เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 856 พูดความลับออกไป
บทที่ 856 พูดความลับออกไป
เฉิงเฉิงและหยางหยางกำลังเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีลู่ลู่ปรากฏอยู่ วิดีโอของบ้านใหญ่ตระกูลเป่หมิง ทำให้พวกเขาตาแห้งไปหมด แต่ก็ยังคงดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะว่าถ้าไม่ละเอียดก็จะทำให้เกิดการผิดพลาดได้
“เฉิงเฉิง หยางหยาง ลงมากินข้าวเถอะ” แอนนิขึ้นมาเรียกพวกเขา
เฉิงเฉิงและหยางหยางปิดคอมพิวเตอร์ “คุณน้าแอนนิ คุณแม่กลับมาหรือยัง ?”
แอนนิส่ายหัว “เธอเพิ่งจะโทรมาบอกว่า วันนี้กลับดึกหน่อย ให้พวกเราไม่ต้องรอเธอแล้ว”
…
ห้องอาหารด้านล่าง
“เฉิงเฉิง หยางหยาง จะอยู่ข้างบนทำอะไรล่ะ ?”
……
“พวกเรากำลัง……”
“พวกเรากำลังปรึกษาเรื่องการทำรายการของรายการทีวีน่ะครับ”
ยังไม่ทันรอหยางหยางพูดเสร็จ เฉิงเฉิงก็ได้พูดแย่งออกไป
เรื่องของคุณพ่อไปสัมพันธ์กับผู้คนมากมาย แต่ก็ยังคงเป็นคนบ้านเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นลั่วเฉียว หรือแอนนิ จะสนิทกับพวกเธออย่างไร จะสัมพันธ์ดีกับคุณแม่ขนาดไหน ก็คือคนนอกทั้งนั้น
พวกเธอรู้เรื่องยิ่งน้อยก็ถือว่ายิ่งดี
กู้ฮอนกลับมาจากบริษัทตระกูลเป่หมิงดึกมาก ขณะที่เธอเข้ามาในห้อง เด็ก ๆ ก็ได้หลับอยู่ด้านบนหมดแล้ว
พวกก็ได้เพียงแต่ขึ้นไปดูเด็ก ๆ ที่กำลังนอนอยู่ และไปจัดผ้าห่มให้เรียบร้อยให้กับพวกเขา
เห็นเด็ก ๆ นอนอย่างมีความสุข กู้ฮอนดูอย่างไรก็ดูไม่พอ ขณะเดียวกันที่ทั้งวันมัยแต่ยุ่งกับงาน ก็ไม่ได้ทำหน้าที่แม่ที่ดีให้กับลูก ๆ เลย
ตอนนี้ แอนนิก็ขึ้นมาแล้ว เธอได้เดินมาข้าง ๆ กู้ฮอนเบา ๆ แล้วพูดว่า “กู้ฮอน คุณออกเช้ากลับค่ำ ลำบากคุณแล้วนะ เป่หมิงโม่เกิดเรื่อง ก็จะต้องเป็นทั้งแม่และพ่อ ไม่รู้ว่าจะได้ชูหน้าชูตาตอนไหน…….”
แอนนิยังพูดไม่เสร็จ กู้ฮอนก็ได้ทำท่าให้เงียบ แล้วก็ชี้ไปยังด้านล่าง “แอนนิ มีเรื่องอะไรพวกเราก็ไปคุยกันข้างล่างเถอะ อย่ารบกวนพวกเขาเลย ”
แอนนิพยักหน้า
แล้วก็ลงมายังห้องรับรอง แอนนิกับกู้ฮอนก็ได้นั่งลงบนโซฟา
กู้ฮอนได้นั่งแล้วก็หลับตายืนเอวออกมา นี่ก็เป็นช่วงเวลาที่เธอได้ทำตัวสบายที่สุด ซึ่งทำให้รู้สึกสบายเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นสักพัก เธอก็ได้นั่งดีดี แล้วหันไปหาแอนนิ “แอนนิ ฉันไม่อยากจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเมื่อก่อนแล้ว แต่แค่ตอนนี้ยังไม่มีอิสรภาพ รอผ่านไปช่วงระยะหนึ่งก่อน ฉันค่อย ๆ ทดแทนให้ลูกแล้วกัน”
“กู้ฮฮน คุณไม่คิดในการจะเดินหน้าต่อไปเลยหรือ ? แบบนี้คุณก็ยังมีคนให้พักพิง ไม่ต้องมาลำบาก ลูก ๆ ก็จะได้บ้านที่สมบูรณ์นะ คุณก็รู้ ลูกที่มีครอบครัวไม่สมบูรณ์ พวกเขาจะขาดอะไรบางอย่างไปนะ ซึ่งจะเกิดผลกระทบในการชีวิตของพวกเขาก็เป็นได้
พอพูดถึงเรื่องนี้ กู้ฮอนก็มีสภาพจิตใจที่ค่อย ๆ จะคิดหนัก “แอนนิ เรื่องนี้ถึงแม้พูดไปจะดูง่าย แต่ทำแล้วมันก็ยาก อีกทั้ง……”
กู้ฮอนพูดถึงตรงนี้ ก็รู้สึกอยากจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก
