เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 1117 การแต่งงานเริ่มขึ้นทันที
บทที่ 1117 การแต่งงานเริ่มขึ้นทันที
กู้ฮอนพาลูกสองคนออกไปอย่างราบรื่นอยู่แล้ว เด็กบริการคนนี้เขาไม่ได้สนใจพวกเขาแม่ลูกอยู่แล้ว
แต่ว่ายังคงขวางทางอยู่ตรงหน้าของแอนนิที่ตัดสินใจจะเดินไปกับพวกเขา
“คุณหยิน คุณนายหยิน พิธีจะเริ่มแล้ว ขอเชิญพวกท่านนั่งพักผ่อนอยู่ในนี้สักครู่ครับ”
หยินปู้ฝันในเวลานี้รู้สึกโกรธมาหน่อยแล้ว เขาเอามือโอบเอว “นี่อะไรกัน นี่เป็นงานแต่งงานของเรา คุณมาขวางทำไม ส่วนเรื่องจะจัดขึ้นหรือไม่ ควรจะเป็นฉันตัดสินถึงจะถูก ทำไมทำเหมือนฉันกำลังติดคุกอยู่ที่นี่? ตอนนี้จะบอกคุณให้ชัดๆเลยว่า ฉันออกไปแน่!”
ในขณะที่เขาพูดเขาก็เอื้อมมือไปจับแขนที่อยู่ตรงหน้า แล้วผลักไปข้างๆ
“คุณชายหยิน……” บริกรก็โดนผลักไปด้านข้างทันที
หยินปู้ฝันโอบแอนนิไว้ในอ้อมอกและทั้งสองก็เดินออกจากห้องโดยสารเรือไปด้วยกัน
ผู้ใหญ่สามคนพาเด็กสองคนรีบไปตามระเบียง และหายไปอย่างรวดเร็วในมุมหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกล
หยางหยางวิ่งไปวิ่งมาที่ห้องโดยสารเรืออย่างไร้จุดหมาย ที่นี่เป็นเหมือนเขาวงกตเล็ก ๆ คดเคี้ยวหลากเลี้ยว บันไดทั้งขึ้นทั้งลง
หลังจากนั้นไม่นานเม็ดเหงื่อก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขาและไม่เพียงแค่นั้นท้องของเขาก็เหมือนกับยิ่งต่อต้านอย่างรุนแรงมากขึ้น
ในขณะนี้เอง เขารู้สึกว่าถ้าหากยังไม่ได้กินอะไรอีก เขาจะต้องตายที่นี่แน่นอน
แน่นอนว่าความรู้สึกนี้ดูเกินจริงไปหน่อย
แต่สำหรับเด็กน้อยคนนึง ยังมีอะไรที่ทรมานมากกว่าความหิวอีก
เมื่อก้าวเดินเริ่มหนักหน่วง กลิ่นหอมจากด้านหน้าก็ทำให้เขามีแรงเฮือกสุดท้ายบ้าง
นี่คือกลิ่นของอาหาร นอกจากนี้เหมือนจะได้ยินเสียงของหม้อและชามด้วย
ดวงตาเล็ก ๆ ของเขาสว่างขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะรอดแล้ว
หยางหยางบิดไปบิดมา แต่จะถึงไหนแล้วเขาก็ไม่ค่อยแน่ใจและเกือบจะหลงทางแล้ว
ในช่วงที่ท้องของเขาต่อต้านไม่หยุด ในที่สุดเขาก็เจอ “ผู้ช่วยชีวิต” จากมุมโค้งไม่ไกลออกไป กลิ่นหอมของอาหารลอยอบอวลไปทั่ว
เขาเหมือนกับว่าถูกเวทมนต์สะกด เท้าของเขาก็ไม่ฟังคำสั่งตัวเองอีก เดินไปตามกลิ่นหอมๆ……
ชานชาลาชั้นบนสุดของเรือสำราญ ผู้คนกำลังหันหน้ารับลมทะเลและชมวิวทะเล
ห้องดอกไม้สีขาวที่อยู่ตรงกลางเป็นที่สะดุดตามากที่สุด
มันตั้งอยู่ในใจกลางของแพลตฟอร์มที่ล้อมรอบด้วยน้ำ มีเพียงสะพานไม้เล็ก ๆ ที่รองรับคนได้เพียงสองคน
