าแสร้งทำเป็นเห็นใจ”
แสร้งทำเป็นเห็นใจ……..
สำหรับการที่เขาว่าตัวเองเช่นนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติมากสำหรับเป่หมิงโม่
จำได้ว่าเมื่อก่อนเธอก็เคยว่าเขาเช่นนี้เหมือนกัน
ในความทรงจำของทุกคน เขามักจะเป็นภาพลักษณ์ที่ยากจะลืมอยู่แล้ว
ภาพลักษณ์นี้จะดีหรือไม่ดี มันก็ไม่มีผลกระทบอะไรกับเขามาก
กล่าวอีกนัยหนึ่งว่าก็ยากที่จะลบล้าง
ในความประทับใจของกู้ฮอนเป่หมิงโม่ก็คือเช่นนี้
ในเมื่อเขาก็ตระหนักถึงความผิดพลาดที่เขาทำไปตอนนี้ เขาก็กำลังปรับปรุงตัวอยู่ตลอดเวลา
เพียงแค่ว่าตอนนี้ผลยังไม่ค่อยชัดเจนมาก
ดูเหมือนว่าจะเป็นความจริงที่น่าเศร้ามาก
เป่หมิงโม่ยิ้มอย่างขมขื่น หลังจากนั้นหยิบการ์ดเชิญสีแดงออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เธอ “นี่สำหรับคุณ”
มองตัวหนังสือมงคลสีทอง กู้ฮอนขมวดคิ้วเล็กน้อย
นี่คือปฏิกิริยาทางจิตใต้สำนึกที่เธอมีต่อการ์ดเชิญ
แต่เธอก็รับมันมาแล้วเปิดดู
ทันใดนั้น การแสดงออกของเธอก็เปลี่ยนไปทันที
ยิ้มและเซอร์ไพรส์ และการแสดงออกที่มีความสุขดีใจ…..
“เด็กคนนี้ ทำหน้าที่รักษาความลับได้ดีขนาดนี้……” เธอพูดพร้อมกับถือการ์ดเชิญไว้ในมืออย่างแน่น
เห็นเธอดีใจมาก เป่หมิงโม่ก็รู้สึกโล่งใจขึ้น ดูเหมือนยังคงมีเรื่องที่ทำให้เธอได้ดีใจบ้าง
“ไม่ใช่พวกเขาทำหน้าที่รักษาความลับได้ดี แต่เป็นเพราะหลายวันมานี้งานคุณยุ่งเกินไป และพวกเขาก็หาคุณไม่เจอต่างหาก”
ฉากต่อฉากนั้น แสดงตรงหน้าคนแก่สองคนที่นั่งอยู่บนโซฟา ทำให้พวกเขาสับสนเล็กน้อยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“ฮอน โม่ พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่ ดูวุ่นวายเหมือนเด็กเลย”
เป่หมิงโม่เดินเข้าไปข้างๆแม่อย่างช้าๆ “คนที่ดูวุ่นวายคือเธอไม่ใช่ฉัน” ขณะพูดเขาก็จงใจโน้มตัวลงไปที่ข้างหูหวีหรูเจี๋ยพูดเบาๆว่า “ฉันว่า 80%นั้นเพราะเป็นวัยหมดประจำเดือนของเธอ”
ถึงแม้จะลดเสียงให้เบาแล้ว แต่เขาไม่ได้จะพูดลับหลังกู้ฮอน ดังนั้นคนที่อยู่แถวนั้นก็จะได้ยินเช่นกัน
“ไปเลย ใครบอกคุณว่าฉันหมดประจำเดือนเร็ว อีกอย่างมีเหรอที่ประจำเดือนจะหมดเร็วขนาดนี้ ฉันว่าปากของหยางหยางไม่มีหูรูด ก็เป็นเพราะได้มาจากคุณ ต่อไปอย่าสอนลูกแบบนี้อีก นี่เขาเรียกว่า คานบนไม่ถูกต้องคานล่างก็จะเบี้ยวตาม”
กู้ฮอนโต้กลับ ทำให้เป่หมิงโม่จ้องมองเขา วินาทีนั้นทำให้ลืมโต้แย้งเลย
“หยินปู้ฝันคนคนนี้ สอนอะไรให้คุณบ้าง แกะน้อยผู้อ่อนโยนคนเดิมหายไปไหนแล้ว…….”