เพราะว่าเธอเข้าใจ หากตัวเองทำแบบนี้ จะต้องเกิดผลที่ไม่ดีขึ้นแน่นอน
อาจจะเหมือนเธอกับหวินปู้ฝัน และอาจจะเลวร้ายไปกว่านี้ เพราะว่าไม่ว่าหยินปู้ฝันจะพูดอะไร เขาก็เป็นญาติกับเป่หมิงโม่ เขาจะต้องเกิดความสูญเสียเกิดขึ้น
แต่หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ตามนิสัยของเป่หมิงโม่แล้ว ก็ยากที่จะรู้ว่าเป่หมิงโม่จะมีวิธีอะไรอีก
ถึงแม้เป่หมิงโม่จะอยู่ในคุก แต่กู้ฮอนก็ไม่เคยสงสัยอะไร แม้เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังคงมีอำนาจอยู่ในมือ
แต่ยังมีฉิงฮัวอยู่ เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อเป่หมิงโม่อย่างมาก
แอนนิก็เข้าใจความทุกข์ของกู้ฮอน เธอก็ได้พยักหน้า “กู้ฮอน ฉันก็เข้าใจคุณนะ แต่เรื่องก็เป็นของคุณ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีคนแบ่งเบาความทุกข์ของคุณนะ”
กู้ฮอนฟังแอนนิแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “แอนนิ เมื่อสักครู่ที่คุณพูด “แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีคนมาแบ่งเบาความทุกข์ของคุณ” หมายความว่าอะไร ?”
……
แอนนิรู้ตัวว่าอีกนิดหนึ่งจะพูดความลับออกไปแล้ว “อ๋ออ ความหมายของฉันคือ กู้ฮอน คุณไม่ใช่คนที่โดดเดี่ยวนะ ข้างกายคุณก็ยังมีฉันและลั่วเฉียว พวกเราจะช่วยเหลือคุณอยู่เสมอ”
กู้ฮอนดึงมือแอนนิมา “เรื่องของตัวฉันเองก็ยังจะต้องให้พวกคุณช่วยอยู่นั่นแหละ รู้สึกเกรงใจเหลือเกิน”
“กู้ฮอน คุณยังจะเกรงใจฉันทำไม ในช่วงนี้ คุณก็ตั้งใจทำงานให้ดีดีแล้วกัน สำหรับเรื่องในบ้าน มีฉันอยู่ รับรองว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย สำหรับเรื่องที่ฉันพูดกับคุณเมื่อสักครู่นี้ ฉันรู้สึกว่าคุณก็น่าจะคิดดูให้ดีอีกทีนะ ขอพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดหน่อยนะ เรื่องเป่หมิงโม่รู้สึกจะร้ายแรงขึ้นทุกวัน ลูกสามคนและคุณต่อจากนี้อาจจะต้องลำบากมากยิ่งขึ้น คนที่เป็นเพื่อนอย่างฉันและลั่วเฉียวก็จะช่วยเธออย่างเต็มที่ แต่คนที่เป็นผู้หญิง ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เพื่อนอย่างพวกฉันช่วยไม่ได้หรอกนะ”
กู้ฮอนได้ยิ้มให้กับแอนนิ “เอาล่ะ ๆ สิ่งที่คุณพูดเราจะเก็บไว้ในใจ หลังจากที่ฉันทำงานเสร็จหมดแล้ว ฉันจะไปหาผู้ชายที่เหมาะสมกับสิ่งที่ฉันต้องการดีไหม พอถึงตอนนี้ก็จะถือโอกาสเลือกให้คุณด้วยเลย แบบนี้หัวสมองของฉันก็คงจะสงบมากขึ้นแล้วล่ะ”
คำพูดของเธอทำให้แอนนิหน้าแดงขึ้นมากมาย แต่สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจออกมา “หลังจากผ่านความล้มเหลวทางการแต่งงาน สำหรับผู้ชายแล้ว ฉันก็รู้สึกว่าไม่อยากจะหวังอะไรมากมายอีกเลย”
“แอนนิ คุณนี่ปากไม่ตรงกับใจเลยนะ”
“กู้ฮอน คุณใส่ร้ายฉัน ฉันทำไมปากไม่ตรงกับใจล่ะ ? คนเป็นเพื่อนกัน ฉันก็ทำเพื่อคุณเลยนะ”
กู้ฮอนมองแอนนิด้วยใบหน้าที่จริงจัง แล้วก็หุบยิ้ม “ยังบอกว่าปากไม่ตรงกับใจ คุณไม่เชื่อมั่นในตัวผู้ชาย ทำไมจะต้องให้ฉันไปหาผู้ชายอื่นล่ะ คุณไม่กลัวฉันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเหรอ ?”