เสาทั้งสี่ของบ้านดอกไม้นี้ประกอบด้วยหงส์สีขาวสี่ตัวที่มีศีรษะสูง สะท้อนคลื่นน้ำ พวกมันเหมือนกำลังเล่นอยู่ในน้ำอย่างสนุกสนาน
ปากสีแดงที่มีมะกอกขนาดใหญ่เป็นหลังคาของบ้านดอกไม้
แสงแดดส่องมาจากด้านบน รัศมีแสงตกลงมา
“คุณผู้หญิง งานแต่งใกล้จะเริ่มแล้ว เชิญตามผมไปดาดฟ้าด้านบนครับ”
บริกรพูดอย่างมีมารยาทที่หน้าประตูเรือโดยสารที่หวีหรูเจี๋ยอยู่
เวลานี้พึ่งจะสังเกตว่าในห้องนี้มีคนหายไปสี่คน
ก็คือพวกกู้ฮอนแม่ลูกเอง
“พวกฮอนไปไหนกันแล้ว? พิธีจะเริ่มแล้ว ทำไมยังไม่กลับมาอีก”
หวีหรูเจี๋ยมีความกังวลบ้าง
แต่เป่หมิงโม่กลับแสดงท่าทางใจเย็นมากกว่า “แม่ พวกเขาไม่หายไปบนเรือลำนี้หรอก” จากนั้นเขาก็พูดกับโม้จิ่งเฉิง “ท่านขึ้นไปกับแม่ของฉันก่อน ฉันไปหาพวกเขาไม่นานก็ถึง”
โม้จิ่งเฉิงพยักหน้า “อืม รีบไปรีบกลับ”
แม่ลูกสี่คนนี้ทำให้คนเป็นห่วงจริงๆ จนป่านนี้ยังเดินเพ่นพ่านอีก
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้ว หลังจากคุณแม่จากไปก็รีบร้องจากไปเหมือนกัน
“งานแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ทำไมยังหาเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่เจอ ฉันจะอธิบายให้คุณเป่หมิงฟังได้อย่างไร ก่อนที่จะเริ่มอย่างเป็นทางการ ยังไม่รีบไปหาอีก! ”
กัปตันเรือเป็นชายวัยกลางคนอายุสี่สิบเศษ แต่เขาอาศัยอยู่แถบมหาสมุทรเป็นเวลานานและแสงแดดทำให้ผิวของเขาเป็นสีแทนและเขาก็ดูแก่ไปหน่อย
พอเขาฟังข่าวนี้จากลูกเรือ รู้สึกทั้งน่ารำคาญทั้งน่าขำเล็กน้อย
เรือลำใหญ่ขนาดนี้ ไม่นึกเลยจะหาผู้ใหญ่สองคนไม่เจอแล้ว ลูกน้องพวกนี้ไม่มีประโยชน์เลยจริงๆ
แม้ว่าการหายตัวไปของสองคนนี้อาจกล่าวได้ว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเองเลย อีกทั้งผู้ใหญ่สองคนมาที่นี่เพื่อแต่งงาน ก็คงไม่ทำอะไรที่คาดไม่ถึงออกมาหรอก
แต่เมื่อเรื่องเกิดขึ้น การให้คนนอกรู้นั่นก็เป็นเรื่องที่น่าพูดแต่ไม่น่าฟัง ถ้ากระทบต่อตัวเองมันก็ไม่ดี
คำสั่งกัปตันลงไป ลูกเรือพวกนั้นก็ต้องออกมาอยู่ดี
เพื่อให้แน่ใจว่าแขกไม่ทราบเรื่องทั้งหมด การกระทำทั้งหมดต้องเป็นความลับ
งานแต่งงานมีกำหนดจัดขึ้นในเวลาเที่ยงตรง
ที่ดาดฟ้าชั้นบนแขกทุกคนอยู่ที่นั่นครบแล้ว ไม่ว่าจะนั่งหรือยืนทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มมีความสุข
วันนี้สวรรค์ให้เกียรติจริงๆ แสงแดดสว่างสดใสมีลมโชยพัดมาอ่อนๆ
แนวชายฝั่งหายไปในระยะไกลและไม่มีเรือให้เห็น
เรือยอชท์ทิ้งสมอ จอดลง
นกนางนวลบินวนอยู่เหนือเรือ