เมื่อพูดถึงหยินปู้ฝันเหมือนเตือนหวีหรูเจี๋ย “ฮอนวันนี้ปู้ฝันมาหาคุณ เห็นว่าคุณไม่อยู่ก็เลยกลับแล้ว และเขาก็ไม่ได้พูดอะไร”
“เขาไม่ได้บอกอะไรพวกคุณ” เป่หมิงโม่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เด็กคนนี้ช่างไม่รู้กาลเทศะเลย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังไม่ยอมพูดกับพวกคุณ”
“โม่เกิดอะไรขึ้นกับปู้ฝันเหรอรีบบอกมา อย่าให้ฉันเป็นกังวล” หวีหรูเจี๋ยไม่เข้าใจว่าลูกชายกำลังพูดอะไรอยู่ ในใจรู้สึกเป็นกังวล
ในเวลานี้ กู้ฮอนก็ยืนอยู่ข้างๆโม้จิ่งเฉิงแล้ว
ยังไม่ทันรอให้เธอพูด เป่หมิงโม่ก็รีบแย่งการ์ดเชิญมาอย่างรวดเร็ว เปิดออกแล้วยื่นให้คนแก่สองคน “ก็คือเรื่องนี้”
……
“ปู้ฝันเขาจะแต่งงานแล้วเหรอ” หวีหรูเจี๋ยสีหน้าเซอร์ไพรส์มาก
น้ำเสียงนั้น ทำให้เป่หมิงโม่รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย รู้สึกเหมือนข่าวดีของเขาทำให้แม่มีความสุขมากกว่าเรื่องของตัวเอง
เป่หมิงโม่ดูเหมือนว่า หลังจากเห็นปฏิกิริยาของแม่แล้วก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
ถ้าในอดีต แม้ว่าเขาจะถูกบังคับด้วยปืนก็จะไม่เป็นเช่นนี้
“ก็แค่การแต่งงาน จำเป็นต้องดีใจขนาดนี้เลยเหรอ…….” กล่าวอยู่ เขาหันหลังเดินไปทางห้องอาหารโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “ดูเหมือนว่าอาหารทางจิตวิญญาณเพียงพอแล้วสำหรับพวกคุณ ฉันยุ่งมาทั้งวัน ยังจำเป็นต้องบำรุงด้วยอาหารทางวัตถุ”
มองดูเขาเดินจากไป ราวกับว่าเขากำลังเดินอยู่ในสายลม มีลมพัดผ่านเป็นครั้งคราว ต้นไม้สองสามต้นที่เหี่ยวเฉาลอยลงด้านหลังของเขา……
“เขาอิจฉาแล้ว…….”หวีหรูเจี๋ยมองไปที่ลูกชายท่าทางเศร้าๆก็รู้สึกเฉยๆ รอยยิ้มยังอยู่บนใบหน้า ลดเสียงลง พูดเบาๆกับกู้ฮอนและโม้จิ่งเฉิง
“คุณ…….” โม้จิ่งเฉิงรู้สึกว่าในเวลาเช่นนี้ หวีหรูเจี๋ยคนที่เป็นแม่ยังไม่พูดอะไรกับลูกชายบ้าง ตรงกันข้ามกลับกระตุ้นเขาอย่างต่อเนื่อง “ไปกันเถอะ พวกเราก็ไปทานข้าวกัน อาหารทางจิตวิญญาณจะดีแค่ไหน ก็สู้อาหารทางวัตถุไม่ได้”
“ได้…..” หวีหรูเจี๋ยยืนขึ้น
กู้ฮอนก็ดูออกปฏิกิริยาของเป่หมิงโม่ ยากมากที่ยังมีอะไรที่สามารถกระตุ้นเขาได้ในตอนนี้ แต่มันก็สนุกดีที่ได้เห็นท่าทางอิจฉาของเขา
เธอมีรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว
*
หลังจากทานอาหารเย็น ก็ฮอนวางตะเกียบและจานลงแล้วก็เช็ดปาก “ฉันไปดูแอนนิก่อน งานแต่งก็ใกล้ถึงแล้ว เธอน่าจะมีหลายอย่างที่ต้องการความช่วยเหลือ”