“คุณ คุณไม่เหมือนกับฉันไง คุณมีลูกที่น่ารักสามคน และเป่หมิงโม่ถึงแม้จะดูไปแล้วน่ากลัว แต่ก็ยังดีกับคุณอย่ะ หากไม่ใช่เขาเกิดเรื่อง ความจริงแล้วฉันก็ยังอยากจะให้คุณอยู่ด้วยกันกับเขาอย่างนี้ถึงจะดีที่สุด เพราะว่าลูก ๆ เป็นของพวกคุณเอง”
พอพูดถึงเป่หมิงโม่ ใบหน้าของกู้ฮอนก็มีรอยยิ้มที่หายไป สถานการณ์ตอนนี้ของเธอก็คือเขาเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นมา
“แอนนิ ฉันรู้สึกเหนื่อย จะต้องพักผ่อนก่อนนะ” กู้ฮอนขณะที่พูด ก็ลุกขึ้นมาจากโซฟา แล้วก็เดินไปยังลิฟต์
แอนนิเห็นเงาของเธอ แล้วส่ายหัวเบา ๆ
…..
กู้ฮอนกลับไปที่ห้องของตัวเอง แล้วก็ค่อย ๆ ปิดประตู
เธอไม่ได้เปิดไฟที่ห้องนอนของตัวเอง แต่กลับเดินไปยังหน้าต่าง ดึงผ้าม่านออก ทันใดนั้นก็ได้มีแสงส่องมายังที่ห้องนอน
ร่างกายเธอค่อย ๆ พิงไปยังหน้าต่าง แล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าสีครามที่เต็มไปด้วยดวงดาว
ไม่ได้เห็นดวงดาวแบบนี้มานานแล้วสินะ ในใจก็รู้สึกมีความสงบขึ้นมาในทันใด
ตอนนี้ ดวงดาวที่อยู่บนฟ้าล้วนเป็นของเธอคนเดียว
ทำให้ลืมความยุ่งยากในชีวิตทั้งหมด ซึ่งกลับย้อนไปสู่ช่วงวัยแห่งคาวมสุขตอนเยาว์วัยของตัวเอง
มองดวงดาวมากมาย เธอคิดถึงคุณแม่อย่างยิ่ง ไม่รู้เลยว่าคุณแม่ที่อยู่บนสวรรค์จะเป็นอย่างไร ไม่มีผู้ชายที่หักหลังเธอ ไม่มีเพื่อที่หักหลังเธอ
แน่นอน และไม่มีเธอที่เหมือนกับยี่สิบกว่าปีก่อน และยังมีลูกหลานที่น่ารัก
ชีวิตคน ๆ หนึ่ง ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบหรอก มักจะมีการขาดหาย อาจจะเป็นส่วนสำคัญที่ดึงดูดคนมากที่สุด ทุกคนก็พยายามอย่างหนักหน่วงเพื่อที่จะทำให้ความไม่สมบูรณ์กลายเป็นสมบูรณ์แบบ
……
เรื่องราวมากมาย ล้วนไม่ทำเพื่อปณิธานแล้วเปลี่ยนแปลง ก็เหมือนกับเมื่อวานที่เป่หมิงยี่เฟิงรับโทรศัพท์จากถังเทียนจื๋อ
แต่หากจะต้องเผชิญแล้ว สุดท้ายก็ต้องเผชิญกับมันอยู่ดี แม้กระทั่งการขับรถมาทางตระกูลเป่หมิง เขาก็ยังที่จะหาวิธีรับมือ
ขณะที่เขากำลังเปิดห้องทำงานตัวเอง แล้วก็เดินเข้าไปแล้วนั้น ก็เห็นถังเทียนจื๋อมานั่งอยู่ข้างในแล้ว
เขาได้ทำการขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าเขาจะมาไวขนาดนี้ แม้กระทั่งไม่ได้ให้เขามีเวลาคิดแม้แต่นิดเดียวเลย
“ประธานเป่หมิง พวกเราเจอหน้ากันอีกแล้ว ดูสีหน้าคุณแล้ว เหมือนกับไม่ค่อยดีเลยนะ” ถังเทียนจื๋อลุกขึ้นมา ท่าทางสบาย ๆ เหมือนกับเขาเป็นเจ้าของที่นี่เช่นไรเช่นนั้น
เป่หมิงยี่เฟิงได้เดินมายังโต๊ะทำงานแล้วนั่งลง อารมณ์ของเขาไม่ได้ดีเหมือนกับถังเทียนจื๋อสักเท่าไหร่
เขามองหน้าถังเทียนจื๋ออย่างเคร่งตึง ซึ่งเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ไม่คิดว่าคุณจะมา ฉันคิดว่าจะส่งคนมาเสียอีก”