หวีหรูเจี๋ยและน้องสาวของเธอในฐานะที่เป็นญาติผู้ใหญ่ของคู่รัก ได้จัดให้นั่งในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในพิธี
ข้างหลังพวกเขาก็คือแขกของเขาที่มากัน
กาลเวลาที่ผ่านพ้นไปทุกนาทีทุกวินาที ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนเรือในตอนนี้
ในขณะนี้หยินปู้ฝันจับมือแอนนิ และทั้งสองคนเดินผ่านทางเดินแคบ ๆ ในชุดเครื่องแบบอย่างประหม่า
แขกและพนักงานส่วนใหญ่จะรวมตัวกันอยู่ที่งานแต่ง ทำให้ที่นี่ดูเงียบสงบมาก
มีเพียงเสียงรองเท้าส้นสูงของแอนนิ ‘ตึกตึก’
ในเวลานี้เอง จากทางแยกที่เป็นรูปตัว T ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา พนักงานคนหนึ่งบนเรือก็เปล่งประกายออกมา ท่าทางของเขาแสดงให้เห็นว่าเขากำลังหาอะไรบางอย่าง
เมื่อเขาได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูง เมื่อหันหน้าไปมองพวกหยินปู้ฝัน ใบหน้าของเขาก็มีความสุขขึ้นมาทันที “โอ้! คุณชายหยิน คุณนายหยินพวกคุณอยู่ที่นี่เอง งานแต่งกำลังจะเริ่มแล้ว โปรดตามผมมาที่หน้างานด้วยครับ”
พูดจบ ชายคนนั้นก็นำทางพวกเขาไปยังหน้างานแต่ง
ถึงแม้หยินปู้ฝันและแอนนิในใจจะกังวล แต่พวกเขาก็จนปัญญาแล้ว ไม่สามารถเอาผู้คนมากมายขนาดนั้น ‘ตาก’ อยู่ที่นั่นได้ ยังไงพวกเขาก็คือพุ่งมาหาตัวเองโดยตรง
อีกอย่างเดิมทีเขาก็แบ่งออกเป็นสองทางแล้ว ไม่แน่ช่วงนี้หยางหยางอาจหาเจอแล้วก็ได้
“หยางหยาง ทำไมถึงวิ่งมาที่นี่ได้? ไม่พูดอะไรสักคำก็เดินออกไป รู้ไหมว่าพวกเรากังวลแค่ไหน! หรือเพราะไม่โดนทำโทษนานแล้วใช่มั้ย”
เมื่อกู้ฮอนพาเฉิงเฉิงและจิ่วจิ่วหาหยางหยางเจอ พวกเขาก็อยู่ที่ชั้นล่างของเรือสำราญแล้ว
นี่ก็เป็นเพราะเธอสุ่มสี่สุ่มห้าหาถึงมาถึงที่นี่
หยางหยางกำลังหลับสนิทบนโซฟา
กู้ฮอนก็ดึงหูของเขา
“ไอ้หยาๆ……” หยางหยางเจ็บจนตื่นจากความฝันที่งดงาม
เมื่อลืมตาขึ้น ก็เห็นแม่ เฉิงเฉิงและจิ่วจิ่วยืนอยู่ตรงหน้า แน่นอนว่ายังรู้สึกแสบหู
“คุณแม่ในที่สุดผมก็หาพวกท่านเจอ แม่ไม่รู้ผมกังวลขนาดไหน”หยางหยางถึงแม้ยังเจ็บจนอ้าปาก
แต่มองไปแล้วท่าทางเหมือนมีความสุขมาก
นี่กลับทำให้กู้ฮอนพวกเขาแต่ละคนรู้สึกงงไปหมด มือที่จับหยางหยางไว้ก็ค่อยๆคลายออก แต่ความโมโหในใจก็ยังมีอยู่ “นี่ใช่ลูกกำลังหาแม่เหรอ? นอนหลับสบายขนาดนั้นนะ”
หยางหยางขยี้หู “ผมไม่ได้นอนหลับ แต่อยู่ในฝันกำลังคิดว่าผมมาอยู่ที่นี่ได้ไง”
แต่งเรื่องเก่งจริง กู้ฮอนกับเฉิงเฉิงคิดเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย
แต่จิ่วจิ่วกลับอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา”งั้นพี่หยางหยางคิดออกสถานที่อะไรบ้างแล้ว?”