เธอพูดแล้วลุกขึ้นกำลังจะออกไป
“แม่ หม่ามี๊พวกเราจะไปด้วย……”
การเข้าร่วมสนุกถือเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของเด็ก ๆ โดยเฉพาะหยางหยางที่ไม่อยู่นิ่ง กับเด็กน้อยที่ขี้สงสัยอย่างจิ่วจิ่ว
“ลูกรัก ฉันอาจจะยุ่งถึงดึกเลย วันนี้พวกเธอไม่ต้องไปแล้วดีไหม อยู่เป็นเพื่อนคุณย่าที่บ้านนะ” กู้ฮอนรู้ว่าจิ่วจิ่วกับแอนนิสนิทกัน จึงต้องเกลี้ยกล่อมเธอด้วยความอดทน
แต่สำหรับหยางหยางไม่ใช่อารมณ์นี้ “คุณจะเล่นสนุกอะไร ดูเฉิงเฉิงสิ ยังไม่รีบตามขึ้นไปทำการบ้านอีก”
ที่จริงหยางหยางก็พอจะเดาออกว่าผลจะเป็นเช่นนี้ เพียงแค่เขามีดวงที่โชคดีอยู่เสมอ คิดว่าน่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยสถานการณ์ที่สับสนวุ่นวาย
แต่ดูเหมือนว่ามันจะจบลงด้วยความผิดหวัง
*
ในขณะนี้ ในวิลล่าใต้เนินเขา
บ้านเล็ก ๆ ที่อบอุ่นของฉิงฮัวและลั่วเฉียว
กลายเป็นภาพที่มีชีวิตชีวาแล้ว
ลั่วเฉียวอุ้มลูกแล้วนั่งอยู่บนโซฟา เธอมองไปที่แอนนิที่หน้าแดงอย่างคาดหวัง “เฮ้ บอกฉันหน่อยสิว่าศิษย์พี่ขอคุณแต่งงานอย่างไร”
“เขา…….” พูดถึงหยินปู้ฝันในขณะนี้ แม้แอนนิจะมีความสัมพันธ์กับเขาและตกลงแต่งงานกับเขาแล้ว แต่พอพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังคงรู้สึกใจเต้นเล็กน้อย
“ลั่วเฉียว เธออายที่จะพูดดังนั้นอย่าบังคับเธอเลย เรามาคุยเรื่องที่เป็นรูปธรรมดีกว่า พวกเราดูสิว่ามีอะไรที่ช่วยได้บ้าง” ฉิงฮัวไม่ชอบเห็นคนลำบากใจ
แต่ดูเหมือนว่าภรรยาของเขาจะไม่มีความคิด เธอชอบดูเรื่องตลกของคนอื่นไม่สนว่าเรื่องจะใหญ่โตแค่ไหน จะไม่ยอมหยุดถ้าไม่ได้รู้ความจริง ยิ่งเป็นเพื่อนรักของตัวเองด้วย
เธออยากรู้ว่าศิษย์พี่ของเธอทำอย่างไรบ้าง เพื่อที่ฉันจะได้เอาไปล้อเขาในอนาคต
หลายปีที่ผ่านมา ตัวเองมักจะถูกหยินปู้ฝันแกล้ง นี่จะเป็นโอกาสที่ดี ฉันจะปล่อยมันไปไม่ได้
หันหน้าไปทางลั่วเฉียวด้วยท่าทางที่คาดหวังอย่างกระตือรือร้น แอนนิจะทำอะไรได้ นอกเหนือจากความซื่อสัตย์ ก็ดูเหมือนจะไม่มีวิธีอื่นแล้ว
เธอคงไม่เหมือนลั่วเฉียวที่มีไหวพริบและมีความประพฤติดีคนที่ตื่นตัวและฉลาด แต่เป็นเด็กที่ซื่อๆคนหนึ่ง นี่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่กู้ฮอนเป็นเพื่อนกับเธอ
แน่นอนนี่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ลั่วเฉียวกับเธอเป็นเพื่อนกัน