ถังเทียนจื๋อเข้าใจว่าเป่หมิงยี่เฟิงรู้สึกไม่พอใจ แต่เขาก็ได้ทำการคาดเดาเรื่องนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว
แต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงมีรอยยิ้ม หันหลังมายังหน้าโต๊ะของเป่หมิงยี่เฟิง สองมือก็วางลงบนโต๊ะ “นี่ไม่ใช่การพิสูจน์ ว่าพวกเราให้ความสำคัญกับคุณชายยี่เฟิงหรือ ? ”
เป่หมิงยี่เฟิงเงยหน้ามองถังเทียนจื๋อ แล้วหัวเราะเบา ๆ “พวกคุณให้ความสำคัญกับผมจริง ๆ เมื่อหลายวันก่อนก็ทำการระงับบัญชีของฉัน คุณรู้ไหม ตอนนั้นคือตอนที่เป่หมิงโม่ออกมาจากตระกูลเป่หมิง เพียงแต่หากตอนนั้นทำการลงมือ ตระกูลเป่หมิงก็ไม่ใช่ของเขาแล้ว แต่ตอนนี้คุณกลับมาปรากฏอยู่ที่นี่ ในนามบอกว่าจะมาช่วยผม แต่ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่น่าจะง่ายขนาดนั้นหรอก ฉันจำได้เกี่ยวกับสัญญาของพวกเรา ก็คือไม่ยุ่งอะไรต่อกัน แต่ตอนนี้ดู ๆ แล้ว การกระทำของพวกคุณเหมือนจะหลีกห่างจากสัญญาเลยนะ”
“เหอะ ๆ ประธานเป่หมิง นี่คือสิ่งที่คุณถามผมหรือ ? ถูกต้อง ก่อนหน้านี้พวกเรามีสัญญาแบบนี้นั่นแหละ แต่หลังจากผ่านไปสักระยะหนึ่ง พวกเราก็ไม่ชอบพอใจกับการกระทำของคุณ ดังนั้นฉันก็เลยจะมาช่วยคุณไงล่ะ” ท่าทางของถังเทียนจื๋อไม่มีพิษภัย แต่ในน้ำเสียงของเขาแสดงให้เห็นถึงการที่เขาไม่พอใจในตัวของเป่หมิงยี่เฟิง
เป่หมิงยี่เฟิงฟังคำพวกนี้ ก็ทำให้ในใจเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่ง แต่ก็จำเป็นที่จะต้องอดทนไว้ในใจ
สิ่งที่ถังเทียนจื๋อพูดออกมา สิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ณ ตอนนี้ก็คือสิ่งที่พวกเขาให้มา หากไม่มีพวกเขา ตัวเองก็ไม่มีอะไรเลย และไม่อาจจะเข้าสู่ตระกูลเป่หมิงได้เลย และไม่อาจจะพาพ่อแม่เข้ามาในตระกูลเป่หมิงให้มีหน้ามีตาหรอก
“ฉันยอมรับ ที่ฉันมีทุกวันนี้คือพวกคุณให้มากทั้งหมด แต่ฉันก็ไม่ได้มาจากพวกคุณฟรี ๆ ให้ฉันทำงานอะไรก็ทำให้หมดแล้ว ตอนนี้เป่หมิงโม่ไม่ใช่ออกจากตระกูลเป่หมิงแล้วหรือ ?”
“คุณชายยี่เฟิง คุณเหมือนจะทำเรื่องอะไรผิดไป เป่หมิงโม่ออกจากตระกูลคงไม่เกี่ยวอะไรกับคุณหรอกมั้ง และครั้งนี้ที่มาผมก็ไม่ใช่มาเรื่องของการที่เป่หมิงโม่ออกจากตระกูลเป่หมิงเรื่องเดียวหรอก ” ถังเทียนจื๋อมีใบหน้าที่เริ่มจริงจังมากขึ้น
เขาคิดว่าเป่หมิงยี่เฟิงเหมือนจะประเมินตัวเองสูงไป คิดว่าตัวเองนั้นถูกต้อง งั้นก็จะต้องเตือนเขาสักหน่อย ให้เขาชัดเจนถึงตำแหน่งของเขา ไม่ให้ทำอะไรที่มันผิดออกมา
ณ ขณะที่เป่หมิงยี่เฟิงกำลังเก็บไฟแห่งอารมณ์ไว้ในใจ ต่อให้สิ่งที่ถังเทียนจื๋อพูดออกมามันคือเรื่องจริง แต่ก็ไม่อาจจะพูดได้ว่าตัวเองไม่เคยช่วยอะไรเขาเลย