“คิดออกว่าผมพึ่งออกมาจากห้องหอของพ่อปู้ฝัน มาถึงห้องใหญ่ที่กระจายเต็มไปด้วยกลิ่นหอม ข้างในมีรถเล็กๆคันหนึ่ง บนนั้นมีจานอาหารใหญ่มาก ถูกฝาเคลือบทองครอบไว้ ตอนที่ผมกำลังจะเปิดก็ถูกคุณแม่เรียกให้ตื่น”
พอพูดถึงหยินปู้ฝัน กู้ฮอนพึ่งนึกได้ทันที พวกเขาก็คงกำลังหาลูกแน่ ในเมื่อหาลูกชายเจอแล้ว งั้นก็รีบติดต่อกับพวกเขาถึงจะถูก พวกเขาจะได้ไม่เสียเวลา อีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันสำคัญของพวกเขาด้วย
ระเบียงของเรือมันเหมือนเขาวงกตจริงๆ เดินไปเดินมาก็แทบจะหาไม่เจอจุดที่พวกเขากับหยินปู้ฝันแยกจากกัน
ในขณะที่เธอกับลูกสามคนกำลังกลุ้มใจอยู่ พอดีมีผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินผ่านระเบียงที่พวกเธอยืนอยู่
“คุณคะหยุดก่อนค่ะ”เธอรีบเรียกเขาไว้
“คุณผู้หญิง ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรครับ?”เป็นผู้ชายที่ใส่ชุดกัปตันเรือคนหนึ่ง เขาเห็นกู้ฮอนกับเด็กสามคนก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน
“ฉันเป็นเพื่อนของหยินปู้ฝัน ฉันมาร่วมงานเขา แต่ฉันหาพวกเขาไม่เจอ”
“อ่อ งั้นคุณไปกับผมเถิด”กัปตันยกมือดูเวลา”พิธีกำลังจะเริ่มแล้ว”
พิธีแต่งงานของหยินปู้ฝันกับแอนนิกำลังจะเริ่มแล้ว ในเมื่อลูกก็หาเจอแล้ว ยังจะพูดอะไรอีก รีบตามกัปตันไปที่ดาดฟ้าดีกว่า
พวกเธอเป็นคนสุดท้ายที่มาถึงดาดฟ้า
ณ เวลานี้พิธีแต่งเริ่มแล้ว เห็นที่ไม่ไกลมากหยินปู้ฝันกำลังจูงมือแอนนิอยู่ สองคนกำลังเดินไปทางห้องที่ตกแต่งด้วยลูกบอกที่สีสันโรแมนติค
“คุณแม่ คุณย่าน่าจะอยู่ข้างหน้า พวกเราไปกันเถอะ”เฉิงเฉิงพูดขึ้น จับมือกู้ฮอน มืออีกข้างก็ยื่นไปข้างหน้าแยกคนที่ยืนขวางอยู่ “ ขอโทษนะคะ กรุณาหลีกทางหน่อยค่ะ”
คนที่มาที่นี่ล้วนถือตัวเองว่าเป็นสุภาพบุรุษ หลีกทางให้เด็กและสตรีมันเป็นมารยาทขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว
นี่เลยทำให้กู้ฮอนแม่ลูกสี่คนผ่านผู้คน เข้ามาอยู่ข้างๆของหวีหรูเจี๋ยอย่างสบายๆ
ที่นี่คือตรงข้ามกับห้องดอกไม้และเป็นตำแหน่งที่อยู่ตรงข้ามหยินปู้ฝันกับแอนนิด้วย
หวีหรูเจี๋ยกับน้องสาวจ้องมองคู่บ่าวสาวด้วยรอยยิ้ม ดูออกว่าบนใบหน้ามีล่องลอยของน้ำตาไหล วันสำคัญแบบนี้แน่นอนคนเป็นแม่ต้องตื้นตันใจอยู่แล้ว
ในห้องดอกไม้ มีอาจารย์ที่กอดคำภีร์ท่านหนึ่งยืนอยู่
“พ่อปู้ฝัน น้าแอนนิ !”หยางหยางกระดกเท้า โบกมืออย่างแรง ตะโกนเสียงดังมาก
หยินปู้ฝันกับ แอนนิก็เห็นเขาแล้ว เดี๋ยวนี้กำลังทำพิธี ได้แต่มองไปทางเขาแล้วยิ้มให้
ได้เห็นกู้ฮอนพวกเขาก็อยู่ด้วย แบบนี้ก็ทำให้ตัวเองวางใจแล้ว
พิธีก็ดำเนินต่อไป
นักบวชยิ้มให้คู่บ่าวสาวที่เดินเข้ามาหาตัวเอง แล้วค่อยๆพยักหน้า “วันนี้ผมเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำเนินพิธีการแต่งงานทั้งสองท่าน เรียนถามทั้งสองท่านพร้อมหรือยังครับ?”
“พวกเราพร้อมแล้วครับ เริ่มเลยครับ” หยินปู้ฝันพูดจบ สูดลมหายใจลึกๆ
มือของเขาจับมือแอนนิไว้ไม่เคยปล่อย แบบนี้จะทำให้เธอคลายอารมณ์ตื่นเต้นลงบ้าง
นักบวชหยิบคำภีร์วางตรงหน้าหยินปู้ฝัน ตั้งใจให้มือของเขาวางบนคำภีร์ หลังจากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นทางการและดังก้อง “คุณหยินปู้ฝัน เรียนถามคุณยินดีที่จะแต่งกับท่านสุภาพสตรีแอนนิ เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายมั้ย?ไม่ว่าแข็งแรงหรือเจ็บป่วย สุขหรือทุกข์ คุณก็จะไม่ทิ้งเธอ ไม่จากเธอจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
“ผมยินดี!” หยินปู้ฝันตอบอย่างแน่วแน่ ในส่วนลึก ของหัวใจนี่เป็นคำมั่งสัญญาที่เขาพูดกับแอนนิตลอ