สังคมในสมัยนี้ เพื่อนแบบปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ คดในข้องอในกระดูกมากมายนับไม่ถ้วน โดยไม่พูดเกินจริง ลองถามทุกคนที่มีเพื่อน รอบข้างเต็มไปด้วยคนเหล่านี้
เมื่อได้คำตอบแล้วเป็นความจริงที่ เลือดไหลไม่หยุด
นี่ก็คือโลกแห่งความเป็นจริง
เพื่อนที่ดีแบบแอนนิมีน้อยจริงๆ
แน่นอน สำหรับเพื่อนแบบนี้ จะไม่จริงใจต่อกันได้ยังไง ไม่ใช่เฉพาะเธอ ลั่วเฉียวกับกู้ฮอนก็ตรงไปตรงมาเหมือนกัน
พวกเธอได้ก่อตัวเป็น “เหล็กสามเหลี่ยม” ที่ไม่แตกหัก
“ในความเป็นจริง เขาก็ไม่ได้ขอฉันแต่งงานอย่างเป็นพิธีอะไร……”แอนนิพูดอ้ำอึ้ง
ลั่วเฉียวรู้สึกตื่นเต้น แต่กลับได้คำตอบที่ทำให้เธอหมดความสนใจ
อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปาก “ไม่น่าสนใจ ไม่น่าสนใจจริงๆ แอนนิคุณก็ให้เขาหลอกง่ายไปไหม ถ้าเป็นฉัน ถ้าเขาไม่อาเจียนเป็นเลือดฉันคงจะไม่ตอบตกลง”
ฉิงฮัวฟังอยู่ข้างๆ ไม่รู้จะต่อว่าภรรยาคนนี้ของเขาอย่างไรดี
“ตอนนั้นฉิงฮัวขอคุณแต่งงาน คุณก็ไม่ได้ทำแบบนี้นะ ก็ยังตกลงแต่งกับเขาไปแล้ว” เมื่อครู่แอนนิถูกบังคับจนลำบากใจ ตอนนี้ได้โอกาสโต้กลับลั่วเฉียวแล้ว
……
ลั่วเฉียวหลังจากเงียบไปชั่วครู่……..
เธอเกือบจะทิ้งทารกในอ้อมแขนลงไป แล้วจัดการแอนนิ “ฮ่า คิดไม่ถึงว่าคุณจะถูกศิษย์พี่สอนให้ร้ายแล้ว”
แอนนิวิ่งไปที่ห้องนอนของเธอด้วยรอยยิ้ม ยังทิ้งคำพูดไว้ว่า “ฉันไม่ยอมให้เขาสอนฉันร้ายง่ายๆหรอก ฉันเหนื่อยแล้วจะไปนอนแล้ว”
*
หยินปู้ฝันกับแอนนิจัดได้ยิ่งใหญ่มาก
จากความคิดส่วนตัว พวกเขาอยากจัดแบบง่ายๆ เป็นการสังสรรค์เล็ก ๆ ที่มีเพียงสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้นที่เข้าร่วมก็พอแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อมีเพื่อนร่วมวงอยู่เสมอ สถานการณ์ทั้งหมดจะไม่เป็นไปในทิศทางที่คาดหวังและมักจะมีสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
เริ่มจากขนาดของงานแต่งงาน ไม่มีวาสนาจัดในลานขนาดเล็กๆหรือสถานที่เล็ก ๆ อื่น ๆ
แต่เป็นเรือลำหนึ่งใหญ่พอที่จะจุคนได้มากกว่าร้อยคน มีชื่อเรียกว่าDeep Sea Starบนเรือสำราญสุดหรู
แน่นอน ส่วนนี้ทุกคนที่เข้าร่วมงานแต่งงานแทบคาดไม่ถึง
มีรถหรูกว่าห้าสิบคัน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้ทั้งคู่เป็นอย่างมาก
“นี่คือรถของเรา” แอนนิที่สวมชุดแต่งงานสีขาวไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย
มือที่จับหยินปู้ฝันอยู่สั่นเล็กน้อย